NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่514 ดูถูกลูกพี่หลิน
บทที่514 ดูถูกลูกพี่หลิน
ในหลายปีนี้ที่ตงไห่ หลี่ฝางได้รับการข่มเหงจากพวกลูกคนรวยมาไม่น้อย
โจวเจ๋ ส้งเสียง ตู้เฟย แม้แต่ว่าหลี่หลง ต่างเหยียบหัวของหลี่ฝาง
ดังนั้น ข้างในลึกลงในกระดูกของหลี่ฝาง ไม่มีความรู้สึกดีๆเลยต่อพวกลูกคนรวยนี้
ส้าวส้วยหัวเราะ พูดว่า:“ไม่แคร์ เจ้านายไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน ที่จริงไม่ชอบพวกคนเลวเหมือนกับเป็นศัตรูเรานั้นก็ดี ก็แค่ ในพวกลูกคนรวยก็มีคนดีๆอยู่”
“เช่นผมเหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะอย่างไร้ยางอาย
ส้าวส้วยหัวเราะตาม:“ใช่ เจ้านายคือคนดีที่ชอบผดุงความยุติธรรม”
“ก็แค่ เกิดเรื่องแบบนี้ออกมา ยังทำความร่วมมือกับต้าหัว กรุ๊ป จะดูไม่ดีไปหรือเปล่า?”ส้าวส้วยขมวดคิ้ว ถาม
หลี่ฝางยิ้มให้ แล้วพูด:“แล้วแต่เขาเถอะ ยังไงซะก็มีความร่วมมืออยู่ ถ้าพวกเขากล้ามายุ่ง ก็แค่จัดการพวกเขา”
“และผมก็ยังพูดกับทางหวางเห้าแล้วว่า ให้เขาปฏิบัติกับทหารปลดประจำการพวกนี้ดีๆ หาทางผูกพันด้วยจิตใจ ล้วนแต่ทำงานให้ทั้งนั้น ทำงานให้ใครไม่ทำให้ใคร?แค่ปฏิบัติกับพวกเขาดีๆ ก็ถือว่าพวกเขาทำสัญญาที่ต้าหัว กรุ๊ป แต่ใจไม่ได้อยู่ที่ต้าหัว กรุ๊ป”หลี่ฝางพูดเบาๆ
ส้าวส้วยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับคำถามเรื่องต้าหัว กรุ๊ปต่อ แต่ถามว่า:“ผู้หญิงคนนั้นจะทำยังไง?”
“ผู้หญิงคนนั้น……”
หลี่ฝางถอนหายใจ สำหรับไห่เย่น หลี่ฝางก็ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรดี
“ไปคุยกับเธอหน่อยไหม?”ส้าวส้วยถาม
หลี่ฝางคิดอยู่สักพัก ส่ายหน้าแล้วพูด:“ช่างเถอะ เรื่องที่หยิ่นเหล่ยโดนจัดการนี้ อีกเดี๋ยวไห่เย่นก็น่าจะรู้”
“ถ้าเธอตระหนักได้ ก็น่าจะเข้าใจความหมายของผม ถึงแม้ผมไม่อยากให้โอกาสใดๆเธอ แต่ถ้าเธอคิดได้จริงๆ เปลี่ยนเป็นคนใหม่ คบกับหลี่ซ่วยซ่วยดีๆ อนาคตผมก็ไม่ทำให้เธอลำบาก”
“แต่ถ้าเธอทำร้ายหลี่ซ่วยซ่วยต่อ คุณก็ดูเองว่าจะทำไงละกัน”
“ทำอุบัติเหตุ ทำให้เธอเสียโฉม หรือว่าทำให้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปเลย ก็ได้หมด”หลี่ฝางพูด
“ครับ ผมจะหาคนไปจับตาดูเธอ”
ส้าวส้วยพยักหน้าพูด
“ทางมู่เสี่ยวไป๋มีการเคลื่อนไหวอะไรไหม?”หลี่ฝางเปิดปากถาม
ส้าวส้วยส่ายหน้า:“ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรมาก แต่เขาไปหาเฉินฝูเซิงครั้งหนึ่ง ฝูเซิงไม่ไว้หน้าเขา ก็ไล่เขาออกมาเลย”
“เขากับเฉินฝูเซิงมีปากเสียงกัน ก็หมายความว่า ตระกูลมู่ก็มีพันธมิตรน้อยลงไปอีกคน”
หลี่ฝางแปลกใจหน่อยๆ:“คุณแน่ใจเหรอว่าช่วงนี้มู่เสี่ยวไป๋ไม่ได้ทำอะไร?”
คืนวันนั้น หลี่ฝางคลุมเครือกับหลินชิงชิงทางวิดีโอคอล จงใจให้มู่เสี่ยวไป๋เห็น
จากความรู้สึกของมู่เสี่ยวไป๋ที่มีต่อหลินชิงชิง นี่ก็น่าจะแก้แค้นตัวเองอย่างบ้าคลั่งสิถึงจะถูก
แต่สองสามวันนี้ มู่เสี่ยวไป๋ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆเลย ทำให้หลี่ฝางไม่เข้าใจหน่อยๆ
“โหจื่อนั้น ไม่ใช่ว่าแอบติดกล้องวงจรปิดที่โทรศัพท์ของเขาเหรอ?เขาทำอะไรไป พวกเราน่าจะรู้ดีนะ”หลี่ฝางถาม
“หลังจากออกจากโรงพยาบาล มู่เสี่ยวไป๋ก็เปลี่ยนโทรศัพท์”
“เหมือนว่าเขาจะพบว่าโทรศัพท์มีปัญหา ถูกคนลงมือทำบางอย่าง อีกอย่าง ทางเสี่ยวโจว ก็ออกมาแล้ว”ส้าวส้วยพูด
“ออกมาเร็วขนาดนี้เชียว?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว
“ใช่ เสี่ยวโจวไม่ได้เป็นคดีใหญ่อะไร หลังจากหมาทิเบตันตาย ตระกูลมู่ก็ไปหาคนจัดการให้ ไปประกันตัวออกมา ซึ่งที่จริงก็ไม่ได้ยาก แค่พิสูจน์ว่าเสี่ยวโจวมีโรคร้ายแรง เช่นโรคหัวใจอะไรพวกนี้ ก็สามารถประกันตัวออกมาระหว่างรอพิจารณาคดี ต้องโทษโดยที่ไม่ได้เข้าคุกได้”
ส้าวส้วยพูดนิ่งๆ:“เรื่องแบบนี้ หลายๆคนกำลังทำอยู่”
หลี่ฝางตอบอืมไป:“เสี่ยวโจวออกมา สำหรับพวกเราแล้วไม่ถือว่าเป็นเรื่องแย่อะไร”
“มู่เสี่ยวไป๋แค่ต้องการบอดี้การ์ดมาคุ้มครองตัวเองเท่านั้น”ส้าวส้วยก็ไม่แคร์สุดๆ
กังฟูของเสี่ยวโจว สำหรับคนทั่วไปแล้ว ถือว่าสุดยอดมาก
แต่เทียบกับส้าวส้วยแล้ว ถืออ่อนแอมาก
“ส้าวส้วย ไปเจอคนๆหนึ่งกับผมเถอะ”
หลี่ฝางพูดอย่างจริงจัง:“บางทีเขาอาจจะบอกผมว่า ช่วงนี้มู่เสี่ยวไป๋ทำอะไรไปบ้าง”
“จางกงหมิง?”ส้าวส้วยมองที่หลี่ฝางแล้วถาม
หลี่ฝางแปลกใจหน่อยๆ:“คุณรู้ได้ไง?”
“แค่เดา นอกจากจางกงหมิงแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถบอกคุณเรื่องของมู่เสี่ยวไป๋ได้”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า:“มู่เสี่ยวไป๋คือคนที่ระวังตัวมาก ที่จริงตระกูลมู่มีคนของพวกเรา แต่มู่เสี่ยวไป๋ทำอะไร หลายๆครั้งก็ปิดบังแม้แต่มู่เจิ้งถัง ดังนั้นจึงสืบข่าวอะไรไม่ได้นัก”
“คุณหมายความว่า ตระกูลมู่ก็มีหน่วยมืด?”หลี่ฝางแปลกใจเล็กน้อย
ไม่ใช่แค่แม้แต่สี่ตระกูลใหญ่ ที่มีหน่วยมืดอยู่ คิดไม่ถึงว่าแม้แต่ตระกูลมู่ ก็มีหน่วยมืดสอดแนมเข้าไปด้วย
“หน่วยมืดมีกี่คนกันแน่?”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า:“ไม่เยอะ แค่ห้าสิบคนได้ แต่พวกเขาล้วนแต่เป็นสายลับที่ยอดเยี่ยม”
หลี่ฝางบอกที่อยู่ของจางกงหมิงให้ส้าวส้วย ส้าวส้วยก็สตาร์ทรถออก
ครึ่งชั่วโมงถัดมา เบนซ์G-Classก็ขับมาที่หน้าชุมชนเก่าแก่โทรมๆแห่งหนึ่ง
ชุมชนนี้ มีมาหลายสิบปีแล้ว ส่วนมากกลายเป็นตึกสูงที่อาจถล่มได้แล้ว
ที่พักอาศัยนั้น ล้วนแต่เป็นพวกชายชราหญิงชรา ที่พวกเขาทำใจออกไปไม่ได้ และก็ไม่มีความสามารถที่จะออกไปได้
หลังจากลงจากรถ หลี่ฝางก็หาที่สูบบุหรี่
“ไม่เข้าไปเหรอ?”ส้าวส้วยถาม
“เดี๋ยว ตอนนี้จางกงหมิงยังไม่ว่าง”หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด
ไม่นานนัก ส้าวส้วยก็พบจุดที่ผิดปกติ เขาพวกคนหนุ่มที่เดินไปเดินมา ตอนที่พวกเขาเดิน ไม่หยุดหันมามอง ดูระวังตัวอย่างมาก
ส้าวส้วยขมวดคิ้ว:“คนหนุ่มพวกนี้ น่าจะไปยุ่งกับสิ่งที่ไม่ควรยุ่ง”
หลี่ฝางพยักหน้า ไม่ได้ปิดบังส้าวส้วย พูดไปตรงๆ:“อือ คนพวกนี้ ขายยาในถิ่นของพวกเรา หวางเห้าไปเจอพวกเขา แต่ไม่ได้จัดการพวกเขา หวางเห้าสืบหาเบาะแส ติดตามคนพวกนี้ไป สืบเจอสองคน”
“คนหนึ่งคือจางกงหมิง?”สีหน้าของส้าวส้วย จู่ๆก็เย็นชาลง
หลี่ฝางพยักหน้า พูดว่า:“ใช่ แล้วก็อีกคนก็คือหมาจื่อ”
“ลูกพี่หลินไอ้แก่เจ้าเล่ห์นั่นออกมาอีกแล้วเหรอ?”ส้าวส้วยขมวดคิ้ว:“ผมคิดว่าเขาจะยอมวางมือลง คิดไม่ถึงว่า ……”
“น่าจะเงินหมด”หลี่ฝางพูด
“เขาเงินหมดห่าไรล่ะ ลูกพี่หลินมีบัญชีอยู่ที่ต่างประเทศ ในนั้นมีเงินตั้งเท่าไหร่ไม่รู้ ลุงเฉียนบอกว่า ธุรกิจด้านนี้ของลูกพี่หลิน ทำยิ่งใหญ่มาก ทางเมืองเอก ก็เอาสินค้ากับลูกพี่หลิน”
“ก่อนหน้านี้ พวกเราดูถูกลูกพี่หลิน เขาไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เห็นแน่นอน”
สีหน้าของส้าวส้วยซับซ้อนหน่อยๆ:“ที่จริงความแข็งแกร่งของเขา ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเหยสง”
“ลูกพี่หลินสุดยอดกว่าเหยสงอีก?ไม่มั้ง?”
หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อหน่อยๆ:“ถ้าแบบนี้ ทำไมเขาลูกพี่หลินต้องแบ่งพื้นที่กับลูกพี่หลี่ที่ตงไห่อย่างเท่าเทียมกันล่ะ เขาทำลายลูกพี่หลี่ได้เลยสิแบบนี้”
“นี่คือความฉลาดของเขา เขาติดดินมาก ไม่ว่าใครก็ไม่เชื่อว่า เจ้าถิ่นของตงไห่ จะถือธุรกิจขนาดใหญ่ไว้”
“ตอนที่พวกเราสืบตระกูลมู่ จึงพบว่า เมื่อก่อน พวกเราคิดว่าลูกพี่หลินคือคนที่มู่เสี่ยวไป๋สนับสนุน แต่ต่อมาผมถึงรู้ว่า ไม่ใช่แบบนี้เลย”
“ลูกพี่หลินคนๆนี้ติดดินมาก”
ส้าวส้วยขมวดคิ้ว พูดว่า:“เขาไม่ธรรมดา แม้แต่พวกเราก็ยังหลอก”
“แต่ เงินของเขา ทำได้เยอะพอแล้ว พวกเราจงใจทิ้งทางรอดให้เขา ให้เขาวางมือจากกิจการอำนาจ ลุงเฉียนก็คิดว่า ลูกพี่หลินคงไม่ปรากฏตัวอีก แต่ใครจะไปรู้ว่าเขายังจะปรากฏตัวอีก”
ส้าวส้วยมองหลี่ฝางแวบหนึ่ง พูดว่า:“เจ้านาย ที่ลูกพี่เกลียดที่สุด ก็คือของพวกนี้ กลัวว่า ……”
“ทางที่ดีคุณควรเตรียมใจไว้ดีกว่า”ส้าวส้วยพูด
หลี่ฝางเข้าใจความหมายของส้าวส้วย ความหมายของส้าวส้วยนี้คือ พ่อของตัวเอง เป็นไปได้ที่จะลงมือกับลูกพี่หลิน แบบนั้น หลินชิงชิงกับตัวเอง ก็จะอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
สีหน้าของหลี่ฝาง ก็ดูหมองหม่นลงไปอย่างมากทันที
เมื่อก่อนกับฉินวี่เฟย ก็เกือบจะกลายเป็นศัตรูไปแล้วเพราะสาเหตุนี้ ตอนนี้……
หลี่ฝางถอนหายใจ พูดว่า:“รอมีเวลาผมจะไปหาพี่ชิงชิง ค่อยบอกเธอตรงๆละกัน พี่ชิงชิงคือคนที่มีสมอง หวังว่าเธอจะโน้มน้าวลูกพี่หลินได้”
ส้าวส้วยพยักหน้าแล้วพูด:“ถ้าทำให้ลูกพี่หลินหยุดได้ทันเวลา นั่นก็ดีที่สุดแล้ว แต่ผมรู้สึกว่า ความเป็นไปได้แบบนี้จะไม่มากนัก”
“มีประโยคหนึ่งพูดว่า ลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ยากที่จะปลีกตัวออกมา เป็นไปได้ที่ลูกพี่หลินไม่ใช่ว่าไม่อยากออกมา แต่ว่าเขาออกมาไม่ได้ต่างหาก”
ส้าวส้วยพูด:“ยังไงผู้ชายคนนั้นที่อยู่เบื้องหลังเขา ก็ยากที่จะจัดการ”