NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่562 สู้สุดชีวิต คุณสู้ได้เหรอ
ฉินวี่เฟยถูกบีบ จนน้ำตาในดวงตาใกล้จะไหลออกมา
นายท่านฉินเอาตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวให้เธอ เธอกลับให้โอกาสนายท่านฉินฝังตรงเวลาไม่ได้ จะให้คนอื่นมองเธออย่างไรล่ะ?
ถึงฉินวี่เฟยไม่กลัวคำเยาะเย้ยและตำหนิของคนอื่น แต่ฝังปู่ของตัวเองไม่ได้ เธอก็จะเสียใจมาก
สำหรับฉินวี่เฟยแล้ว ชื่อเสียงและโชคลาภดูเหมือนจะไม่สำคัญ
ฉินวี่เฟยมองอาสองของตัวเอง พ่อของฉินเสี่ยวหู่ในตอนนี้ ในสายตาไม่มีไม่มีความเจ้าเล่ห์แล้ว เหลือแค่ความเรียบง่าย
สาวน้อยอย่างฉินวี่เฟยนี้ มองแผนการของอาสองตัวเองไม่ออก
มากไปกว่านั้น ไอ้แก่สารเลวนี่ก็เพิ่งเกือบจะแตกหักกับลูกชายของตัวเอง การแสดงที่ดูจริงมากขนาดนั้น จึงได้รับความไว้วางใจของฉินวี่เฟย
ฉินวี่เฟยพูด:“ไม่ว่าหัวหน้าครอบครัวคือใคร แค่ดูแลตระกูลฉินให้ดีก็พอ”
“วางใจเถอะ แน่นอนอยู่แล้ว”พ่อของฉินเสี่ยวหู แทบจะพูดออกมาโดยไม่ได้ไตร่ตรองยั้งคิด
สีหน้าฉินวี่เฟยหม่นลง ส่วนหลี่ฝางกลับหัวเราะ:“ใช้ได้นี่ หางจิ้งจอกโผล่ออกมาแล้วสินะ?”
พ่อของฉินเสี่ยวหูไม่มีความตื่นตระหนกเลย พูดไกล่เกลี่ย:“วี่เฟย ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น เมื่อกี๊ผมบอกแล้วไง สัญญานี้ พวกเราเซ็นให้เสี่ยวหู่ดู รอเอาโลงศพของคุณท่านไปฝัง ผมจะรีบฉีกสัญญาเลย”
“พวกคุณพึมพำอะไรกันน่ะ?ถ่วงเวลากับผมใช่ไหม?มา พวกเราก็ยืดเวลา ยืดไปอีกหนึ่งชั่วโมง ปู่ก็ไม่ต้องฝังแล้ว ขุดหลุมที่บ้าน แล้วฝังไปเลยก็ได้”
ฉินเสี่ยวหู่หัวเราะฮ่าฮ่า
“ผมว่านะ ขุดหลุมต้องการกำลังคนช่วย พวคุณแต่ละคนถูกเลี้ยงดูอย่างโอ๋มาแต่เด็ก ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ก็เรียกได้ตลอดนะ”ด้านหลังฉินเสี่ยวหู่มีคนพูด
ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว มองอาสองของตัวเอง แล้วพูด:“ฉันเอาหุ้นให้คุณได้ แต่คุณต้องรับประกันกับฉัน ว่าจะพาบริษัทฉินซื่อ กรุ๊ปไปสู่ความรุ่งเรือง”
“วี่เฟย นี่คุณพูดอะไรเนี่ย คุณต่างหากที่เป็นประธานกรรมการของบริษัทฉินซื่อ กรุ๊ป ผมแค่หลอกเสี่ยวหู่เท่านั้น จะแย่งตำแหน่งคุณได้ไงกัน”
“ไป พวกเราไปเซ็นสัญญากันก่อน หลอกเสี่ยวหู่ไอ้เด็กสารเลวนี่”
พ่อของฉินเสี่ยวหู ยิ้มอย่างมีเมตตา ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางแวบหนึ่ง แล้วพยักหน้า ให้พ่อของฉินเสี่ยวหู
“เดี๋ยวก่อน”
หลี่ฝางพูดห้าม:“วี่เฟย ให้เวลาผมหน่อย”
“หลี่ฝาง ตอนนี้ที่ฉันไม่มีที่สุด ก็คือเวลา”ฉินวี่เฟยขมวดคิ้วพูด
หลี่ฝางโบกมือ เรียกหวางเสี่ยวหยวนมา:“พี่หวาง นานเท่าไหร่กว่าจะถึง?ถ้ายังไม่มา พี่ก็ลุยเลย เอาฉินเสี่ยวหู่ไอ้ระยำนี่ให้ตาย วางใจได้ เกิดเรื่องอะไร ผมรับผิดชอบเอง”
เสียงปืนดังปัง หลี่ฝางเพิ่งพูดจบ ฉินเสี่ยวหู่ก็หยิบปืนออกมา เล็งไปทางหลี่ฝาง
“ทำไม อยากสู้ใช่ไหม มา ผมดูสิว่าพวกคุณใครจะกล้า”ในมือฉินเสี่ยวหู่ถือปืน พูดอย่างเย็นชา
วินาทีที่ฉินเสี่ยวหู่หยิบปืน คนที่หวางเสี่ยวหยวนพามา ก็ปรากฏความหวาดกลัว
สังคมนี้ ไม่มีใครกลัวตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งออกมาเป็นนักเลง
พวกเขามา เพื่อกินข้าวให้อิ่ม ใครจะยอมเอาชีวิตเข้าไปเกี่ยวล่ะ?
คนทางหวางเสี่ยวหยวน ได้ยินเสียงปืน ก็วิ่งหนีไปไม่น้อย
หวงว่างโก๋เดินออกมา ชี้ที่ฉินเสี่ยวหู่แล้วพูด:“เด็กเปรต กระโดดได้ดีนี่ มา ถ้าคุณมีความสามารถ อย่ายิงขึ้นฟ้าให้เปลืองเลย มาทางนี้สิ”
หวงว่างโก๋ชี้ไปที่อกของตัวเอง แล้วพูด:“มีความสามารถก็ยิงมาตรงนี้ อย่าเอาแต่ทำแบบเดิมๆที่ไม่มีประโยชน์ เล็งเป้าหน่อยสิ”
ถึงแม้ฉินเสี่ยวหู่จะถูกออกหมายนำจับ แต่มู่หรงฉางเฟิงกำลังดำเนินงานให้เขาอยู่
ยังไงฉินเสี่ยวหู่ก็มีหลักฐานที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ เขาแค่ไม่ชอบ ที่ไม่มีหลักฐานโดยตรงที่พิสูจน์ว่าเขาทำผิดกฎหมาย
แต่ถ้าฉินเสี่ยวหู่กล้ายิงปืนฆ่าคน งั้น เขาก็จะถูกหูเฟยจับ และต้องถูกยิงเป้าทิ้ง
“ทำไม ไม่กล้าแล้วเหรอ ไม่กล้าก็เก็บปืนซะ แม่เอ๊ย แค่กระสุนกี่ลูก จะยิงคนตายได้แค่ไหนเหรอ แหกตาดูซะ ด้านหลังผมมีคนยืนอยู่กี่ร้อยคน ถ้าคุณอยากเสแสร้งจริงๆ ก็ยิงมาสักกระบอกสิ”
หลี่ฝางมองหวางเสี่ยวหยวนแวบหนึ่ง:“ยังต้องรออีกนานแค่ไหน เป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ดีแน่ ที่ถูกเล่นงานคือพวกเรา”
ใบหน้าของหวางเสี่ยวหยวน เต็มไปด้วยความร้อนรน
“เจ้านาย รอก่อน เขาน่าจะใกล้ถึงแล้ว”ใบหน้าของหวางเสี่ยวหยวน ปรากฏความลำบากใจ
“ผมรอพอแล้วสิบนาที”หลี่ฝางขมวดคิ้วพูด
“เดี๋ยว เดี๋ยว เชื่อว่าเดี๋ยวก็จะถึงแล้ว ”
“รออะไรอีก พวกเรามีเวลากับพวกคุณที่ไหนกัน นี่อีกเดี๋ยวก็ถึงฤกษ์ยามแล้ว ถ้าไม่สามารถฝังศพได้ภายในเวลาที่กำหนด คุณรู้ไหมว่าจะมีผลที่ตามมาอย่างไร?”
“หึ พวกคุณพูดได้ง่ายมาก ยังไงที่ถูกคนลอบกัดนี้ ก็ไม่ใช่พวกคุณ”
พ่อของฉินเสี่ยวหู พูดแล้วหัวเราะเหอะเหอะอย่างเย็นชา
ฉินเสี่ยวหู่พูดจบ หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงดังกึกก้อง
“แผ่นดินไหว?”
“เกิดอะไรขึ้น?ทำไมพื้นดินสั่นไหวได้ล่ะ?”
ไม่ใช่แค่หลี่ฝาง ทุกคนต่างได้ยินหมด ตอนนี้ คนที่อยู่รอบๆต่างตื่นตระหนกขึ้นมา
ฉินเสี่ยวหู่กลับหัวเราะฮ่าฮ่า:“ฮ่าฮ่า พื้นที่ในเมืองเอก ดันเจอกับแผ่นดินไหวที่ไม่เจอมาเป็นร้อยปีได้ ดูเหมือนว่าถึงผมไม่ขวางทาง พระเจ้าก็ขวางทางพวกคุณเอง”
ฉินเสี่ยวหู่ยังหัวเราะไม่จบ จู่ๆ รถตักดินคันใหญ่สี่คันก็มาที่นี่ด้วยความเร็ว
“ห่า!”
ฉินเสี่ยวหู่เห็นรถตักดินสี่คันนี้ ใบหน้าก็เปลี่ยนสีทันที
รถตักดินสี่คันนี้ เห็นได้ชัดว่าพุ่งมาทางพวกเขา
หวางเสี่ยวหยวนหัวเราะ พูดว่า:“เจ้านาย รับรองว่าภายในห้านาที จะจัดการปัญหาได้”
ฉินเสี่ยวหู่ยิ้มด้วยสีหน้าเย็นชา:“แค่รถตักดินสี่คันนี้เนี่ยนะ คิดจะมาหยุดพวกเราไว้ได้เหรอ?ฝันหรือเปล่า?”
รถตักดินสี่คันล้อมรอบฉินเสี่ยวหู่และคนอื่นๆทันที เฉินเจียโล่มามาจากรถตักดิน แล้วโบกมือ
บนรถตักดินสี่คันนี้ ทิ้งถังแก๊สสี่ถังลงมา
“นี่คุณหมายความว่าไง?”ฉินเสี่ยวหู่มองเฉินเจียโล่แล้วถาม
เฉินเจียโล่หัวเราะหึหึ พูดว่า:“ผมแนะนำพวกคุณนะทางที่ดีอย่าทำอะไรมั่วๆ แค่ขยับนิดหน่อย”
“ผมรับรองว่า ถังแก๊สสี่อันนี้ ได้ระเบิดไปด้วยกันแน่”
เฉินเจียโล่พูดด้วยเสียงเยือกเย็น
“คุณขู่ผมเหรอ?อย่างมากทุกคนก็ตายไปด้วยกัน ใครกลัวกันล่ะ”ฉินเสี่ยวหู่ขมวดคิ้ว มองเฉินเจียโล่อย่างเย็นชา
“ถังแก๊สทั้งสี่นี้ระเบิดพร้อมกัน ผมไม่เชื่อว่าคุณจะรอดชีวิตได้”
ฉินเสี่ยวหู่พูดจบ ก็มีคนไม่พอใจ
“พี่เสี่ยวหู่ พวกเรามายืนในที่เกิดเหตุให้คุณ ไม่ได้อยากตายนะ”
“อีกฝ่ายเล่นถึงชีวิตกับพวกเรา คุณดูสิท่าทางเมื่อกี๊สิ ถังแก๊สสี่อัน ก็หล่นลงมาเลย ถ้าสิ่งนี้ระเบิดขึ้นมา เมื่อกี๊พวกเราก็ไม่รอดแล้ว”
“พี่ชายคนนี้ สองร้อยหยวนผมไม่เอาแล้ว ผมกลับไปเล่นเน็ตที่ร้านคอมดีกว่า เพื่อนผมเรียกผมสร้างทีมแล้ว ขอโทษนะ ไปก่อนล่ะ”
เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ดูตัวไม่ใหญ่นัก หลังจากพูดจบ ก็รีบออกไปจากป่าทันที
“พี่เสี่ยวหู่ วันนี้วันเกิดยายผม ให้ผมกลับไปกินข้าวบ้านเถอะ ขอโทษนะ”
“เพื่อน วันเกิดยายคุณ ผมก็ต้องไปด้วยสิ”
“พี่เสี่ยวหู่ วันนี้เพื่อนผมแต่งงาน ผมต้องไปดื่มฉลอง”
“เห้อ โรคหัวใจผมกำเริบแล้ว พี่เสี่ยวหู่ ผมต้องไปเช็กที่โรงพยาบาล”
ไม่ถึงสองนาที ข้างกายของฉินเสี่ยวหู่ ก็วิ่งหายไปกว่าครึ่งหนึ่ง
ถังแก๊สสี่อัน วางอยู่ตรงหน้าของฉินเสี่ยวหู่และคนอื่นๆ ส่วนรถตักดินสี่คัน ก็ปิดกั้นทางไปของฉินเสี่ยวหู่ทันที
“ถ้ามีคนกล้าเดินหน้ามาล่ะก็ ผมจะจุดถังแก๊สทันที”
เฉินเจียโล่หันหน้าไปมองฉินเสี่ยวหู่ พูดว่า:“ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองเดินหน้าดูสิ”
“ก่อนมาผมไถลมาเล็กน้อยแล้ว ทางที่ดีคุณอย่ามายุ่งกับผม”
เฉินเจียโล่พูดจบ ก็มองกลุ่มคนพวกนี้ แล้วพูด:“ไม่กลัวตายตั้งเยอะเลยนะ ถึงผมไม่จุด พระอาทิตย์ที่ร้อนแรงแบบนี้ ก็ทนได้ไม่นานหรอกเดี๋ยวก็ระเบิด”
หลังจากเฉินเจียโล่พูดจบ ก็มีคนจำนวนมากทยอยออกไป ส่วนฉินเสี่ยวหู่นั้นก็มองเฉินเจียโล่ แล้วพูด:“เฉินเจียโล่ คุณมันร้ายมาก”
“ก็พอตัว”เฉินเจียโล่หัวเราะเหอะเหอะ:“แค่ผมรู้สึกว่าคุณหนุ่มกว่าผม ถึงเราสองคนสู้สุดชีวิต ก็ต้องเป็นคุณที่เสียเปรียบ ใช่ไหม?”
“มองคนขับรถพวกนี้ คนไหนบ้างไม่ถึงห้าสิบ สู้ถึงชีวิตกับพวกเรา คุณสู้ได้ไหม?”
เฉินเจียโล่หัวเราะอย่างดูถูก:“ไม่งั้น ก็รีบไสหัวไปซะ หรือว่า ก็อยู่แล้วตายด้วยกัน”
หวางเสี่ยวหยวนก็พูดขึ้นตอนนี้:“เจ้านาย ไปได้แล้ว”
หลี่ฝางพยักหน้า มองฉินวี่เฟยแล้วพูด:“เรียกรถมาสิ เตรียมไปฝังศพเถอะ”