NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่616 ไม่มีเงินแล้ว?
หลี่ฝางไม่ได้รอสายของมู่เสี่ยวไป๋ แต่ก็ไม่อยากพลาดอะไรไป ยังไงรับสายก็ไม่เป็นไรนี่
ถ้ามู่เสี่ยวไป๋จะบอกเรื่องอะไรที่สำคัญตัวเองล่ะ?
หลังจากรับสาย หลี่ฝางก็ถามไปตรงๆ:“มีอะไรก็พูดมา อย่าไร้สาระ เวลาของผมมีค่ามาก”
เสียงของมู่เสี่ยวไป๋เย็นชามาก:“คนกลุ่มนั้นที่เขาหมาป่า คุณส่งไปเหรอ?”
“เขาหมาป่าเขาหมาห่าอะไรล่ะ ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดอะไร”หลี่ฝางปฏิเสธ
ตอนที่ไอ้หน้าหนวดไปถึงศูนย์อาบน้ำ เห็นได้ชัดว่าผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือด และการต่อสู้ที่ดุเดือดนั้น จะต้องมาจากทางเขาหมาป่าแน่
ตอนนี้ดูเหมือน ไอ้หน้าหนวดน่าจะสำเร็จแล้ว
หมายความว่า เครื่องจักรทำเงิน วัสดุอะไรพวกนั้นบนเขาหมาป่า ถูกไอ้หน้าหนวดกำจัดทิ้งแล้ว
หลี่ฝางคิดในใจ ตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋ที่ปลายสาย น่าจะบ้าคลั่งแล้วสินะ?
“หลี่ฝาง คุณใช่ผู้ชายหรือเปล่า?กล้าทำไม่กล้ารับ?”
มู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างเซ็งๆ:“เรื่องโรงงานที่เขาหมาป่า ความลับนี้คนที่รู้มีไม่เยอะ หนึ่งในนั้นคือจูเฟิ่งปิน”
“จูเฟิ่งปินอยู่ในมือของคุณ น่าจะพูดหมดแล้วสินะ?”
มู่เสี่ยวไป๋หัวเราะเหอะเหอะอย่างเย็นชา:“หลี่ฝาง คุณนี่ใช้ได้นี่ โทรศัพท์ของจูเฟิ่งปิน ก็ถูกคุณเอาไป”
มู่เสี่ยวไป๋ฉลาดมาก เดาออกว่าโทรศัพท์ของจูเฟิ่งปินอยู่ในมือของหลี่ฝาง
“โทรมา ก็เพื่อพูดพวกนี้น่ะเหรอ?”หลี่ฝางทนไม่ค่อยไหวแล้ว เตรียมจะวางสาย
“พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ ผมพูดอีกครั้งนะ เวลาของผมมีค่ามาก ไม่มีเรื่องอื่น ผมวางละ”หลี่ฝางพูดอย่างเซ็งๆ
มู่เสี่ยวไป๋จึงเข้าสู่ประเด็น:“ผมรู้ว่าแม่แบบอยู่ในมือของคุณ บอกราคามาสิ”
“เหอะเหอะ คุณรู้ได้ไง?อู๋เฟยบอกคุณเหรอ?”หลี่ฝางลองถามดู
ถึงแม้หลี่ฝางจะปล่อยอู๋เฟย แต่จากที่โหจื่อพูด เจ้านายเบื้องหลังของอู๋เฟย เป็นไปได้ที่จะไม่ใช่มู่เสี่ยวไป๋ แต่เป็นลูกพี่หลิน
ดังนั้น หลี่ฝางอยากลองเชิง มู่เสี่ยวไป๋ดันปฏิเสธ:“ผมโทรมาหลายสาย โทรไม่ติดเลยสักสาย รวมทั้งเบอร์ของจูเก่อเหย่ โทรศัพท์ของเขา ก็ไม่มีใครรับ”
“ถ้าผมเดาไม่ผิด ผมน่าจะติดกับแล้วใช่ไหม?”
หลี่ฝางไม่พูด ลังเลหน่อยๆ มู่เสี่ยวไป๋จึงพูดต่อ:“เดิมทีผมอยากยืมมือคนมาฆ่า หลอกใช้จูเก่อเหย่กำจัดคุณ แต่คิดไม่ถึงว่า กลับตกหลุมพรางของพวกคุณเอง”
“เหอะเหอะ พวกคุณทำการซุ่มโจมตีนานแล้ว สุดท้ายกลับติดกับดักของตัวเองเอง”
หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ มองมู่เสี่ยวไป๋:“นี่น่าจะไม่ใช่ที่คุณคาดไว้สินะ?คุณน่าจะส่งคนไปตรวจดูที่ศูนย์อาบน้ำแล้วสินะ?”
มู่เสี่ยวไป๋ไม่ตอบ แต่มองหลี่ฝางแล้วถามอีกครั้ง:“ไม่พูดเรื่องอื่นแล้ว พวกเรามาคุยเรื่องธุรกิจดีกว่า”
“แม่แบบในมือของคุณ เตรียมจะขายเท่าไหร่?”
มู่เสี่ยวไป๋พูด:“คุณน่าจะเข้าใจดี ทั้งเมืองเอก นอกจากผมแล้ว ไม่มีใครสนใจแม่แบบในมือคุณได้”
“คุณเห็นผมเป็นคนไม่มีเงินเหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ ถามย้อนขึ้นมา
มู่เสี่ยวไป๋มีเสียงเย็นชาหน่อยๆ:“หลี่ฝาง คุณอย่ามาทำไร้เดียงสาหน่อยเลย สังคมนี้ ทุกคนต่างทำงานหาเงิน คุณจะทำตัวสูงส่งกับผมทำไมเหรอ ภูมิหลังของคุณ ผมได้ยินมาว่า หลี่เจียเฉินนั่น ที่จริงก็คือบุคคลที่ออกมาอย่างเสมือนจริง เขาไม่ใช่ปู่คุณเลย เขาเป็นคนต่างชาติคนหนึ่ง”
“ส่วนหลอซ่าพ่อคุณ ก็แค่เคยช่วยเขาเท่านั้น เพื่อเป็นการตอบแทน คนที่ชื่อหลี่เจียเฉินนั้น ให้เงินก้อนหนึ่งหลอซ่า ให้เขากลับไปที่เมืองเอก”
“หลายวันมานี้ หลอซ่าเอาเงินก้อนนั้น ใช้ไปหมดแล้วสินะ?”
มู่เสี่ยวไป๋พูด:“หลี่ฝาง อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ คุณถามพ่อคุณก่อนก็ได้ ต้องการเงินไหม วางใจเถอะ ผมต้องให้ราคาที่คุณพอใจแน่”
พอหลี่ฝางได้ยินคำพูดนี้ของมู่เสี่ยวไป๋ ก็ขมวดคิ้ว
หรือว่า พ่อตัวเองจะใช้เงินหมดเกลี้ยงแล้วจริงๆ?
ผับ สถานตากอากาศ สวนสนุก แล้วก็สตรีทฟู้ดที่ปรับเปลี่ยนจากร้านปิ้งย่างเจ้าพาน ต่างลงทุนด้วยเงินจำนวนมาก
หลี่ฝางรู้ว่า พ่อตัวเองไม่ได้ยืมเงินจากธนาคาร ต่างใช้เงินตัวเองจ่ายทั้งนั้น
ถ้าหลี่เจียเฉินนั่นไม่ใช่ปู่ตัวเองจริงๆ งั้น เงินก็น่าจะใช้ใกล้หมดแล้วจริงๆ
หลี่ฝางคิด แล้วพูด:“คุณพูดก่อน คุณเสนอราคาให้เท่าไหร่?”
“เหอะเหอะ นี่สิถึงจะถูก”
มู่เสี่ยวไป๋เห็นการประนีประนอมของหลี่ฝาง ก็หัวเราะหึหึ:“ห้าร้อยล้าน”
เสียงดังฟ่อขึ้นมา หลี่ฝางสูดหายใจแม่แบบเก่าๆในมือตัวเองนี้ มู่เสี่ยวไป๋เสนอราคามาห้าร้อยล้านเลย
ทันใดนั้นหลี่ฝางก็รู้สึกว่าแม่แบบที่ตัวเองถืออยู่นั้น มีค่ายิ่งกว่าเพชร
“ว่าไง?”มู่เสี่ยวไป๋ถาม
หลี่ฝางไม่ตอบ เงียบไปสักพัก แล้วจึงวางสายลง
หลี่ฝางมองส้าวส้วย แล้วถาม:“ส้าวส้วย ผมถามคุณอย่างหนึ่ง คุณบอกความจริงกับผม”
ส้าวส้วยพยักหน้า มองหลี่ฝางแล้วพูด:“ถามมาเถอะ”
“พ่อผมเขายังมีเงินอยู่ไหม?”หลี่ฝางถาม
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ:“ทำไมต้องถามนี่ล่ะ?”
“มู่เสี่ยวไป๋อยากจะซื้อแม่แบบในมือของผม เหมือนว่าเขาจะสืบภูมิหลังของพ่อผมมาดีแล้ว เขาบอกว่า พ่อผมเอาเงินที่มาจากต่างประเทศนั้น ใช้ฟุ่มเฟือยจนเกลี้ยงหมดแล้ว”
“เป็นแบบนี้เหรอ?”หลี่ฝางถามอย่างกังวล
“พูดตามเหตุผลแล้ว เป็นแบบนี้จริงๆ”ส้าวส้วยพยักหน้า พูดว่า:“ตอนนั้นเงินที่พวกเราเอากลับมาจากดูไบ เยอะมาก แล้วโดยพื้นฐานก็ใช้ไปพอประมาณแล้ว”
ในใจหลี่ฝางกังวล ไม่มีเงินแล้วเหรอ?
แต่ตัวเอง ก็ยังใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย
ทันใดนั้น ในใจของหลี่ฝาง ก็รู้สึกผิดหน่อยๆ
ตลอดมา หลี่ฝางใช้เงินอย่างไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นหุ้นของตระกูลฉิน หรือว่าผับนั้นที่มีมูลค่าสามพันล้าน หลี่ฝางก็คิดว่านั่นก็แค่ของนอกกาย
แต่จากนั้น ส้าวส้วยพูดอีกว่า:“แต่ ถึงแม้ลูกพี่ไม่มีเงินแล้ว แต่ในมือของลุงเฉียน กลับมีอีกเยอะ”
“ทรัพย์สินในมือของลุงเฉียน เทียบกลับลูกพี่แล้ว ถือว่าเยอะมาก นอกจากลุงเฉียนแล้ว ในมือผมก็ไม่น้อย”
“แน่นอนว่า โหจื่อก็มี พวกเรามีหมด”
“ในมือลุงเฉียนนั้นมีมากสุด ในมือของลูกพี่ถือว่าอันดับสอง ตอนที่พวกเราไปจากดูไบ หลี่เจียเฉินแบ่งค่าคอมมิชชั่นให้พวกเรา นอกจากนี้ ลูกพี่ยังมีบ่อน้ำมัน กำไรทุกปีของบ่อน้ำมันนั้น อยู่ที่พันกว่าล้านขึ้นไป”
“ดังนั้น ถึงในมือลูกพี่จะยังไม่มีเงินชั่วคราว ก็ไม่จำเป็นต้องห่วง”
“เงินของพวกเรา ล้วนแต่เป็นของลูกพี่”
ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า:“สำหรับพวกเราแล้ว เงินก็คือตัวเลขเสมือนจริง ผมไม่รู้เลยว่าจะใช้ยังไง”
หลี่ฝางฟังจบ ก็รีบกลืนน้ำลาย:“งั้นคุณเท่าไหร่?”
“สามถึงห้าพันล้าน?ผมก็ไม่เคยดู น่าจะประมาณนี้”ส้าวส้วยพูดหน้านิ่งๆ:“โหจื่อน้อยกว่าผมหน่อย แต่ที่มากสุด ก็คือลุงเฉียน ลุงเฉียนช่วยหลี่เจียเฉินดูแลหุ้น กองทุนของเขา ได้ค่าคอมมิชชั่นจำนวน ทรัพย์สมบัติของเขา ถึงจะไม่ถึงแสนล้าน แต่ก็น่าจะไม่ต่ำกว่าหกหมื่นล้าน”
“ส่วนลูกพี่นั้น เหมือนว่าเขาจะได้แบ่งไปสามหมื่นล้าน”
“เงินพวกนี้ เป็นเงินที่คุณท่านหลี่เจียเฉินให้พวกเรา ตอนที่พวกเราจากมา”ส้าวส้วยพูดด้วยหน้านิ่งๆ
หลี่ฝางตะลึงจนอ้าปากกว้าง:“พูดแบบนี้คือ พวกคุณแต่ละคนล้วนแต่เป็นเศรษฐีกันน่ะสิ?”
“ใช่ ไม่ใช่แค่พวกเรา แม่คุณก็ด้วย เจ้านาย ในมือของเธอ น่าจะถือเงินก้อนหนึ่งไว้ด้วย นอกจากแม่คุณแล้ว ก็มีคุณ คุณน่าจะมีอยู่ส่วนหนึ่ง ตอนนั้นคุณท่านหลี่เจียเฉิน อยากเรียกคุณมาอยู่ข้างกายเขา และเจอคุณมาตลอด แต่ลูกพี่ปฏิเสธ เขาบอกว่ามีโอกาส จะพาคุณไปเจอเขา”
“ผมคิดว่า คุณท่านหลี่เจียเฉินอยากจะเอาทรัพย์สินของเขา โอนให้คุณ”ส้าวส้วยพูด
หลี่ฝางไม่ค่อยอยากจะเชื่อ:“โอนให้ผม?”
“ใช่ หลี่เจียเฉินมีทายาทแค่คนเดียว แต่ทายาทคนนั้นของเขา อกตัญญูมาก และก็เป็นคนที่ทะเยอทะยานสุดๆ อยากจะฆ่าหลี่เจียเฉินให้ตาย เป็นลูกพี่ที่ลงมือ ห้ามไว้หลายครั้งแล้ว”
“ที่จริงแล้ว หลี่เจียเฉินเอาทรัพย์สินของตัวเอง โอนให้ลูกพี่ทั้งหมดไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ลูกพี่ปฏิเสธหมด”
ส้าวส้วยพูด:“กลับกัน คุณท่านหลี่เจียเฉินอยู่ที่ต่างประเทศ ไม่มีคนที่สนิทหรือไว้ใจได้ ในเมื่อเขารับลูกพี่เป็นลูกชายบุญธรรม งั้นคุณก็เป็นหลานชายบุญธรรมของเขา เขาเอาทรัพย์สินโอนให้คุณ ก็เป็นเรื่องปกติมาก”
“ตอนนั้น เขาพูดกับผมอยู่หลายครั้ง”
ส้าวส้วยพูด
หลี่ฝางฟังจบ ก็ตะลึง:“คุณล้อเล่นกับผมเหรอ?”
ส้าวส้วยส่ายหน้า:“สรุปคือ จำไว้ว่า พวกเราไม่ได้ขาดเงิน”