NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่689 โชคดี
“ผิวคุณนุ่มละเอียดบำรุงดี ตรงสเปคเขาพอดี”ชางสู่เยาะเย้ยหวางเห้า
“ถ้าเขากล้าคิดหมายปองผม ผมเอาเขาตายแน่”หวางเห้าอดไม่ได้ที่จะสั่น จากนั้นก็พูดอย่างเย็นชา
ไม่ถึงสิบนาที หวางเห้าก็ขับรถมาที่โรงพยาบาล
ชางสู่ยื่นมือออก พูดกับคนที่ยืนเรียงรายหน้าประตู:“ผมคือเพื่อนของแมงป่องลูกพี่พวกคุณ ช่วยผมสกัดรถด้านหลังคันนั้นด้วย”
“แม่เอ๊ย ไอ้ระยำชางสู่หาคนช่วย!”
เห็นคนสิบกว่าคนที่หน้าประตู สีหน้าจูเปิ่น ก็หม่นลงทันที:“ทำไงดี?”
“จะทำไงได้ หยิบปืนมาสู้กับพวกเขาเลย”
เสี่ยวซานจื่อพูดอย่างไม่คิดใดๆ
“คุณบ้าหรือไง ยิงปืนในสถานที่นี้ คุณคิดว่า คุณหลบได้เหรอ?มีกล้องไปทุกที่ แค่คุณยิงปืน ก็กลายเป็นอาชญากรที่ต้องการตัวแล้ว”เฉินฝูเซิงจ้องเสี่ยวซานจื่อ แล้วขับรถช้าลง
“คุณชาย ผมรู้ว่าคุณกังวลมาก แต่ผมเสี่ยวซานจื่อไม่กลัว ผมเสี่ยวซานจื่อคือคนที่ไม่กลัวอะไร ชีวิตไม่มีค่าอะไร ภารกิจที่ฆ่า ชางสู่ มอบให้ผมคนเดียวก็พอ”
เสี่ยวซานจื่อหัวเราะ พูดว่า:“คุณชาย รบกวนล่ะไปส่งผม”
จูเปิ่นมองเสี่ยวซานจื่อแวบหนึ่ง:“พวกเราค่อยหาโอกาสอีกครั้งได้”
“โอกาสหายาก อีกอย่าง ชางสู่ได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนั้น เดิมทีนี่ก็คือโอกาสที่ดี พลาดไป หาโอกาสอีกก็ยากแล้ว”
เสี่ยวซานจื่อพูด:“เอาหน่า เอาตามนี้แหละ ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยหนี อีกอย่างข้างกายของคุณชาย มีพี่จูเปิ่นคนเดียวก็พอแล้ว คนโง่อย่างผม มีไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร หากไม่มีก็ไม่เป็นไร”
ตอนที่จูเปิ่นจะพูดโน้มน้าว เสี่ยวซานจื่อก็เอากระบอกปืนจ่อไปที่หัวของตัวเอง พูดว่า:“พวกคุณอยากให้ผมตายใช่ไหม?”
“คุณชาย รบกวนคุณไปส่งผมเถอะ”
เสี่ยวซานจื่อพูดเบาๆ
“คุณกำลังบังคับผม……”คิ้วของเฉินฝูเซิง ขมวดแน่น
“ใช่ ถ้าผมไม่บังคับคุณ คุณคงไม่ยอมให้ผมไป”เสี่ยวซานจื่อหัวเราะ พูดว่า:“ในพวกเราสามคน ผมยิงปืนได้ดีที่สุด แล้วก็ ผมไร้ประโยชน์ที่สุด”
เฉินฝูเซิงกัดฟัน เหยียบคันเร่ง พุ่งไปที่โรงพยาบาล
“แม่เอ๊ย หยุดรถเดี๋ยวนี้!”
“หยุดรถ ได้ยินไหม?”
ชี้ไปที่รถของเฉินฝูเซิง คนของแมงป่อง ก็ด่าขึ้นมา แต่เฉินฝูเซิงเหมือนกับไม่ได้ยิน พุ่งเข้าไปโดยตรง
“แม่เอ๊ย อยากชนผมให้ตายใช่ไหม”
“ทุบเลย!”
คนของแมงป่อง หยิบอิฐขึ้นมา ทุบลงไปที่กระจกหน้ารถเฉินฝูเซิง
แต่ยังคงสกัดรถของเฉินฝูเซิงไม่อยู่
หลังจากรถของเฉินฝูเซิงเข้าไปในโรงพยาบาล เสี่ยวซานจื่อก็ค่อยๆลงมา เฉินฝูเซิงมองเขา:“รักษาชีวิตไว้ก่อน เรื่องแก้แค้นเป็นรอง ผมจะรอคุณที่ด้านนอก”
“คุณชาย ผมหนีเองได้ ถ้าคุณรอรับผม ผมจะฆ่าตัวตาย”
เสี่ยวซานจื่อพูดเบาๆ:“ผมไม่อยากทำให้คุณเหนื่อย คุณชาย ผมทำคุณเหนื่อยไปด้วยครั้งหนึ่งแล้ว”
พูดไป เสี่ยวซานจื่อก็แอบจากไป ส่วนคนของแมงป่อง ก็ตามไปในตอนนี้ จูเปิ่นกับเฉินฝูเซิงออกไปจากในรถ ในมือถืออาวุธไว้
“เด็กเปรต เมื่อกี๊ให้พวกคุณหยุดรถ หูหนวกเหรอ?”
คนที่อยู่ตรงข้ามด่า
เฉินฝูเซิงไม่มีคำพูดเหลวไหลใดๆ ก็ถืออาวุธไว้ แล้วลงมือทันที
จูเปิ่นก็เช่นกัน
เสี่ยวซานจื่อถือโอกาสจากช่องว่างนี้ แอบเข้าไปในโรงพยาบาลอย่างเงียบๆ
ตอนนี้ ในบ้านของเสี่ยวโจว ……
หลี่ฝางวิ่งเข้าไป อุ้มเสี่ยวโจวขึ้นมา ส่วนน้องชายของเสี่ยวโจว ก็ตื่นขึ้นมาตอนนี้
“พี่ พี่เป็นอะไร?”
น้องชายของเสี่ยวโจวตะโกนเสียงดัง
“ยังมีลมหายใจ รีบส่งไปโรงพยาบาล”หลี่ฝางเอามือสำรวจลมหายใจเสี่ยวโจว แล้วพูด
แป๊บเดียว น้องชายของเสี่ยวโจวก็อุ้มเสี่ยวโจวขึ้นมา ไปที่รถของหลี่ฝาง
คนของชางสู่ ก็ออกไปในตอนนี้ถังหยู่ซวนขมวดคิ้ว พูด:“ดูเหมือนจะมีคนเห็นผมยิงแล้ว”
“พาหลี่ซ่วยซ่วย เอาเงินไปปิดปาก”หลี่ฝางพูด
พูดจบ หลี่ฝางก็ขึ้นรถ ส่งเสี่ยวโจวไปโรงพยาบาล
พอถึงหน้าโรงพยาบาล หลี่ฝางเห็นเฉินฝูเซิงกับจูเปิ่น
ทั้งสองสู้กับคนสิบกว่าคน แต่ไม่แพ้เลยสักนิด ตอนนี้เอง ตำรวจก็มาถึงที่นี่ คนของแมงป่องหนีไปทั่วทันที ส่วนเฉินฝูเซิงกับจูเปิ่นก็รีบกระโดดขึ้นรถ เตรียมออกไป
“เสี่ยวซานจื่ออยู่ข้างใน”ตอนที่หนี เฉินฝูเซิงก็พูดว่า:“เขาไม่ให้ผมรอเขา เจ้านาย ถ้าคุณเห็นเขา ให้เขารีบหนี”
“ผมรู้”
หลี่ฝางขมวดคิ้วอย่างหดหู่
ใครจะคิดว่าบังเอิญได้ขนาดนี้ ชางสู่ก็อยู่ในโรงพยาบาลด้วย?
แต่ เรื่องที่จะเปลี่ยนโรงพยาบาลเห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ ลมหายใจของเสี่ยวโจวอ่อนลงมากแล้ว ถ้าชักช้าอยู่อีก เกรงว่าจะตายแน่
“แม่เอ๊ย โลกกลมเสียจริง”พอหลี่ฝางสบถไป ก็เข้าไปในโรงพยาบาล
แป๊บเดียว เสี่ยวโจวก็ส่งเข้าไปในห้องผ่าตัด น้องชายเสี่ยวโจวพูดด้วยใบหน้าขอบคุณ:“ขอบคุณนะ น้องชาย เงินที่คุณจ่ายให้พี่ ผมจะหาทางคืนคุณ”
“เขาก็คือพี่ชายผม”หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า:“เงินนี่ไม่ต้องคืน”
“แต่เงินตั้งมากนี้……”
“ผมว่านะไอ้โง่ คุณไม่ดูหน่อยเหรอน้องชายคนนี้ขับรถอะไร นั่นเป็นเบนซ์G-Classนะ อายุน้อยๆ ขับรถสองล้านกว่า จะไปสนใจค่ารักษาที่ไม่กี่หมื่นนี่ได้ไงล่ะ?”
“รถนี้……แพงขนาดนั้นเลย?”มองรถที่หน้าประตู แล้วก็มองหลี่ฝาง สายตามีความตะลึง
“คุณชื่ออะไร?ทำไมผมไม่เคยได้ยินเสี่ยวโจวพูดว่ามีน้องชาย?”หลี่ฝางถาม
“ผมชื่อโจวต้าเหนียน ตอนเด็กๆ ที่บ้านจน บวกกับตอนนั้นเป็นนโยบายลูกคนเดียว หมดหนทาง ผมได้แต่อยู่บ้านของอา ในนามนั้น ผมกับพี่ผมเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ที่จริงแล้ว พวกเราคือพี่น้องแท้ๆ ผมก็เพิ่งรู้ไม่กี่ปีมานี้”
“หลายปีมานี้แม่ผมร่างกายไม่ดี พี่ชายผมพาเธอไปหาหมอที่มีชื่อเสียงทุกที่ ตลอดมา ที่บ้านต่างคิดว่าแม่ผมตายเพราะอาการป่วย แต่ใครจะไปรู้ แม่ผมยังมีชีวิตอยู่ตลอด”
พูดไป โจวต้าเหนียนก็ก้มหน้า เหมือนว่ากำลังโทษที่ตัวเองไม่มีความกตัญญู
เวลานี้เอง ส่วนลึกของโรงพยาบาลก็มีเสียงปืนดังขึ้นมา
คิ้วหลี่ฝางขมวดเข้า พูดกับตัวเอง:“ห่า ลืมเสี่ยวซานจื่อไปเลย”
“คุณจับตาดูที่นี่ไว้ ผมมีเรื่องนิดหน่อย ต้องไปก่อน”หลี่ฝางตบไหล่ของโจวต้าเหนียน วิ่งออกไป ตามทางที่มีเสียงปืน
จากนั้นก็มีเสียงปืนดัง โรงพยาบาลก็วุ่นวายขึ้นมาทันที มีคนวิ่งไปทั่ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่มีเสียงปืนดัง
“พันแผลให้เพื่อนผมดีๆ!”
หวางเห้าคว้ามีดผ่าตัดอันหนึ่งขึ้นมา พุ่งออกไป
และตอนนี้เอง ไหล่ของหวางเห้า ก็ถูกยิง
ปืนเมื่อกี๊ ที่จริงเสี่ยวซานจื่อจะยิงไปที่ตัวของชางสู่ แต่คิดไม่ถึงว่า จู่ๆหวางเห้าจะหลบตัว สกัดกระสุนนี้แทนชางสู่
จากนั้น หวางเห้าก็รีบเอามีดผ่าตัดเล่มหนึ่ง พุ่งออกไปที่หน้าประตู
ส่วนเสี่ยวซานจื่อก็ด่าไปด้วยความโกรธ เขาอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด ไม่ง่ายเลยที่จะหาโอกาส แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะถูกหวางเห้าทำลาย เขาจะไม่โมโหได้ไง?
เสี่ยวซานจื่อชูปืนขึ้นมา ตอนที่จะลุยเข้าไป หลี่ฝางวิ่งเข้ามา ปรากฏตัวด้านหลังของเขา
“คุณจะเป็นข่าวหรือไง?”หลี่ฝางมองเสี่ยวซานจื่ออย่างโมโห ด่าไปว่า:“รีบไสหัวไป”
“ไปที่บันได แล้วหาโอกาสหนี!”
หลี่ฝางจับไหล่ของเสี่ยวซานจื่อ ลากไปด้านหลัง ส่วนหวางเห้าในตอนนี้ก็ออกมา ทั้งสองคนคนหนึ่งถือปืนไว้ อีกคนถือมีด
“อย่ายิง”
ตอนที่เสี่ยวซานจื่อจะเหนี่ยวไก หลี่ฝางคว้าแขนของเขา และมีดของหวางเห้า ก็หยุดลง
“ห่า ผมสงสัยจริงๆ คุณเป็นเจ้านายผมแน่หรือเปล่า คุณมีผมอยู่ในใจบ้างไหม”เสี่ยวซานมองจื่อหลี่ฝาง แล้วถามอย่างเย็นชา
“เขาเป็นศัตรู”เสี่ยวซานจื่อมองหวางเห้าแล้วพูด
“เขาไม่ใช่”หลี่ฝางเอากุญแจรถในมือ วางไว้ในมือของเสี่ยวซานจื่อ:“ขับรถของผม รีบไปจากที่นี่ซะ”
ถึงแม้เสี่ยวซานจื่อจะโกรธหน่อยๆ แต่เห็นได้ชัดว่า โอกาสลงมือไม่มีอีกแล้ว
เขาได้แต่เลือกหนีไปจากนี่ พอเสี่ยวซานจื่อไปแล้ว หลี่ฝางก็มองหวางเห้าแวบหนึ่ง พูดว่า:“คุณช่วยชางสู่ไว้”
หวางเห้าพยักหน้า:“เขาคือเพื่อนผม”
“ช่างเถอะ รีบไปหาหมอ พันแผลให้คุณเถอะ อีกอย่าง กล้องของที่นี่ก็ลบด้วย”
หลี่ฝางถามว่า:“คุณทำ หรือจะให้ผมเอง?”
“ผมละกัน”หวางเห้าพูดว่า:“ที่นี่ ผมรู้จักคนบางคน”
“แมงป่องเหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“เมื่อกี๊ที่หน้าโรงพยาบาล ผมเห็นแล้ว”
หวางเห้าไม่ปฏิเสธ หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาแมงป่อง
“หวางเห้า คุณก็มาเหรอ……โอเคๆ ไม่ใช่แค่ลบกล้องวงจรปิดหรือไงล่ะ ผมเป็นเพื่อนเก่ากับผู้อำนวยการโรงพยาบาล ใช่สิ ผมได้ยินว่าโรงพยาบาลนี้มีกราดยิงทั่ว คุณไม่เป็นไรนะ?”
แมงป่องที่ปลายสาย ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบหวางเห้า
ทำให้หวางเห้าได้ยินแล้วก็ขนหัวลุกหน่อยๆ หรือว่าแมงป่อง จะสนใจตัวเอง?
คิดถึงตรงนี้ หวางเห้าก็วางสายของแมงป่องทันที
“ถ้าได้ล่ะก็ ผมจะพาชางสู่ไปจากมู่เสี่ยวไป๋ทันที”หวางเห้าที่วางสาย ก็พูดกับหลี่ฝาง:“ผมรู้ พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลหลี่จุดจบของเพื่อนผม มีแค่ตายเท่านั้น”
“ที่จริง มู่เสี่ยวไป๋เริ่มอยากถอยแล้ว กลัวพวกคุณ ก็แค่ ธุรกิจทุกอย่างของตระกูลมู่อยู่ที่เมืองเอก เขาอยากจะไปจากนี่ ไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนจับตาดูเขาอยู่ ถ้าเขาคิดหนี ต้องมีคนไม่ปล่อยเขาแน่”
หวางเห้าพูด
หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“คุณรู้เยอะดีนะ”
“ผมอยากถามคุณหน่อย แมงป่องไปเมืองเอกครั้งนี้ ร่วมมือกับมู่เสี่ยวไป๋หรือไม่?”หลี่ฝางมองหวางเห้าแล้วถาม:“ผับของผมถูกคนเล่นงาน ผมสงสัยว่ามีคนช่วยแมงป่อง ใช่มู่เสี่ยวไป๋ไหม?”
“คุณสนิทกับชางสู่ขนาดนี้ เขาทำอะไร คุณน่าจะรู้ดีนะ?”
“แน่นอนว่า คุณเลือกจะไม่ตอบได้ ผมเข้าใจ”หลี่ฝางพูด
หวางเห้าหัวเราะ พูดว่า:“ถ้าชางสู่เข้าร่วมจริงๆ งั้นผมคงจะไม่พูดอะไร แต่ที่ผมอยากบอกคุณคือ เรื่องนี้ มู่เสี่ยวไป๋ น่าจะไม่เกี่ยวข้องใดๆ”
“งั้นทำไมวันนี้แมงป่องช่วยชางสู่?”หลี่ฝางถามอย่างสงสัย
ตอนที่มองเห็นคนของแมงป่องที่หน้าโรงพยาบาล หลี่ฝางสงสัยมู่เสี่ยวไป๋ทันที สงสัยว่ามู่เสี่ยวไป๋กับแมงป่องร่วมมือเล่นงานตัวเอง
แต่คิดไม่ถึงว่า จะได้รับการปฏิเสธจากหวางเห้าที่นี่
“ครั้งนี้ที่แมงป่องยอมช่วยชางสู่ เพราะว่าชางสู่ให้เขาไปสองล้าน ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมเอาหลักฐานให้คุณดูได้ ผมยังให้ชางสู่ยืมหนึ่งล้านเลย”
หวางเห้าพูด
หลี่ฝางส่ายหน้า พูดว่า:“ไม่ต้องแล้ว ผมคงไม่ใช่ว่าสงสัยแม้แต่คำพูดของคุณ”
ตอนที่หลี่ฝางหมุนตัวจะออกไป จู่ๆหวางเห้าก็ถาม:“เสี่ยวโจว……ตายแล้วจริงๆเหรอ?”
หลี่ฝางมองหวางเห้า พยักหน้า แล้วพูด:“ตายแล้ว”
หวางเห้าถอนหายใจ แววตาปรากฏความเหงา คนที่ฆ่าผู้มีพระคุณของตัวเอง ดันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเอง ทำให้ในใจหวางเห้ารู้สึกไม่สบายใจมาก ถ้าเป็นคนอื่น บางทีหวางเห้าคงไปแก้แค้นแทนเสี่ยวโจว
หลี่ฝางกลับไปที่ข้างหน้าของโจวปู้ถง และตอนนี้เอง ประตูห้องผ่าตัด ก็เปิดออก หมอวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมาจากข้างใน เขาถอนหายใจยาวๆ พูดว่า:“คนไข้โชคดีมาก หัวใจของเขา ดันอยู่ตรงกลาง”