NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่713 ลอบโจมตีแมงป่อง
ก่อนที่หยิ่นเจิ้งจะตัดสินใจลงมือ เขาซื้อตั๋วเครื่องบินสำหรับลูกเมียไว้เพื่อให้พวกเขาหนีไป
มีแค่วิธีนี้เท่านั้น ที่จะทำให้เขาสามารถลงมือกับแมงป่องได้โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
แต่ตอนนี้ ลูกชายของเขาดันกลับมา…
วินาทีนั้น หยิ่นเจิ้งรู้สึกหัวตื้อ…
เมื่อกี๊หยิ่นเจิ้งเพิ่งได้ข่าวว่าแมงป่องออกคำสั่งให้ลูกน้องทั้งหมดออกตามล่าตัวหยิ่นเหล่ยมายืนตรงหน้าเขาให้ได้
ตอนนี้ทั่วทั้งเมืองกำลังตามล่าตัวหยิ่นเหล่ย หรือก็คือลูกชายของเขา
หยิ่นเหล่ยถอนหายใจ “มีใครบางคนเดาได้ว่าผมจะหนี เขาก็เลยจับตัวผมกลับมา”
“ตระกูลหลี่?” หยิ่นเจิ้งขมวดคิ้ว
ตอนที่ไปส่งภรรยากับลูกชาย รางวัลล่าหัวร้อยล้านยังไม่ได้ประกาศออกไป เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่แมงป่องจะเป็นคนทำ
อีกอย่างถ้าเป็นแมงป่อง เขาคงไม่ปล่อยให้ลูกชายกลับมาที่เดิม
ดังนั้นคงมีแค่ตระกูลหลี่ที่ทำแบบนี้
หยิ่นเหล่ยพยักหน้า “ตอนที่ขึ้นไปบนเครื่องได้ไม่นาน แอร์ก็ให้ผมกินน้ำขวดนึง พอผมกินน้ำนั่นจนหมดจู่ๆก็สลบไป พอฟื้นขึ้นมาอีกทีก็กลับมาอยู่หน้าบริษัทแล้ว”
“ส่วนแม่ ผมไม่รู้ว่าแม่อยู่ไหน ผมถามคุณชายหลี่แต่เขาไม่ตอบ เขาพูดแค่ว่าจะช่วยดูแลความปลอดภัยของแม่กับน้องๆแทนให้” หยิ่นเหล่ยพูด
สีหน้าของหยิ่นเจิ้งตึงเครียด “ตระกูลหลี่ร้ายกาจมาก เขารู้แม้กระทั่งเรื่องที่แม่กำลังท้องอยู่”
เรื่องนี้ มีแค่ตัวหยิ่นเจิ้งกับภรรยาและหมอประจำตระกูลเท่านั้นที่รู้
แม้แต่หยิ่นเหล่ยก็เพิ่งจะรู้เมื่อกี๊นี้
แต่ตระกูลหลี่กลับล่วงรู้เรื่องนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคือรักษาชีวิตเด็กเอาไว้
หยิ่นเจิ้งเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ที่สำคัญยังเป็นคนที่รักเมียมาก
ไม่อย่างนั้น หยิ่นเจิ้งคงจะหาผู้หญิงคนไหนก็ได้มาผลิตทายาทเพื่อสืบทอดต่อ…
“พ่อ เราจะทำยังไงกันดี?” หยิ่นเหล่ยมองพ่ออย่างร้อนรน “เมื่อกี๊ตอนที่ผมขึ้นมามีกลุ่มคนไล่ตามผม ต้องเป็นคนของแมงป่องแน่”
“ก็ใช่น่ะสิ นอกจากคนของแมงป่อง จะเป็นใครได้อีก?” สีหน้าของหยิ่นเจิ้งตึง
“คุณชายหลี่ตั้งใจจะเอานายมาเป็นเป้าล่อแทนเขาน่ะสิ…”
ไม่ว่าจะหยิ่นเจิ้งหรือหยิ่นเหล่ยก็พอจะดูออกว่าหลี่ฝางทำแบบนี้ กำลังทำร้ายหยิ่นเหล่ย
ถ้าหยิ่นเหล่ยหนีไปได้ แมงป่องก็ไม่มีทางหาหยิ่นเหล่ยเจอ จากนั้นก็จะมาเอาเรื่องกับหยิ่นเจิ้งหรือไม่ก็หลี่ฝาง
แต่ในเมื่อหยิ่นเหล่ยกลับมาแล้ว แมงป่องก็ต้องหันไปโจมตีหยิ่นเหล่ย
ถึงยังไงหยิ่นเหล่ยก็เป็นคนปล่อยข่าวออกไป ถ้าหาตัวหยิ่นเหล่ยเจอ เรื่องเงินล่าหัวนั่นก็จะถูกยกเลิกไป
การล้มเลิกเงินรางวัลล่าหัว คือสิ่งที่แมงป่องต้องการจะทำ
แต่วินาทีนี้หยิ่นเหล่ยจะกล้ายกเลิกงั้นหรอ?
ถ้าทำแบบนั้น จะไม่ใช่แค่ธุรกิจครอบครัวจะถูกตระกูลหลี่โค่น ไหนจะเรื่องความปลอดภัยของแม่ ก็รับประกันไม่ได้…
“ตระกูลหลี่จะต้องกลืนพวกเราทั้งเป็น” หยิ่นเจิ้งมีสีหน้าเคร่งขรึม “คุณชายหลี่ไม่ได้แค่จะยืมมือนายปล่อยประกาศล่าหัว แต่ยังบีบให้ตระกูลเราเผชิญทำสงครามกับแมงป่อง”
แม้ว่าหยิ่นเจิ้งตั้งใจจะทำสงครามกับแมงป่องตั้งนานแล้ว แต่การต้องเผชิญหน้ากันตรงๆ เป็นสิ่งที่หยิ่นเจิ้งไม่อยากเห็น
แต่การที่หลี่ฝางบีบให้เขาทำแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการที่เขาบีบให้จางซินเฟยตอบตกลงร่วมมือกับเขา…
เวรกรรมตามทันดังจรวดของแท้
ตอนนี้เอง จู่ๆแมงป่องก็โทรเข้ามา
“เวรล่ะ นี่มันสายมรณะชัดๆ” หยิ่นเจิ้งถอนหายใจยาว
“พ่อ แมงป่องโทรมาหรอ? ไม่ว่ายังไงพ่อก็ห้ามส่งผมให้มันเด็ดขาดเลยนะ” หยิ่นเหล่ยพูดด้วยความหวาดกลัว
“เด็กโง่ ฉันเป็นพ่อแกจะส่งตัวแกให้มันได้ไง?” หยิ่นเจิ้งถลึงตาให้ลูกชาย
ลูกชายคนนี้ผ่านโลลกมาน้อยเหลือเกิน
พอมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก็สงบสติอารมณ์ไม่ได้อีกต่อไป
หยิ่นเจิ้งส่ายหน้าผิดหวัง สุดท้ายก็กดรับสาย
ของแบบนี้ หลบให้ตายยังไงก็คงหลบไม่พ้น
เมื่อรับสาย แมงป่องหัวเราะหึๆ “เจ้านายหยิ่น ลูกน้องฉันรายงานมาว่าเมื่อกี๊ลูกชายนายกลับไปที่บริษัทของนายแล้วนี่นะ”
“พี่แมงป่อง ลูกน้องของพี่คงดูผิดไปมั้งครับ? ทำไมผมถึงได้ยินว่าพอไอ้ลูกชายตัวดีก่อเรื่องเสร็จก็เผ่นแน่บไป ตอนนี้คิดว่าคงไม่อยู่ในอำเภอหลินแล้วล่ะ จะมาอยู่ในบริษัทผมได้ไงกัน?” หยิ่นเจิ้งพูดแถอย่างถ่อมตัว
แมงป่องได้ยินก็แค่นเสียงเหอะออกมา “ไอ้แก่จนป่านนี้ยังมาทำมึนอะไรกับฉันอีก ลูกชายแกทำเรื่องผิดกับฉันขนาดนั้น แกยังจะปกป้องมันอีกหรอ? หรือจะบอกว่าทั้งหมดมาจากการสนับสนุนของแก?”
“พี่แมงป่อง ผมไม่ได้เห็นหน้าลูกชายเลยจริงๆนะครับ” หยิ่นเจิ้งพูด “ถ้าพี่ไม่เชื่อ ผมสาบานก็ได้”
“แม่มึงสิ ลูกน้องเป็นโขยงของฉันเห็นว่าลูกชายแกวิ่งหนีเข้าบริษัทกันทุกคน จะบอกว่าพวกลูกน้องของฉันตาบอดงั้นสิ?” แมงป่องเกรี้ยวกราด
ถ้าบอกว่าคนนึงดูผิดยังพอจะเชื่อได้ แต่นี่มันตั้งหลายคนที่เห็นพร้อมกัน จะบอกว่าดูผิดได้ไง?”
“ฉันกำลังไปที่บริษัทนาย ถ้าฉันไปถึงแล้วไม่เจอหน้าลูกชายแก ก็เตรียมทำสงครามได้เลย” แมงป่องพูดจบด้วยความเย็นชา ก็วางสายไป
หยิ่นเจิ้งเหลือบตามองลูกชายตัวเองแว๊บนึง “ไอ้เด็กโง่ รู้ๆอยู่ว่ามีประตูลับ ทำไมยังเข้าทางประตูใหญ่อีก?”
“พ่อผมก็ไม่ได้อยากทำ แต่คุณชายหลี่ผลักผมลงจากรถ พอลงปุ๊บ พวกนั้นก็เห็นผมเลย” หยิ่นเหล่ยพูดด้วยใบหน้าไร้เดียงสา
เวลานี้ที่วิลล่าตระกูลหยิ่น และที่บริษัท รวมถึงสถานที่ต่างๆที่หยิ่นเจิ้งไม่ค่อยได้ไป ล้วนก็ถูกคนของแมงป่องล้อมไว้หมด
แมงป่องรู้ดีว่าถ้าไม่รีบยกเลิกประกาศล่าหัวนั่น เขาคงไม่ถูกหมายหัวตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ
ร้อยล้านเชียว เงินก้อนโตขนาดนั้นมากพอที่จะทำให้คนเป็นบ้าได้
ตั้งแต่วันที่มีประกาศล่าหัว ในใจของแมงป่องก็มีความโกรธขึ้นเพิ่มทุกวัน ฉ่างจื่อขมวดคิ้ว “คุณพ่อ ทำไมเราไมใช้วิธีหนามหยอกเอาหนามบ่งล่ะครับ? ในเมื่อตระกูลหยิ่นใช้เงินซื้อชีวิตคุณพ่อ ถ้าลูกชายมันไม่ยอมออกมาแก้ข่าว งั้นเราก็จะใช้เงินซื้อชีวิตมันเหมือนกันสิครับ”
เงินร้อยล้าน ถึงแมงป่องจะยอมจ่ายได้ แต่ก็คงแทบกระอักเลือดอยู่เหมือนกัน
แมงป่องส่ายหน้า “หยิ่นเจิ้งเป็นนักธุรกิจ ถ้าฉันจ่ายเงินซื้อชีวิตมัน มันคงจะจ้างตำรวจมาคอยคุมกันยี่สิบสองชั่วโมง”
แมงป่องทำธุรกิจสีดำแมงป่องทำธุรกิจสีดำ มื้อไม้ไม่สะอาด แค่เห็นตำรวจเขาก็แทบจะเดินหนี แล้วจะไปขอให้ตำรวจมาช่วยคุ้มกันให้ได้ยังไง?
ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วธุรกิจของเขาจะเป็นยังไง?
คนในวงการเดียวกันจะมองเขายังไง?
แมงป่องถอนหายใจ “ฉ่างจื่อ คนที่ฉันจะเชื่อใจตอนนี้มีแค่นายคนเดียวแล้ว”
ฉ่างจื่อพูด “คุณพ่อสบายใจเถอะครับ ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคุณพ่อได้”
วินาทีนี้ แมงป่องก็ถอนหายใจขุ่นออกมายาวๆ “ฉันจะให้นายมาเป็นคนขับรถของฉัน ฉันรู้ว่านายคงรู้สึกน้อยใจ นายเองก็อยากจะไปคุมงาน สนุกรื่นรมณ์ไปวันๆเหมือนอย่างสวีเจ๋หรือจางซินเฟย แต่พ่อของนายต้องการใครสักคนมาอยู่ข้างกาย ใครสักคนที่จะไม่หักหลัง และสามารถปกป้องฉันได้ เพราะงั้น…”
จู่ๆฉ่างจื่อก็ยิ้ม แล้วพูดอย่างโล่งใจ “พูดอะไรของคุณพ่อน่ะครับ ผมเป็นลูกของคุณพ่อ ยังไงก็ต้องปกป้องคุณพ่ออยู่แล้ว จะน้อยใจอะไรล่ะครับ?”
“วางใจเถอะครับ รอผ่านไปสักสองสามปี เมื่อภารกิจของฉันสำเร็จ ฉันก็จะลงจากตำแหน่ง แล้วยกทุกอย่างที่สร้างมาให้นายรับช่วงต่อ” คำพูดของแม่งป่องราวกับกลายเป็นคนละคน
ในขณะที่ฉ่างจื่ออึ้งไป รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกไป
“ภารกิจ? ภารกิจที่คุณพ่อว่าหมายถึงอะไรครับ?” ฉ่างจื่อขมวดคิ้ว
สีหน้าของแมงป่องเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาหัวเราะเหอะๆ “จะภารกิจอะไรได้ล่ะ ก็ต้องทำให้ธุรกิจมันใหญ่โตขึ้นกว่านี้ไง”
ฉ่างจื่อรู้ได้ว่าพ่อบุญธรรมของตัวเองกำลังโกหก แต่เขาก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามต่อ
แต่ฉ่างจื่อไม่เข้าใจ ว่าทำไมพ่อบุญธรรมยังมีภารกิจอะไรอีก หลายปีที่ผ่านมา เขาตัวติดกับพ่อบบุญธรรมของตัวเองแต่ทำไมถึงไม่รู้ถึงภารกิจที่ว่านี่เลย
……
เมื่อมาถึงด้านหน้าดึกบริษัท ฉ่างจื่อก็จอดรถ
หลังจากที่แมงป่องใส่หมวกแก๊บปกปิดส่วนใบหน้าของตัวเองเรียบร้อย ก็ลงจากรถ
การมาครั้งนี้ ฉ่างจื่อขับBuickธรรมดาๆ เพื่อปกปิดสถานะแมงป่องจึงไม่ได้ขับmaybachของตัวเอง
เมื่อก่อนแมงป่องมักจะขับmaybachวางอำนาจบาตรใหญ่ไปทั่วทั้งอำเภอหลิน ใครต่อใครต่างก็กลัว
เวลานี้ แมงป่องกลายเป็นฝ่ายที่ต้องกลัวซะเอง เพราะตอนนี้ไม่ว่าใครก็อยากจะฆ่าเขา
ฉ่างจื่อเดินตามหลังแมงป่องมาติดๆ เขาเองก็แต่งตัวมิดชิดระวังไม่ต่างกัน การออกข้างนอกครั้งนี้ แมงป่องระวังตัวมากเป็นพิเศษ เขาพาแค่ลูกชายบุญธรรมาเท่านั้น
วินาทีที่เขาลงจากรถ หลี่ฝางก็จับตามองเขาไม่กระพริบ
“ไอ้หน้าหนวด เห็นผู้ชายที่ใส่ชุดสีเบจไหม? นั่นล่ะแมงป่อง” หลี่ฝางล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วพูดกับปลายสาย
ไอ้หน้าหนวดหัวเราะ “คุณชายมองออกได้ยังไงครับว่านั่นคือแมงป่อง?”
“นอกจากเขา จะมีใครอีกที่ใส่หมวกเดินเข้าบริษัท? ถึงเขาจะอำพรางตัวเองมิด แต่เพราะยิ่งปกปิดก็ยิ่งเปิดเผย”
“ไม่ผิดแน่ หาโอกาสลงมือก็พอ จริงสิ ระวังไอ้เด็กที่ตามติดอยู่ข้างหลังด้วยล่ะ นั่นเป็นลูกชายบุญธรรมของเขา ฝีมือเอาเรื่องอยู่”
หลี่ฝางพูดกับไอ้หน้าหนวด “ระวังตัวด้วย ถ้าหาโอกาสไม่ได้ก็ช่างมัน ชีวิตนายสำคัญกว่า”
“ล้อเล่นหรือไงครับ เงินตั้งร้อยล้านเชียว ผมไปก่อนล่ะ” ไอ้หน้าหนวดหัวเราะ แล้ววางสายไป แล้วเดินนำแมงป่องเข้าบริษัทไปก่อน
แม่งป่องยิ้มบางๆ “ฉ่างจื่อ เคยเห็นฉันดุร้ายขนาดนี้มาก่อนไหม?”
ฉ่างจื่อส่ายหน้า “ไม่เคยครับ”
“เพราะงั้น อีกเดี๋ยวต้องให้ตระกูลหยิ่นชดใช้มาอย่างสาสม” แววตาของแม่งป่องเผยความโหดเหี้ยม
“พอไอ้เวรหยิ่นเหล่ยนั่นมันยกเลิกประกาศหมายหัวเสร็จ ก็ฆ่ามันทันที” แมงป่องพูดเย็นชา
ฉ่างจื่อพยักหน้า “ผมไม่ปล่อยพวกมันไปแน่”
เวลานี้ หยิ่นเจิ้งรีบเปิดประตูลับให้ลูกชายเข้าไปซ่อนตัว หยิ่นเจิ้งพูด “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามออกมา เข้าใจไหม?”
“เข้าใจแล้วครับพ่อ พ่อเองก็ระวังตัวด้วย” หยิ่นเหล่ยพยักหน้า มองพ่อตัวเองด้วยสายตาเป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันรียกคุณอาจ้าวมาแล้ว ต่อให้แมงป่องมันจะใจกล้าบ้าบิ่นขนาดไหน ก็ไม่กล้าลงมือต่อหน้าคุณอาจ้าวหรอกมั้ง?”
หยิ่นเจิ้งพูดจบ หยิ่นเหล่ยถึงได้โล่งใจขึ้น