NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่756 ความร้ายแรงของเรื่อง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา จางกงหมิงและคนอื่นๆก็มาถึงสถานตากอากาศ
“เอาล่ะ เสี่ยวฝางลงจากรถเถอะ ที่นี่น่าจะปลอดภัยแล้ว”จางกงหมิงพูดอย่างปกติ
หลี่ฝางมองจางกงหมิงแวบหนึ่ง แล้วพูดกับสหายด้านหลังเขา:“อยู่ด้วยกันเถอะ ที่นี่ปลอดภัยมาก”
“ช่างเถอะ พวกเราอยู่ที่นี่จะนำเรื่องวุ่นวายมาให้คุณ พวกเรามีคดีฆาตกรรมติดตัวอยู่ และทางด้านมู่เสี่ยวไป๋ยังมีวิดีโอตอนที่พวกเราลงมืออีก ถ้ามู่เสี่ยวไป๋โกรธขึ้นมาพวกเราจะโดนออกหมายจับ ซ่อนอยู่ที่นี่ไม่เท่ากับรอความตายหรอกเหรอ?ดังนั้นพวกเราต้องไปจากที่นี่”จางกงหมิงพูด
ขณะหลี่ฝางกำลังจะพูดอะไรต่อ จางกงหมิงก็พูดขึ้น:“เอาล่ะ พวกเราล้วนคิดแบบนี้ เสี่ยวฝางคุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
หลี่ฝางอืมตอบรับแล้วพูด:“ในเมื่อพวกคุณตัดสินใจจะไป ผมก็ไม่รั้งพวกคุณไว้”
“จริงสิ เสี่ยวฝาง ชิงชิงไปไหนแล้วล่ะ?”จางกงหมิงถามขึ้น
“เมืองหลง”หลี่ฝางพูด
“โอเค งั้นสถานที่ต่อไปของพวกเราคือไปเมืองหลง”จางกงหมิงพูด:“ลุงของผมเคยกำชับผมไว้ ว่าเมื่อไหร่ที่เกิดเรื่องขึ้นกับเขา ให้ผมปกป้องชิงชิง”
“ลูกพี่หลินคาดการณ์เอาไว้นานแล้วว่าตัวเองจะตายงั้นเหรอ?”หลี่ฝางถามด้วยความตกตะลึง
“ฮ่าๆๆ เป็นอันธพาลไม่ช้าก็เร็วก็ต้องชดใช้ เขาเคยพูดกับผมเมื่อนานมาแล้ว ว่าธุรกิจที่ลุงผมทำนั้นใหญ่โตมาก คนอย่างเขาเล่นจบได้อย่างง่ายดาย ผมเคยพูดโน้มน้าวเขา แต่เขาบอกว่าจะเป็นหรือตายขึ้นอยู่กับโชคชะตาฟ้ากำหนด เขาเป็นคนทะเยอทะยาน”จางกงหมิงส่ายหน้าพลางพูด:“ความทะเยอทะยานของเขาทำให้เขาต้องตาย”
หลี่ฝางพยักหน้าพลางพูด:“ที่จริงเป็นผมต่างหากที่ทำให้เขาต้องตาย”
หลี่ฝางเงยหน้ามองจางกงหมิงพลางถาม:“คุณรู้ไหม?ผมนี่แหละเป็นคนทำให้ลูกพี่หลินต้องตาย?”
จางกงหมิงพยักหน้าพลางพูด:“มันไม่ใช่ความลับอะไรตั้งนานแล้ว คุณเป็นคนทำลายเขตอิทธิพลของลุงผม ลุงผมพ่ายแพ้ให้กับตระกูลหลี่ของคุณ อีกทั้งคนที่นำกำลังพลวันนั้นก็เป็นคุณ”
หลี่ฝางพูดจบก็จ้องหน้าจางกงหมิง
จางกงหมิงยิ้มบางๆด้วยสีหน้าปล่อยวาง:“ต่างก็เป็นคนที่รัก ยืนกันคนละจุดก็มองกันคนละแบบ ถ้าเปลี่ยนให้ทำแบบเดียวกัน คุณทำให้ลุงผมตาย ผมไม่ยุ่งอะไรกับคุณแน่นอน แต่จากที่อยู่กับมู่เสี่ยวไป๋มาพักนี้ ผมได้เห็นอะไรมากมาย ได้เห็นถึงความเลวทรามต่ำช้าของพวกเขา”
“เมื่อก่อนผมคิดมาตลอดว่าคนอย่างพวกผมไม่ใช่คนดีอะไรนัก แต่ก็ไม่ได้ถึงกับชั่วขนาดนั้น แต่หลังจากเห็นมู่เสี่ยวไป๋ที่ทำธุรกิจกับลุงผม ผมจึงพบว่าเมื่อเทียบกับพวกเขา พวกเราแทบจะเป็นนักปราชญ์อยู่แล้ว”
“ลุงผมทำร้ายคนมากมาย ในสังคมนี้น่าจะมีคนมาขวางเขา และคนที่ฆ่าลุงผมจริงๆไม่ใช่คุณแต่เป็นมู่เสี่ยวไป๋”
จางกงหมิงพูด:“ลุงผมเคยบอกให้ผมระวังมู่เสี่ยวไป๋ ถ้าเขาตายไปผมก็ต้องไปจากเขา”
“ถ้าผมไม่ไป มู่เสี่ยวไป๋ต้องลงมือฆ่าผมแน่นอน”
จางกงหมิงพูด:“ที่จริงมู่เสี่ยวไป๋ก็ไม่อยากเก็บผมไว้อยู่แล้ว เขาอยากกำจัดผม แต่ก็ไม่อยากมีเรื่องกับลุงผม”
“ความเคลื่อนไหวส่วนตัวเล็กๆน้อยๆของผม มู่เสี่ยวไป๋ติดตามตลอด เพียงแค่ไม่มีหลักฐานก็เท่านั้น”
จางกงหมิงพูด
หลี่ฝางพยักหน้าพลางพูด:“พูดตามตรง เห็นคุณออกห่างจากมู่เสี่ยวไป๋ เป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดของผมในช่วงนี้เลย”
“แล้วก็ขอบคุณที่คุณให้อภัยผม ถ้าพี่ชิงชิงเป็นแบบคุณได้ก็คงดี”หลี่ฝางพูดแล้วถอนหายใจยาว
พอนึกถึงที่หลินชิงชิงเข้าใจตนผิด หลี่ฝางก็รู้สึกแย่มากๆ
“เสี่ยวฝาง จากนี้ไปก็ระวังหน่อย ผมปกป้องคุณอีกต่อไปไม่ได้แล้ว และปกป้องคุณไม่ได้แล้ว”จางกงหมิงโบกมือพลางพูด
หลี่ฝางพยักหน้าพลางพูด:“หลังจากนี้ฉันจะเรียนรู้ที่จะปกป้องตัวเองอย่างสุดความสามารถ”
หลี่ฝางแบกโหจื่อแล้วเดินเข้าไปในสถานตากอากาศ
“นี่โหจื่อ คุณหนักถึง50กิโลไหมเนี่ย”หลี่ฝางแบกโหจื่อแต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่
โหจื่อกลอกตาใส่หลี่ฝางพลางพูด:“ผมเดินเองได้คุณไม่ต้องห่วง อย่าทำเหมือนผมเป็นคนพิการไปหน่อยเลยได้ไหม?”
……
อีกด้านหนึ่ง บนรถจางกงหมิง
“ลูกพี่ เมื่อไหร่จะปล่อยพวกเราไป?”พ่อของมู่เสี่ยวไป๋ถามจางกงหมิง
พ่อของมู่เสี่ยวไป๋เป็นคนทำธุรกิจธรรมดาๆ ไม่เข้าใจเรื่องในแก๊งแม้แต่น้อย อีกทั้งยังกลัวคนพวกนี้มากๆ
มู่เสี่ยวไป๋เป็นผู้ดูแลธุรกิจสีเทาของตระกูลมู่มาโดยตลอด
จางกงหมิงหัวเราะพลางมองพ่อของมู่เสี่ยวไป๋แล้วพูด:“ผมเคยบอกแล้วไงว่าเมื่อไหร่ที่พวกเรารู้สึกปลอดภัยแล้ว จะปล่อยพวกคุณเอง”
“งั้นเมื่อไหร่คุณถึงจะรู้สึกปลอดภัยล่ะ?ตอนนี้ยังไม่ปลอดภัยอีกงั้นเหรอ?”
พ่อของมู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างจนปัญญา ในขณะเดียวกัน เขาก็กลัวมากๆเช่นกัน
“รู้สึกปลอดภัยเมื่อไหร่งั้นเหรอ?ฮ่าๆ งั้นต้องรอให้ผมใกล้ตายก่อนแล้วล่ะ”
ที่จริงจางกงหมิงไม่ได้คิดจะปล่อยพ่อของมู่เสี่ยวไป๋
ตอนนี้โทรศัพท์ของจางกงหมิงมีคนโทรเข้ามาไม่ขาดสาย ล้วนเป็นเบอร์ที่มู่เสี่ยวไป๋สับเปลี่ยนโทรเข้ามา ส่วนจางกงหมิงเห็นแล้วก็บล็อกไปทีละเบอร์ๆ สุดท้ายรู้สึกรำคาญจึงปิดเครื่องไปทันที
“น่ารำคาญจริงๆ”
จางกงหมิงพูดจบก็พูดกับสหายของตน:“ไป ออกเดินทางไปเมืองหลง”
เมื่อรถของจางกงหมิงและคนอื่นๆขับมาถึงตีนเขา รถออฟโรดก็ทยอยล้อมเส้นทางของพวกเขา
คนนับร้อยล้อมจางกงหมิงไว้
รถสิบกว่าคันขวางจางกงหมิงไว้คนละทิศคนละทาง อู๋เฟยขมวดคิ้วมองจางกงหมิงพลางถาม:“พี่หมิง เอาไงดี?เหมือนมู่เสี่ยวไป๋จะตามมาแล้ว”
จางกงหมิงแค่ยิ้มบางๆ:“ไร้สาระ ยังมีใครที่ตื้อพวกเราไม่เลิกเหมือนหญ้าหางหมาอีกนอกจากมู่เสี่ยวไป๋”
“ตามก็ตามมาสิจะกลัวอะไร เรายังมีไม้เด็ดอยู่ในมือ พวกเขายังกล้าทำอะไรเรางั้นเหรอ??”
จางกงหมิงพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ:“เปิดซันรูฟ”
เมื่อซันรูฟเปิดออก จางกงหมิงก็ดึงพ่อของมู่เสี่ยวไป๋โผล่ออกไป
แล้วใช้ปืนจ่อไปที่ศีรษะพ่อมู่ของเสี่ยวไป๋ จางกงหมิงพูดพลางยิ้มเยอะ:“เปิดถนน ไม่งั้นผมจะเป่าสมองพ่อคุณ”
“จางกงหมิง เป็นลูกผู้ชายหน่อยได้ไหม คุณบอกว่าเมื่อคุณปลอดภัยแล้วคุณจะปล่อยพ่อกับแม่ผมไง”มู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างเยือกเย็น
จางกงหมิงพยักหน้าพลางพูด:“ก็ใช่ไง เมื่อผมปลอดภัยแล้วผมจะปล่อยพ่อแม่คุณทันที แต่คุณดูดีๆสิว่าผมปลอดภัยรึยัง?ดูคนของคุณตอนนี้สิ ตามผมมาได้อย่างง่ายดาย ถ้าผมปล่อยพ่อแม่คุณตอนนี้ ผมและเหล่าพี่น้องของผมจะรอดงั้นเหรอ?”
“แก……เลวทราม”มู่เสี่ยวไป๋กัดฟันแน่นพลางพูด:“ฉันว่าแกไม่เคยคิดที่จะปล่อยพ่อแม่ฉัน”
“ใช่ คุณพูดถูก ในเมื่อผมคิดจะหนี ผมจึงจะเอายันต์ช่วยชีวิตสองคนนี้หนีไปด้วยกัน พ่อแม่คุณอยู่กับผม ผมถึงจะหายห่วงว่าจะโดนคุณตามฆ่าและโดนหมายจับ”
จางกงหมิงพูด:“ผมวางแผนไว้ตั้งนานแล้ว แผนการหนี”
“แก……”มู่เสี่ยวไป๋โมโหจนแทบจะกระอักเลือดแล้ว
“เอาล่ะ เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว รีบเปิดถนนซะ คุณไม่ต้องห่วงผมไม่ทำร้ายพ่อแม่คุณแน่นอน ทุกๆวันจันทร์ผมจะให้พ่อแม่ของคุณวีดีโอคอลหาคุณหนึ่งครั้ง ผมจะดูแลพ่อแม่คุณเป็นอย่างดี แต่คุณต้องโอนเงินจำนวน1ล้านให้ผมทุกเดือน คิดซะว่าเป็นค่าเลี้ยงดูของพวกเขาในแต่ละเดือน”
จางกงหมิงพูด:“ผมรับรองขอเพียงแค่คุณโอนเงินตรงตามเวลา ผมจะทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ”
“ตอนนี้ทางที่ดีที่สุดคือเปิดทางให้ผม”จางกงหมิงพูด
“ทำไม ไม่ยอมงั้นเหรอ?ถ้าไม่ยอมก็รอสมองพ่อคุณเละเป็นโจ๊กได้เลย”จางกงหมิงพูดกดดันอย่างเยือกเย็น
มู่เสี่ยวไป๋ไม่มีทางเลือกอื่น แม้ตอนนี้เขาเดือดมากจนแทบอยากให้ลูกน้องตนฆ่าจางกงหมิงซะเดี๋ยวนี้ แต่เขากลับไม่กล้า
เพราะพ่อแม่ของเขาอยู่ในกำมือของจางกงหมิง
มู่เสี่ยวไป๋ที่เผชิญกับความกดดันของจางกงหมิง มีแค่ทางเลือกเดียวเท่านั้นคือจำต้องยอม
มู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างจนปัญญา:“ปล่อยพวกมันไป”
จางกงหมิงพูดอย่างได้ใจ:“ค่อยเข้าท่าหน่อย ไม่เลว ตาลุง ยังถือว่าคุณมีลูกกตัญญู”
“จริงสิมู่เสี่ยวไป๋ นี่คือเลขบัญชีของผม คุณจดไว้จากนั้นโอนมาให้ก่อน1ล้าน หลังจากนี้ทุกๆเดือนคุณอย่าลืมซะล่ะ”
รถของจางกงหมิงค่อยๆขับออกไป พอมาถึงข้างๆมู่เสี่ยวไป๋ จางกงหมิงก็พูดด้วยสีหน้าหน้าเนื้อใจเสือ:“อย่าเล่นลูกไม้อะไรล่ะ แล้วก็อย่าคิดวางแผนไปช่วย จำเอาไว้ว่าถ้าผมพบว่าข้างกายผมมีคนของคุณ ผมจะฆ่าพ่อแม่คุณทันที”
“จริงสิ พวกสหายของผมกลุ่มนี้ส่วนมากล้วนมีครอบครัว ผมรู้ว่าคุณชอบขู่คนอื่น และชอบเอาคนในครอบครัวของคนอื่นมาเป็นข้อต่อรอง แต่คุณฟังไว้ให้ดี ถ้าคุณกล้าทำร้ายพวกขาผมก็จะจัดการพ่อแม่คุณเช่นกัน”
จางกงหมิงยิ้มอย่างเยือกเย็น:“คุณฟังคำที่ผมพูดให้เข้าใจจะดีที่สุด”
เมื่อรถของจางกงหมิงขับออกไปไกล มู่เสี่ยวไป๋ก็ถอนหายใจออกมายาวๆ ขณะนั้นเองลูกน้องของเขาก็พูดขึ้น:“ลูกพี่ใหญ่ ไม่ตามไปจริงๆเหรอ?”
“ตามกับผีนะสิ ต่อให้ตามไปทันแล้วมีประโยชน์อะไร พ่อแม่ฉันอยู่ในกำมือพวกมัน ฉันจะทำอะไรพวกมันได้?ต่อให้คนของพวกมันโดนฉันจับจนหมด แต่แค่จางกงหมิงเอาปืนจ่อหัวพ่อฉัน ฉันก็ต้องยอมอยู่ดี”
มู่เสี่ยวไป๋พูดด้วยสีหน้าจนปัญญา:“รีบโอนเงินให้มัน”
“จางกงหมิง ต้องมีสักวัน ฉันจะหาโอกาสทำลายมันให้เป็นชิ้นๆ”มู่เสี่ยวไป๋ไม่ยอมโดนจางกงหมิงข่มไปตลอดหรอก แต่เขาไม่กล้าลงมือทำอะไรขณะที่เขายังคิดหาทางไม่ได้
“เราไปกันเถอะ”
มู่เสี่ยวไป๋ถอนหายใจ และพูดอย่างทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้มู่เสี่ยวไป๋กลุ้มมากจริงๆ
เขาไม่เพียงทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่สำเร็จ ยังทำให้จางกงหมิงหนีไปได้อีก ที่สำคัญที่สุดคือก่อนจางกงหมิงจะหนีไปยังจับพ่อแม่และยิงปู่ของตนด้วย
มู่เสี่ยวไป๋ในตอนนี้แทบจะเป็นบ้า เขาพ่ายแพ้ตั้งไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ……
หลี่ฝางแบกโหจื่อเข้ามาด้านในคฤหาสน์ แล้ววางเขาลงบนโซฟา ส่วนลุงเฉียนก็เดินตามมา
“แม่คุณไปแล้วเหรอ?”ลุงเฉียนถามขึ้น
หลี่ฝางพยักหน้าพลางพูด:“เธอพาพี่ฉีฉีและผู้ช่วยไปด้วยบางส่วนไปหาพ่อผม”
ลุงเฉียนพยักหน้าพลางพูด:“แม่ของคุณไปแล้ว โอกาสที่ลูกพี่ใหญ่จะรอดกลับมาก็มากขึ้นมาหน่อย”
“ที่จริงลูกพี่ใหญ่ก็เป็นคนรอบคอบมาตลอด แต่หลังจากที่เขาพ่ายแพ้เมื่อ3ปีก่อน ก่อนจะทำเรื่องอะไรล้วนเตรียมการไว้อย่างรอบคอบมากๆ เรื่องที่ไม่เข้าใจเขาจะไม่ทำ ครั้งนี้จู่ๆเขาก็ไปร่วมการล้อมปราบ ฉันคิดว่าจะไม่มีความผิดพลาดอะไร แต่คิดไม่ถึงว่าจะ……”
ลุงเฉียนส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เข้าใจ
หลี่ฝางมองลุงเฉียนพลางพูด“สิ่งที่พวกเราทำได้ก็มีแค่รออย่างเงียบๆงั้นเหรอ?”
“ใช่ พรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ก็จะส่งข่าวมา แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย”สีหน้าของลุงเฉียนซับซ้อนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเคร่งขรึม
“ต้องเป็นข่าวดีแน่นอน”
โหจื่อที่นอนอยู่บนโซฟาพูดอย่างมองโลกในแง่ดีสุดๆ:“3ปีมานี้ลูกพี่ใหญ่เคยทำให้เราผิดหวังงั้นเหรอ?”
ลุงเฉียนส่ายหน้าพลางพูด:“ถ้าครั้งนี้มีแค่ตระกูลใหญ่4ตระกูล และกองกำลังภายในประเทศฉันคงไม่กังวลมากนัก แต่ฉันได้ยินมาว่าตระกูลศัตรูต่างชาติของเรากำลังเดินทางมา รวมไปถึงคนของสำนักหยิ่งซาก็ไปด้วย”
“หวังว่าลูกพี่ใหญ่จะกลับมาถึงเมืองเอกก่อนที่พวกเขาจะมาถึง”