NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่758 ออกโจมตีก่อน
“ผมไม่ไป”หลี่ฝางพูดขึ้นทันที
ลุงเฉียนมองหลี่ฝางกำลังจะพูด หลี่ฝางก็พูดห้ามขึ้นมา:“ไม่ต้องมาโน้มน้าวผม ลุงเฉียน ผมไมไปไหนทั้งนั้น ต่อให้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพ่อผมจริงๆ ผมก็ไม่เคยคิดจะจากไป”
“3ปีก่อนพ่อผมเคยหนีครั้งหนึ่งแล้ว ดังนั้นครั้งนี้ผมจะไม่หนี”
น้ำเสียงของหลี่ฝางทั้งสงบและมุ่งมั่น
“ผมรู้ว่าถ้าเทียบกับพ่อผมแล้ว ผมมันด้อยยิ่งกว่าเศษขยะอีก แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ผมก็ยิ่งไม่คิดจะหนี ตอนนั้นพ่อผมต้องทนความอัปยศอดสูถึง3ปี อย่างน้อยก็กลับมาอย่างชัยชนะ ทำเอาตระกูลใหญ่ทั้ง4ตระกูลอยู่ไม่เป็นสุข แล้วผมล่ะ?ต่อให้ออกไปจำศีล30ปีก็ไม่สามารถทำอย่างพ่อได้ อีกทั้งเวลา30ปีนี้ศัตรูพวกนึ้คงตายกันไปหมดแล้ว”
“ดังนั้นผมจะไม่หนี”
หลี่ฝางพูด:“ต่อให้ต้องตายผมก็อยากตายอย่างมีเกียรติหน่อย”
หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตอย่างเอาตัวรอดไปวัน……
“ลุงเฉียน ผมอยากออกไปเดิน”
หลี่ฝางมองไปด้านนอกพลางพูด
ลุงเฉียนอึ้ง มองหลี่ฝางอย่างคาดไม่ถึง:“คุณรู้ไหมว่าทุกคนกำลังตามหาคุณอยู่ โดยเฉพาะตระกูลตงฟาง”
“ตระกูลตงฟางตามหาผม คงอยากพาผมไปเขตปีศาจ บีบบังคับให้พ่อผมออกมายอมจำนน และตอนนี้ก็ผ่านไป7วันแล้ว จับผมไปตอนนี้ยังมีประโยชน์อะไรอีก?”
ไม่มีข่าวส่งมาก็เหมือนไม่มีข่าวดี แม้หลี่ฝางยังคงเชื่อมั่นว่าพ่อของตนยังมีชิตอยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็เตรียมแผนที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้วเช่นกัน
หลี่ฝางคิดว่าลุงเฉียนจะไม่เห็นด้วย แต่ใครจะไปคิดว่าลุงเฉียนกลับโบกมือไปมาแล้วพูดขึ้น:“ไปเถอะ”
“ยังโหจื่อก็ฟื้นแล้ว”ลุงเฉียนพูด
“มีเขาตามไปด้วย บวกกับลูกพี่ใหญ่……”ลุงเฉียนพูดไปครึ่งหนึ่งก็ยิ้มออกมา:“ฉันจะไปนอนหน่อย”
เห็นๆอยู่ว่าลุงเฉียนมีอะไรจะพูด แต่ขณะหลี่ฝางกำลังจะถาม ลุงเฉียนก็หันไปแล้วเดินไปยังห้องทำงานของตน
หลี่ฝางจึงไม่ตื้อถามต่อ……
ตนหลับไปมากกว่าหนึ่งวันหนึ่งคืน แต่ลุงเฉียน……คงยังไม่ได้นอน?
หลี่ฝางเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ฉินวี่เฟยก็เดินถือกล้องข้าวเก็บความร้อนมาทางนี้
เมื่อเห็นหลี่ฝาง ฉินวี่เฟยก็มีสีหน้าดีใจ:“คุณฟื้นแล้วงั้นเหรอ?”
ฉินวี่เฟยเปิดกล่องข้าวทีละชั้นๆ ด้านในมีซาลาเปาและข้าวต้ม……
”ทั้งซาลาเปาและโจ๊กฉันเป็นคนทำเอง ไม่รู้จะถูกปากคุณรึเปล่า”ฉินวี่เฟยพูดด้วยความกังวลเล็กน้อย
หลี่ฝางซาบซึ้ง:“คุณไปเรียนมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“คุณเป็นถึงคุณหนูคนโตผู้ร่ำรวย ทำอาหารเช้าเป็นด้วย?”หลี่ฝางประหลาดใจและรู้สึกน่าขัน
“ต่อไปฉันอยากทำอาหารให้คุณกิน เลยไปเรียนกับเชฟทำขนมและเชฟในครัวมา เรียนได้สองสามวันแล้วช่วงนี้สถานตากอากาศปิดพอดี พวกเขามีวัตถุดิบที่ไม่ได้ใช้เยอะมาก ถ้าไม่ใช้ก็เสียเปล่าๆ ฉันเอามาใช้ฝึกฝีมือดีกว่าปล่อยให้มันเน่าเสีย”ฉินวี่เฟยแลบลิ้นแล้วพูด
จากนั้นหลี่ฝางถึงได้รู้ว่าฉินวี่เฟยจะมาห้องสีดำเล็กๆนี่ทุกๆ1ชั่วโมง มาดูว่าหลี่ฝางฟื้นหรือยัง
“ไปกัน เปลี่ยนชุด ผมจะพาคุณออกไปด้านนอก”หลี่ฝางพูด
ฉินวี่เฟยงุนงง:“คุณยังออกไปด้านนอกไม่ได้ไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่เป็นไร ฉันอยู่ที่นี่ก็ดีมากอยู่แล้ว ไม่เบื่อเลยสักนิด”
หลี่ฝางหัวเราะ:“ครั้งนี้ผมอยากไปเอง”
หลี่ฝางจูงมือฉินวี่เฟย เมื่อหาโหจื่อเจอ โหจื่อได้ยินว่าหลี่ฝางจะออกไปด้านนอกก็ตกใจมากเช่นกัน
“ออกไปช่วงเวลาแบบนี้ ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกเหรอ?”โหจื่อส่ายหน้าพลางพูด:“ไม่ได้ๆ รอลูกพี่ใหญ่กลับมาก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ อีกทั้งทางด้านคุณท่านหลี่ก็มีคนมาแล้ว กำลังเตรียมการจับคุณกลับดูไบ”
“ผมบอกพวกเขาแล้วว่าผมจะไม่ไปกับพวกเขา”
หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา:“ฉันจะรอพ่อฉันกลับมาที่เมืองเอก”
“ลูกพี่ใหญ่……”
ตอนนี้จู่ๆสีหน้าโหจื่อก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย
ผ่านไป7วันแล้ว แต่ยังไม่มีข่าวว่าหลอซ่ายังมีชีวิตอยู่ส่งมา
ตอนนี้คนของสำนักหยิ่งซาและDynastyใกล้มาถึงแล้ว แบบนี้ต่อให้หลอซ่ามีชีวิตรอดออกมาจากเขตปีศาจ ก็ไม่อาจหลบหนีการตามฆ่าจากคนด้านนอกได้
เมื่อคิดว่าหลอซ่าอาจไปไม่รอด โหจื่อก็รู้สึกมืดสลัว
“ไป เรียกลูกศิษย์ผมไปกินเหล้ากัน”
โหจื่อพูดเยาะ:“พวกขยะด้านนอกพวกนั้นจะไปกลัวอะไร มาแค่ไหนก็ฆ่าทิ้งให้หมด”
สายตาโหจื่อเผยความร้ายออกมา
โทรไปหาถังหยู่ซวน จากนั้นพวกเขาก็ขับรถออกไปจากสถานตากอากาศ และตอนที่ออกไปก็มาสายตากำลังจับจ้องหลี่ฝางและพวกเขาอยู่
“มีคนตามพวกเรา”โหจื่อพูด:“ผมจะสลัดพวกมันออก”
“ไม่เป็นไร ให้พวกมันตามไปเถอะ ทั้งเมืองเอกและที่อื่นๆ มีที่ไหนบ้างที่ไม่มีคนของพวกเขา?”
หลี่ฝางยิ้มเย็นชา:“ในเมื่อพวกยอดฝีมือไปฆ่าพ่อฉันกันหมด งั้นในเมืองเอกคงไม่มีคนเก่งเหลืออยู่ซักเท่าไหร่?”
“โหจื่อ เมืองกำลังว่างเปล่า ทำไมเราไม่อาศัยโอกาสนี้ทำลายศัตรูล่ะ?”หลี่ฝางพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ
“คุณชาย คุณหมายความว่า?”โหจื่อมองหลี่ฝางด้วยความตกตะลึง
“ก่อนออกมาฉันนัดซือถูเฟยไว้แล้ว”หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา:“ไปกัน ไปพบเขาหน่อย”
“หมอนั่น?คุ้มที่จะเชื่องั้นเหรอ?”โหจื่อขมวดคิ้ว:“เขาเป็นถึงทายาทของหนึ่งในตระกูลใหญ่4ตระกูล”
“ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เขาทรยศท่านจวนและตระกูลตงฟาง ตระกูลตงฟางตามตัว เขาจึงหนีมายังถิ่นเรา”หลี่ฝางพูด
“จริงเหรอ?”โหจื่อสงสัย
“จริงหรือไม่จริงเดี๋ยวก็รู้ แต่ต่อให้เป็นกับดักฉันก็อยากลองดู ฉันจะดูว่าตระกูลใหญ่4ตระกูลจะทำอะไรฉัน”
หลี่ฝางยิ้มบางๆพลางพูด:“ไปหาซินปากัน ซือถูเฟยรอฉันอยู่ที่นั่นแล้ว”
30นาทีต่อมา
ณ ห้องส่วนตัวในไนต์คลับ หลี่ฝางและคนอื่นๆนั่งบนโซฟา ส่วนซินปาก็พาคนที่ถูกมัดทั้งตัวเขามาตรงหน้าหลี่ฝาง
“ทำอะไร?”หลี่ฝางเห็นซือถูเฟยถูกมัดก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“ผมกลัวขำจะเล่นตุกติกเลยมัดมือมัดเท้าเขาไว้ และขังไว้ในกรงเหล็ก เจ้านาย คุณคงไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้หมอนี่เล่นตุกติกหลายรอบแล้ว ทำร้ายลูกน้องผมจนยับไปไม่น้อย”ซินปาพูดพลางจ้องซือถูเฟยเขม็ง
“ถ้าไม่ใช้เพราะเขาบอกว่าต้องพบคุณให้ได้ ผมจัดการมันไปนานแล้ว”ซินปาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
หลี่ฝางหัวเราะ:“ที่เขาต้องเป็นแบบนี้ล้วนเป็นเพราะส่งข่าวของอีกฝ่ายให้ฉัน ดังนั้น……”
“ปล่อยเขาเถอะ”
ซือถูเฟยแกะเชือกออกเสร็จจึงพูดขึ้น:“ขอบคุณครับคุณชายหลี่ ตอนนี้ผมต้องพึ่งพาคุณแล้ว
หลี่ฝางมองซือถูเฟยผู้น่าสงสาร:“พึ่งพา?”
“ฮ่าๆถ้าตระกูลตงฟางจะฆ่าคุณจริงๆ คุณจะรอดมาจนถึงได้พึ่งซินปาเหรอ?”หลี่ฝางส่ายหน้าพลางยิ้ม:“หรือคุณคิดว่าผมโง่?”
“จริงที่ว่าวันนั้นคุณให้ข่าวกับผม แต่คุณคงไม่เคยคิดว่างานเลี้ยงที่มีเลศนัยแอบแฝงนั่นท่านจวนไม่ได้เป็นคนทำ แต่เป็นตระกูลตงฟาง ถ้าเป็นท่านจวน ต่อให้คุณทรยศเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัว แต่ตระกูลตงฟางนั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อเป็นการทำความดีชดเชยความผิด คุณทำได้แค่หนีมาที่ซินปาล่อให้ผมออกมา”
“ผมว่าตอนนี้หน้าประตูไนต์คลับคงโดนล้อมไว้หมดแล้วใช่ไหม?”หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ซือถูเฟยมองหลี่ฝางอย่างตกตะลึง:“ในเมื่อคุณรู้ว่าเป็นกับดักทำไมยังออกมาเจอผม?”
“ผมก็เหมือนกับพวกคุณนั่นแหละ พวกคุณอยากจัดการผม ผมก็อยากจัดการพวกคุณเหมือนกัน แต่พวกคุณ4ตระกูลทำลับๆล่อ แม้แต่ที่ซ่อนของพวกคุณผมยังไม่รู้เลย ดังนั้นในเมื่อผมหาพวกคุณไม่เจอ ก็ให้พวกคุณออกมาหาผมเองก็สิ้นเรื่อง”
หลี่ฝางยิ้มๆ:“ตอนที่พวกคุณวางกับดักผม ผมก็วางกับดักพวกคุณเช่นเดียวกัน”
ซือถูเฟยมองหลี่ฝาง:“ไม่มีหลอซ่า ไม่มีส้าวส้วย คุณจะเอาอะไรมาสู้กับพวกเรา?”
“ใช่ พ่อผมไม่อยู่ ส้าวส้วยก็ไม่อยู่ แล้วพวกคุณล่ะ?”
หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย้ยหยัน:“พวกคุณมีอะไร?”
“พวกคุณก็เหมือนผมนั่นแหละ เป็นแค่พวกไม่ได้เรื่องก็เท่านั้น”
หลี่ฝางเดินเข้าไปจับซือถูเฟยขึ้น:“ซือถูเฟย ใช้หัวของคุณเป็นแตรประกาศศึกก็แล้วกัน”