NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่787 ส้าวส้วยกลับมา
ชีซา หมาป่าละโมบ หยุดพร้อมกัน
ห่างแค่เมตรเดียว พวกเขาก็จะเอามีด กริชในมือ เสียบเข้าไปในร่างกายของหลี่ฝาง
แต่ว่า ในช่วงสำคัญนี้เอง พวกเขากลับหยุดลง
ไม่ใช่เพราะว่าเขา แต่เพราะคนตรงหน้าคนนี้ ทำให้พวกขารู้สึกกลัวมาก
ปรากฏตัวอย่างไม่มีการเตือนล่วงหน้า ……
ความรวดเร็วที่มากกว่าคนทั่วไป……
แล้วก็ เขาสามารถกดหลี่ฝางที่ตกอยู่ในบ้าระห่ำไว้ได้ในพริบตา ก็เพียงพอที่จะพูดได้ว่า คนตรงหน้านี้ เป็นผู้ชายที่น่ากลัวที่สุด
อย่างน้อย เขาก็น่ากลัวกว่าหลี่ฝางที่ระเบิดออกมา
กำลังภายในของคนอายุน้อยที่ระเบิดออกมา อย่าว่าแต่ชีซากับหมาป่าละโมบเลย ถึงพวกเขาสามคนร่วมมือกัน ก็ไม่อาจจะยับยั้งเขาได้ ……
หลี่ฝางที่อยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หากเป็นคนทั่วไปก็ได้แต่เลือกที่จะหลบหนี
และคนๆนี้ ก็เอามือข้างหนึ่งพาดไปที่ไหล่ของหลี่ฝาง ทำการควบคุมให้อยู่ใต้อำนาจ
นี่คือความแข็งแกร่งอย่างไร?
ชีซากับหมาป่าละโมบมองหน้ากัน จากนั้นก็ถามคนๆนี้:“นี่คือใคร?”
ส้าวส้วยไม่สนใจสองคนนี้ แต่มือข้างหนึ่ง วางไว้บนไหล่ของหลี่ฝาง ใช้พลังอันมหาศาลของตัวเอง กดเขาไว้
“ถึงแม้ไม่รู้ว่าผ่านอะไรมา ถึงทำให้คุณบ้าคลั่ง ……แต่คุณจะต้องฟื้นขึ้นมา”
เวลานี้ ถ้าหลี่ฝางฟื้นมาไม่ได้ อนาคต น่าจะกลายเป็นคนเสียสติไป
นี่คือสิ่งที่ส้าวส้วยไม่อยากจะเห็น
เวลาผ่านไปหลายนาที ไม่มีใครกล้าขยับ
ดวงตาของหลี่ฝาง ค่อยๆได้สติคืนมา
ตอนที่หลี่ฝางลืมตามาเห็นส้าวส้วย ก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับฝันไป
ทุกอย่างตรงหน้านี้ ไม่ใช่ความจริงเลย
“ผม……ผมเป็นอะไรไป?”
หลี่ฝางดูสับสน จำทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อกี๊ไม่ได้
ส้าวส้วยมาอยู่ข้างกายตัวเองได้ไง หลี่ฝางจำไม่ได้ เขาจำได้แค่ว่า เขาอยากหนี แต่ถูกล้อมไว้
“โหจื่อกับลุงเฉียน……พวกเขา……”
หลี่ฝางมองส้าวส้วย พูดด้วยใบหน้าร้อนใจ:“พวกเขา……”
“ผมเห็นแล้ว”
ส้าวส้วยมองโหจื่อ ในดวงตาดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวา:“โหจื่อยังไม่ตาย”
อยู่ห่างกันไกลมาก ส้าวส้วยก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่อ่อนแรงของโหจื่อ
ส้าวส้วยหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรออกไปเบอร์หนึ่ง
“ออกมา”ส้าวส้วยพูดอย่างง่ายๆ
แป๊บเดียว ผู้ชายที่สวมแว่น ก็ค่อยๆออกมาจากสถานตากอากาศ
เขาคือหมอของสถานตากอากาศ มองเห็นคนนี้ โพ่จุนก็ขมวดคิ้ว
ก่อนออกมา โพ่จุนกับหมาป่าละโมบ ก็ดูทั่วสถานตากอากาศไปรอบหนึ่งแล้ว หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครรอด พวกเขาถึงออกมา
“ส้าวส้วย คุณกลับมาแล้วเหรอ”
หมอมองส้าวส้วย ใบหน้าปรากฏความไร้ชีวิตชีวา:“คุณกลับมาแล้ว สถานตากอากาศก็จะมีคนช่วยแล้ว”
“โหจื่อ แล้วก็ลุงเฉียน……”
ส้าวส้วยขมวดคิ้ว:“พาพวกเขากลับไป”
“โอเค”
หมอไม่พูดไร้สาระอะไร ก็เดินไปทางโหจื่อเลย เขาเห็นบาดแผลของโหจื่อ แล้วส่ายหน้า:“เห้อ แบบนี้แล้วยังรอดอีก ชีวิตของคุณนี่ถึกจริงๆ”
ถูกกระบี่อ่อนแทงเข้าร่างกาย แล้วยังถูกดึงออกมา เลือดเต็มพื้นไปหมด แต่ยังหายใจรวยริน
นอกจากจะเกิดขึ้นได้ยากแล้ว ก็ยังแสดงได้เห็นว่าโหจื่อยังมีความหวังที่จะมีชีวิตต่อไป อย่างแข็งแกร่ง
หมอหยิบผงสีเหลืองออกมาจากอ้อมแขนกำหนึ่ง กดไปที่แผลตรงหน้าอกของโหจื่อ จากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องเบาๆของโหจื่อ
“เหอะเหอะ รู้ว่าเจ็บก็ดี”
เห็นการตอบสนองของโหจื่อ หมอก็ยกมุมปากนิดๆ หมายความว่า ความหวังที่จะรอดนั้นมีมาก
อุ้มโหจื่อขึ้นมาเบาๆ จากนั้นหมอก็มาอยู่ตรงหน้าของลุงเฉียน
ลุงเฉียนในตอนนี้ นอนอยู่ที่พื้น ไม่ขยับ ที่ตัวไม่มีลมหายใจใดๆ
“ตายแล้ว?”
หมอขมวดคิ้ว จู่ๆอารมณ์ก็หม่นลง:“พาคุณกลับไปดีกว่า”
หมอแบกลุงเฉียนขึ้นมา ตอนที่กำลังจะไป หมาป่าละโมบก็เดินหน้าเข้ามาทันที ขวางทางไปของเขา
ร่างกายของโหจื่อ หมาป่าละโมบก็เคยเห็นมาแล้ว
ความแข็งแกร่งของเขาอยู่เหนือหมาป่าขาวกับเหยโก่ว สำหรับระยะห่างพวกเขาเจ้าสำนักใหญ่ทั้งสาม ก็ไม่ต่างมากนัก
ถ้าโหจื่อถูกช่วยชีวิตไว้ จะต้องเป็นภัยร้ายที่ซ่อนไว้ขนาดใหญ่ในอนาคตของเซราฟิมแน่
“คุณจะรั้งผมไว้?”
หมอหัวเราะเหอะเหอะ มองหมาป่าละโมบนิ่งๆ พูดอย่างดูถูก:“คุณคิดว่า คุณจะรั้งผมอยู่เหรอ?”
หมอไม่สนใจหมาป่าละโมบเลยสักนิด แล้วเดินไปข้างหน้าต่อ
หมอไม่มีความสามารถอะไร ถ้าเขามีความสามารถจริงๆ ก็ไม่เป็นคนขี้ขลาดแน่
ที่เขาเก่งที่สุด ก็คือปกปิดตัวเองไว้
ไม่ว่าจะมีการต่อสู้แบบไหน หมอก็จะหาสถานที่ปลอดภัยเจอเป็นอย่างแรก ปกป้องตัวเองไว้
แต่สำหรับกังฟูนั้น หมอกลัวว่าแค่นักฆ่าธรรมดาก็น่าจะยังรับมือไม่ได้
ที่หมอกล้าพูดคำที่บ้าระห่ำขนาดนี้ นั่นเพราะว่ามีส้าวส้วยอยู่
หมาป่าละโมบจะลงมือ ตอนที่จับหมอไว้ จู่ๆ ร่างหนึ่ง ก็เหมือนฟ้าแลบ มาอยู่ตรงหน้าเขา
หมาป่าละโมบขมวดคิ้ว เขายื่นมือออกไป จู่ๆก็กำหมัด แล้วปล่อยหมัดไปที่ส้าวส้วย
แต่ส้าวส้วย กลับแค่ยกแขนขึ้นเบาๆ แบฝ่ามือไป แล้วกันหมัดนี้ไว้
ดวงตาของหมาป่าละโมบ ก็ปรากฏความหวาดกลัวทันที
หมัดของเขานี้หนักมาก หมาป่าละโมบรู้ดีที่สุด
ส่วนส้าวส้วย กลับขวางไว้อย่างสบายๆแบบนี้ แสดงให้เห็นความน่ากลัวของเขา
“รีบพาพวกเขาไปรักษาแผล”
ส้าวส้วยพูดกับหมอ
หมอพยักหน้า พูดกับส้าวส้วย:“พวกเขา ฆ่าพวกเราไปหลายคน อย่าปล่อยพวกเขาไป”
สีหน้าส้าวส้วยนิ่งสงบ มองไม่ออกว่าโมโหแค่ไหน
แค่โหจื่อกับท่านจวนสองคน ก็เพียงพอที่จะทำให้ส้าวส้วยโกรธมากแค่ไหน
ก็แค่ ส้าวส้วยไม่ได้แสดงออกมาก็เท่านั้น
ส้าวส้วยมองหมาป่าละโมบแวบหนึ่ง มองกระบี่อ่อนในมือของเขา แล้วถามว่า:“โหจื่อ เป็นคุณที่แทงเหรอ?”
หมาป่าละโมบไม่ตอบ แต่ยกกระบี่อ่อนในมือขึ้นมา แล้วแทงเข้าไป
ร่างของส้าวส้วยไม่ขยับ ก็ยื่นสองนิ้วออกไปโดยตรง รับกระบี่อ่อนไว้ทันที
“คุณไม่ตอบก็ช่าง กลับกัน ไม่ว่าจะใช่คุณหรือไม่ วันนี้ ผมไม่คิดจะปล่อยคุณไป”ส้าวส้วยพูดเบาๆ
ส้าวส้วยพูดจบ ชีซากับโพ่จุน ก็วิ่งเข้ามาทันที
ความรู้สึกของพวกเขาสามคนพี่น้อง อยู่เกินความเป็นความตายไปนานแล้ว
ดังนั้น ไม่ว่าส้าวส้วยจะสุดยอดแค่ไหน หมาป่าละโมบตกที่นั่งลำบาก ชีซากับโพ่จุนก็ไม่นิ่งดูดาย
ส้าวส้วยออกแรง กระบี่อ่อนในมือของเขา ก็หักทันที
กระบี่อ่อนอันนี้ คมกริบมาก ไม่ใช่กระบี่ธรรมดาๆ แต่ว่าแข็งมาก แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังถูกส้าวส้วย หักออกได้อย่างง่ายดาย
หมาป่าละโมบเห็นตรงนี้ ก็เอากระบี่อ่อนในมือ ทิ้งไป แล้วถอยหลังไปหลายก้าว รวมตัวกับพี่ชายสองคนของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นหมาป่าละโมบ หรือชีซา หรือว่าโพ่จุน พวกเขาสามคนมองสายตาของส้าวส้วย เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เผชิญหน้ากับแขกที่จู่ๆก็มาอย่างคาดไม่ถึง อารมณ์ของเขา ก็หม่นหมองขึ้นมาทันที