NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่843 มาเชิญถึงที่
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
ฟ้าเริ่มสว่าง บนถนนอันกว้างใหญ่เริ่มมีคนมาวิ่งยามเช้า
หลี่ฝางก็เป็นหนึ่งในคนที่วิ่งยามเช้านี้ ช่วงนี้เจอเรื่องเยอะมาก นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ฝางตั้งใจตื่นเข้ามาออกกำลังกาย
สำหรับหลี่ฝางที่กลับเนื้อกลับตัวใหม่แล้วนั้น แม้การออกกำลังกาย เรื่องผลลัพธ์ไม่ต้องไปนึกถึงเลย แต่กลับทำให้อยู่ในสภาพจิตใจที่ดีได้
สำหรับศิลปะการต่อสู้แล้ว สภาพจิตใจที่ดีได้ถือว่าสำคัญมาก บางครั้งถึงกับส่งผลกระทบ ถึงระดับการแสดงความสามารถของนักศิลปะต่อสู้คนหนึ่งได้เลย
เรื่องที่ประสบอย่างไม่ขาดสายในช่วงนี้ ทำให้หลี่ฝางรู้สึกกดดันมาก แม้เป็นการผ่อนคลายจิตใจ หลี่ฝางก็เลือกที่จะลุกมาวิ่ง
ถนนสายนี้ที่หลี่ฝางเลือกมาวิ่งยามเช้า ไม่ไกลกับสถานตากอากาศมากนัก ที่นี่เป็นที่ที่สงบที่สุดและรถน้อยที่สุดในถนนละแวกนี้
คนที่วิ่งยามเช้าแถวนี้ ส่วนมากจะเลือกมาออกกำลังกายถนนสายนี้
รอบๆหลี่ฝาง มีคนโดนหลี่ฝางวิ่งนำไปเป็นระยะๆ
แม้สามารถชะลอความเร็วได้ แต่ความเร็วของหลี่ฝางนั้นเร็วไปหน่อย คนทั่วไปแม้ใช้แรงทั้งหมด ก็ยากที่จะตามความเร็วของการวิ่งช้าๆของหลี่ฝางได้
แน่นอนว่ามันมีเรื่องที่คาดไม่ถึง
เช่น ชายหนุ่มที่วิ่งข้างหลี่ฝางมาตลอดคนนี้
เขามีทรงผมสั้นที่สะอาด ร่างกายคล่องแคล่วแข็งแรง มีเส้นกล้ามเนื้อเต็มตัว บวกกับชุดออกกำลังกาย ยิ่งขับให้ดูเด่นเข้าไปอีก เทียบกับหลี่ฝางแล้วแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย
แน่นอน หลี่ฝางที่เปลี่ยนใจมาวิ่งตอนเช้าชั่วคราว ไม่ได้เตรียมชุดออกกำลังกายมา ใส่แค่เสื้อยืดธรรมดาแล้วออกมาเลย ดูแล้วเหมือนจะด้อยกว่าชายหนุ่มคนนั้นเล็กน้อย
“เห้!เพื่อน วิ่งได้ไม่เลวนี่!สนใจเป็นนักกีฬาไหม?”
หลังจากวิ่งนำคนที่อยู่ด้านหน้าไปได้อีก2-3คนติดต่อกัน ชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
หลี่ฝางหันไปมองเขาด้วยความเรียบเฉย ไม่พูดอะไร
แต่ชายหนุ่มคนนั้นก็ไม่หยุดปาก วิ่งข้างๆหลี่ฝาง ถามโน่นถามนี่ไม่หยุด
ด้านหลังหลี่ฝางไม่ไกล มีหญิงสาวที่มาออกกำลังกายยามเช้าเช่นกันสองคน เธอเพิ่งโดนหลี่ฝางวิ่งแซงไปไม่ทันถึง5วินาที
“โห!เขาวิ่งเร็วขนาดนั้นไปทำไม!ไม่รู้หรือไงว่าการวิ่งยามเช้าเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ!”
หญิงผมสั้นรู้สึกได้ถึงหยดน้ำทั้งสองพัดผ่านไป ทำให้เธอมีความสุขการสุขใจ และในขณะเดียวกันเธอก็ประหลาดใจที่หลี่ฝางและอีกคนวิ่งแซงไป
เธอไม่เคยเห็นคนที่ตื่นเช้ามาวิ่ง แล้ววิ่งอย่างดุเดือดขนาดนี้
สำหรับเธอความเร็วของหลี่ฝางและผู้ชายข้างเขา คือการวิ่งอย่างบ้าระห่ำ
“นี่!เสี่ยวเชี่ยน ดูคนที่ใส่ชุดกีฬาด้านซ้ายคนนั้นสิ ใช่ป๋ายเสี่ยวป่อที่เป็นดารานักกีฬาหรือเปล่า?”
ทันใดนั้นผู้หญิงผมยาวอีกคนชี้ไปยังผู้ชายข้างหลี่ฝางพลางพูดขึ้น
สำหรับคนที่ไม่ค่อยสนใจกีฬา ป๋ายเสี่ยวป่ออาจไม่ได้ดังขนาดนั้น แต่สำหรับคนที่ชอบกีฬาอย่างพวกเธอ ป๋ายเสี่ยวป่อถือว่ามีชื่อเสียงมาก
ยังไงก็เป็นถึงผู้คว้าแชมป์การแข่งขันวิ่งระยะยาวระดับประเทศ ชื่อเสียงถือว่าค่อนข้างกว้างขวาง
“เหมือนจะเป็นป๋ายเสี่ยวป่อจริงๆด้วย!มิน่าละถึงวิ่งเร็วขนาดนั้น”
ถ้าเป็นคนปกติธรรมดา เสี่ยวเชี่ยนคงคิดว่าวิ่งเพื่อสร้างความสนใจ แต่หลังจากเห็นว่าคนที่วิ่งแซงเธอเป็นดารานักกีฬาป๋ายเสี่ยวป่อ ความคิดก็ต่างไปทันที
“ผู้ชายข้างๆป๋ายเสี่ยวป่อเป็นใครกัน?เหมือนจะไม่เคยเห็น คงไม่ใช่นักกีฬาหรอกใช่ไหม!แต่ทำไมฉันรู้สึก……ป๋ายเสี่ยวป่อวิ่งตามเขาอย่างยากลำบากเลยล่ะ?”
ขณะพูดสีหน้าเสี่ยวเชี่ยนก็เกิดความประหลาดใจ
เธอรู้ว่านั่นเป็นถึงผู้คว้าแชมป์วิ่งระยะยาวระดับประเทศ สามารถแสดงฝีมือจากคนจำนวนมากขนาดนั้นได้ ป๋ายเสี่ยวป่อต้องมีความสามารถมากแน่นอน ทว่าตอนนี้กลับตามกะอิแค่คนธรรมๆไม่ได้หน่ะเหรอ?
ด้านหน้า ป๋ายเสี่ยวป่อวิ่งพลางหอบหายใจอยู่ข้างๆหลี่ฝางไม่หยุดหย่อน
“ผมว่า……เพื่อน คุณ……ช้าหน่อย คุณวิ่งแบบนี้ไม่ได้นะ วิ่งยามเช้าเป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ วิ่งเร็วขนาดนี้ไม่เพียงไม่เป็นผลดี อีกทั้งอาจได้รับบาดเจ็บด้วย”
ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรที่ป๋ายเสี่ยวป่อตามทัน แค่มีคนวิ่งเป็นเพื่อนเพิ่มมาคนหนึ่ง และความเร็วก็ม่ค่อยช้า ไม่ถือว่าน่าเบื่อนัก
แต่วิ่งไปมาวิ่ง เขาก็พบว่าเหมือนตนตามหลี่ฝางไม่ทันแล้ว โดนหลี่ฝางวิ่งสลัดไปด้านหลังอยู่หลายครั้ง
ไม่มีทางอื่น ทำได้เพียงเพิ่มความเร็วอีก แต่ทุกครั้งที่ตามทันหลี่ฝาง พูดได้ไม่กี่คำ หลี่ฝางก็เพิ่มความเร็วขึ้นอีก
เป็นแบบนั้นติดต่อกันหลายครั้ง ป๋ายเสี่ยวป่อก็สู้ไม่ไหวแล้ว ด้วยร่างกายนักกีฬาชั้นยอดระดับประเทศของเขา ก็รับความเร็วขนาดนี้ไม่ได้
แต่ที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ ภายใต้ความเร็วและวิ่งมาไกลแบบนี้ของหลี่ฝาง แต่กลับดูเหมือนไม่เป็นอะไรเลย
ในที่สุดป๋ายเสี่ยวป่อก็ตามหลี่ฝางทันได้อีกครั้ง
ครั้งนี้เขาไม่ใช้คำพูดเกลี้ยกล่อมหลี่ฝางอีกต่อไป เขายกมือขึ้นหวังจะจับหลี่ฝาง ทว่าพอยืนมือออกไปกลับคว้าได้แค่อากาศ
พามองไปกลับพบว่าหลี่ฝางวิ่งออกไปไกลแล้ว ไม่เหลือความหวังอะไรให้เขาตามทันเลย
บนถนนที่ไม่รู้ว่าไกลจากสถานตากอากาศแค่ไหน หลี่ฝางผู้มีผมทั้งศีรษะหยุดยืนตรงไฟจราจร มองดูสภาพแวดล้อมรอบข้างที่ไม่คุ้นเคย
เขาค่อนข้างโมโหชายหนุ่มที่วิ่งมากลางคันคนนั้น แค่วิ่งก็ให้วิ่งอย่างสบายๆไม่ได้ เอาแต่พูดปาวๆๆข้างๆอย่างไม่หยุดไม่หย่อน โมโหทำเอาเขาวิ่งอย่างบ้าระห่ำ ไม่รู้ว่าตัวเองวิ่งมาไกลแค่ไหนแล้วเนี่ย
ขณะที่เขากำลังจะโทรเรียกให้คนมารับกลับ ทันใดนั้นก็มีรถLand Roverสีดำคันหนึ่งมาจอดข้างทาง และมีชายสวมชุดสูทสีดำลงมาจากรถ
“สวัสดีครับ!ไม่ทราบว่าใช่คุณหลี่ หลี่ฝางไหมครับ?”
ชายคนนั้นมีจุดประสงค์ที่ชัดเจน ลงจากรถก็ตรงมาถามหลี่ฝางทันที
“ใช่!”
จ้องอีกฝ่ายครู่หนึ่ง หลี่ฝางพบว่าตนไม่ได้รู้จักชายตรงหน้า
“เจ้านายของเราอยากพบคุณเย่ ตั้งใจให้ผมมารับคุณโดยเฉพาะ”
สายตาที่ชายคนนั้นมองหลี่ฝาง แฝงไปด้วยความประหลาดใจ
เขาหาหลี่ฝางเจอนานแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆหลี่ฝางถึงวิ่งเร็วขนาดนั้น วิ่งเร็วถึงขนาดเขาขับรถตามไม่ทัน
จนกระทั่งหลี่ฝางหยุดวิ่ง ชายคนนั้นถึงค่อยๆตามทัน
ถ้ามองแค่ความเร็วขนาดนี้ ชายคนนั้นสามารถบอกได้ว่า ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านั้นฝีมือไม่ธรรมดา ผู้ชายที่เดิมทีค่อนข้างดูถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคุณชายของตระกูลหลี่ ตอนนี้ค่อยๆเปลี่ยนความคิดแล้ว
“เจ้านายของพวกคุณ?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว:“ใคร?”
“ไปแล้วคุณจะรู้เองครับ”ชายคนนั้นพูดด้วยความสุภาพสุดๆ แต่ก็ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล
“ผมไม่ไป”หลี่ฝางแทบจะทั้งโกรธและขำ ที่เมืองนี้ยังมีคนกล้าให้หลี่ฝางไปพบเขา กลับไม่บอกชื่อเอง
หรือเป้นคนจากเบื้องบน?
“คุณหลี่ คุณไปจะดีกว่า อย่าทำให้พวกเราลำบากเลยครับ”ชายชุดสูทขมวดคิ้ว พลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ