NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่860 คิดไม่ถึงว่าจะเป็นยอดฝีมือกำลังภายใน
“ไม่ต้องให้พวกเขาลงมือ แค่พวกเรา สู้กับคุณทีละคน ขอเพียงแค่คุณสามารถชนะได้ พวกเราก็จะยอมรับคุณ”
สวีคางและพวกยืนออกมา ทั้งหมดเจ็ดคน ฝีมือของแต่ละคนต่างก็ไม่ธรรมดา พูดได้ว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มคนพวกนี้
หลี่ฝางส่ายหัว แล้วกล่าวเสียงเบาด้วยความเหยียดหยาม: “พวกนายต่างก็ใช้ไม่ได้ อย่าเสียเวลาอีกเลย ลงมือพร้อมกันเถอะ”
ยิ่งหลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ใส่ใจเช่นนี้ พวกเขาก็ยิ่งโมโห ทันใดนั้น ไฟความโมโหในใจของคนเหล่านั้นก็ได้ถูกจุดขึ้นมา
สมาชิกของทีมสำรองทั้งหมดสามสิบคน ต่างก็ร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความโมโห และพุ่งเข้าโจมตีหลี่ฝางโดยไม่คำนึงอะไรทั้งสิ้น
“พี่หลิว แบบนี้มันจะอันตรายไปไหม?” หวางเหวินป่ายที่อยู่ด้านข้างเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ได้เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความตกใจ
คนภายใต้บังคับบัญชาพวกนี้ต่างไม่ใช่พวกไร้น้ำยา ทั้งหมดต่างได้ผ่านปืนจริงมีดจริงมาแล้ว ความอันตรายของพวกเขาต่างก็ไม่ใช่นักสู้ธรรมดาจะสามารถเทียบได้
หลิวฮุยหัวเราะเหอะ ๆ ขึ้นมา เขาไม่ได้เป็นกังวลเลยสักนิด: “วางใจเถอะ ถ้าแม้แต่คนพวกนี้เขายังรับมือไม่ได้ งั้นฉันเชิญเขามาก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว”
หวางเหวินป่ายกล่าวด้วยความประหลาดใจ: “ร้ายกาจขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
เขาอดไม่ได้ที่จะทุ่มเทความสนใจทั้งหมดไปที่สนามรบ การต่อสู้หลังจากนั้นกลับเกินความคาดหมายของเขา เพราะว่าการต่อสู้ในครั้งนี้นั้นมันสั้นจนเกินไป ไม่มีแม้แต่ใครสักคนที่สามารถถูกตัวหลี่ฝางได้ แต่เพียงแค่ถูกหลี่ฝางต่อยโดนหนึ่งหมัด เตะโดนหนึ่งครั้ง ก็ล้มลงไปบนพื้นแล้ว จะทำยังไงก็ลุกขึ้นมาไม่ได้อีก
ถึงยังไงหลี่ฝางในตอนนี้แค่เพียงพลังและการเคลื่อนไหวที่แสนธรรมดา ก็เกินกว่าคนพวกนี้ไปหนึ่งขั้นแล้ว เพียงแค่หมัดและเท้า ก็ได้ถึงขั้นที่ทักษะการต่อสู้และประสบการณ์ในการต่อสู้ก็ไม่อาจทดแทนได้แล้ว
ก็เหมือนกับยอดนักสู้ที่มีประสบการณ์เหลือล้นคนหนึ่ง ถูกช้างเหยียบเอาไว้ ถ้าเขากล้าฝืนทนรับ จะต้องตายไม่สวยอย่างแน่นอน
มองดูผู้คนที่ลงไปนอนอยู่บนพื้น หลี่ฝางก็ยิ้มอ่อน ๆ พลางกล่าว: “เป็นยังไงบ้าง? ใครที่ยังไม่ยอม ก็รีบลุกขึ้นมาสิ”
ครานี้ทุกคนต่างก็ได้เงียบไป แต่ละคนต่างใช้สายตาที่ขุ่นเคืองจ้องมองหลี่ฝาง และยังได้ปิดหน้าเอาไว้
จะทำยังไงได้ล่ะ หลี่ฝางจงใจต่อยที่ใบหน้าของคนพวกนี้ ทำให้ใบหน้าของพวกเขาต่างก็บวมปูดราวกับหัวหมู เกรงว่าคงไม่กล้ามีหน้าไปเจอคนอื่นแล้ว
“พวกนายไม่เข้าใจ ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อพวกนาย” หลี่ฝางกล่าวอย่างขื่นขม: “ถ้าหากต่อยที่อื่น ทำให้พวกนายได้รับบาดเจ็บ แล้วจะปฏิบัติภารกิจได้ยังไงล่ะ?”
ทุกคนต่างสะดุ้งเฮือก ภายในใจคิดว่า: นี่ยังทำเพื่อพวกเรานะ ถ้าไม่ทำเพื่อพวกเราเนี่ยจะต่อยจนพวกเรากลายเป็นแบบไหนล่ะ?
“เอาล่ะ พรุ่งนี้หกโมงเช้ารวมตัวกัน พวกนายรีบกลับไปเตรียมตัวเถอะ ถ้ามีเรื่องอะไรก็ให้ถามหัวหน้าหวาง
พอพูดประโยคนี้จบ หลี่ฝางก็ทนรับสายตาขุ่นเคืองนี้ต่อไปไม่ไหว เขารีบหมุนตัวเดินจากไปทันที
กลางดึก ณ สถานตากอากาศ หลี่ฝางนั่งอยู่บนโซฟาอย่างสงบ พูดคุยรายละเอียดในครั้งนี้กับพวกคนที่อยู่ตรงหน้า
สถานที่ปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ไม่ได้อยู่ภายในประเทศ หลังจากที่คนตระกูลเกาทั้งสามคนถูกชิงตัวไป ในเวลาเพียงแค่หนึ่งวันก็ได้ถูกทหารรับจ้างพวกนั้นย้ายตัวไปไว้ที่อื่น นั่นก็หมายความว่า หลี่ฝางออกไปช่วยคนในครั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะต้องไประยะยาว เขาจะต้องพูดให้พวกเขาเข้าใจ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
“ภารกิจในครั้งนี้มันอันตรายเกิน ไปให้ผมไปกับคุณเถอะ” โหจื่อเช็ดปืนของตัวเอง เขายิ้มอย่างเจิดจรัส
“ไม่ได้ คุณต้องอยู่ที่บ้าน พูดตามตรง ผมไม่เชื่อใจพวกหลิวฮุย มีเพียงคุณเฝ้าอยู่ที่นี่ผมถึงจะวางใจได้”
หลี่ฝางส่ายหัวปฏิเสธ
“ยังไม่มีข่าวของส้าวส้วยอีกเหรอ? ถ้าเขากลับมาล่ะก็ ผมก็สามารถไปกับคุณได้แล้ว” โหจื่อยังคงกล่าวอย่างน่าเสียดาย
หลี่ฝางส่ายหัว เขามีท่าทีผิดหวังเล็กน้อย: “ยังเลย ไม่ว่าเขาจะกลับมาหรือไม่ คุณก็ต้องอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่มีทางที่จะให้คุณตามไปด้วยหรอก”
“โถ่เอ๊ย สูงส่งมาจากไหนกันเชียว คนของหลงหยา ทักษะการยิงปืนไม่แน่ว่าจะดีไปกว่าผม”
โหจื่อเบ้ปากอย่างดูแคลน
หลี่ฝางยิ้มกล่าวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้: “ใช่ใช่ใช่ พวกเขาห่างจากคุณอีกเยอะ”
พูดไป หลี่ฝางก็มองไปที่ตงฟางเย่นที่นั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ มาโดยตลอด กล่าว: “ผมไม่อยู่ที่เมืองเอก คุณก็ต้องคอยคุ้มครองฉินวี่เฟยอย่างลับ ๆ ต่อให้คุณตายก็ห้ามให้เธอได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย เข้าใจไหม”
ตงฟางเย่นไม่ได้พูดอะไร เธอพยักหน้า
หลี่ฝางรู้ดีว่าตงฟางเย่นจะต้องไม่พอใจตัวเองมากแน่ แต่ก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่ตงฟางเย่นยินยอมที่จะเชื่อฟังคำสั่งของตัวเอง ปกป้องฉินวี่เฟยให้ดี เธอจะคิดยังไงก็ช่าง
“เดี๋ยวนะ มีข้อความเข้ามา เย็ดเข้ เป็นข้อความจากส้าวส้วย!”
หลี่ฝางมองดูอีเมลที่จู่ ๆ ก็ส่งเข้ามา หลี่ฝางรีบเปิดขึ้นมาทันที และในตอนที่เขาได้ดูเนื้อหาในอีเมลจนจบนั่นเอง บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มที่ลึกลับขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ
วันถัดมา หลี่ฝางก็ได้ลุกขึ้นออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด
จุดนัดพบนอกเมือง คนกลุ่มหนึ่งยืนเรียงกันเป็นสามแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พวกเขารออย่างสงบ ไม่มีใครกล้าขยับเลยสักนิด
เวลายังไม่ถึงหกโมงเช้า คนพวกนี้ยืนอยู่สักพัก ก็อดไม่ได้ที่จะเริ่มพูดคุยกันขึ้นมา
“ต้วนหงกวง นายได้ข่าวนี้มาจากไหนเหรอ?”
“คุณอาของฉันเป็นคนบอกเองกับปาก หัวหน้าคนใหม่ของพวกเราคนนี้เป็นปรมาจารย์กำลังภายในตัวจริงเสียงจริง!”
“เชรด เมื่อวานทำไมนายถึงได้ลงมือพร้อมกันกับพวกเราล่ะ?”
สวีคางและคนอื่น ๆ มองต้วนหงกวงอย่างเย้ยหยัน แทบอยากจะอัดเขาสักตั้งในตอนนี้
“ฉัน…เมื่อวานฉันก็ยังไม่รู้นี่นา!”
ต้วนหงกวงรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม อาของเขาก็คือหวางเหวินป่าย แต่หวางเหวินป่ายเองก็พึ่งรู้ความร้ายกาจของหลี่ฝางจากหลิวฮุยเมื่อวานนี่เอง จะเอาเวลาที่ไหนมาบอกต้วนหงกวง
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย” ทุกคนต่างทอดถอนใจด้วยความเศร้าอาดูร
นี่มันเป็นความโชคร้ายตั้งแต่ชาติไหนกันพวกเขาถึงได้ไปหาเรื่องยอดฝีมือกำลังภายใน