NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่935 ตาต่อตาฟันต่อฟัน
“มีเรื่องสำคัญอะไร?”
กู่ยี่เทียนหัวเราะร่าออกมาอย่างกับได้ยินเรื่องตลก
“ตระกูลชิวของคุณมีจุดประสงค์อะไร คิดว่าผมไม่รู้จริงๆเหรอ?เห็นต้าเซี่ยหลงเช่วของผมเป็นคนโง่หรือไง?”
ชิวจงเทียนหน้าถอดสี พูดอะไรไม่ออกทันใด
“พวกเราแค่หาทางรอด ให้ตัวเองได้มีชีวิตต่อไป หรือแม้แต่โอกาสนี้ปรมาจารย์กู่ก็ไม่ให้?”ข่งจิ่งยู่ยืนขึ้นพลางพูด
“หาทางรอด?”กู่ยี่เทียนหัวเราะเยาะ“ผมว่าพวกคุณอยากเป็นผู้นำพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ซะมากกว่า!”
ทันทีที่กู่ยี่เทียนพูดออกมา ทำให้ทุกคนตกใจและสงสัยขึ้นมาทันที สายตาที่มองชิวจงเทียนและคนอื่นๆดูท่าไม่ค่อยดีแล้ว
พันธมิตรศิลปะการต่อสู้มีไว้เพื่อปกป้องนักศิลปะต่อสู้หน่ะไม่ผิดหรอก แต่เป็นผู้นำพันธมิตรศิลปะการต่อสู้นี่สิ ความหมายมันแตกต่างกันแล้ว
บนโลกใบนี้มีนักศิลปะการต่อสู้จำนวนมาก เมื่อเอามาเทียบกับกลุ่มนักศิลปะการต่อสู้ขนาดใหญ่ มีนักศิลปะการต่อสู้กำลังภายในเท่าไหร่กันเชียว?
ถ้ามีผู้นำพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ขึ้นมา นักศิลปะการต่อสู้ทั้งโลกก็ต้องฟังคำสั่งเขา งั้นพลังอำนาจของคนคนนี้ จะไปถึงจุดสูงสุดของความน่ากลัวเลยทีเดียว ไม่มีนักศิลปะการต่อสู้กำลังภายในคนไหนเทียบได้
ได้ยินเช่นนั้น ข่งจิ่งยู่และคนอื่นก็เหงื่อตกทันที
อย่างไรก็ตามกู่ยี่เทียนก็ยังคงไม่ปล่อยพวกเขาไป
“ต้าเซี่ยหลงเช่วก่อตั้งเป็นเวลาหลายปี ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และรักษาเสถียรภาพ เคยทำเรื่องน่ารังเกียจที่ไหนกัน?ถ้าไม่ใช่เพราะต้าเซี่ยหลงเช่ว ไม่รู้ว่าตอนนี้วงการศิลปะการต่อสู้นี้จะวุ่นวายขนาดไหน ฆ่ากันฆ่ากันมา ทุกวันมีคนต้องตายไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่!”
แม้น้ำเสียงของกู่ยี่เทียนจากปกติ แต่ดั่งสายฟ้าผ่าเรียกสติ ทำให้ทุกคนกลับไปคิดทบทวน
แต่ชิวจงเทียนกลับลอบถอนหายใจลึกๆ
ตระกูลชิวของเขาวางแผนนี้มานาน เสียอะไรไปมากมาย และที่ทำไปก็เป็นอย่างที่กู่ยี่เทียนพูด ไม่งั้นตระกูลชิวจะไปใส่ใจมันทำไม?
แต่ใครก็คิดไม่ถึง สถานการณ์ดีๆที่เดิมนั้นมั่นใจมากๆ จะกลายเป็นแบบนี้ภายในเวลาแค่ชั่วพริบตา
มองลงไปยังสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยด้านล่าง รวมถึงพลังอันป่าเถื่อนของกู่ยี่เทียนนั่น ชิวจงเทียนก็รู้แล้วว่าตัวเองนั้นหมดโอกาสแล้ว
“ปรมาจารย์ชิว ปรมาจารย์ข่ง พวกคุณมีอะไรจะพูดอีก!”กู่ยี่เทียนถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
ชิวจงเทียนตื่นตกใจ รู้ว่าตอนนี้ตนจะถอยไม่ได้แล้ว
ถ้าหากถอยไปก้าวหนึ่ง ต้องพ่ายแพ้ดั่งภูเขาถล่มเป็นแน่ ข้างหน้าเป็นหน้าผาสูงหมื่นฟุต ไม่ใช่แค่เขาแต่รวมถึงทั้งตระกูลชิวที่จะมีจุดจบอย่างน่าอนาถแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงคิดหาวิธีอื่นเท่านั้น
“ปรมาจารย์กู่คิดผิดแล้ว ที่พวกเราก่อตั้งพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ แค่เพื่อจะได้อยู่รอดต่อไป พัฒนาและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”
ชิวจงเทียนกัดฟันกรอดๆ แล้วพูดอย่างหักใจ:“ส่วนเป็นผู้นำพันธมิตรศิลปะการต่อสู้นั้น พวกเราไม่เคยแม้แต่จะคิด และเป็นไปไม่ได้ที่จะคิดหาผลประโยชน์จากส่วนนั้น!”
“อ๋อ?พูดจริงงั้นเหรอ?”
กู่ยี่เทียนหรี่ตาพลางถาม
เขาพเดาความคิดของชิวจงเทียนจิ้งจอกเฒ่าผู้นี้ออก
“จริงแท้แน่นอน!จิตใจพวกเราดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มองเห็น ไม่เป็นเท็จแม้แต่น้อย !”ขณะข่งจิ่งยู่ยักคิ้วหลิ่วตากับชิวจงเทียนก็รู้สิ่งที่เขาหมายถึงแล้ว จึงตะโกนตามออกมาด้วย
คำพูดนี้พูดอย่างจริงใจ มีน้ำหนัก ทำให้หลายคนเชื่อในคำพูดของพวกเขาโดยไม่รู้ตัวในทันที
“พูดได้ดี!”ขณะนั้นเองจู่ๆหลี่ฝางก็ตะโกนเสียงดังออกมา ดึงดูดสายตาไม่น้อย
“คำพูดของปรมาจารย์ข่งถือได้ว่าพูดอย่างจริงใจ ทำให้รู้สึกซาบซึ้ง แต่ว่า……ในเมื่อต้องการก่อตั้งพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ก็ต้องมีคนคอยชี้นำ พวกคุณไม่นั่งตำแหน่งนี้ แล้วใครจะนั้งได้ หรือจะเป็นชิวเฉิงหลี่?”
ทันทีที่พูดออกมา ทำให้ผู้คนกลับมาสนใจอีกครั้ง
“ปรมาจารย์หลี่ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ พวกเรากำลังจะพูดเรื่องนี้พอดี”ชิวจงเทียนแอบปาดเหงื่อในใจ เพราะได้คิดคำพูดเอาไว้แล้ว
“ถ้าพันธมิตรศิลปะการต่อสู้อยู่ในมือคนใดคนหนึ่งเพียงผู้เดียว ยากที่จะรับประกันว่าจะไม่ตกเป็นของส่วนตัวของผู้ที่ถืออยู่ กลายเป็นเครื่องมือแสวงหาผลกำไร นั่นก็เท่ากับว่าทำลายความตั้งใจเดิมในการก่อตั้งของพวกเรา”
ชิวจงเทียนพูดอย่างไตร่ตรอง ท่าทีก็ค่อยๆผ่อนคลายลง
“อิงจากความคิดเดิมของพวกเรา จะใช้รูปแบบรัฐสภาในการตัดสินใจเรื่องพันธมิตรศิลปะการต่อสู้และเรื่องต่างๆ มีแต่วิธีนี้ที่จะรับรองได้ ว่าพันธมิตรศิลปะการต่อสู้จะไม่เสื่อมลง และรับรองผลประโยชน์ทุกอย่างของนักศิลปะการต่อสู้ได้ จึงจะทำให้ทุกคนพัฒนาก้าวหน้าไปด้วยกัน!”
ทันทีที่ชิวจงเทียนพูดออกมา ด้านล่างก็ระเบิดเสียงชื่นชมออกมา
“ปรมาจารย์ชิวเป็นคนซื่อสัตย์จริงใจจริงๆ!”
“ที่แท้ก็คิดแบบนี้ ดูเหมือนพวกเราจะเข้าใจผิดไปแล้ว!”
“แบบนี้ก็เท่ากับว่าพวกเราใช้ความคิดเห็นที่เลว ไปคาดเดาคนที่มีคุณธรรมสูงส่งนะสิ”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน ทำให้ชิวจงเทียนใจสงบลง พูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ:“ท่านทั้งสอง บัดนี้คงเข้าใจความทุ่มเทของพวกเราแล้วใช่ไหม?”
กู่ยี่เทียนเงียบ ไม่คิดว่าตาจิ้งจอกเฒ่าชิวจงเทียนผู้นี้จะคิดคำพูดแบบนี้ออกมาได้
เดิมทีต้าเซี่ยหลงเช่วกังวลว่าตระกูลชิวจะก่อเรื่อง การรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดความทะเยอทะยานบางอย่างที่ไม่ควรมี
คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะร่วมมือกัน และชิวจงเทียนยังมีความกล้าเช่นนี้ ที่ละทิ้งผลประโยชน์ แม้กระทั่งผลักตัวเองออกมาเสี่ยงคว้าน้ำเหลวแบบนี้ก่อน
คนพวกนี้กล้ามากจริงๆ
ชิวจงเทียนและข่งจิ่งยู่เห็นท่าทีของกู่ยี่เทียน ก็ส่งสายตากันเล็กน้อยอย่างโล่งอก