NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่941 ฉินจื่อยี่ถูกทำร้าย
หลี่ฝางเพียงแค่เดินมาถึงหน้าประตูอย่างเงียบ ๆ และเปิดประตูออกแล้วเดินเข้าไป จากนั้นก็ปิดประตูบานนั้นลง และได้บดบังสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจเหล่านั้นเอาไว้ด้านนอก
ผู้คนที่อยู่ด้านนอกเกาหัวด้วยความงุนงง ภายในใจเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าดูว่าตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่
กู่ยี่เทียนที่กำลังยืนอยู่ในลานบ้าน มองเห็นหลี่ฝางเดินเข้ามา ก็พยักหน้าเล็กน้อย
“ดูเหมือนว่านายจะได้เข้าสู่แดนเต๋าแล้วริง ๆ” เขากล่าวอย่างเรียบ ๆ
“นายเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางเอ่ยขึ้นมาอย่างลวก ๆ
“ตกลงแล้วมาหาฉันมีเรื่องอะไร? รีบพูดมา เวลาฉันมีน้อย”
กู่ยี่เทียนยิ้มเล็กน้อย แล้วเอ่ยขึ้น: “เหอะ ๆ ได้มีคนออกมาจากปีศาจซากปรักหักพังแล้ว นายรู้หรือยัง?”
ปีศาจซากปรักหักพังนั่น? ปีศาจซากปรักหักพังไหน? ยังจะมีปีศาจซากปรักหักพังไหนอีกล่ะ!
“ใคร?” หลี่ฝางรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาทันที
ดูเหมือนว่าท่าทีของหลี่ฝางจะทำให้เขาพอใจมาก กู่ยี่เทียนกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม: “คุณท่านตงฟาง”
“เป็นเขาหรอกเหรอ?” หลี่ฝางใจเต้นตุบตับ เงาของใครหลายคนผ่านวับเข้ามาในดวงตาของหลี่ฝางอย่างไม่ได้ตั้งใจ
คุณพ่อ คุณแม่ของเขา ส้าวส้วย แม่มด ซือปาจี้……
“แล้วคนอื่น ๆ ล่ะ? พวกพ่อแม่ของฉันล่ะ?” ความห่วงใยทำให้เป็นกังวล ความกังวลทำให้ลนลาน หลี่ฝางยอมรับ ว่าตอนนี้เขาลนลานมาก
“ไม่รู้สิ” คำตอบของกู่ยี่เทียน ทำให้จิตใจที่เป็นกังวลของหลี่ฝางค่อย ๆ จมดิ่งลงไป
“ไม่พบร่องรอยของพวกเขา พวกเขาได้หายตัวไป ฉันเองก็แปลกใจ เมื่อก่อนยังติดต่อกับพวกเขาอยู่ตลอดแท้ ๆ สุดท้ายข่าวคราวของพวกเขากลับหายไป เหมือนกับว่าพวกเขาถูกมือที่มองไม่เห็นลบล้างร่องรอยของพวกเขาไปยังไงอย่างงั้น”
เมื่อเห็นหลี่ฝางเงียบไป กู่ยี่เทียนก็หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ หนึ่งครั้งพลางกล่าว: “ตามข้อมูลที่พวกเราได้รับ คุณท่านตงฟางก็ได้เข้าสู่แดนเต๋าแล้ว ถึงจะเป็นแดนเต๋าเหมือนกัน แต่เกรงว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่านายและฉัน”
กู่ยี่เทียนกล่าวไป พร้อมกับมองไปที่หลี่ฝาง แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่า สีหน้าท่าทางของหลี่ฝางค่อย ๆ สงบลง
“นายไม่กลัวเหรอ?” กู่ยี่เทียนถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“กลัว แต่กลัวแล้วมีประโยชน์อะไร?” หลี่ฝางเหลือบตามองบนให้กู่ยี่เทียน: “แทนที่จะสั่นสะท้านอยู่ในความหวาดกลัว สู้คิดหาวิธีไปเผชิญหน้าจะไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับคนในครอบครัวของฉัน งั้นคุณท่านตงฟางก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร ถ้าหากพวกเขาตายกันหมด งั้นฉันก็จะกำจัดคุณท่านตงฟางให้ได้อย่างแน่นอน จะต้องทำให้ได้แน่!”
“นายได้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดแล้วเหรอ?” กู่ยี่เทียนยิ้มขึ้นมา: “น่าสนใจแฮะ นายไปเอาความมั่นใจและความกล้านี่มาจากไหน?”
พอพูดประโยคนี้จบ กู่ยี่เทียนก็ได้ยิ้มเยาะอยู่ตลอดเวลา
“อยากรู้เหรอ?” แววแห่งความตื่นเต้นปรากฏขึ้นมาในดวงตาของหลี่ฝางแวบหนึ่ง เขากล่าวพลางหัวเราะแหะ ๆ
“ดีนี่ งั้นลองกินหมัดฉันสักหมัดก่อนเป็นไง!” กู่ยี่เทียนกล่าวไป จากนั้นก็กำหมัดขึ้น แล้วต่อยเข้าไปยังหลี่ฝางทันที
หลี่ฝางไม่ได้หลบเลี่ยงใด ๆ ในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ได้ต่อยหมัดของเขาออกไป สองหมัดกระทบกันเข้าอย่างจัง
เสียงดังราวกับฟ้าร้องคำรามลอยมาในอากาศ พลังจากหมัดแพร่กระจายออกมา ใบไม้จากต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่ในลานบ้านต้นนั้นปลิวว่อนอยู่ในอากาศ ทั้งสองคนลอยถอยหลังออกไปพร้อมกัน
“ตุ้บ!” “ตุ้บ!”
เสียงกระแทกดังขึ้นติดต่อกัน ร่างของทั้งสองคนกระแทกเข้ากับกำแพงที่อยู่ด้านหลัง ทำให้เกิดเป็นรอยร่างคนขึ้นบนกำแพง
ทั้งสองคนขยับแขนขาลุกขึ้นยืน พลางขมวดคิ้วมองดูบรรยากาศรอบ ๆ
หลี่ฝางเอ่ยปากกล่าว: “ที่นี่แคบไป แสดงพลังออกมาได้ไม่เต็มที่ อีกอย่างฝีมือของเราพอ ๆ กัน ถ้าสู้กันต่อไปสุดท้ายคงต้องบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย”
“งั้นก็หยุดชั่วคราวก่อนแล้วกัน” กู่ยี่เทียนพยักหน้ากล่าว: “วันหลังถ้ามีโอกาส ฉันยังจะมาประลองฝีมือกับนายอีก!”
“ได้ วันหลังฉันจะต้องสู้กับนายอย่างเต็มที่แน่……”
หลี่ฝางกำลังจะเอ่ยปากพูด โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นมา เขาหยิบขึ้นมาดูเห็นว่าเป็นสายโทรเข้าจากฉินวี่เฟย หลี่ฝางรู้สึกว่าไม่ค่อยปกติ จึงรีบรับโทรศัพท์ทันที
“หลี่ฝาง พี่ชายของฉันถูกคนทำร้ายบาดเจ็บ!”
“ฉินจื่อยี่? เขาเป็นอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ฉันก็ไม่รู้ เขา ตอนนี้เขาอยู่ที่ห้อง ICU ของโรงพยาบาล หมอบอกว่าให้คนในครอบครัวทำใจ……หลี่ฝาง ทำยังไงดี……”
ฉินวี่เฟยสึกสะอื้นกล่าว
“เธอใจเย็น ๆ นะ ฉันจะรีบกลับไปตอนนี้เลย”
หลี่ฝางหยุดไปสักพัก แล้วรีบกล่าวขึ้นมา: “เตือนให้คนในครอบครัวของเธอระวังความปลอดภัย ฉันกลัวว่าพวกมันจะพุ่งเป้าหมายไปยังตระกูลฉินของพวกเธอ เธอโทรหาโหจื่อนะ บอกให้ราฟาเอลไปปกป้องพวกเธอ”
วางโทรศัพท์ไป หลี่ฝางก็ได้เอ่ยขึ้น: “พอดีมีเรื่องด่วนเข้ามา ฉันต้องไปก่อนแล้ว”
“นายตามสบายเถอะ” กู่ยี่เทียนกล่าวอย่างเรียบ ๆ
“เรื่องโซนปีศาจจะล่าช้าอีกต่อไปไม่ได้แล้ว หลังจากที่นายกลับไปจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ก็ติดต่อหาหลิวฮุย”
“ฉันรู้แล้ว” หลี่ฝางพยักหน้า
กู่ยี่เทียนไม่ได้เอ่ยอะไรอีก เขาหันหลังและเดินไปทางด้านนอกทันที
หลังจากที่หลี่ฝางได้เอ่ยข้อเรียกร้อง ตระกูลชิวก็ได้จัดเตรียมเครื่องบินส่วนตัวส่งหลี่ฝางกลับไปทันที
นั่งอยู่บนเครื่องบิน หลี่ฝางก็ได้ตกอยู่ในห้วงความคิด
ตามหลักแล้ว อยู่ที่เมืองเอก ตราบใดที่ตระกูลฉินไม่หาเหาใส่หัว ก็น่าจะไม่มีใครลงมือต่อตระกูลฉินถึงจะถูก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ที่ไม่ค่อยทำตัวให้เป็นจุดสนใจอย่างฉินจื่อยี่ นอกเสียจากว่าจะเป็นกองกำลังที่อยู่นอกเมืองเอก
ไม่รู้ว่าทำไม หลี่ฝางก็ได้นึกถึงเรื่องที่เมื่อก่อนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฉินจื่อยี่ได้นัดคุยกับเขาเรื่องร่วมมือทำธุรกิจอย่างหนึ่งขึ้นมา ในตอนนั้นหลี่ฝางไม่ได้รับปากการเชื้อเชิญทำธุรกิจของฉินจื่อยี่ แต่ตามอุปนิสัยของฉินจื่อยี่แล้ว คิดว่าเขาจะต้องหาวิธีไปทำธุรกิจใหญ่นั่นเองแน่
ฉินจื่อยี่ถูกทำร้าย จะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือเปล่านะ?
“ไท่ซาง” หลี่ฝางเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ : “อีกเดี๋ยวหาสถานที่ให้พวกเราแยกกัน นายกลับที่เมืองเอกก่อน”
“หา? ทำไมล่ะครับลูกพี่?”
“นายไม่ต้องสนใจ กลับไปแล้วก็ซ่อนตัวให้ดี อย่าเปิดเผยตัวตนของตัวเอง”
“นี่……ผมเข้าใจแล้วครับ” ไท่ซางพยักหน้า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเข้าใจแล้วจริง ๆ หรือแค่รับปากลอย ๆ เท่านั้นเอง