NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่942 ยอดฝีมือกำลังภายในสองคนเป็นบอดี้การ์ด
เมืองเอก ตระกูลฉิน
หลังจากที่คุณท่านได้จากโลกนี้ไป บรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของบ้านตระกูลฉินก็ได้ลดลงไปมาก ทำให้รู้สึกเงียบเหงาไม่น้อย
ณ เวลานี้คนตระกูลฉินได้รวมตัวกันอยู่ที่นี่ บรรยากาศน่าหดหู่ยิ่งนัก
ฉินจื่อยี่ถูกทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้คนเหล่านั้นมานั่งอยู่ที่นี่ ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง นั่นก็คือธุรกิจของตระกูลฉินถูกโจมตีจากทุกด้าน เสียหายมหาศาล ดูก็รู้ว่าได้มีการวางแผนมาก่อน เบื้องหลังได้มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่แข็งแกร่งมากคอยเล่นงานตระกูลฉินอยู่
เหตุผลที่คนเหล่านี้มารวมตัวกัน ไม่เพียงแค่เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะพวกเขากลัว กลัวว่าพวกเขาจะเป็นเหมือนกับฉินจื่อยี่ ถูกคนโจมตี ถูกทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล ไม่รู้เป็นตายร้ายดี
คุณพ่อของฉินวี่เฟยมองมองดูผู้คนรอบ ๆ จู่ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา: “เจ้าสามไปไหน?”
“ท่านสามน่าจะอยู่ที่พารากอน” คนคนหนึ่งรีบเอ่ยตอบทันที
คนตระกูลฉินต่างกระซิบกระซาบกันขึ้นมาทันที พารากอนเป็นสถานที่ละลายทรัพย์ เป็นธรรมดาที่ไม่ต้องว่าทำไม่ฉินเจ้าสามต้องไปที่นั่น
“สารเลว!” ฝ่ามือของคุณพ่อของฉินวี่เฟยฟาดลงบนโต๊ะอย่างหนัก ๆ
“ไป! ไปจับสารเลวนั่นกลับมาให้ฉัน!” คุณพ่อของฉินวี่เฟยออกคำสั่งด้วยความโมโห
หลังจากที่โมโหเสร็จ คุณพ่อของฉินวี่เฟยก็รีบเปลี่ยนท่าทีทันที เขาหันไปถามฉินวี่เฟยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม: “ลูกติดต่อหลี่ฝางหรือยัง?”
“เขากำลังมาค่ะ” ฉินวี่เฟยเอ่ยตอบ
ฉินจื่อยี่ยังไม่พ้นขีดอันตราย ความรู้สึกของเธอในตอนนี้นั้นหม่นหมองเป็นอย่างมาก ทั้งเป็นห่วงฉินวี่เฟยทั้งกังวลว่าเรื่องของตระกูลฉินจะดึงหลี่ฝางเข้ามาพัวพันด้วย จิตใจสับสนวุ่นวายเหมือนเส้นด้ายพันกัน
สำหรับความปลอดภัยของตัวเองแล้วเธอกลับไม่ค่อยเป็นห่วงสักเท่าไหร่ หลังจากที่ติดต่อกับทางสถานตากอากาศ ราฟาเอลก็ได้หลบอยู่ในที่มือคอยคุ้มครองฉินวี่เฟยย่างลับ ๆ มาโดยตลอด
“ดี ๆ ๆ งั้นก็ดี” คุณพ่อของฉินวี่เฟยพยักหน้าติดต่อกัน เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ทว่าคุณพ่อของฉินวี่เฟยยังไม่ทันผ่อนคลายลง จู่ ๆ ก็มีเสียงกระหึ่มดังขึ้น ประตูใหญ่บ้านตระกูลฉินถูกกระแทกเปิดออกอย่างแรง
เงาคนสายหนึ่งพุ่งลอยเข้ามาจากด้านนอก แล้วตกลงยังกลางห้องโถงโดยไม่ส่งเสียงใด ๆ
พอทุกคนมองดู ก็พบว่าเป็นฉินเจ้าสามนั่นเอง เพียงแต่ว่าเขาในตอนนี้ถูกคนทำร้ายจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือด ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ายังมีลมหายใจอยู่ไหม
ทันใดนั้น ทั่วทั้งตระกูลฉินตื่นตระหนกตกใจขึ้นมา
“แย่แล้ว ศัตรูได้บุกมาถึงบ้านแล้ว!”
“ทำยังไงดี พวกเรารีบหนีกันเถอะ!”
“ตอนนี้ยังหนีได้อีกเหรอ?”
“แม่ ฉันยังไม่อยากตาย……”
คนตระกูลฉินตะโกนโหวกเหวกโวยวายราวกับได้บ้าคลั่งไปแล้ว กลับไม่มีใครชายตามองเจ้าสามของตระกูลฉินที่อยู่บนพื้นเลยแม้แต่น้อย
“หุบปาก!” คุณพ่อของฉินวี่เฟยตะคอกขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เสียงนั้นได้ระงับเสียงถกเถียงนั่นลง
“ศัตรูเข้ามาแล้วเหรอ? พวกแกถึงได้ร้องเอะอะโวยวายอยู่อย่างนี้” คุณพ่อของฉินวี่เฟยกล่าวด้วยความโมโห: “ดูอาการของเจ้าสามก่อน”
“อาสามยังไม่ตาย” ฉินวี่เฟยเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปดู และกล่าวขึ้นมาอย่างสงบ: “เรียกรถพยาบาลก่อนเถอะ”
“เร็ว รีบเรียกรถพยาบาล” คุณพ่อของฉินวี่เฟยรีบตะโกนขึ้นมา
ไม่นานรถพยาบาลก็ได้มาถึงและรับเอาตัวของฉินเจ้าสามไป
จากการตรวจร่างกาย ฉินเจ้าสามเพียงแค่ถูกคนทำร้ายจนกระดูกหักไปแค่สองสามที่เท่านั้นเอง อย่างมากก็แค่ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลระยะหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต
“ช่างเหอะ สำหรับเจ้าสามแล้ว นี่อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้” คุณพ่อของฉินวี่เฟยกล่าวพลางถอนหายใจ
ศัตรูนับวันยิ่งกำเริบเสิบสาน ครั้งนี้ทำร้ายคนแล้วโยนเข้าบ้านตระกูลฉิน ถ้าหากตระกูลฉินยังไม่ทำอะไรสักอย่าง ครั้งหน้าอาจจะบุกเข้ามาทำร้ายคนตระกูลฉินถึงในบ้านก็ได้
“สืบได้เรื่องอะไรบ้างไหม?” คุณพ่อของฉินวี่เฟยเอ่ยถาม
อาสองของฉินวี่เฟยทอดถอนใจกล่าว: “กล้องวงจรปิดของที่นั่นถูกแฮ็ก ตรวจสอบไม่เจออะไรเลย”
“เฮ้อ! ดูแล้วพวกมันรอบคอบไม่เบา” คุณพ่อของฉินวี่เฟยกล่าวอย่างจนปัญญา
“อาสามฟื้นแล้ว!” ลูกหลานของตระกูลฉินคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา
ทุกคนยังไม่ทันได้เดินเข้าไปในห้องคนไข้ ก็ได้ยินเสียงตะโกนร้องของฉินเจ้าสามดังออกมาจากข้างใน
“แม่งเอ๊ย กล้าลอบทำร้ายฉันได้ยังไง! รีบหาคนมาให้ฉัน ก่อนอื่นไปทำลายพารากอนนั่นให้ฉันก่อนเลย!”
“แกหุบปากไปเลยนะ!” อาสองของฉินวี่เฟยเดินเข้าไปพร้อมกลับด่าอย่างโมโห: “เงียบไปเลย!”
“พี่รอง ฉันถูกคนทำร้ายหนักขนาดนี้เลยนะ!” ฉินเจ้าสามบ่น
“แกรู้ว่าใครทำร้ายแกเหรอ?” อาสองของฉินวี่เฟยกล่าวด้วยความโมโห
“ไม่ ไม่รู้” ฉินเจ้าสามพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ
“แกไอ้คนไม่มีประโยชน์!” ฉินเจ้าสองด่าออกมาด้วยความโมโห: “ใครทำร้ายแกแกยังไม่รู้เลย แกยังคิดจะล้างแค้น? ฝันไปเหอะ!”
คุณพ่อของฉินวี่เฟยทอดถอนใจ กล่าว: “เจ้าสอง ใจเย็น ๆ เจ้าสาม เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฉันฟังซิ”
ฉินวี่เฟยในเวลานี้ กำลังนั่งดูรายงานต่าง ๆ อยู่ที่บ้านตระกูลฉิน
ระยะนี้ธุรกิจของตระกูลฉินต่างถูกโจมตี เรื่องวุ่นวายต่าง ๆ ทำให้ฉินวี่เฟยหัวหมุนไปหมด แต่ก็ไม่อาจไม่สนใจได้ เพราะเหตุนี้เธอจึงปวดหัวเป็นอย่างมาก
เธอถอนหายใจหนึ่งครั้ง ฉินวี่เฟยวางเอกสารฉบับหนึ่งลง ภาวนาในใจให้หลี่ฝางกลับมาเร็ว ๆ
ในเวลานี้เอง เสียงเคาะประตูรัว ๆ พลันดังขึ้น
“ผมคือไท่ซาง ข้างในมีคนอยู่ไหม?” เสี่ยงกระซิบกระซาบของไท่ซางดังลอยมาจากด้านนอก
“ไท่ซางเหรอ?” ฉินวี่เฟยดีอกดีใจขึ้นมา: “หลี่ฝางกลับมาหรือยัง?”
กล่าวไป เธอพลางรีบเดินไปเปิดประตู แต่กลับพบไท่ซางเพียงแค่คนเดียว
“ลูกพี่สั่งให้ผมมาคุ้มครองคุณ” ไท่ซางกล่าวเสียงเบา: “เขาบอกว่าเขาจะซ่อนตัวคอยสืบหาข้อมูล”
“เยี่ยมไปเลย! เข้ามาก่อนเถอะ อย่าให้คนอื่นเห็นเข้า” ฉินวี่เฟยรีบให้ไท่ซางเข้ามาข้างใน จากนั้นก็ปิดประตูลง