NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่955 ฉินวี่เฟยถูกจับตัวไป
ความเจ็บปวดถึงขีดสุด ในที่สุดมันก็เกินกว่าที่เขาจะทนรับได้ ทำให้เสียงร้องโอดโอยของหวางเฉินขาดหายไป และได้สลบไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อมองดูหลี่ฝางที่อยู่ตรงหน้า และหวางเฉินที่ได้สลบไปแล้วนั้น ในแววตาของจ้าวหู่ก็เต็มไปด้วยความหวาดผวา
เขาไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองจะสำเร็จอยู่แล้วแท้ ๆ ทำไมจู่ ๆ ชายผู้ร้ายกาจคนนี้ก็ได้โผล่ออกมา และทำให้แผนที่ตัวเองวางไว้ผิดพลาดไปหมด?
แม้แต่ยอดฝีมือที่ตัวเองใช้เงินมากมายเชิญมาคนนั้น ดูแล้วก็ได้อ่อนแอเช่นนี้
ณ เวลานี้ เสียงที่เย็นชานั้นของหลี่ฝางก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“เมื่อกี๊เป็นนายที่บอกว่าจะจัดการฉันใช่ไหม”
“ไม่ ไม่ ไม่ใช่……” จ้าวหู่ตัวสั่นไปทั้งตัว ถูกโอบล้อมไปด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดขีด
ทันใดนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็อ่อนฮวบลง และได้คุกเข่าลงไปบนพื้น
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ขอร้องล่ะปล่อยฉันไปเถอะ ขอเพียงนายปล่อยฉันไป ฉันยินยอมที่จะแลกด้วยทุกอย่าง”
“แลกด้วยทุกอย่างงั้นเหรอ?” หลี่ฝางหัวเราะเยาะขึ้นมา และยังคงเดินไปข้างหน้าต่อไป
“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน ฉันมีเงินมากมาย นายต้องการเท่าไหร่ฉันให้นายหมดเลยดีไหม?” จ้าวหู่หวาดกลัวสุดขีด เขากล่าวอย่างไม่หยุด
เมื่อได้ยินดังนั้น เฮียจางที่อยู่ด้านหลังก็ได้รีบเอ่ยขึ้นมา: “จ้าวหู่จ่ายเท่าไหร่ฉันจ่ายเท่านั้น จ้าวหู่ แกแข่งกับฉันสิ!”
ยอดฝีมืออย่างหลี่ฝาง ถ้าหากใช้เงินสร้างความสัมพันธ์ได้ งั้นก็คงเป็นการซื้อขายที่มีมูลค่าที่สุดบนโลกใบนี้ กลัวก็แต่ว่า ต่อให้ยอมจ่ายเงินมากแค่ไหน คนอื่นก็ไม่ได้เห็นมันอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
“ขอโทษด้วยนะ” หลี่ฝางหัวเราะเหอะ ๆ : “เดิมทีฉันก็แค่อยากจะสั่งสอนนายแค่นั้นเอง แต่ตอนนี้คนอื่นยินดีที่จะจ่ายเงิน ฉันก็เลยต้องออกแรงหน่อยเท่านั้นเอง”
หลี่ฝางยักไหล่ แสร้งทำท่าทีไร้เดียงสา
ในที่สุดจ้าวหู่ก็เข้าใจ ตัวเองไม่มีทางที่จะใช้คำพูดมาเกลี้ยกล่อมชายผู้น่าสะพรึงกลัวที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ได้ ดังนั้นจึงได้หันไปตวาดใส่ลูกน้องของตัวเอง
“ลงมือ ลงมือพร้อมกันเลย! ฉันจ่ายหนึ่งล้าน พวกนายขวางมันเอาไว้!”
อย่างคำพูดที่ว่ามีเงินก็ใช้ผีโม่แป้งได้ เมื่อได้ยินว่าจะได้รับเงินหนึ่งล้าน ลูกน้องของจ้าวหู่ล้วนตาแดงขึ้นมา ถึงขั้นทิ้งเหตุการณ์ที่หลี่ฝางลงมืออย่างน่าเกรงขามเมื่อสักครู่นั้นไปจากสมอง และพุ่งเข้าหาหลี่ฝางอย่างบ้าคลั่ง
“เหอะ ๆ พวกเศษสวะ” หลี่ฝางหัวเราะเยาะ และพุ่งเข้าใส่กลุ่มคนเหล่านั้นทันที
“พวกเราก็ลงมือด้วย!” เฮียจางที่อยู่ด้านหลังเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ทันใดนั้นก็ได้สั่งให้ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังบุกเข้าไป
“ห้ามลงมือนะ!” จู่ ๆ เสียงของหลี่ฝางก็ได้ดังลอยมา: “พวกนายถ้าใครกล้าลงมือ ฉันจะอัดมันซะ”
เฮียจางหยุดฝีเท้าลงทันที
เขาเองก็อยากจะดูเหมือนกันว่า ชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งขนาดไหน น่ากลัวแค่ไหนกันแน่
หลังจากนั้นเฮียจางก็ได้ตะลึงงันขึ้นมาทันที
ลูกน้องของจ้าวหู่ต่างก็ไม่ใช่คนที่จะต่อกรได้ง่าย ๆ แต่ทว่าภายใต้เงื้อมมือของหลี่ฝางแล้ว พวกเขากลับกลายเป็นเพียงก้อนแป้งที่คนอื่นจะบีบคั้นยังไงก็ได้ เพียงชั่วพริบตาเดียว ก็ได้กลายเป็นเหมือนดั่งลูกแตงโม ลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้น
ส่วนพวกลูกน้องที่ยังไม่ได้บุกเข้ามา เมื่อเห็นสภาพอันอนาถาของคนที่อยู่ตรงหน้าพวกนั้น ก็ตาขาวขึ้นมาทันที
ทุกคนต่างเริ่มถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว ตามจังหวะการก้าวเท้าของหลี่ฝาง พวกเขาค่อย ๆ ถอยหลังไปทีละก้าว ไม่นาน ก็เหลือเพียงจ้าวหู่ที่นั่งขาอ่อนอยู่บนพื้น เผชิญหน้ากับหลี่ฝางเพียงลำพัง
“ลูกพี่ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันจะรีบไปจากเมืองเซี่ยงไฮ้ทันทีเลย ได้ไหม?” จ้าวหู่ได้ยอมแพ้อย่างสิ้นเชิง เขามองหลี่ฝางอย่างสิ้นหวัง
เขาไม่เข้าใจเลยว่า ทั้ง ๆ ที่เป็นเพียงการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอาณาเขตเท่านั้นเอง ทำไมถึงได้เป็นอย่างตอนนี้ไปได้?
ชายผู้น่ากลัวที่อยู่ด้านหน้าคนนี้ ได้ปรากฏตัวขึ้นมาตรงไหนกันแน่?
หลี่ฝางจ้องมองจ้าวหู่อย่าเงียบ ๆ จนกระทั่งภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ทันใดนั้นก็ยิ้มขึ้นพลางยื่นมือออกไปตบที่ไหล่ของเขาเบา ๆ แล้วกล่าว: จ่ายสี่ล้าน เป็นค่าซื้อให้ฉันไม่อัดนายในวันนี้ และนายไปจากเมืองเซี่ยงไฮ้เอง เป็นยังไง?”
เจ้าหูตะลึงงัน จากนั้นก็ดีอกดีใจขึ้นมาอย่างสุดขีด และพยักหน้าอย่างรีบร้อนพลางกล่าว: “ไม่มีปัญหา ฉันจะโอนตอนนี้เลย โอนตอนนี้เลย”
กล่าวไป เขาแทบทนรอไม่ไหวที่จะหยิบโทรศัพท์ออกมา
เฮียจางที่อยู่ด้านหลังเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็รีบตะโกนขึ้นมาทันที: “น้องชายหลี่ ไม่ได้นะ……”
“หือ?” หลี่ฝางชำเลืองตามองเขาเบา ๆ จู่ ๆ เฮียจางก็รู้สึกกลัวจนหายใจไม่ออกขึ้นมา เขาหุบปากไปโดยอย่างห้ามไม่ได้
เพียงแต่ว่าเฮียจางได้หุบปากไปแล้ว แต่ลูกน้องที่อยู่ด้านข้างของเขากลับไม่ได้สังเกตเห็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกตินี้ เขาตะโกนด่าออกมา: “นายได้รับเงินไปแล้วนี่! ไอ้เหี้ยเอ๊ย! หรือว่านายคิดจะ……”
ยังไม่ทันได้พูดจบ รองเท้าหนังข้างหนึ่งก็ได้ลอยออกไป และกระแทกเข้าที่ใบหน้าของเขาเต็ม ๆ “ทุกคนต่างก็เป็นอารยชน จะพูดอะไรก็ระวังหน่อย” หลี่ฝางยิ้มและมองไปรอบ ๆ ทุกคนต่างก็หุบปากไปอย่างว่านอนสอนง่าย
จ้าวหู่โอนเงินให้หลี่ฝางอย่างรวดเร็วจนแทบจะรอไม่ไหว จากนั้นก็ก้าวถอยหลังออกไปอย่างเคารพนอบ และรีบวิ่งหนีไปโดยที่เท้าอีกข้างไม่ได้ใส่รองเท้า
แผนการประกาศศักดาครอบครองกิจการอันยิ่งใหญ่อะไรนั่น ยึดครองอาณาเขตกลับมาอะไรนั่น ต่างก็ถูกทิ้งออกไปจากสมองของจ้าวหู่จนหมด ตอนนี้ในใจของเขามีเพียงความคิดเดียว: รีบไปจากที่นี่ ยิ่งเร็วยิ่งดี!
“ปรมาจารย์หลี่แข่งเกร็งไร้เทียมทาน มันทำให้ผมนับถือมากจริง ๆ”
หลังจากที่จ้าวหู่จากไป เฮียจางก็เปลี่ยนสรรพนามการเรียกทันที เขาเดินเข้าไปหาพลางกล่าวอย่างเคารพนอบน้อมสุดขีด
“แค่ทำงานแลกเงินเท่านั้นเอง” หลี่ฝางจ้องมองเฮียจางพลางยิ้ม
“เงินสองล้านนี่ ขอปรมาจารย์หลี่โปรดรับไว้” ลูกพี่จางเข้าใจขึ้นมาทันที จากนั้นก็รีบใช้สองมือยื่นบัตรธนาคารใบนึงออกไป แล้วกล่าวอย่างนอบน้อม
ถึงแม้สำหรับเฮียจางแล้วเงินสองล้านจะไม่ใช่เงินก้อนเล็ก แต่เฮียจางก็ไม่กล้าที่จะไม่ควักเงินนี้ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ต้องควักสี่ล้านอย่างจ้าวหู่ ยังนับว่าดีมากแล้ว
และลูกน้องที่อยู่ด้านหลังของเฮียจางในเวลานี้ต่างก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรอีก ไม่มีใครกล้าทำเหมือนลูกน้องคนเมื่อกี้ ที่ด่าว่าลีฟังอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ
“เหอะ ๆ ขอบคุณมาก” หลี่ฝางยิ้มเบา ๆ เขาชำเลืองตามองไปที่เฉียงจื่ออย่างแปลก ๆ แล้วหันหลังเดินจากไป