NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่957 หยุดลูกกระสุน
เจ้าสามจางมองท่าทีลูกน้องกลุ่มนี้ของตัวเองแล้ว ก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก
“ดีมาก ตื่นตัวกันหน่อย ทำดีแล้ว เฮียติงจะมีรางวัลให้อย่างหนัก!”
ลูกน้องทุกคนต่างร้องไชโยขึ้นมาทันที ชายคนหนึ่งถือโอกาสเอ่ยถาม: “พี่สาม ไอ้หมอนั่นเป็นใครมาจากไหน แค่ต่อกรกับมันเพียงคนเดียว จำเป็นต้องตั้งค่ายใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?”
คนอื่น ๆ ต่างก็อยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที เพราะถึงยังไงอยู่ที่นี่พวกเขามีกันเป็นร้อยคน ตอนที่พวกเขาถูกเรียกมารวมตัวกันในตอนแรก พวกเขายังคิดว่าจะต้องต่อสู้กับคนกลุ่มใหญ่ คิดไม่ถึงว่าเพียงแค่จะต้องต่อสู้กับชายหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้นเอง
“เฮียติงได้พูดแล้ว อย่ามองคนคนนั้นต่ำจนเกินไป” เจ้าสามจางกล่าวอย่างจริงจัง: “คนคนนั้นเป็นยอดฝีมือ”
เขาติดตามเฮียติงมาเป็นเวลานาน และได้เคยเห็นมาแล้วว่ายอดฝีมือที่แข็งแกร่งนั้นร้ายกาจเพียงใด
“ยอดฝีมือเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำคำนี้ ทุกคนต่างก็หัวเราะขึ้นมา ตงจื่อ ยิ่งกล่าวขึ้นมาอย่างเหยียดหยาม: “ยอดฝีมือร้ายกาจมากเหรอ? ต่อให้เขาร้ายกาจแค่ไหน? สามารถหยุดลูกกระสุนไว้ได้ไหมล่ะ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของ ตงจื่อ ทุกคนยิ่งยิ้มอย่างเชื่อมั่นขึ้นมากกว่าเดิม ลูบคลำกระบอกปืนที่อยู่บริเวณเอว แต่ละคนต่างหัวเราะขึ้นมาอย่างแปลก ๆ
“อีกเดี๋ยวเมื่อไอ้หมอนั่นมาถึง ทุกคนลั่นไกลปืนพร้อมกัน ยิงให้ไอ้หมอนั่นพรุนเป็นรูตะแกรงไปเลย”
ในตอนที่ลูกน้องทุกคนกำลังคุยโม้อยู่ไม่หยุดนั่นเอง ลูกน้องคนหนึ่งก็ได้วิ่งเข้ามาจากด้านนอก และเข้าไปรายงานกับเจ้าสามจาง: “พี่สาม ไอ้หมอนั่นมาแล้ว”
ตอนที่รถแท็กซี่จอดลง แววตาของคนขับก็ได้ตะลึงงันไปเป็นที่เรียบร้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับสถานการณ์เช่นนี้ เหล่าอันธพาลหน้าตาโหดเหี้ยมกลุ่มใหญ่ อีกทั้งในมือยังถือชะแลง ประแจมือเอาไว้ หน้าตาท่าทางดุร้ายจ้องมองมาทางนี้
เดิมทีชายคนขับแท็กซี่คิดว่าครั้งนี้เป็นธุรกิจครั้งใหญ่ ถึงได้ยินดีพาหลี่ฝางขับมาไกลขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าไม่เพียงเป็นธุรกิจครั้งใหญ่ ทั้งยังเป็นธุรกิจที่อาจจะต้องแลกด้วยชีวิต
“เอ่อคือ น้องชาย……” เดิมทีคนขับคิดจะดิ้นรนสักหน่อย ดูว่าพอจะเรียกเงินมาชดใช้ความเสียหายในครั้งนี้ได้หรือไม่
คิดไม่ถึงว่าเขาเพิ่งจะเอ่ยปากขึ้นมา ก็มีอันธพาลคนหนึ่งใช้ประแจมือเคาะที่กระโปรงรถของเขา และตวาดขึ้นมา: “ยังไม่รีบใส่หัวไปอีก!”
เมื่อถูกอันธพาลคนนั้นข่มขู่เช่นนี้ คนขับรถก๊อกสั่นขวัญแขวนขึ้นมาทันที เขาไม่คิดเลยสักนิด เปิดประตูรถออกแล้วส่งหลี่ฝางลงจากรถ จากนั้นก็เหยียบคันเร่ง และขับออกไปทันที
“เฮ้อ” หลี่ฝางทอดถอนใจอยู่ภายในใจ เขาไม่ได้ตั้งใจจะไม่จ่ายเงินสักหน่อย
ไม่ได้สนใจพวกอันธพาลที่จ้องมองเขาด้วยสายตาดุร้ายที่ยืนอยู่ทั้งสองข้างเลยสักนิด หลี่ฝางก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปข้างใน
แน่นอนว่าคนพวกนี้จะไม่ยอมให้หลี่ฝางเข้าไปง่าย ๆ แบบนี้แน่นอน ตลอดทาง หลี่ฝางเงียบสงบไม่ได้เอ่ยอะไร คนพวกนี้ก็ได้เริ่มด่าว่าขึ้นมาด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
“ลูกพี่ให้พวกเรามากันเยอะแบบนี้ก็เพื่อต่อกรกับไอ้เศษสวะคนนี้งั้นเหรอ?”
“ฉันว่านะ อีกเดี๋ยวแกอย่าฉี่ราดแล้วกัน”
“ไอ้หมอนี่หน้าตาดีไม่เบาเลยนี่ แต่ก็ไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นยังไงบ้าง”
คำพูดก่อนหน้านั้นหลี่ฝางทำเป็นไม่ได้ยิน แต่พอฟังจนถึงตรงนี้ ฝีเท้าของหลี่ฝางก็ได้หยุดลง
เขาหันไปมองชายกล้ามโตที่พูดคำนี้ออกมาเมื่อสักครู่ หลี่ฝางยิ้มเยาะ: “แกอยากรู้เหรอ?”
ชายกล้ามโตชะงักงันไปก่อนเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะแฮ่ ๆ ขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์: “ไอ้หนุ่ม อย่าอวดดีไป อีกเดี๋ยวจะให้แกได้ลองชิมความร้ายกาจของปู่ดู……”
ยังไม่ทันได้พูดจบ เท้าข้างหนึ่งก็ได้เตะเข้าไปที่ท้องของเขาอย่างแรง
เสียงอู้อี้ดังขึ้นหนึ่งครั้ง ร่างสูงใหญ่เกือบเมตรเก้าสิบของชายฉกรรจ์คนนั้นก็ได้ถูกเตะจนลอยออกไป และกระแทกเข้ากับผนังที่อยู่ห่างออกไปอย่างแรง ทำให้เกิดเสียงดังโครมครามขึ้นมาทันที
ชายฉกรรจ์คนนั้นตกจากผนังลงสู่พื้น ทันใดนั้น บนผนังก็ได้ปรากฏรอยร่างคนพร้อมกับเลือดขึ้นมา
เมื่อเห็นภาพสถานการณ์เช่นนี้ ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็เงียบไปทันที เสียงด่าว่าเหยียดหยามในเมื่อก่อนก็ได้เงียบไป
คนพวกนี้คิดไม่ถึงว่า จะมีคนแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้ ที่สามารถเตะคนที่มีร่างกายสูงใหญ่ลอยออกไปไกลขนาดนี้ได้ในครั้งเดียว แถมยังมีสภาพที่อนาถาเช่นนี้
ชายฉกรรจ์คนนั้นยังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ คนพวกนี้ต่างก็ไม่กล้าเข้าไปตรวจดู
ทุกคนที่ถูกทำให้ตกใจ จิตใต้สำนึกทำให้พวกเขาต้องแสวงหาสิ่งที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย จากนั้นจึงได้คลำไปโดนปืนที่เหน็บอยู่บนเอว
ดังนั้นจึงได้มีคนคว้าปืนออกมาเป็นคนแรก
คนอื่น ๆ เห็นว่ายังไงซะก็มีคนควักปืนออกมาแล้ว จึงไม่ได้เกรงใจอีกต่อไป และต่างก็นำปืนออกมาถือไว้ในมือเหมือนกันภายในใจของพวกเขารู้สึกสบายใจขึ้นมาไม่น้อย
ต่อให้ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้จะร้ายกาจแค่ไหนยังจะร้ายกาจกว่าปืนอีกงั้นเหรอ? นี่คือสิ่งที่คนเหล่านั้นคิดอยู่ในใจ
“ไอ้หนุ่ม แกร้ายกาจมากเหรอ?” เจ้าสามจางแสยะยิ้มเดินออกมา เขาใช้ปืนเล็งมาที่หลี่ฝางแต่ไกล
ยังไงซะพี่ใหญ่ที่อยู่ข้างบนก็ได้บอกว่า ขอเพียงแค่สามารถฆ่าหลี่ฝางได้ ก็นับว่าว่าเรื่องนี้เขาทำได้สวย พอสำเร็จลูกพี่ด้านบนจะมีรางวัลให้อย่างหนัก เงินรางวัลที่เขาได้รับนั้นอาจจะมากพอให้เขาเกษียณได้เลยทีเดียว และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างสบาย ๆ
สำหรับฉินวี่เฟยที่ถูกพวกเขาจับตัวมา เขาไม่กล้าจะแตะต้องหรอกนะ ถ้าทำให้เธอบาดเจ็บโดยไม่ระวัง เกรงว่าหัวของเขาคงต้องย้ายที่อยู่แน่นอน
ในเวลานี้ฉินวี่เฟยเองก็ได้มองเห็นเงาร่างของดีฟาง น้ำตาของเธอไหลออกมาทันที
ถึงแม้เธอจะรู้ว่าหลี่ฝางร้ายกาจมาก แต่กลับไม่รู้ว่าที่จริงแล้วหลี่ฝางร้ายกาจถึงเพียงใด แต่ในความคิดของเธอแล้ว คนคนหนึ่งถึงจะร้ายกาจเพียงใด ก็คงไม่มีทางที่จะหยุดลูกกระสุนเยอะขนาดนั้นเอาไว้ได้สินะ?
หลี่ฝางเองก็ได้รับรู้ถึงแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของฉินวี่เฟย จึงได้ส่งยิ้มให้กับฉินวี่เฟย เป็นเชิงบอกให้เธอไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเอง
ของอย่างปืนน่ะนะ เข้าได้พบเจอมาบ่อยครั้งแล้ว แม้แต่ปืนสไนเปอร์เขาก็ยังเคยเผชิญหน้ามาแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะสามารถทำอะไรเขาได้เลย
แต่ว่าเขาก็ยังรู้สึกตกใจอยู่บ้าง คนพวกนี้แม้กระทั่งปืนยังหามาได้
เพราะถึงยังไงสถานที่อย่างเมืองเซี่ยงไฮ้ ไม่ใช่ว่าจะหาปืนมาได้ง่าย ๆ แบบนี้หรอกนะ โดยเฉพาะปืนเป็นสิบกระบอกแบบนี้
อย่างน้อยเฮียติงที่ว่าคงทำแบบนี้ไม่ได้ เช่นนั้นที่เบื้องหลังของเฮียติงจะต้องยังมีคนอยู่อีกอย่างแน่นอน