NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่960 สำนักหยิ่งซาลงมืออีกครั้ง
หลี่ฝางกล่าวอธิบาย: “ผมได้ฆ่ากี่คนหรอก ส่วนมากก็แค่สลบไป คุณมาเอาพวกมันกลับไปจัดการเถอะ”
“ได้ ฉันจะรีบไปทันที” หลิวฮุยโล่งอกขึ้นมา
“อ้อใช่แล้ว ยังมีเฮียติงคนนั้น มันต้องตาย” หลี่ฝางกล่าวเสริมขึ้นมา ถึงแม้ว่าหลิวฮุยจะตกลงหรือไม่นั้นเขาก็ยังคงต้องลงมืออยู่ดี ที่พูดแบบนี้ ก็เพื่อบอกให้หลิวฮุยรับรู้เท่านั้นเอง
“แล้วแต่นาย พวกเราเองก็อยากจัดการเฮียติงอะไรนั่นมานานแล้ว เพียงแค่ยังไม่มีโอกาสแค่นั้นเอง ถ้าหากนายต้องการล่ะก็ พวกเราสามารถช่วยเหลือนายได้
คำตอบของหลิวฮุยนั้นเกินความคาดหมายของหลี่ฝางมาก และทำให้สีหน้าท่าทีของหลี่ฝางเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดขึ้นมา
“ไม่ต้องให้พวกคุณยื่นมือเข้ามาหรอก แค่ให้ข้อมูลของเฮียติงกับผมมาก็พอ” หลี่ฝางไม่คิดที่จะให้ต้าเซี่ยหลงเช่วเข้ามาแทรกแซง
“ไม่มีปัญหา อีกไม่นานเอกสารจะถูกส่งไปให้นาย ฉันมีข้อเรียกร้องเพียงข้อเดียว อย่าทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา”
“สบายใจได้” หลี่ฝางรับปาก
……
เฮียติงในเวลานี้กำลังเข็นหวงซีหมิงไปบนถนนอย่างรวดเร็ว
“เฮียติง พวกเรากำลังจะไปที่ไหนกันเหรอ?” หวางซีหมิงเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
เดิมทีเขานั่งรอฟังข่าวอยู่ที่บ้าน จู่ ๆ เฮียติงก็ได้มาหา บอกว่ามีเรื่องจะหารือด้วย จึงได้พาเขาออกมา
“ไอ้หมอนั่นถูกพวกเราจับตัวได้แล้วครับ นายน้อย” เฮียติงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากเบา ๆ ท่าทางบนใบหน้าเหมือนกับว่าจะตื่นเต้นเล็กน้อย: “ผมจะพาคุณไปดูว่าจะจัดการกับมันยังไงดี”
“อะไรนะ? จับได้แล้วจริง ๆ เหรอ?” ทันใดนั้นหวางซีหมิงก็ได้ดีใจขึ้นมากกว่าที่คิดไว้ ในหัวของเขาได้ปรากฏภาพเหตุการณ์ที่ตัวเองทุกข์ทรมานหลี่ฝางขึ้นมาแล้วเรียบร้อย
ให้เฮียติงไปจัดการหลี่ฝาง ทั้งยังช่วยเฮียติงหาปืนมา แน่นอนว่าเป็นหวางซีหมิงนั่นเอง
ความโกรธแค้นที่เขามีหลี่ฝางนั้น ได้เข้ากระดูกดำไปนานแล้ว ดังนั้นถึงได้ติดต่อเฮียติงไป ถึงแม้จะต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงแบบไหน ยังไงก็ต้องจัดการหลี่ฝางให้ได้
ไม่นาน ทั้งสองคนก็ได้มาถึงบาร์แห่งหนึ่ง
เมื่อเห็นที่นี่ยังคงมีผู้คนคึกคักมากมาย หวางซีหมิงก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย: “ทำไมที่นี่คนยังเยอะแบบนี้อยู่อีกล่ะ?”
เฮียติงกล่าวขึ้นมา: “นายน้อยอย่าพึ่งใจร้อนไป อีกเดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง”
กล่าวไป เฮียติงก็ได้เข็นรถเข็นพาหวางซีหมิงเข้าไปที่ห้องห้องหนึ่งในบาร์แห่งนั้น เขาเปิดประตูบานหนึ่งออก และเข็นหวางซีหมิงไปโดยไม่ลังเล
“ที่แท้ที่นี่ยังมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วยเหรอนี่!” ดวงตาคู่นั้นของหวางซีหมิงเป็นประกายขึ้นมา เขาลูบมือถูกำปั้นของตัวเอง ทนรอไม่ไหวที่จะได้เห็นสภาพอันอนาถาของหลี่แล้ว
ไม่นาน ทั้งสองคนก็ได้มาถึงห้องใต้ดินแห่งหนึ่ง หวางซีหมิงกลับพบว่าข้างในนั้นไม่ได้มีคนที่ตัวเองอยากจะพบอยู่เลย ในทางกลับกันสภาพแวดล้อมที่อึดอัดและมืดมนของที่นี่ ทำให้หวางซีหมิงรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาภายในใจ
“เฮียคิดจะทำอะไร?” หวางซีหมิงกระซิบถามอย่างอดไม่ได้
ที่นี่คือเมืองเซี่ยงไฮ้นะ หรือว่ามีคนกล้าที่จะลงมือกับคนตระกูลหวงงั้นเหรอ?
แต่ทว่าหวางซีหมิงยังคงเดาผิดเหมือนเดิม เห็นเพียงชาวต่างชาติผมสีทองตาสีฟ้าสองสามคนเดินออกมาจากห้องใต้ดิน และยิ้มอย่างเย็นชาให้กับหวางซีหมิง จากนั้นบริเวณลำคอของหวางซีหมิงก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ราวกับว่าได้ถูกอะไรบางอย่างแทงเข้าไป
“เหอะ ๆ นายหลับให้สบายก่อนเถอะ ตื่นขึ้นมาก็จะได้เจอกับศัตรูของนายแล้ว”
หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้จบไป สติสัมปชัญญะของหวางซีหมิงก็ได้เข้าสู่ความมืดมนทันที
ในตอนที่หลี่ฝางก้าวเท้าเข้ามาที่บาร์แห่งนี้ บริเวณโดยรอบยังคงมีชายหนุ่มหญิงสาววัยรุ่น โยกย้ายส่ายสะโพกตามอำเภอใจอยู่เหมือนเดิม
สภาพแวดล้อมที่วุ่นวายเช่นนี้ ทำให้หลี่ฝางขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
จากนั้นเขาก็พบว่า หญิงสาวหน้าตาดีที่คะแนนเต็มสิบสามารถให้สักเจ็ดแปดคะแนนคนหนึ่งได้เดินเข้ามา
“มาคนเดียวเหรอคะ สุดหล่อ?” หญิงสาวหน้าตาดีเดินตรงเข้ามา จากนั้นก็เอามือมาจับที่ไหล่ของหลี่ฝางอย่างใจกล้า แล้วส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้กับหลี่ฝาง
หลี่ฝางไม่ใช่ผู้ชายอ่อนหัด เขาที่มีประสบการณ์มากมายได้มองความประหม่าของหญิงสาวหน้าตาดีออกทันที ท่าทางที่เธอเข้ามาทักทายนั้นมันดูห่างเหินเกินไป ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนที่มาที่นี่บ่อยนัก
“ใช่” หลี่ฝางยิ้มเล็กน้อย หางตาของเขาเหลือบไปเห็นชายฉกรรจ์หน้าตาโหดเหี้ยมที่กำลังเดินมาทางนี้
“งั้นฉันดื่มกับคุณสักแก้วดีไหม?” หญิงสาวหน้าตาดีขยับเข้ามาเล็กน้อย จากนั้นก็เป่าลมหายใจที่ข้างหูของหลี่ฝาง เบา ๆ : “คุณคงไม่ใจร้ายปฏิเสธฉันหรอกใช่ไหมล่ะ?”
ในเวลานี้เองชายฉกรรจ์ใบหน้าดุร้ายคนนั้นก็ได้เดินเข้ามา และตบมือข้างหนึ่งลงไปบนโต๊ะ พลางตวาดกล่าว: “สาวน้อย ยังไม่ได้ดื่มเลย ทำไมถึงหนีมาดื้อ ๆ อย่างนี้ล่ะ?”
หญิงสาวหน้าตาดีคนนั้นมองชายฉกรรจ์อย่างหวาดกลัว และกล่าวขึ้นมาอย่างร้อนรน: “อย่าเข้ามานะ นี่คือแฟนของฉัน!”
“แฟนแล้วยังไงล่ะ” ชายฉกรรจ์ไม่ได้เห็นหลี่ฝางอยู่ในสายตาเลยสักนิด: “ให้เธอดื่มเหล้าเป็นเพื่อนฉัน รีบดื่มเหล้าแก้วนี้ซะแล้วค่อยพูด”
ผู้คนที่อยู่โดยรอบเมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา
“แม่งเอ๊ย ไอ้สาระเลวนั่นอีกแล้ว ทำให้บรรยากาศของที่นี่หมุนหมองไปหมด”
“เหอะ ๆ ถ้านายมีความสามารถพอนายก็ไปเป็นวีรบุรุษช่วยสาวงามสิ ไม่เห็นเหรอว่าผู้ชายที่อยู่ข้างกายของผู้หญิงคนนั้นไม่กล้าพูดอะไรเลยสักคำ?”
“เฮ้อ ไอ้หมอนั่นไม่กลัวแม้กระทั่งตำรวจ พวกเราจะทำอะไรมันได้ล่ะ”
“สาวน้อยคนนั้นก็ไร้เดียงสาเอาซะเลยจริง ๆ คิดว่าแค่หาใครสักคนก็จะผ่านเรื่องนี้ไปได้แล้วงั้นเหรอ? มาเที่ยวในสถานที่แบบนี้ ก็น่าจะเตรียมตัวมาบ้าง”
“จุ๊ ๆ ไอ้หนุ่มนั่นตกใจกลัวจนเอ๋อไปหรือเปล่า? ทำไมถึงไม่ขยับเลยล่ะ?”
ฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ประโยคแล้วประโยคเล่า ชายฉกรรจ์คนนั้นยิ่งได้ใจขึ้นมาใหญ่ เขายื่นมือเตรียมที่จะไปจับหญิงสาวหน้าตาดีคนนั้น พลางชำเลืองมองหลี่ฝาง อยากจะดูซิว่าหลี่ฝางจะมีปฏิกิริยายังไง