NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่963 กำลังภายในตัดเส้นจนตาย
“พวก พวกคุณคิดจะทำอะไร!”หวางซีหมิงตะโกนด้วยความตกใจ“ผม ผมเป็นคนตระกูลหวางนะ!ผมเป็นหลานชายคนโตตระกูลหวาง!พวกคุณกล้าทำร้ายผม ไม่กลัวตระกูลหวางมาหาเรื่องพวกคุณเหรอไง?”
แค่เสียดายที่คำพูดแข็งนอกอ่อนในของเขานั้นไม่มีใครสนใจเลย
“เป็นไง คุณหลี่ คุณก็ไม่อยากไปยุ่งกับปัญหานี้ใช่ไหม?”เกียร์หัวเราะด้วยใบหน้าอบอุ่น
มองใบหน้าเรียบเฉยของหลี่ฝาง เกียร์กลับไม่กังวลเลยสักนิด เขาเชื่อว่าหลี่ฝางจะต้องไม่ให้หวางซีหมิงตายไปง่ายๆแบบนี้
ยังไง หวางซีหมิงในฐานะที่เป็นตระกูลหวางโดยตรง ถูกทำร้ายกับถูกฆ่าเป็นเรื่องที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
และถ้าหากหวางซีหมิงตายที่นี่ งั้นหลี่ฝางที่อยู่ตรงนี้จะต้องเป็นบุคคลที่ถูกสงสัยคนแรกแน่นอน
“คุณหลี่!ความต้องการของผมนั้นง่ายมาก!”
เกียร์ยิ้มให้:“แค่คุณปล่อยผมไป ผมก็จะปล่อยหวางซีหมิง ว่าไง ข้อตกลงนี้ยุติธรรมไหม?”
ได้ยินเกียร์พูดแบบนี้ เฮียติงที่อยู่ข้างๆก็ตื่นตระหนก รีบถามว่า:“คุณเกียร์ คุณทิ้งผมไม่ได้นะ!”
เขาไม่ได้โง่ กลับกัน เสเพลได้จนถึงจุดนี้ นั่นเขาฉลาดมาก เลยฟังออกไปโดยปริยาย ในคำพูดของเกียร์ไม่สนความเป็นความตายของเขาเลยสักนิด
“คุณ?”เกียร์หัวเราะเหอะเหอะ หมัดตบออกไปอย่างแรง ตบไปที่หัวของเฮียติงฉาดหนึ่ง
เฮียติงที่มีอำนาจมาก ก็ตายไปแบบนี้แล้ว
“แบบนี้เอาไง?”เกียร์พูดต่อว่า:“คุณปล่อยให้ผมรอด ผมรับรองว่าตั้งแต่นี้ไปสำนักหยิ่งซาของพวกเรา จะไม่เป็นศัตรูกับคุณอีก และ ……”
“ไม่มีใครขู่ผมได้”เสียงเย็นชาของหลี่ฝางตัดบทของเกียร์ จากนั้น เกียร์ก็พบสิ่งที่ทำให้หวาดกลัว หลี่ฝางเอาปืนจ่อไปที่หวางซีหมิง
“ลาก่อน”
“ปัง!”
หวางซีหมิงเอนหลังไปโดยทันที การแสดงออกที่หวาดกลัวและยากที่จะเชื่อปรากฏอยู่ที่ใบหน้าเขาตลอดไป
เกียร์มองหวางซีหมิงที่ไม่มีลมหายใจแล้วอย่างยากที่จะเชื่อ รูเลือดที่หน้าผากเหมือนว่ากำลังหัวเราะเยาะเขา ทำให้สีหน้าเกียร์ดูแย่ขั้นสุด
ยังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่า หลี่ฝางจะฆ่าหวางซีหมิงอย่างไม่แคร์ใดๆเลย
สถานะตัวตนของตระกูลหวาง ในใจเกียร์นั้นรู้ดี
คุณท่านคนนั้นที่มีอำนาจมากในตอนนั้น ถึงแม้ตอนนี้จะแก่แล้ว แต่ยังคงมีพลังที่น่ากลัวสุดๆ
หวางซีหมิงตายแล้ว กลัวว่าตระกูลหวางจะทำการแก้แค้นคนที่เกี่ยวข้องอย่างบ้าระห่ำแน่
ตระกูลใหญ่บ้าขึ้นมาแบบนี้ กลัวว่าจะเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้ใครก็ตามบนโลกนี้ต่างปวดหัว
และเพราะแบบนี้ เกียร์จึงเลือกใช้หวางซีหมิงมาต่อรองกับหลี่ฝาง
แค่เขาคิดไม่ถึงว่าหลี่ฝางจะกำจัดหวางซีหมิงทิ้งอย่างไม่แคร์ ง่ายซะยิ่งกว่ากำจัดหมาตัวหนึ่งทิ้งเสียอีก
“เดิมทีผมก็คิดจะเล่นงานตระกูลหวางอยู่แล้ว”หลี่ฝางพูดเบาๆ“หวางซีหมิงต้องตาย ที่ผมพูด ใครก็ขวางไม่ได้”
คำพูดของหลี่ฝาง ทำให้เกียร์ไม่อาจรับได้มากขึ้น
ที่จริงหลังจากรู้ว่าเป็นหวางซีหมิงออกคำสั่งจับตัวฉินวี่เฟยไป หวางซีหมิงก็เป็นศัตรูในใจของหลี่ฝางแล้ว
เขาไม่ให้ใครก็ตามทำร้ายฉินวี่เฟย ถึงจะเป็นคนตระกูลหวาง ก็ต้องฆ่าทิ้ง
มองหลี่ฝางที่ใบหน้ามีความอาฆาตอย่างมาก ในที่สุดก็พอจะเข้าใจ ความมุ่งมั่นที่น่ากลัวของผู้ชายตรงหน้าคนนี้
ในที่สุดก็เข้าใจว่า วันนี้ตัวเองไปจากที่นี่ไม่ได้
พอคิดแบบนี้ เกียร์กลับหัวเราะอย่างปล่อยวาง แล้วพุ่งเข้าไปที่หลี่ฝาง……
……
ด้านนอกผับรายล้อมไปด้วยผู้คน แทบจะล้อมอยู่หน้าประตูผับอย่างหนาแน่นมาก
คนจำนวนมากล้วนแต่เป็นคนที่เพิ่งหนีออกมาจากผับ แต่ไม่ยอมไปเพราะจะดูความคึกคัก
ส่วนพวกตำรวจที่ได้ข่าวก็รีบมา และปิดล้อมผับไว้ทั้งหมด ไม่ให้ใครก็ตามเข้าออก
ในบรรดาตำรวจ ชายวัยกลางคนที่กำลังสั่งคนสองสามคนให้ติดเทปกั้นเขตพื้นที่ไว้ก็มองไปที่ประตูผับที่สีดำมิด ในใจก็เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน
ไม่เข้าใจว่าด้านในเกิดอะไรขึ้น และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมด้านบนต้องออกคำสั่งไม่ให้ใครก็ตามเข้าไป
คำสั่งนี้ รวมถึงพวกเขาด้วย
เจิ้งเซียวได้แค่เดา นี่คือเรื่องฆาตกรรมที่โหดร้ายมาก
ตอนที่เจิ้งเซียวเข้าสู่ความคิดนั้นเอง จู่ๆกลุ่มคนเปิดที่กันเขตพื้นที่ออกแล้วเดินเข้ามา
“คุณผู้ชาย ในนี้ปิดล็อกแล้ว ห้ามใครเข้ามาเด็ดขาดครับ”เจิ้งเซียวรีบขึ้นไปขวาง
อย่างไรก็ตามผู้ชายที่อยู่หน้าสุดในกลุ่มคนก็ได้แต่มองเขานิ่งๆ ไม่พูดอะไร ผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งที่อยู่หลังเขาจคงเข้ามาพูดว่า:“คนกันเอง ตอนนี้ที่นี่ให้พวกเรารับผิดชอบแล้ว”
“พวกคุณเป็นคนหน่วยงานไหน?”เจิ้งเซียวขมวดคิ้ว“ขอโทษครับ แสดงบัตรประชาชนหน่อยได้ไหม?”
หญิงสาวไม่สนใจท่าทีของเจิ้งเซียว หยิบบัตรประชาชนออกมาจากเสื้อผ้าแล้วโชว์ตรงหน้าของเจิ้งเซียว
“ต้าเซี่ยหลงเช่ว?หลี่หยุนหยุน?”
เจิ้งเซียวไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ดังนั้นการแสดงออกของเขาก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้น
แต่ที่น่าแปลกก็คือ เขากลับรู้สึกคุ้นแปลกๆกับหลี่หยุนหยุนชื่อนี้ เหมือนว่าเคยได้ยินที่ไหน
“ขอโทษที ผมต้องแน่ใจตัวตนของพวกคุณก่อน”เจิ้งเซียวพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ
เห็นฝ่ายตรงข้ามพยักหน้า เจิ้งเซียวรีบโทรศัพท์ไปที่ด้านบนถามว่าต้าเซี่ยหลงเช่วคืออะไรขึ้นกันแน่ จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป ดูเหนือความคาดหมายสุดๆ
และตอนที่เผชิญหน้ากับคนกลุ่มนี้อีกครั้ง เจิ้งเซียวก็พูดด้วยใบหน้าที่ดูนับถือ:“ขอโทษนะ พวกเราจะออกไปทันที”
เห็นได้ชัดว่า เขาเข้าใจแล้วว่าต้าเซี่ยหลงเช่วเป็นหน่วยงานแบบไหนกันแน่