NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง - บทที่965 ตระกูลหวางยอมแพ้อีกครั้ง
“คุณพาพวกเราขึ้นไป บอกว่าเป็นรูมเซอร์วิส หลอกให้เขาเปิดประตู”ภายใต้การขอร้องของเจิ้งเซียว หญิงสาวเคาน์เตอร์ก็พาพวกเขาไปที่หน้าลิฟต์อย่างกลัวตัวสั่นงันงก
ตอนที่กลุ่มคนกำลังกดลิฟต์ ประตูลิฟต์ด้านหน้ากลับเปิดออกแล้ว ผู้ชายด้านในคนนั้นทำให้เจิ้งเซียวตาเบิกโตทันที
“พวกคุณมาหาผมสินะ?”หลี่ฝางพูดยิ้มๆ
ได้ยิน เจิ้งเซียวก็เดินเข้าไปพูดกับหลี่ฝาง:“คุณคือหลี่ฝางใช่ไหม?ให้ความร่วมมือไปกับพวกเราหน่อย อย่าทำให้เราปฏิบัติงานยาก”
น้ำเสียงของเจิ้งเซียวนั้นนิ่งมาก เขาไม่รู้จักหลี่ฝาง ก็แค่เพิ่งจะเห็นภาพเหมือนของหลี่ฝางเท่านั้น
แต่เขามองจากกิริยาท่าทางของหลี่ฝาง มองออกว่าหลี่ฝางมีการเตรียมตัวกับการมาของพวกเขาอยู่แล้ว และยังไม่เห็นถึงการต่อต้านใดๆอีกด้วย
ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ทำท่าทีให้ดีหน่อยดีกว่า ดีกว่ามีปัญหาใหม่สอดแทรกเข้า สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นอีก
“ไปเถอะ!”
หลี่ฝางเดินออกไปที่นอกประตูโดยตรง
สำหรับหญิงสาวหน้าเคาน์เตอร์ที่ตัวสั่นอยู่ข้างๆ หลี่ฝางไม่เคยคิดจะทำอะไรเธออยู่แล้ว
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ หลี่ฝางก็ไม่อาจแก้แค้นเธออย่างไม่มีสติได้
……
เจิ้งเซียวในตอนนี้ไม่รู้ว่า โจวผิงลูกพี่ของเขากำลังพูดคุยกับคนอื่นด้วยเหงื่อที่เต็มหน้า
“เรื่องนี้พวกเราจะต้องติดตามให้ถึงที่สุด ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆขึ้นได้!”
ที่คุยกับเขาก็คือคนใหญ่คนโตที่ปกติแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา ตอนนี้กลับตำหนิเขากับทัศนคติในการทำงานที่ถูกต้อง
โจวผิงที่ทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่รับประกันกับฝ่ายตรงข้าม
เพิ่งวางสายไป โจวผิงยังไม่ทันได้หายใจ โทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นอีก
เขาได้แต่รับสายทันที และทักทายคนทางนั้นอย่างอ่อนน้อม
ยังไง สายโทรศัพท์มากมายในคืนนี้ ก็ทำให้เขาบ่มเพาะการพูดจาให้เกียรติก่อนจนเป็นนิสัยแล้ว
แต่ครั้งนี้คนทางนั้นเคารพนอบน้อมกว่าโจวผิง เรียกได้ว่าเป็นคนระมัดระวังจนแทบจะขี้กลัวเล็กหน่อย
“ลูก ลูกพี่ ผมเสี่ยวหลัวเองนะ ด้านนอกมีคนมาหาคุณ”
โจวผิงได้ยินเสียงนี้ก็โล่งอกทันที ถือว่าไม่ใช่คนใหญ่คนโตที่ไหน ถามไปว่า:“ใครหาผม?”
เสี่ยวหลัวไม่รู้ว่าอะไรคือต้าเซี่ยหลงเช่ว จึงตอบไปงั้นๆว่า:“บอกว่าเป็นหลิวฮุยแห่งต้าเซี่ยหลงเช่ว”
“อะ……อะไรนะ!”หัวใจของโจวผิงที่เพิ่งจะโล่งอกไปก็เกร็งขึ้นอีกครั้ง ยืนขึ้นแล้วเกินไปด้านนอกทันที
เขารู้ว่าต้าเซี่ยหลงเช่วคืออะไร
แป๊บเดียว เขาก็เห็นหลิวฮุยยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ รีบเดินเข้าไปด้วยใบหน้าเต็มรอยยิ้ม:“คุณหลิว ท่านมาแล้ว”
“ใช่”หลิวฮุยพูดนิ่งๆ“คุณโจว ปล่อยหลี่ฝางเถอะ”
“เอ่อ……”โจวผิงถอนหายใจ พูดด้วยใบหน้าขมขื่น:“คุณหลิว เรื่องนี้ตอนนี้ผมก็ทำการตัดสินใจเองไม่ได้ คืนนี้ผมได้รับสายมาทั้งคืน ที่จริงแล้ว ……”
ตอนนี้เขาก็เหมือนกับคนกลางที่ติดอยู่กับความขัดแย้งระหว่างคนสองคน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ช่างลำบากใจเสียจริง
หลิวฮุยพยักหน้า หัวเราะ:“ไม่เป็นไร ตอนนี้คุณรับสายสุดท้ายอีกสาย สายอื่นๆคุณก็ไม่ต้องสนแล้ว”
พูดไป หลิวฮุยโทรหาเบอร์หนึ่งต่อหน้าโจวผิง แล้วยื่นให้โจวผิงโดยตรง
ที่จริงโจวผิงยังสงสัยมากว่าเป็นสายโทรศัพท์ของใครถึงได้มีประสิทธิภาพมากขนาดนี้ แต่ตอนที่เขาได้ยินเสียงที่ฟังดูแก่ในโทรศัพท์นั้น เขาก็ตะลึงงันไปหมด
“เสี่ยวโจว!หลี่ฝางเป็นเด็กดี”
“ครับ ผมเข้าใจ ลูกพี่ ผมจะจัดการทันที”
โจวผิงคนรับสายถือโทรศัพท์ไว้ด้วยความตื่นเต้น ตัวสั่นไปทั้งตัวเพราะความกังวล
ถึงแม้ทางนั้นจะพูดประโยคสั้นๆแล้วก็วางสายไป แต่ความดีใจในใจของโจวผิงกลับยังไม่หายไปเลย
แป๊บเดียว โจวผิงก็นำหลิวฮุยมาหาหลี่ฝาง
เห็นโจวผิงมาแล้ว เจิ้งเซียวจึงเข้าไปต้อนรับทันที
“ลูกพี่!”
ตอนที่เขาเห็นคนสองคนที่อยู่ข้างกายโจวผิง ทันใดนั้นในใจก็เต้นอย่างแรง
“เร็ว ปล่อยคุณหลี่”โจวผิงพยักหน้า พูดด้วยความที่ค่อนข้างจะเอาใจใส่
เห็นเงาของหลิวฮุย หลี่ฝางก็เข้าใจว่าเรื่องราวแก้ไขเรียบร้อยแล้ว จึงพยักหน้า พูดว่า:“ไม่ต้องแล้ว ไปเถอะ”
พูดจบ หลี่ฝางจึงดินออกไปอย่างช้าๆ
“ลูกพี่ เอ่อ……”
เจิ้งเซียวอยากจะพูดอะไรอีก ก็ถูกลูกพี่ตัวเองจ้องเขม็ง ได้แต่เอาคำพูดนั้นกลืนกลับไป
โจวผิงไม่ได้ทำอะไร ได้แต่ปั้นหน้ายิ้มแย้ม ส่งพวกหลี่ฝางทั้งสามคนออกไปตลอดทาง
มาถึงด้านนอก หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะบ่นหลิวฮุยไปว่า:“พวกคุณช้ามากเลย ผมคุยอยู่ด้านในกับเขาตั้งนาน”
เขามีความมั่นใจว่าจะบ่น ทั้งที่ฝ่ายตรงข้ามบอกแล้วว่าไม่มีอะไรแล้ว สุดท้ายดันทำแบบนี้อีก ถ่วงเวลาเขาไปตั้งเยอะ
หลิวฮุยมองออกว่าอารมณ์หลี่ฝางไม่ดี จึงหัวเราะอย่างขมขื่นอธิบายออกไป
“ก็ไม่มีทางนี่ครับ ที่จริงทางนี้ไม่มีอะไรแล้ว แต่นายท่านหวางก็สร้างแรงกดดันให้ผู้คนอย่างมาก ดังนั้นเลยทำเรื่องเกิดขึ้นตั้งมากมาย แต่ว่าตอนนี้แก้ไขหมดแล้ว”
หลี่ฝางพยักหน้า พอเข้าใจต้นสายปลายเหตุของเรื่องราว จึงโล่งใจ
ก็แค่เพิ่มปัญหาให้ผู้อาวุโสอีกแล้ว จึงทำให้หลี่ฝางรู้สึกผิดอย่างมาก
หลิวฮุยเห็นหลี่ฝางพูดแบบนี้ ก็เข้าใจว่าเขาไม่น่าจะสร้างปัญหาได้อีก
ไม่อย่างนั้น หลี่ฝางเล่นงานตระกูลหวางขึ้นมาจริงๆ เรื่องราวจะต้องใหญ่โตอย่างโกลาหลอลหม่านแน่
“โอเค ครั้งนี้เรื่องของคุณจัดการเรียบร้อยแล้ว รีบกลับไปเถอะ อย่าอยู่สร้างปัญหาให้ผมที่เมืองเซี่ยงไฮ้เลย”ในใจหลิวฮุยแอบเช็ดเหงื่อ แล้วแสร้งทำเป็นรังเกียจที่หลี่ฝางพูด
ทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ หลี่ฝางพูดอย่างไม่พอใจ:“ผมรู้แล้ว ใช่สิ คุณบอกกับกู่ยี่เทียนหน่อย เรื่องที่นัดกับเขาไว้แล้ว เตรียมออกเดินทางได้เลย”