Omiai Shitakunakattanode, Muri Nandai na Jouken wo Tsuketara Doukyuusei ga Kita Ken ni Tsuite - ตอนที่ 12
หลังอาหารยูซูรุ ก็ตัดสินใจส่ง อาริสะ กลับบ้าน
อาริสะยืนกรานว่าไม่เป็นไรที่จะส่งถึงแค่ที่สถานี … แม้ว่าตอนนี้จะสว่างขึ้นก็ตาม แต่เขาก็ไม่ค่อยเต็มใจที่จะปล่อยให้หญิงสาวให้เดินในกลางคืนได้
ก่อนที่เธอจะกลับถึงบ้านล่าช้าเพราะเธอทำอาหาร ยุซูรุ ทานสำหรับอาหารค่ำ
“ยูซูรุเนี่ยเป็นสุภาพบุรุษมากเลยเหมือนกับที่ฉันคิดไว้เลยหล่ะ”
จู่ๆอาริศาก็พูดอย่างประทับใจ
นอกจากนั้น ยูซูรุ ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษทั้งหมด ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึง และมันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเล็กน้อย
“มีอะไรที่น่าประทับใจเหรอ? แล้วมีอะไรที่เธอคิดไม่ถึงหล่ะ?”
“ถ้านายรู้สึกไม่สบายใจ ฉันขอโทษ แต่ … ฉันบังเอิญเห็นตัวเองเดินอยู่ข้างถนน และฉันคิดว่าเป็นสถานที่แบบนั้นหน่ะ”
มันเป็นคำสอนของพ่อแม่เวลาเดินอยู่ข้างถนนให้เดินข้างผู้หญิงหน่ะ
ครอบครัวทาคาเสะกาวะเป็นเพียงแค่ครอบครัวครอบครัวนึง แม้จะเป็นเพียงวิธีคิดที่ล้าสมัยไปหน่อยที่ผู้ชายต้องปกป้องผู้หญิง…ในช่วงเวลาแบบนี้
“มันเป็นกฎของครอบครัวหน่ะ ฉันต้องบอกว่าพวกเราเป็นครอบครัวที่มีค่านิยมแบบโบราณและระบบแบบศักดินา ว่าถ้าเกิดเป็นผู้ชายต้องปกป้องผู้หญิง เออคือ … ฉันไม่สามารถปกป้องเธอได้เมื่อฉันใช้ไม้ค้ำยัน…แต่ ”
เมื่อยูซูรุพูดอย่างนั้น อาริสะก็เงียบ
ใบหน้าก้มลงเล็กน้อย
ความสว่างไสวที่สะท้อนตามท้องถนน … ก็มืดลงเล็กน้อย
“บางทีฉันอาจสาเหตุของปัญหา?”
“ฮืมม….ทำไมหล่ะ?”
“เพราะฉัน … ฉันคิดว่าทาคาเซกาวะอาจต้องโดนพ่อแม่โกรธหน่ะ … ”
กล่าวอีกนัยหนึ่งมันขัดกับคำสอนของบ้านที่ ยูซูรุ เพราะว่าเขาที่เป็นผู้ชายโดนปกป้องโดย อาริสะ ซึ่งเป็นผู้หญิงดังนั้น ยูซุรุ อาจถูกดุโดยพ่อแม่ของเขา …
ดูเหมือนว่าเขาจะคิดแบบนั้นเช่นนั้น
“ไม่มีทาง! ไม่ทางหรอก! ไม่ว่ายังไง มันคงไม่มีค่านิยมโบราณแบบนั้นหรอก อย่างแรกเลย พ่อแม่ของฉันให้อิสระ ฉันแค่ห่วงมากเกินไป”
“… อย่างนั้นเหรอ งั้นก็คงไม่เป็นไร”
อาริสะถอนหายใจ
อย่างไรก็ตาม แสงแห่งความเศร้าโศกเล็กน้อยยังคงอยู่ในการแสดงออกของเธอ
เธอยังคงดูกังวลว่า ยูซูรุ จะถูกพ่อแม่ดุจากการกระทำของเขา
“แล้วหลังจากตอนนั้นอาริสะเธอเป็นยังไงบ้าง”
“… หลังจากตอนนั้น?”
“หลังจากที่ฉันกลับถึงบ้าน … เออ…นายได้พูดอะไรรึเปล่า”
อาริสะไม่ตอบคำถามของยูซูรุ
อย่างไรก็ตาม การแสดงออกที่ตรึงเครียดและความเงียบของเธอแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความกังวลของ ยูซูรุ นั้นเป็นความจริง
“เธอได้โดนดุหรือเปล่า”
“…ฉันเป็นคนที่แย่เอง ไม่ต้องห่วง”
อาริสะพูดด้วยน้ำเสียงปฏิเสธ
มันเหมือนกับผลักบางสิ่งออกไป ทำให้เกิดกำแพงระหว่างเธอกับยูซูรุ
แต่ … ในขณะเดียวกันมันก็ดูเศร้าและเจ็บปวด
ยูซูรุ ตัดสินใจว่ามันแต่จะทำร้ายเธอเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะใช้กำลังบังคับ เธอก็จะบอกปฏิเสธเช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกว่าการเพิกเฉยไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
“ถ้าคุณพูดอย่างนั้น ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งในสถานการณ์ของคุณ”
“มันคงมีประโยชน์มาถ้านายไม่ทำแบบนั้น ทาคาเสะกาวะซังจะได้ไม่มีปัญหา…”
“แต่ฉันไม่คิดว่ามันเป็นปัญหานะ”
ยูซูรุพูดและขัดจังหวะเวลาพูดของอาริสะ
แล้วยูซูรุก็ไม่มองอาริสะแต่หันหน้าไปข้างหน้า…พูดเหมือนพูดอยู่กับตัวเอง
“ฉันเป็นคู่หมั้นของเธอ ฉันไม่ใช่คนอื่นในแง่ของสถานการณ์ครอบครัวของเธอ”
มันไม่มีอะไรที่สามารถทำได้เหรอ
ยูซูรุบอกอาริสะแบบนั้น แล้วก็พูดอีกครั้ง
“แต่ฉันไม่ใช่คู่หมั้นที่แท้จริงของคุณนะ ดังนั้นฉันเคารพในความต้องการของคุณ ถ้าคิดมันเป็นดาบมันก็คือดาบ ถ้ามันน่ารำคาญมันก็น่ารำคาญ ถ้าคุณไม่ชอบคุณก็ไม่บอกชอบ หวังว่า คุณสามารถแสดงความรู้สึกของคุณอย่างชัดเจน ”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง อาริสะก็ตอบยูซูรุด้วยเสียงที่ชัดเจน
“ในตอนนี้ ฉันจะไม่ขอความช่วยเหลือจากทาคาเสะกาวะซัง มันแรงไปหน่อย … ฉันขอโทษ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
ถ้ายูซึรุไปหาพ่อแม่ของอาริสะเพื่อบังคับพวกเขา เขาไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำตามที่ยูซูรุต้องการได้หรือเปล่า
เว้นแต่คุณจะโง่มาก มันอาจจะเป็นมากถ้าคุณโง่
อาริสะอาจไม่สามารถรับความเสี่ยงได้ และ ยูซูรุไม่สามารถรับผิดชอบได้เช่นกัน
“แต่ทาคาเซงาวะซัง”
“อะไรเหรอ?”
“ขอบคุณที่เคารพในความต้องการของฉัน ฉันมีความสุขมากจริงๆ”
เสียงของอาริศานุ่มนวลกว่าปกติมาก
หลังจากนั้นสักพัก, พวกเขาก็มาถึงจุดที่มองเห็นบ้านของอาริสะ
อาริสะหันไปหายูซูรุและขอบคุณเขาโดยบอกว่าไม่เป็นไร
“ขอบคุณสำหรับวันนี้ สนุกมาก”
สีหน้าของอาริสะยังคงเหมือนเดิมด้วยใบหน้าที่สดใส
อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่าไม่มีความโกหกจากคำพูดของเธอ
“ฉันก็ชอบมันเหมือนกัน อาหารที่เธอทำอร่อยมากเลยหล่ะ”
“ฉันจะเก็บความประทับใจไว้แล้วกัน …. นายกินเยอะมากเลยหล่ะ”
อาริสะพยักหน้าเล็กน้อยต่อคำชมของยูซูรุ
จากนั้น หลังจากแสดงความคิดเล็กน้อย … เธอเปิดปากของเธอ
“ทาคาเสะกาวะซัง …. นายโอเคมั้ยที่ชั้นจะไปเล่นเกมที่บ้านนายอาทิตย์หน้า? ฉันจะทำอาหารด้วย”
“อาทิตย์หน้าเหรอ ได้สิ มีบางอย่างที่ยังไม่ได้เล่นเลย …. แต่ฉันไม่ต้องการ ” อะไรที่จะแทนที่มัน ”
ยูซึรุไม่ต้องการจะกดดันให้อาริสะทำอาหาร
สำหรับแค่เล่นเกมและกินเค้กเล็กๆ น้อยๆ
“ไม่ใช่อย่างนั้น …. ฉันเปลี่ยนคำดีกว่า มันจะได้ง่ายขึ้น”
เธอพูดเสียงเบา
“เอ่อ…คือว่า”
การไม่ทำอาหารให้ ยูซูรุ หมายถึงการกลับบ้านแต่เช้าและทำอาหารให้ครอบครัวอามากิ
ยูซูรุ ไม่ทราบโครงสร้างครอบครัวโดยละเอียดของตระกูล อามากิ แต่ … ยูซูรุ และ อาริสะ มันอาจจะง่ายกว่าในแง่ของการลงแรงทำมัน
กล่าวอีกนัยหนึ่งเธอต้องการข้ามไป
” งั้นมาทำความสุขด้วยกันมั้ย…. ช่วยมาทำมันให้ฉันทุกวันได้มั้ย”
เมื่อยูซึรุพูดแอบติดตลก …
“ฟุฟุ … ฉันจะคิดดูนะ”
อาริสะยิ้ม ไม่รู้ว่าพูดเล่นหรือจริงจัง