Omiai Shitakunakattanode, Muri Nandai na Jouken wo Tsuketara Doukyuusei ga Kita Ken ni Tsuite - ตอนที่ 2 หมั้นปลอมๆ
chapter 2
ยูซูรุไม่ต้องการเข้าร่วมงานหมั้นที่ถูกจัดเตรียมไว้ ดังนั้นยูซูรุจึงแสดงเงื่อนไขที่ไม่สมเหตุสมผลเเละคิดว่าคุณปู่ของเขาไม่สามารถหาผู้หญิงที่ตรงสเปคเจอ แต่ดันมีสาวสวยจากชั้นเรียนของผม นั้นคือ อาริสะ ยูกิชิโระ
ยูซูรุก็ถอนหายใจ
(ไม่มีทาง …เราไม่คิดว่า อาริสะ ยูกิชิโระ จะอยู่ในเคลือญาติของปู่ )
บางทีปู่อาจจะอยู่ยงคงกระพันในญี่ปุ่น? **
และอีกครั้งที่ประทับใจในความสุดยอดของคุณปู่…ผมจ้องอาริสะที่อยู่ตรงหน้า
มองไปทางไหน อาริสะ ก็สวยเหมือนงานศิลปะ
ในทำนองเดียวกัน“ฉันคือทาคาเซงาวะ ยูซูรุ ……ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
ยูซูรุ ยังนั่งลงบนพื้นแล้วส่งคำทักทายกลับ
สถานการณ์มาถึงแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปฏิเสธเธออย่างสุภาพเพื่อไม่ให้หยาบคาย
ยูซูรุ และ อาริสะ ต่างไม่สนใจเรื่องการแต่งงานที่ตกลงกันไว้ แต่ผู้ปกครองของพวกเขา (ปู่และพ่อในคดีของ ยูซูรุ และพ่อบุญธรรมและแม่บุญธรรมในกรณีของ อาริสะ) พวกเขาเริ่มพูดประมาณว่า”ฉันรู้สึกตกใจจังที่พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้น ” และ “บางทีนี่อาจเป็นโชคชะตา”
ยูซูรุ และ อาริสะ แสดงรอยยิ้มเหมือนกันแปะพร้อมทั้งตอบกลับว่า “ใช่ หนูรู้สึกประหลาดใจ.” “ผมก็รู้สึกประหลาดใจ”.
และหลังจากนั้นไม่นาน……
ผู้ปกครองของพวกเขาแนะนำว่า “ทำไมทั้งสองคนไม่ทำความรู้จักกันมากขึ้นล่ะในขณะที่ชื่นชมวิวสวนที่ร้านอาหาร”
ทั้งสองคนก็ปฏิเสธไม่ได้ ยูซูรุจึงออกไปที่สวนพร้อมกับอาริสะ
ทิวทัศน์ของสวนสวยงามมากเพราะถูกใช้เป็นสถานที่จับคู่
(จะปฏิเสธยังไงดีเนีย!)
ปกติเราสามารถพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าเราเข้ากันได้ดี” และปฏิเสธการจับคู่ แต่มันก็เหมือนกับการพูดแบบอ้อม ๆ ว่า “เธอไม่มีเสน่ห์”!
ถึงเราจะถูกจับหมั้นเเต่เราต้องแสดงความสนใจ……ไม่อย่างงั้นเราอาจทำร้ายเธอได้หากเราปฏิเสธเธออย่างไม่ดี
ถึงแม้เราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันมากนักในตอนเริ่มต้น แต่เราอยู่ในชั้นเรียนเดียวกัน
เราไม่ต้องการที่จะรู้สึกอึดอัดเมื่อคิดถึงเหตุการณ์วันนี้
“เอ่อ…ทาคาเซกาวะซัง”
“หืม?”
ขณะที่ยูซูรุลังเลอยู่ อาริสะที่เงียบมาจนถึงตอนนี้ก็พูดขึ้น
เธอกำชุดกิโมโนแน่นและก้มศีรษะลง
“ฉันขอโทษจริงๆ ฉันถูกบังคับให้ยอมรับการจับคู่นี้โดยพ่อบุญธรรมของฉัน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหมั้น!”
หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ยูซูรุ ก็รู้สึกโล่งใจราวกับว่าความแน่นในอกของเขาถูกยกขึ้นในที่สุด
บางทีนั่นอาจเป็นสาเหตุที่ ยูซูรุอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เธอก็ด้วยหรอ?”
“นายก็โดนเหมือนกันหรอ!”
“เหมือนกับเธออะล่ะ ผมถูกบังคับให้มาที่นี่ด้วย…… ผมคิดว่าพวกเขาจะเลิกราถ้าผมใส่เงื่อนไข ที่ไม่สมเหตุสมผลเช่น ถ้าปู่ต้องการให้ผมไปหมั้นให้นำสาวผมบลอนด์ตาสีฟ้ามาให้ผม! ไม่คิดว่าจะพาใครมาด้วยจริงๆ”
เมื่อยูซูรุพูดพร้อมกับถอนหายใจ อาริสะปรบมือและพูดว่า “ฉันเข้าใจ”
“ก็อย่างนั้นแหละ”
“อะไร?”
“ฉันได้ยินมาว่าทาคาเสะกาวะซังเสนอชื่อฉัน ……ฉันก็เลยตกลงไป” (เธอกำลังพูดถึงปู่ของเขา)
“…… ขอโทษนะที่สร้างความลำบาก”
“ไม่เลยพูดตรงๆ ……พ่อบุญธรรมของฉันต่างหากที่สร้างความลำบาก ”
เมื่อเห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ไม่ต้องการหมั้น …… ที่ไหนสักแห่งภายในใจระยะห่างระหว่างพวกเขาก็แคบลง
ยูเก็น หัวเราะคิกคักภายในใจที่รู้สึกแปลกที่พวกเขาไม่ชอบกัน แต่มันทำหน้าที่เป็นหัวข้อสนทนาทั่วไปและเขารู้สึกคุ้นเคย
“ทาคาเสะกาวะซัง ……ฉันมีข้อเสนอแนะหนึ่งข้อ”
“ข้อเสนอเเนะ?”
“คุณไม่อยากมีเรื่อง 『หมั้น』 ปลอมๆบ้างเหรอ?
“…… เข้าใจแล้ว”
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือข้อเสนอเพื่อปลอมแปลง “หมั้น” และหลอกผู้พิทักษ์ทั้งสอง
ขณะที่ยูซึรุและอาริสะ “หมั้นหมาย” ทั้งสองฝ่ายจะไม่พูดถึงการจับคู่
การใช้ “หมั้น” เป็นเกราะป้องกันทั้งสองฝ่ายจะเพลิดเพลินไปกับความรักที่เป็นอิสระ
และเมื่อเราโตขึ้นสามารถต่อต้านพ่อแม่ได้ เราก็เเค่ถอน การหมั้นของเรา
มันจะเป็นอย่างนั้นอย่างแน่นอน
“อืม … ตอนนี้ฉันยังพูด “ตกลง” ไม่ได้ ดูท่าจะยาก”
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะพยายามปกปิด “การมีส่วนร่วม” ถึงจะเป็นการหมั้นปลอมๆเเต่สักวันก็คงความเเต่เเน่ๆ
มันดูเสี่ยงมากกับการทำเเบบนี้
เราไม่สามารถตอบได้อย่างง่ายดาย
“เข้าใจแล้ว … ฉันจะรอคอยคำตอบที่ดี”
อาริสะดูหดหู่เล็กน้อย แต่ในไม่ช้ารอยยิ้มอันอ่อนโยนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
ที่โรงเรียน มันเป็นการแสดงออกถึงความอ่อนโยนที่แอบชอบหลอกเด็ก
แต่ ยูซูรุ เห็นว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ถูกบังคับเท่านั้น
และในขณะนั้น
เหมียว เหมียว เหมียว มีเสียงเเมวลอยมาจากที่ไหนสักเเห่ง
“ทาคาเสะกาวะซัง ทาคาเสะกาวะซัง! ตรงนั้น!”
“หืม? นั่นมัน…แมวหนิ”
ยูซูรุไม่ทราบอายุของแมว แต่น่าจะอายุต่ำกว่าหนึ่งปี
แมวตัวเล็กกำลังร้องเหมียวอยู่บนต้นไม้
“ช่างเป็นเเมวที่โง่อะไรอย่างนี้ ทำไมถึงปีนต้นไม้เมื่อทั้งที่ลงมาไม่ได้”
“แต่เราควรทำยังไงดี? ถ้าเราไม่ทำอะไรเลยลูกเเมวอาจจะตกลงมาได้”
อริสะพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ
เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นทาสแมว
เมื่อใดก็ตามที่แมวเดินไปตามกิ่งไม้ อาริสะ ก็เดินตามไปด้วย
“ฉันต้องโทรหาพนักงานโรงเเเรม!”
“แต่ …มันจะไม่ตกต้นไม้ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงเหรอ?”
“…… อึก!”
การเคลื่อนไหวของแมวเริ่มมีอันตรายมากขึ้น
ยูซึรุซึ่งไม่ชอบแมวเป็นพิเศษก็เริ่มรู้สึกประหม่าเช่นกัน
“ฉันควรทำอย่างไร ……ฉันไม่มีประสบการณ์ในการปีนต้นไม้……แล้วคุณทาคาเสะกาวะซังล่ะ?”
ฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องช่วยแมว และฉันก็ไม่มีหน้าที่ต้องฟังความปรารถนาของอาริสาด้วย แต่ ……
ถ้าแมวล้มตาย มันจะกลายเป็นเรื่องฝังใจกับฉัน
“ผมเป็นทาสสุนัขแต่…..จะช่วยก็เเล้วกัน”
ยูซูรุ พึมพำกับตัวเองและเริ่มแก้ผ้าโอบิและถอดเสื้อผ้าออก
ผิวสีน้ำนมของอริสาเปลี่ยนเป็นสีกุหลาบและผละออกไปด้วยความตื่นตระหนก
“เฮ้! ทำไมจู่ๆก็ถอดเสื้อผ้า!”
“โอ้ขอโทษ. ฉันสวมเสื้อยืดและกางเกงอยู่ข้างใน ไม่เป็นไร”
“ถ…ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็บอกตั้งเเต่เเรกสิ”
หลังจากเห็นเธอหงุดหงิด เรื่องราวเกี่ยวกับการไม่มีความสัมพันธ์กับใครก็ดูเหมือนจะเป็นความจริง
หากการเปลื้องผ้าเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หน้าแดงและสับสน ภูมิต้านทานของเธอก็แย่จริงๆ
ยูซูรุ พับชุดกิโมโนของเขาอย่างยุ่งเหยิงแล้วยื่นให้อาริสะ
“ยูกิชิโระ เธอ……เล่นกีฬาเก่งใช่ไหม”
“ฮะ? อา ใช่”
“ถ้าแมวตกลงมาก่อนจะทันก็ใช้ผ้านั้นเป็นเบาะนะ”
พูดเสร็จ ยูซูรุก็วางมือบนต้นไม้
เป็นเวลานานแล้วที่ผมไม่ได้ปีนต้นไม้ แต่…… โชคดีที่ต้นไม้นั้นดูปีนง่าย (ซึ่งคงเป็นเหตุผลที่แมวปีนขึ้นไป) ผมคิดว่าผมสามารถรับมือได้
ยูซึรุรีบปีนขึ้นไปบนต้นไม้
โชคดีที่แมวไม่แสดงอาการกลัวเเล้ววิ่งหนี
“เอาล่ะ……ผมจับได้แล้ว!”
ผมช่วยแมวได้สำเร็จโดยไม่ได้ลำบากอะไรมาก
รู้สึกโล่งใจ
…… แย่เเล้ว!!
“เหมียว!!”
“อุ๊ย! โอ้ เฮ้ ……อย่าอาละวาดสิ…..เฮ้……”
ยูซูรุเริ่มที่จะสูญเสียความสมดุล
กว่าที่ยูซูรุจะรู้ตัวก็ใกล้จะถึงพื้นดินแล้ว
ยูซึรุรีบปรับตำแหน่งของเขา แต่…
“อึก!!”
“อ๊ะ ทาคาเสะกาวะซัง!?”
ข้อเท้าขวาของเขาพลิก
===========
สำหรับผลงานเเปล อาจจะยังมีบางช่วงที่อ่านเเล้วเเปลกๆ คนเเปลตอนเเปลก็ยัง งงเหมือนกัน ฮ่าๆ เเต่ก็จะพยายามเเปลให้ดีที่สุดครับ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ
เพจ FB:องค์หญิงผู้ชื่นชอบน้ำตาล