One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - ตอนที่ 259-260
Chapter 259
ทุกคนมองไปที่เด็กสาวและหลินเฟย ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วย
ความเยาะเย้ยและดูถูกราวกับว่าพวกเขากำลังมองขยะสองชิ้น
พวกเขาพูดเสียงดัง พร้อมกับมีสีหน้าที่ดูถูกและจงใจให้หลินเฟย
และเด็กสาวได้ยิน
“ฉันตรวจสอบแล้วว่าชายคนนี้เขาชื่อหลินเฟยและความแข็งแกร่ง
ของเขาก็คือเลเวล E นายได้ยินถูกแล้ว เลเวล E!”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ทั้งกลุ่มก็หัวเราะ
“5555”
“เลเวล E แม้แต่เลเวล E ก็อยากจะใส่ร้ายเลเวล S? เขากลัวที่จะถูก
ซอบบี้ธรรมดาฆ่าหรอ?”
“มันน่าอายมาก แม่เจ้าโว้ยยยเลเวล E กล้าที่จะยุ่งกับเลเวล S จริงดิ
ในโลกนี้มันไม่มีราชาแล้วหรอ? มันมีแต่ความขบขัน!”
“ขอแนะนำอีกครั้งว่าให้ทดสอบปิงหลินเฉียนเว่ยอีกครั้ง บางทีเลเวล
S ของเธออาจจะได้รับการช่วยเหลือลับ ๆ !”
“ใช่ เธอสวยมากและมีหลายคนที่ชอบอย่างนั้น…”
คำพูดของพวกเขานั้นมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ
ทุกอย่างต่างโจมตีมาที่หลินเฟยและเด็กสาว
เด็กสาวหยุดเดินและมองไปที่คนรอบ ๆ ตัวด้วยสีหน้าที่เย็นชาและ
พบว่าพวกเขาก็เดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ
พวกเขาหัวเราะราวกับว่าวิปลาสขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบจะกลายเป็น
ปีศาจร้าย
“แล้วไง?”
“อยากทำงั้นหรอ?”
“นี่คือสมาคม ถ้าแกกล้าที่จะแตะต้องเรา แกจะกลายเป็นหนูข้างถนน
ในไม่ช้า!”
เด็กสาวกำหมัดแน่น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไร
หลินเฟยมองไปที่เด็กสาวและพบว่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความ
โกรธ จากนั้นก็มองไปที่คนรอบข้างที่ดูเหมือนจะกลายเป็นปีศาจ
ร้ายขึ้นเรื่อย ๆ และถอนหายใจยาวออกมา
“ไปเถอะ” เขาพูดพร้อมกับดึงเด็กสาวให้หนีออกมา
“ไปเลย 55555”
พวกเขาทั้งหมดหัวเราะดังขึ้นเมื่อเห็นหลินเฟยพาเด็กสาวจากไป
ฉิงเฟิงมองเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ที่มุมจนกระทั่งหลินเฟยและเด็กสาว
จากไป มุมปากของเขาก็ยกยิ้มเล็ก ๆ พร้อมกับมีแววตาเหยียดหยาม
“สู้กับฉัน นายยังเด็กนัก”
“เมื่อทุกคนอยู่ข้างฉัน แม้ว่านายจะเป็นคนถูกต้อง นายก็จะเป็นคน
ชั่วเช่นกัน”
หลินเฟยพาเด็กสาวจากไป เขาเห็นเด็กสาวก้มหน้าลงและไม่พูด
อะไร แต่หมัดของเธอยังคงกำแน่นและไม่คลายออก
เขากังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเด็กสาว
เขาเป็นห่วงว่ามันจะทำให้เด็กสาวใจสลาย
“พี่สาวฉิงเว่ย พี่ใหญ่”
ในเวลานี้ หลินเฟยและเด็กสาวได้ยินเสียงเด็กน้อยมาจากทางด้านหน้า
หลินเฟยและเด็กสาวมองไปข้างหน้าและเห็นเด็กชายตัวน้อย เขายิ้ม
ให้หลินเฟยและเด็กสาวและพูดอย่างไร้เดียงสาว่า “ผมเชื่อคุณ”
หลินเฟยยิ้มเล็กน้อยและลูบหัวเด็กชายก่อนที่จะพูดว่า “ขอบคุณ”
“เป็นผมต่างหากที่ต้องพูดขอบคุณ” เด็กน้อยกล่าว “คุณเป็นคนที่มา
ช่วยเรา ผมจะไม่ลืมวันนั้น”
หลินเฟยยิ้ม
อ๊ะ ลืมไปแล้วว่าเขาช่วยเด็กน้อยตั้งแต่ตอนไหน
แต่เขาค่อนข้างน่ารัก
“อย่าวิ่งออกมาด้านนอก” หลินเฟยยิ้มและพูด “ตอนนี้โลกมันวุ่นวาย
ไปหมด รีบกลับบ้านไปซะ”
หลินเฟยพาเด็กสาวจากไป
เขาไม่ได้หันกลับมามองชุมนุม
“ออกไปซะ ไอ้พวกหน้าไม่อาย!”
“ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกนาย!”
เมื่อทั้งสองเดินจากไป ก็มีเสียงตะโกนขึ้น
ทั้งสองเดินจากไปท่ามกลางสายฝนที่ตกออกมาอย่างเลวร้ายมัน
เหมือนกับอารมณ์ของเด็กสาวในตอนนี้
ในวิลล่า เด็กสาวก็ไม่อาจทำอะไรได้ เธอถามหลินเฟย “คนพวกนี้ทำ
เกินไปแล้ว ทำไมคุณไม่พิสูจน์ตัวเองและทำให้คนพวกนั้นหุบปาก”
Chapter 260
หลินเฟยยืนอยู่ด้านหน้าระเบียงและพูดว่า “ใครบางคนจะปิดปาก
พวกเขาเอง”
เขาพูดเสริมอีกคำ
“และหุบปากพวกเขาตลอดไป”
“ใคร?” เด็กสาวงง
“มอนสเตอร์ตัวนั้น” หลินเฟยพูด เมื่อเขาเพิ่งกลับมาที่กิลด์เขาก็เห็น
หัวของมอนสเตอร์ผ่าน [perspective] และเห็นดวงตาของมันกลอก
ไปมา
เหมือนกับมอนสเตอร์ปกติทั่ว ๆ ไป มอนสเตอร์ตัวนี้มีหัวเป็นมนุษย์
และตัวเป็นสุนัขแถมยังมีพลังชีวิตที่น่าอัศจรรย์
หลินเฟยไม่คิดว่าพลังชีวิตของมอนสเตอร์ตัวนี้จะแข็งแกร่งมาก
จนถึงขั้นแม้ว่าจะมีเพียงแค่หัวก็ยังไม่ตาย
“มันยังไม่ตาย?” เด็กสาวตกใจ
“ใช่ ยังไม่ตาย” หลินเฟยพยักหน้า
เด็กสาวเงียบและในตอนนี้การ์ดก็สั่นอีกครั้ง
เมื่อเธอหยิบมันออกมา มันก็กลายเป็นข้อความของ นักดาบดาวตก
กับแฟลช
“ปิงหลินเฉียนเว่ย ฉันรู้ว่าเธอต้องการให้คนรักของเธอกลายเป็น
เลเวล S แต่เราไม่ต้องการให้เธอทำอย่างนี้”
“มันทำให้เลเวล S อย่างพวกเราเสียหน้า”
ทันใดนั้นใบหน้าของเด็กสาวก็ตึงอีกครั้ง
ติ้ง
การ์ดสั่นอีกครั้ง
คราวนี้ฉิงเฟงส่งข้อความ
“เป็นไง?” ฉิงเฟิงพูด “คนที่ชุมนุมไม่ได้อบอุ่นใช่ไหม?”
“ฉันพูดแล้ว ผลงานนี้เป็นของฉัน เธอไม่อาจเอามันไปได้ ไปวุ่นวาย
กับคนของเธอเถอะ”
“เธอนี่มันอ่อนจริง ๆ”
พลั่ก!
เด็กสาวขว้างการ์ดด้วยความโกรธ
“ฉันจะฆ่ามัน” เด็กสาวพูดด้วยหน้าดำหน้าแดง
แต่เธอไม่อาจรอได้อีกแล้ว ขณะที่เธอเดินไปได้แค่สองก้าว
เปรี้ยง!
สายฟ้าที่ร้องออกมาราวกับมาจากสวรรค์ชั้นเก้า
ฟุ่บ
เด็กสาวรู้สึกหน้ามืดทันทีและเป็นลมล้มลงกับพื้น
หลินเฟยตาดี เขารีบกอดเด็กสาวอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะล้มถึงพื้น
เขามองไปที่อากาศและพบว่าท้องฟ้าที่กำลังสลัว ๆ กลายเป็นสีแดง
เลือด
มันมีความรู้สึกที่คุ้นเคย
นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงของสวรรค์และปฐพี
“โลกเปลี่ยนแปลงครั้งที่สาม” หลินเฟยพึมพำ
แต่เขาไม่คิดว่าการกลายพันธุ์ของโลกนี้จะทำให้เขามีความสามารถ
ใด ๆ ได้ เพราะความสามารถนี้อ่อนแอเกินไปและพวกมันจะถูก
กำจัดออกไปด้วยระบบโมดีฟาย
เขาวางเธอนอนลงบนเตียงและเห็นแสงสีแดงบนร่างกายของเธอซึ่ง
ดูเหมือนจะเข้มกว่าครั้งก่อน
หลินเฟยกำลังนั่งอยู่บนระเบียง ดูฉากกลายพันธุ์ของวันสิ้นโลกอย่าง
เงียบ ๆ
เขาเป็นคนเดียวในโลกทั้งใบ ที่ยังคงมีสติอยู่
“ติ้ง!”
ในเวลานี้ หลินเฟยได้ยินเสียงที่หายไปนาน ซึ่งเป็นเสียงของระบบ
โมดีฟายนั่นเอง
มันเคยปรากฏเพียงครั้งเดียว เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงนี้
“คุณได้รับอเวคขณะคุณอยู่ในการควบคุมอารมณ์”
“เพราะว่าคุณมักจะควบคุมการกระทำของเหตุแลผล ไม่ว่าคุณจะเจอ
กับศัตรูแบบไหน ความแข็งแกร่งของคุณจะสูงกว่าฝ่ายตรงข้ามเสมอ”
“เมื่อมีเหตุ ก็ต้องมีผล คุณสามารถควบคุมมันได้ทุกอย่าง”
“คุณสามารถใช้กฎแห่งกรรมเพื่อลบสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกไปได้ทั้งหมด
รวมถึงรูปแบบชีวิตด้วย”
“ทุกการโจมตีของคุณจะกลายเป็นกลาง”
“คุณควบคุมเหตุและผล และเป็นอิสระต่อเวลาและมิติ แม้ว่าจักรวาล
ของคุณจะถูกทำลาย คุณก็ยังอยู่ต่อไป”
เสียงของระบบโมดีฟายดังขึ้นเป็นเวลานานจนกระทั่งฟ้าเปลี่ยนจาก
สีแดงเป็นสีเทาอีกครั้งและในที่สุดก็หยุดลง
โมดีฟายได้พูดออกมามากมาย
แต่หลินเฟยรู้เพียงอย่างเดียวในตอนนี้
นั่นคือ……
“ฉันกลายเป็นอมตะแล้ว”
แต่เดิมภายใต้ระบบโมดีฟาย เขาก็สามารถฆ่าทุกอย่างได้เพียงการ
โจมตีครั้งเดียวและป้องกันการโจมตีได้ทั้งหมด
ถอนหายใจยาวอย่างทำอะไรไม่ถูก
ชีวิตที่ไร้พ่ายนั้นเรียบง่ายและไม่โอ้อวดแถมยังน่าเบื่อ