One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - ตอนที่ 299-300
Chapter 299
เหงื่อเย็นไหลเต็มหน้าผากของโบรเค่นทีซ
เพราะเขาไม่อาจมองคนตรงหน้าให้เข้าใจได้จริง ๆ อย่างเขามีพลัง
อะไรหรือมีพลังแค่ไหน ตอนนี้เขายังมีท่าทางที่ตื่นตระหนกในใจ
เขาจึงรีบพูดว่า “นายเข้าใจผิดแล้ว”
“หืม?” หลินเฟยพูดอย่างงง ๆ
โบรเค่นทีซพูดต่อ “คุณต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นไหม?”
“ฉันไม่ต้องการ” หลินเฟยบอกปัดโดยไม่ต้องคิด
“ทำไม?” โบรเค่นทีซพูดด้วยรอยยิ้มแข็ง ๆ “นายไม่ต้องการพลังที่
จะแข็งแกร่งกว่านี้งั้นหรอ?”
“คนที่แข็งแกร่งอย่างนาย ถ้านายได้รับพลังนายอาจจะกลายเป็น
เบอร์หนึ่งของโลกก็ได้”
หลินเฟยเหลือบมองเขาและพูดว่า “ไม่จำเป็น”
“และฉันนี่แหละที่เป็นเบอร์หนึ่งของโลก”
หลังจากถูกปฏิเสธสองครั้งติดต่อกันโบรเค่นทีซก็หมดความอดทน
ทำไมเขาถึงกล้าปฏิเสธเขากัน?
แต่เขาไม่กล้าที่จะโจมตีตรง ๆ เพราะคนด้านหน้าของเขาลึกลับมาก
เขาสามารถพาเขามาที่นี่ได้อย่างไรโดยที่เขาไม่รู้ตัว
“นายเป็นเซลล์?” หลินเฟยถามเขา
“เซลล์?” โบรเค่นทีซขมวดคิ้วถาม “เซลล์คืออะไร?”
“เซลล์ก็คือ…” หลินเฟยพูด “พวกขายประกัน?”
“ฉันจะไม่ซื้อ” หลินเฟยพูดออกไปอย่างไม่รู้ตัว
“แน่ใจได้ไงว่ามันจะไม่เกิดอุบัติเหตุเร็ว ๆ นี้? คุณควรจะซื้อสักอัน
แม้ว่าคุณจะไม่ต้องการจริง ๆ คุณยังสามารถซื้อให้พ่อแม่ของคุณได้
เผื่อว่าสักวันหนึ่ง…”
โบรเค่นทีซยืนมองอย่างโง่งม
เขายังสงสัยว่านี่เป็นคำแนะนำของหลินเฟยหรือเปล่า
บอกเป็นนัย ๆ ว่าเขาอาจจะบาดเจ็บไม่มากก็น้อย?
หลินเฟยยักไหล่และพูด “อย่างไรก็ตาม การจะขายของให้ได้ดีคือ
คุณต้องขายสำหรับคนที่ต้องการ”
“นายดูเหมือนจะเป็นเซลล์จริง ๆ”
“ฉันไม่มีเวลาจะมาเสียกับนายที่นี่” หลินเฟยกลับไปหลังจากที่พูด
ประโยคนี้เสร็จ
เช่นเดียวกับที่เขามา ร่างกายของเขาก็หายไป
รูม่านตาของโบรเค่นทีซหดตัวทันที
เขาไม่เห็นอะไรที่ชัดเจนเลยตอนที่หลินเฟยหายตัวไป?
เขารู้สึกว่าคนทั้งคนอยู่ ๆ ก็หายไปเหลือเพียงอากาศ
ความจริงนี่เป็นเพราะความเร็วของหลินเฟยนั้นเร็วมากเสียจนเขาไม่
อาจมองเห็นได้จนเหลือเพียงภาพติดตา
“ดูเหมือนว่าฉันต้องทดสอบความแข็งแกร่งของเขา”
ในเวลานี้
ฟิ้ว!
หลินเฟยก็ปรากฏขึ้นด้านหน้าของโบรเค่นทีซทันที
“หา!”
โบรเค่นทีซตกใจจนส่งเสียงร้องออกมา
ถ้าคนอื่นเห็นฉากนี้พวกเขาจะตกใจกันอย่างแน่นอนเพราะโบรเค่น
ทีซนั้นแข็งแกร่งที่สุดในเมือง E
ผลก็คือหลินเฟยทำให้เขาตกใจเวลานี้
เขาพยายามที่จะสงบสติอารมณ์และมองหลินเฟยก่อนที่จะพูดว่า
“ทำไมนายถึงมาอีก? บ้าจริงนายทำให้ฉันเกือบหัวใจวายตาย?”
“โทษที” หลินเฟยขอโทษและถามด้วยความสับสน “เมื่อกี้นายพูดว่า
อะไรนะ? นายจะพยายามทดสอบความแข็งแกร่งของใคร?”
ใบหน้าของโบรเค่นทีซขาวซีดทันทีที่ได้ยิน
ดังนั้นเขาจึงรีบพูดว่า “นายหูฝาดแล้ว ฉันหมายความว่าฉันต้องการ
ที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น”
“โอ้”
หลินเฟยตอบ “ตราบใดที่ไม่ใช้กำลังในทางที่ไม่ดีก็ดีไป บางทีด้ายที่
ตึงไปก็ขาดได้ง่าย ๆ”
“นายกลับมาทำไม?” โบรเค่นทีซถอนหายใจยาวในใจและในเวลา
เดียวกันเขาก็ถามหลินเฟยทันทีเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเขา
ความจริงหลินเฟยไม่สนใจสิ่งที่โบรเค่นทีซเพิ่งพูด
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ พลังของเขาคนเดียวก็ทะลวงกฎกว่า
10,000 กฎ
ไม่ว่าจะเป็นการร่วมหัวกันแบบไหน หากต้องเผชิญหน้ากับพลังที่
เด็ดขาดของเขา มันก็เปราะบางราวกับกระดาษที่อยู่ในกองไฟ
Chapter 300
“โอ้ ใช่” หลินเฟยดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างและพูดว่า “นายเป็นผู้
มีพลังเลเวล S แล้ว นายรู้ไหมว่ามีมอนสเตอร์ที่ทรงพลังอยู่ที่ไหน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟย โบรเค่นทีซก็เบิกตากว้างทันที
เขากำลังคิดหาวิธีทดสอบความแข็งแกร่งของหลินเฟย แต่เขาไม่คิด
ว่าเจ้าตัวถึงกับส่งตัวเองมาให้เขาถึงหน้าประตู
เขายิ้มและพูด “ฉันรู้”
“ที่ไหน?” หลินเฟยดีใจ
“ไม่ไกลนัก” เขาเหยียดนิ้วชี้ไปทิศทางหนึ่งและพูดว่า “เดินไป
ประมาณ 20 ไมล์ ที่นั่นนายจะเห็นภูเขาลูกใหญ่ที่ถูกครอบครองโดย
มอนสเตอร์กลายพันธุ์”
“ต้องเดินไป?” หลินเฟยพูด
“ใช่” โบรเค่นทีซพูด “มันทรงพลังมาก ๆ แม้แต่ฉันก็ไม่อาจจัดการ
กับมันได้ นายควรระวัง?”
“งั้นไปถามมันดีกว่า” หลินเฟยยิ้มและพูด “ขอบคุณมากและก็เชิญ
มากินมื้อเย็นด้วยกันเมื่อนายมีเวลา”
จากนั้นเขาก็จากไป
เหมือนเดิม จู่ ๆ เขาก็หายไปราวกับเขาไม่ได้อยู่ที่นี่จริง ๆ
มีความเยาะเย้ยอยู่บนใบหน้าของโบรเค่นทีซ
“มันเป็นเรื่องโกหกหน่ะ”
ในเวลานี้ หลินเฟยได้กลับไปที่วิลล่าแล้ว
“ตอนนี้คนนั้นอยู่ไหน?” เด็กสาวอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อเห็นหลินเฟย
กลับมาคนเดียว เธอเกลียดคน ๆ นั้นมากเพราะเขามาโดยไม่รับเชิญ
“ฉันโยนเขาไปที่ชานเมือง” หลินเฟยพูด “แต่ฉันได้รู้ข่าวจากเขาว่ามี
มอนสเตอร์ที่ทรงพลังได้อยู่ที่ภูเขาแถวชานเมือง”
เด็กสาวเข้าใจทันทีว่าหลินเฟยหมายถึงอะไร “เราไปกันเลยไหม?”
“แน่นอน”
หลินเฟยอุ้มเด็กสาวขึ้นมาก่อนที่จะไปยังจุดที่โบรเค่นทีซชี้ จากนั้นก็
หันหน้าไปทางที่โบรเค่นทีซชี้และออกเดินทาง
ห่างออกไป 20 ไมล์และเป็นภูเขาลูกใหญ่ มันเห็นได้ง่าย ๆ ใน
พริบตาหลินเฟยและเด็กสาวก็พบภูเขาลูกนี้
หลินเฟยยืนอยู่บนอากาศและพยายามค้นหามอนสเตอร์ผ่าน
[perspective]
ผลก็คือเขาไม่พบมอนสเตอร์ แต่กลับพบคนที่ไม่คาดคิดแทน
เขาพบว่าที่ภูเขา มีนักสู้หลายคนวิ่งผ่านและมีคนหนึ่งแบกขึ้นหลัง
และดูเหมือนว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส
“บางทีพวกเขาอาจจะรู้ว่ามอนสเตอร์อยู่ไหน” หลินเฟยพึมพำ
จากนั้นก็พาเด็กสาวลง
“ใคร?”
เมื่อเห็นหลินเฟยและเด็กสาว ทหารก็เริ่มกังวลและยกปืนเล็งไปที่
หลินเฟย
“ใจเย็น” หลินเฟยพูดและบอกว่าเขาไม่ได้เป็นศัตรู
ทหารยังคงเฝ้าดูท่าทีอยู่
“กัปตัน สองคนนี้เป็นภาพลวงตาที่มอนสเตอร์สร้างขึ้นหรือไม่?”
ทหารคนหนึ่งกระซิบ
หลินเฟยและเด็กสาวได้ยินเรื่องนี้และทั้งสองก็มองหน้ากันและกัน
ก่อนที่จะเข้าใจว่าทำไมทหารถึงได้ระวังท่าทีอย่างนี้
หลินเฟยเหลือบมองทหารที่ถูกแบกขึ้นหลัง เขาดูเด็กมาก แต่ตอนนี้
ใบหน้าของเขาซีดและร่างกายของเขายังคงสั่น
มีรูขนาดใหญ่อยู่บนชุดของเขาและเลือดก็ยังคงไหลออกมา
มันดูแย่มาก
ถ้าเขาไม่ใช่มาตรการบางอย่างในตอนนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะกลับ
ถึงชุมนุม
“ไม่ต้องกังวล”
หลินเฟยพูด “เราไม่ใช่ภาพลวงตาที่ถูกสร้างจากมอนสเตอร์ พวกเรา
แค่คนที่บังเอิญเดินผ่านมา”
“เมื่อคุณพบผมแล้ว คุณสามารถพูดได้เลยว่าเขาจะไม่ตาย”
จากนั้นเขาเลยหยิบยาฆ่าเชื้อออกจากกระเป๋ ากางเกงและเอาผ้าก๊อซ
และผ้าพันแผลออกมา
ทหารหลายคนมองไปที่ฉากนี้ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความ
ตกใจ