One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - ตอนที่ 331-332
Chapter 331
หลินเฟยพาเด็กสาวไปยังจุดหมายที่สาม.
มองไปที่อาคารด้านหน้าของเขา หลินเฟยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและพูดว่า”มันไม่ใช่โรงงาน แต่เป็นห้าง.”
เมื่อมองลงไปที่แผนที่ มันอาจพูดได้ว่าเฒ่าจางต้องการอะไร.
กล่องบะหมี่สำเร็จรูป.
“ได้เลย”หลินเฟยอดไม่ได้ที่จะบ่น”ฉันแก่แล้ว คุณยังต้องการกินมาม่าอีก?”
แต่เพราะอีกฝ่ายต้องการ เขาก็แค่ให้อีกฝ่าย.
เดินเข้าไปด้านใน.
และในห้องร้านอาหารตรงข้ามห้าง สายตาหลายคู่จ้องมองมาที่เขา มองไปที่พวกเขาเดินเข้ามา.
“มีคนมาตายเพิ่มอีกสองคน.”
“พวกเขาคงไม่รู้แน่ว่ามีกระทิงเฝ้าอยู่ด้านใน.”
“เสียดาย เด็กสาวอีกแล้ว.”
ทุกคนรู้ว่าในห้างนั้นมีกระทิง พวกเขาจึงไม่กล้าเข้าไป แต่ก็เห็นคนหลายกลุ่มเข้าไปและตาย.
“สัปดาห์นี้มีกี่กลุ่มแล้ว?”
“เมื่อไหร่กระทิงจะออกมา?”
และเมื่อปัญหาหมดไป กระทิงก็จะออกมาด้วยการถูกโยน.
ตูม!
กระทิงตกไปที่ถนน มันกลิ้งไปหลายตลบ ชนรถห้าคันก่อนจะหยุดอยู่กำแพง.
คนในห้องก็ลืมตาขึ้นทันที สถานการณ์ตรงหน้าต่างจากที่พวกเขาคิด.
“กระทิงลอยออกมา?”
พวกเขากลายเป็นโง่งม.
เพราะนี่คือสถานการณ์ที่พูดไม่ออก.
กระทิงเป็นมอนเตอร์เลเวล S ที่โด่งดัง ร่างกายแข็งแกร่ง,ปืนและดาบไม่อาจทะลุผิวหนังของมันได้ มันเหมือนกับปีศาจที่ออกจากนรก.
มีไม่กี่คนในโลกที่สามารถสู้กับมันได้.
แต่ตอนนี้ปีศาจที่ทรงพลังกลับกระเด็นออกมาจากกำแพงของห่างและตกลงมาอย่างน่าสมเพช?
มันเกือบจะเป็นเหมือนฝัน.
แต่ในเวลาเดียวกัน ผู้ชายและเด็กสาวก็ออกมาอีกครั้ง.
ทั้งสองเดินออกมาจากห้างอย่างใจเย็น ชายผู้คนนั้นเหลือบมองกระทิงที่กำลังดิ้นไปมาและหยิบรถขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด.
ตูม!
เขาฟาดรถใส่กระทิงจนตาย!
“ไปเถอะ”หลินเฟยกอดเด็กสาวและจากไปโดยไม่หันกลับมามอง กล่องมาม่าอยู่ในกระเป๋าของเขาแล้ว.
มีคนในห้องไม่กี่คนที่อยู่ที่นั่น.
“ฉันตาฝาดหรอ?”
“มันต้องตาฝาดแน่ๆใช่ไหม.”
“นั่นมันกระทิง กระทิงที่มีพลังมาหาศาลจนแทบจะไร้พ่าย ทำไมเขาถึงถูกฆ่าเช่นนี้?”
มีเพียงกระทิงเท่านั้นที่ทุบคนตายด้วยรถยนต์ พวกเขาไม่เห็นใครทุบกระทิงให้ตายด้วยรถ พวกเขาไม่อยากเชื่อทุกสิ่งที่พวกเขาเห็นในวันนี้.
แต่ตอนนี้ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นต่อหน้าพวกเขาจริงๆและพวกเขาต้องเชื่อมั่น.
“คนเมื่อกี้เป็นใครกัน?”
“ไม่ แบบนี้ เขาเป็นคนอยู่ไหม?”
พวกเขามองไปที่กำแพงที่กระทิงกระเด็นออก ร่างกายของมันแบบเรียบและตายไปทั้งๆอย่างนั้น น่ากลัวมาก.
มีคนไม่กี่คนที่เห็นใจกระทิงตัวนั้นจริงๆ.
“มันแย่มาก.”
หลินเฟยออกไปกับเด็กสาวและในขณะเดียวกันเขาก็สงสัยว่า”มาม่านี่มันอร่อยหรอ? มันไม่ดีต่อสุขภาพ ฉันไม่เข้าใจคนแก่จริงๆ.”
ทังสองไปยังจุดมาร์กทุกแห่งจนถึงเย็นและกลับขึ้นไปบนยอดเขาที่ชานเมือง.
ในเวลานี้ผู้เฒ่าทั้งสองกำลังนั่งมองพระอาทิตย์ตกดิน.
“นายต้องการจะรับเด็กทั้งสองเป็นศิษย์หรอ?”เฒ่าจางพูดอย่างแปลกๆ”เด็กคนนั้นมีความสามารถดี แต่เขาดีกว่าลอร์ดแสง?”
“ไม่แน่นอน”ชายชรายิ้มจางๆ”ลอร์ดแสงเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาตลอด 10-20 ปี.”
Chapter 332
“ด้วยอายุ 18 ปี จุนอี้นั้นหล่อเหลา,สดใสและร่าเริงแถมยังอ่อนโยนต่อคนอื่น ฉันยังไม่เห็นข้อบกพร่องของเขาเลย”ชายชราถอนหายใจ”เขาเป็นเหมือนพระเจ้า ทั้งไร้ที่ติและไม่มีข้อบกพร่องใดๆ.”
“ฉันได้ยินมาว่าลอร์ดแสงของเป็นศิษย์นาย ทำไมนายไม่รับ”เฒ่าจางพูดอีกครั้ง”เขาสมบูรณ์แบบมาก นายไม่อยากรับเขาเป็นศิษย์หรอ?”
ชายชราส่ายหัวและพูดว่า”ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำ แต่ทำไม่ได้.”
“พระสวรรค์ของเขานั้นน่าทึ่ง ฉันไม่กล้าเป็นอาจารย์ของเขา.”
เฒ่าจางพยักหน้าอย่างเข้าใจและพูดว่า”แล้วเด็กนั่น เขาไม่ดีเท่ากับลอร์ดแสง เขาเลยมีคุณสมบัติเป็นศิษย์นาย?”
“นั่นแหละคือความจริง”ชายชรายิ้มและพูดว่า”น่าเสียดายที่เขาดื้อ.”
“เขาไม่ต้องการมัน มันเป็นชะตาของเขา”เฒ่าจางพูด”มนุษย์มีชะตาเป็นของตัวเอง ถ้าเขาผ่านไปก็ถือว่าเขาพลาด บางทีเขาอาจะเสียใจกับคำตัดสินของเขาวันนี้ในอนาคต.”
“อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เลย”ชายชราพูด”เมื่อไหร่เขาจะรวบรวมเครื่องมือได้?”
เฒ่าจางพูดอย่างใจเย็น”คงต้องใช้เวลาอีกสักอาทิตย์”
“เพราะที่ๆเครื่องมืออยู่ มันจะมีมอนเตอร์ที่แข็งแกร่งเฝ้าถึงแม้จะเป็นเลเวล S ก็ไม่อาจต่อสู้ได้.”
“ดังนั้นเขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆหนึ่งอาทิตย์กว่าที่จะได้ทั้งหมด.”
ชายชราพูด”ถ้าอย่างนั้นนายก็พยายามทำให้คนอื่นลำบากแล้ว.”
“ถ้านายต้องการช่วยเขา มันก็ไม่ง่ายขนาดนี้ สิ่งของของฉันต้องสมบูรณ์และทรงประสิทธิภาพที่สุและเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเอาไปได้ง่ายๆด้วยคำพูดไม่กี่คำแบบนี้.”
ทั้งสองกำลังคุยกัน…
“ผมกลับมาแล้ว.”
จู่ๆก็ได้ยินเสียงของหลินเฟยมาจากที่ไกลๆ.
ชายชราทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ต่างก็ตะลึงไปพักหนึ่ง เมื่อหันกลับมา พวกเขาก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งยืนอยู่ที่บ้านของพวกเขา.
เมื่อมองดูดีๆ เป็นหลินเฟยและยี่หยู่เซว่ ตอนนี้ราวกับพวกเขาเพิ่งจะออกมา.
เสียงของเขาดูไม่เป็นอะไรและไม่มีแม้แต่เหงื่อบนใบหน้าของพวกเขา.
“พวกนายกลับมาทำไม?”ชายชราพูดอย่างแปลกใจ”ฉันจะรู้สึกหงุดหงิดมากหากนายไม่ได้เอาอะไรมา?”
ในความคิดของเขา ที่ทั้งสองกลับมาเร็วขนาดนี้ เป็นเพราะทั้งสองไม่ได้เอาอุปกรณ์อะไรกลับมาเลย เลยกลับมาด้วยความอับอาย.
เมื่อกี้นี้ เฒ่าจางบอกว่าการจะได้รับสิ่งของพวกนั้นมามันต้องใช้เวลาถึงหนึ่งอาทิตย์.
เฒ่าจางเลยพูด”นายรวบรวมมันได้หมดเมื่อไหร่ ฉันก็จะทำเครื่องเทเลพอตเมื่อนั้น.”
ตาของหลินเฟยเป็นประกายเมื่อได้ยินเรื่องนี้.
“งั้นก็เริ่มทำตามที่บอกได้เลย ผมเอามันมาหมดแล้ว.”
“หืม?”
ชายชราทั้งสองตะลึงและบางคนก็สงสัยว่าเขาได้ยินผิด.
ใครบางคนสามารถรวบรวมทุกอย่างได้รวดเร็ว? มันเป็นไปไม่ได้!
“อย่าล้อเล่นสิ”ชายชราพูด”ของสำคัญเหล่านั้นไม่อาจพูดเล่นได้.”
หลินเฟยมองไปที่ชายชราและพูดว่า”ถ้าผมรวบรวมมาได้ไม่หมด ผมจะกลับมาเพื่อ?”
วางกระเป๋าลงและนำแผงวงจรสีแดงออกมา.
“อันเดียว?”
เฒ่าจางขมวดคิ้วขณะมาด้านหน้าหลินเฟยอย่างรวดเร็วและหยิบแผงวงจรสีแดงอย่างระมัดระวัง.
ยิ่งมอง เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมาก.
“นี่แหละ ใช่แล้ว!”
“อย่าเพิ่งรีบตื่นเต้น”หลินเฟยพูดอย่างสงบและหยิบขวดแก้วขนาดเท่าน้ำแร่ที่บรรจุของเหลวสีน้ำเงินออกมา เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร.
“นี่คือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?”
ตาของเฒ่าจางเบิกกว้าง.
“ใช่ ใช่!”