One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - ตอนที่ 361-362
บทที่ 361-362
แรงกระแทกนั้นแรงมากจนเขาทนไม่ไหวและกระอักเลือดออกมาทันที.
เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว รากกับว่าอวัยวะภายในของเขาถูกทำลายและเขาก็ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกยืน.
”ฉันขยับไม่ได้…”
เขาต้องการจะลุกขึ้น แต่เขาเจ็บไปทุกอณูจนเขาไม่มีแม้แต่จะตอบสนองได้.
”ฉันขยับไม่ได้.”
ผลก็คือ มันเป็นแบบนี้.
ผลลัพธ์ที่เขาอยากจะพิสูจน์ว่าเลเวล B ก็จัดการเลเวล S ได้.
แต่ตอนนี้ ผลลัพธ์นั้นปรากฏให้เห็นในสายตาของเขาแล้ว.
เชสเตอร์ทั้งสองก็ค่อยๆคลานเข้ามา.
อย่างที่พวกเขาบอกกันตั้งแต่ต้น”นั่นมันมอนเตอร์เลเวล S มันเป็นมอนเตอร์ที่โหดมาก มันก็ไม่แย่ที่เลเวล B รอดมาได้ แต่มันก็ไม่อาจสู้กับไอ้ตัวพวกนี้ได้เหมือนกัน!”.
เมื่อเห็นเชสเตอร์ใกล้เข้ามา เด็กหนุ่มก็พลิกตัวหงายราบไปกับพื้นพร้อมกับมองขึ้นไปบนท้องฟ้า.
”เป็นไปไม่ได้.”
”ฉันทำอะไรไม่ได้เลย.”
”มันมีแต่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นและหาเรื่องใส่ตัวเท่านั้น.”
”ทำไม?”
เขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง”เราจะเป็นอย่างนี้ต่อในอนาคตงั้นหรือ? เลเวล B ถูกลิขิตให้ไร้ประโยชน์?”
ขณะที่ตกอยู่ในภวังค์ เขาจำตำนานได้.
ตำนานที่ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่ตอนไหน.
วันที่มีดาวตก.
หากวันหนึ่งเห็นดาวตกที่มักปรากฏขึ้นในตอนกลางดึกมาปรากฏในตอนกลางวัน วันนั้นพระเจ้าจะมาจุติบนโลกเพื่อนำทางมวลมนุษยชาติ.
เด็กหนุ่มคิดเรื่องนั้นตอนนี้ สิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องหลอก.
จะเห็นดาวตกตอนกลางวันได้อย่างไง?
พรับ–
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา เด็กหนุ่มหลับตาพร้อมกับรอความตาย.
ฟ้าว!
เขาได้ยินเสียงกรงเล็บของเชสเตอร์ที่แหวกอากาศ.
แต่หลังจากรอมานาน เขาก็ไม่รู้สึกเจ็บหรือรู้สึกว่าโดนแทง.
เมื่อเขาลืมตา เด็กหนุ่มก็ตะลึง.
ชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่ามายืนตั้งแต่ตอนไหนแล้ว เขากำลังจับมือของเชสเตอร์ด้วยมือซ้ายของเขา.
”นายยังไม่ตาย?”หลินเฟยเพิ่งเห็นเด็กชายลืมตาและพูดว่า”ฉันคิดว่าฉันมาช้าซะแล้ว.”
”คุณ!”
ดวงตาของเด็กหนุ่มสั่น เขาเห็นอะไร?
ชายด้านหน้าของเขากำลังจับข้อมือของเชนเตอร์!
”รอแปป ฉันจะจัดการมันก่อน.”
หลินเฟยพูด พลางผลักเชสเตอร์ที่อยู่ด้านหน้าของเขาเบาๆ.
ตูม!
ทันใดนั้นเชสเตอร์ก็กลิ้งกระเด็นไปหลายตลบและชนเข้ากับรถบรรทุก ตามมาด้วยเสียงกระแทกกับรถบรรทุก.
ตาของเด็กหนุ่มยังคงสั่นสะท้าน นี่มันพลังอะไรกันเนี่ย?
ฟ้าว!
ในเวลานี้ เชสเตอร์ที่อยู่อีกตัวก็กระโดดออกมาอย่างรวดเร็ว มันเกาะอยู่ตรงกำแพงและมองไปที่หลินเฟยอย่างระมัดระวัง.
ตูม!
เกิดเสียงดัง เชสเตอร์ที่ชนกับรถบรรทุกกระโดดออกมาทันที มันพุ่งขึ้นมาพร้อมกับพุ่งเข้าหาหลินเฟยราวกับสายฟ้า.
”อันตราย.”
เด็กหนุ่มกรีดร้องเสียงดัง.
อย่างไรก็ตามหลิมเฟยยกมือขึ้นอย่างเฉยชาและบีบหัวของเชสเตอร์ก่อนที่จะกระแทกเข้ากับกำแพงข้างๆเขา
ตูม!
ตึกถล่ม.
เกิดหลุมขนาดใหญ่ที่กำแพง ที่เชสเตอร์กระแทก และมันก็ทะลุกำแพงนี้ไปแล้ว…
เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี เชสเตอร์ก็ปีนขึ้นไปเหมือนกับแมงมุมทันที.
หลินเฟยหยิบหินขึ้นมาและขว้างใส่เชสเตอร์.
ตูม!
มันเป็นก้อนหินที่ไหน เห็นได้ชัดว่าเป็นกระสุนปืนใหญ่ มันเร็วกว่าเสียงและมันก็ทำให้เชสเตอร์ตัวแตกทันทีตามมาด้วยเสียงโซนิคบูม.
เด็กหนุ่มอึ้ง.
เมื่อเขาเห็นฉากนี้ทำให้เขาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง.
แต่ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้า จะไม่ให้เขาเชื่อได้อย่างไร?
”พี่ใหญ่ นายยังลุกขึ้นได้อยู่ไหม?”หลินเฟยคุกเข่าลงและถามด้วยความเป็นห่วง.
สำหรับตอนนี้ ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น.
”ไม่เป็นไร”เด็กหนุ่มบอก”ฉันล้มได้ก็ลุกได้.”
เขาพูด”ขอบคุณที่ช่วยฉัน.”
”ด้วยความยินดี”หลินเฟยพูดเบาๆ”ฉันเพิ่งเห็นและเข้ามา นึกมาจะมาช้า.”
”ต้องบอกเลยว่าชายหนุ่มเดี๋ยวนี้กล้ามาก กล้าที่จะวิ่งตามถนนไปรอบๆ.”
เด็กหนุ่มมองหลินเฟยเป็นเวลานานแล้วพูดช้าๆว่า”คุณแข็งแกร่งมาก คุณต้องเป็นเลเวล S.”
ในสายตาของชายหนุ่ม มีเพียงเลเวล S เท่านั้นที่จะเอาสามารถชนะเชสเตอร์ได้.
เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ.
นี่คือผู้มีพลังเลเวล S? ความแตกต่างของความแข็งแกร่งนี้เป็นเพียงระยะห่างระหว่างท้องฟ้ากับผืนดิน.
”ใช่.”
หลินเฟยยิ้มและพูด”ฉันเพิ่งกลายเป็นเลเวล S ไม่นานมานี้ เมื่อก่อนฉันเป็นผู้มีพลังเลเวล E มาก่อน.”
”เลเวล E!”
เด็กหนุ่มตกตะลึงและพูดว่า”เลเวล E จะกลายเป็นเลเวล S ได้ยังไง?”
”อะไรที่เป็นไปไม่ได้”หลินเฟยกล่าว”ตราบใดที่ฉันต้องการ ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้.”
”ตราบเท่าที่คุณต้องการ……”
เขาไม่เชื่อคำพูดของหลินเฟย พรสวรรค์,พลัง,และเลเวลต่างๆล้วนถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เริ่มต้น เลเวล S ก็คือเลเวล S และเลเวล E ก็คือเลเวล E.
เลเวล E จะกลายเป็นเลเวล S ได้อย่างไร?
”คุณพูดล้อเล่นแล้ว?”เด็กหนุ่มพูด.
”แค่คิดว่าฉันเป็นคนตลก”หลินเฟยถอนหายใจ”มนุษย์มักทำผิดแบบเดิมๆ ต่อให้คำตอบอยู่ตรงหน้าก็ยังสงสัย.”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟย เด็กหนุ่มก็ตกตะลึง.
งั้นมันก็อยู่ที่วิจารณญาณ.
เป็นไปได้ไหมที่สิ่งที่หลินเฟยพูดนั้นเป็นความจริง?
”งั้น ผมจะแข็งแกร่งได้เท่าคุณไหม?”เด็กชายถาม.
”อาจได้หรือไม่ได้”หลินเฟยพูด”นายไม่ใช่ฉัน ฉันจะรู้ได้อย่างไงว่าเหมือนฉัน?”
เด็กชายเงียบ มันน่าตกใจเกินไป.
ในเวลานี้หลินเฟยก็พูดต่”แต่……”
เด็กชายเงยหน้ามองทันทีและมองไปที่หลินเฟย คิดในใจว่าชายคนนี้จะปลอบใจเขาหรือไม่?
กลับกลายเป็นความว่าเขาคิดมากเกินไป.
หลินเฟยพูดต่อ”ฉันไม่เข้าใจหนุ่มสาวอย่างนาย นายคิดว่าพลังที่มีไว้เพื่อทำลายโลกงั้นหรอ?”
”มีพลังมากเกินไปเท่าไร มันก็จะเหงามากเท่านั้น ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว คนแข็งแกร่งมักโดดเดี่ยว นายคงไม่เข้าใจ.”
หลินเฟยถอนหายใจอีกครั้ง.
แม้แต่พระเจ้าก็โดนเขาทำร้าย ไม่มีใครสู้ได้ มันน่าเบื่อ.
เด็กหนุ่ม: “…”
ฉันคิดว่าเขาจะปลอบใจซะอีก.
”เลิกพูดได้แล้ว”หลินเฟยพูด”ฉันลืมไปแล้วว่าเป้าหมายของฉันคืออะไร รู้ไหมว่ามีห้างอยู่ที่ไหน?”
”รู้.”
เขาพูด”มันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เพือนของฉันอยู่ข้างใน.”
”เชสเตอร์ทั้งสองนั้นเฝ้าห้าง.”
”ขอบคุณ”หลินเฟยขอบคุณเขาและกำลังจะพาเด็กสาวออกไป แต่หลังจากเดินได้เพียงสองก้าวเขาก็หันกลับมาและถามว่า”นายต้องการให้ฉันพาไปด้วยไหม?”
”อย่างนั้นก็รบกวนด้วย”เด็กชายเงียบอยู่ครู่หนึ่งและตกลงในที่สุด.
เพราะตอนนี้เขายังอ่อนแรง ไม่มีแรงแม้แต่จะลึก หากเขาอยู่ที่นี่ต่อไป เขาจะอยู่ในอันตรายมากๆ
”ไม่มีปัญหา”หลินเฟยพูด เขาพยุงช่วยเด็กหนุ่มขึ้นและพูดว่า”ถ้านายนำทาง ฉันก็จะไม่หลงทาง.”