One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - ตอนที่ 373-374
บทที่ 373-374
”คุณจะทำอะไร?”
หลินเฟยจ้องไปที่ร่างของหวังหู่.
ในเวลานี้หวังหู่ยังคงไม่เข้าใจ และผลกระทบของฉากนี้ในตอนนี้มันก็มากเกินไปสำหรับเขา.
กระทิงแกร่งนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็ตบมันได้ไปในฉาดเดียว!
มันก็ปลิวไปไกลและหายลับไปกับหมู่ดาว.
นี่คือผู้มีพลังเลเวล S จริงๆ?
เขาสงสัยว่าเขาตกยุคไปแล้วหรือไร ผู้มีพลังเลเวล S ในตอนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน?
เขาจะแก้แค้นได้อย่างไง?
หวังหู่เริ่มเสียใจในใจ ทำไมลูกชายเขาถึงยั่วยุผู้มีพลังขนาดนี้?
เขารู้สึกปวดหัวมาก.
”ไม่มีอะไร”เมื่อได้ยินหลินเฟยถาม เขาทำได้เพียงฝืนยิ้มและพูดว่า”คุณแข็งแกร่งมาก.”
”โอ้ ไม่เป็นไรเลย.”
หลินเฟยพูด”ฉันมันไร้พ่าย ฉันจึงไม่รู้จะพูดอะไรกับเรื่องพวกนี้.”
”เจอแล้ว!”
ในตอนนี้มีเสียงเฮดังขึ้นอยู่ไม่ไกล จากนั้นหลินเฟยก็เห็นบอดี้การ์ดรีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับยื่นถุงให้.
มันคือถุงพลาสติกขนาดเท่าฝ่ามือ.
หลินเฟยเห็นรูปมะเขือยาวบนถุงพลาสติก เห็นได้ชัดว่ามันคือเมล็ดพันธ์ุของมะเขือยาว.
”ขอบคุณ”หลินเฟยรับมันมาอย่างรวดเร็ว.
”เป็นเกรียติอย่างยิ่งที่ได้ช่วยเทพใหญ่”บอดี้การ์ดก็วิ่งออกไปหาเมล็ดพืชอย่างตื่นเต้นอีกครั้ง.
เขาประทับใจในพลังของหลินเฟยที่แสดงออกมาอย่างมาก.
พลังโครตทรงพลังขนาดนั้น เขาทำได้ยังไง?
”ผมก็หาเจอแล้วเหมือนกัน!”
บอดี้การ์ดอีกคนก็พบของใหม่ เขารีบวิ่งไปส่งเมล็ดพืชให้กับหลินเฟย.
ถุงนี้คือเมล็ดมะเขือเทศ.
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีการหาของใหม่ๆเจอขึ้นหลายครั้ง.
ผักกาดหอม,หัวหอม,กระเทียม,ต้นหอม,มันฝรั่ง,มันหวาน….
สรุปแล้วหลินเฟยได้รับเมล็ดพันธ์ุมากกว่า 30 ชนิด.
มันสามารถปลูกกินได้ตลอดทั้งปี.
ตลาดเกษตรทั้งหมดถูกหาจนทั่วแล้ว มันไม่มีเมล็ดพันธุ์อีกและหลินเฟยก็หยุดทุกคน.
”ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ.”
”มันเป็นเกรียติมากที่ได้ช่วยคุณ”บอดี้การ์ดตื่นเต้นมากๆ.
หลินเฟยหันไปมองหวังหู่อีกครั้ง.
”ฉันบอกก่อนนะ ฉันสามารถอ่านใจได้ ทำไมถึงไม่ฟัง?”
หวังหู่รู้สึกว่าหัวใจหยุดเต้นทันที.
ดูเหมือนว่าหลินเฟยจะบอกว่าเขาอ่านใจได้จริงๆ!
”เทพนั้นมีชีวิตที่ดี”หลินเฟยพูด”ผมให้โอกาสคุณแล้ว แต่คุณก็ไม่เอา.”
หลินเฟยพูดต่อพลางถอนหายใจ”บางทีคุณอาจจะโง่เกินไป.”
”โง่มากๆ.”
หวังหู่เดาอะไรบางอย่างได้ ใบหน้าของเขาซีด และเขาก็ถอยหลังอย่างตุปั๊ดตุเป๋.
หลังจากที่ได้เห็นพลังของหลินเฟย เขาก็ไม่กล้าต่อต้านเลย แม้ว่าจะเป็นกระทิงแกร่งมันก็ยังตายเพียงแค่หลินเฟยโบกมือ.
เขาที่เป็นเลเวล A จะไปสู้ได้อย่างไร?
”ถ้ามีอะไรที่คุณต้องการอีก”หวังหู่พูดอย่างกังวล”ผมสามารถให้สิ่งที่คุณต้องการได้.”
”ล้อกันเล่นแล้ว.”
หลินเฟยพูด”ถ้าคุณต้องการฆ่าผม ผมยังสามารถปล่อยคุณไปได้ มันจะเป็นบุญที่ใหญ่ที่สุดของผมที่ให้คุณมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้.”
ตูม!
เกิดเสียงดัง ทั้งตลาดเกิดการสั่นสะเทือนเบาๆ.
จากนั้นหวังหู่ก็ปลิวขึ้นฟ้าและหายกลายเป็นดาว.
ฟู่ๆ–
หลินเฟยตบมือไล่ฝุ่นพลางมองไปทางเด็กสาวและพูดว่า”ไปกันเถอะ กลับไปปลูกผัก.”
ในที่สุดเขาก็สามารถปลูกผักและพึ่งพาตนเองได้!
ฟิ้วววว!
จากนั้นกลุ่มคนก็มองหลินเฟยและเด็กสาวบินหายไปด้วยความประหลาดใจ.
”ฉันต้องตาฝาดแน่ๆ เขายังบินได้ด้วย?”
ทั้งหมดอึ้ง.
บินได้ เขาก็คือเทพ!
หลินเฟยและเด็กสาวกลับบ้านผ่านทางเครื่องเทเลพอต.
ครั้งนี้พวกเขาออกไปเพื่อหาเมล็ด แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้ต้นกล้ากลับมา.
”เพาะเมล็ดพวกนี้ก่อน.
จากนั้นเขาก็เริ่มทำแปลงผัก.
”ฉันขุดหลุมไว้ด้านหน้า และเธอก็เดินตามหลังพร้อมกับหยอดเมล็ด”หลินเฟยพูดกับเด็กสาว.
”ได้”เด็กสาวรับคำ.
จำเป็นต้องใช้ที่พรวนดินเพื่อขุดหลุม ดังนั้นหลินเฟยจึงตัดต้นไม้และเสียบกับหินแบนๆ ที่พรวนดินแบบง่ายๆก็ถูกสร้างขึ้น.
เด็กสาวหยอดเมล็ดมะเขือเทศ เธอตามหลินเฟยเงียบๆและหยอดทุกหลุมที่เขาขุดพร้อมกับกลบดินหลังจากหยอดเสร็จแล้ว.
แน่นอนว่าเมล็ดพวกนี้มีหลายสิบห่อมันไม่มีวันหมด.
หลินเฟยแค่ปลูกไม่กี่ไร่แล้วก็หยุด.
”ฉันจะรดน้ำเอง”เด็กสาวพูด.
”ไม่ ฉันทำเอง”หลินเฟยพาเด็กสาวลงจากภูเขาและโบกมือก่อนที่จะปรากฏเมฆสีดำที่ยอดเขา.
จากนั้นฝนก็ตก.
มีฝนตกปรอยๆบนเนินเขาเท่านั้น.
”นี่มันเหมือนกับบัคในชีวิตจริงเลยจริงๆ”เมื่อเห็นฉากนี้ เด็กสาวถอนหายใจ หลินเฟยสามารถเรียกลมเรียกฝนได้ มันเป็นเหมือนกับเทพบนสวรรค์เลยจริงๆ.
ไม่ทันไรก็บ่ายโมงซะแล้ว.
”พักก่อนเถอะ”เด็กสาวพูด”อย่างอื่นค่อยเอาไว้พรุ่งนี้เถอะ.”
หลินเฟยพยักหน้าและมองไปที่เนินเขา เดิมทีมันรกร้างมาก แต่เขาก็ทำความสะอาดด้วยตัวเอง คิดแล้วมันก็เป็นวันที่สมหวัง.
กลางคืน ทั้งสองใช้เวลาอยู่ในกระท่อม.
กลางคืนที่นี่เงียบมาก.
มันเป็นสถานที่ที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยจริงๆเพราะหลินเฟยเจอสถานที่ถูกใจเข้าด้วยพลัง.
วันต่อมา.
หลังจากกินข้าวเช้าแล้ว หลินเฟยและเด็กสาวก็ออกจากบ้านอีกครั้ง.
เขาเห็นด้วยกับการหาเฟอนิเจอร์และต้นกล้า.
ทั้งสองบันทึกตำแหน่งเครื่องเทเลพอตไว้ครั้งล่าสุดผ่านเครื่องเทเลพอตและกลับไปที่เมืองที่เขาไปเมื่อวาน.
”เข้าไปชุมนุมและถาม”หลินเฟยคิดอย่างนั้น.
คราวนี้หลินเฟยและเด็กสาวผ่านชุมนุม พวกเขาต้องถูกตรวจสอบ.
แต่ไม่นาน เขาก็เดินเข้าไปในชุมนุม หลินเฟยก็ถูกชายชราคนหนึ่งจับไว้.
”คุณเห็นหลานสาวฉันไหม?”ชายชราถามอย่างตื่นเต้น”เธอสูงประมาณคุณ ผมยาว…”
หลินเฟยคิดและส่ายหัวก่อนพูดว่า”ขอโทษด้วย ผมไม่เห็น.”
ดวงตาของชายชราพลันห่อเหี่ยวลงมาก.
”คุณตา คุณรู้จักที่ที่หลานสาวของคุณจะไปหรือเปล่า?”เด็กสาวถาม.
”ฉันหามาหมดแล้ว.”
เมื่อพูดอย่างนี้ ชายชราก็เงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเขาเป็นประกายและพูดว่า”เธอคงหนีไปแล้ว เธอต้องไปภูเขากวนชิง”
”ฉันจะไปหาเธอที่นั่น.”
หลังจากนั้นเขาก็เดินไปที่ประตูทันที.
แต่ในเวลานี้หลินเฟยก็คว้าแขนชายชรา.
”ข้างนอกมีซอมบี้อยู่เต็มไปหมด คุณแก่แล้ว ถ้าคุณออกไป คุณจะตาย”หลินเฟยพูด.
”ชีวิตของฉันไร้ค่า ส่วนใหญ่ก็เพราะหลานสาว”ชายชรายังพูดอีกว่า”เธอคงยังไม่ได้ทำอะไรนะ.”
เด็กสาวมองไปที่หลินเฟย แต่ก็หยุดพูดหลายครั้ง.
”บอกผมทีว่าภูเขากวงชิงอยู่ที่ไหน?”หลินเฟยเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า”ผมจะไปหาให้คุณ.”
เขาจำเด็กชายตัวน้อยที่เขาพบได้ที่ตลาด.
ในเวลานนั้น เขาโกหกเด็กชาย*คนนั้น เขาบอกว่ามนุษย์ชนะแล้ว…..
ผมไม่อยากจะสนใจแล้ว แต่เขาก็อดที่จะคิดถึงมันไม่ได้.