One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - ตอนที่ 375-376
บทที่ 375-376
ดวงตาของเด็กสาวเป็นประกายขึ้นมาทันที ราวกับมีหมู่ดาวมาอยู่ภายในดวงตาของเธอ เธอยิ้มเล็กน้อยและมันก็ดูงดงามเอามากๆ.
”เธอจะช่วยฉันหรอ?”
ตาของชายชราก็เป็นประกายทันทีและเขาก็พูดว่า”นั่นเป็นเรื่องยากสำหรับเธอจริงๆ ออกไปแล้วเดินไปข้างหน้า 2-300 เมตรจะมียอดเขาที่นั่น นั่นคือภูเขากวนชิง.”
”เธอระวังตัวด้วย ฉันจะรอเธออยู่ที่หน้าประตูทางเข้า.”
หลินเฟยพยักหน้าและเดินออกไปพร้อมกับเด็กสาว.
”ทันทีที่ฉันเข้ามา ฉันก็ต้องเดินออกมาอีกและ”หลินเฟยถอนหายใจ.
เด็กสาวยิ้มน้อยๆอยู่ข้างๆและพูดว่า”ไม่คาดคิดเลย คุณคิดที่จะช่วยชายชรา เพื่อตามหาหลานสาวของเขาด้วยตัวเอง.”
”ฉันได้พบเขาแล้ว ดังนั้นฉันเลยจะช่วยเขา”หลินเฟยพูดอย่างไม่ใส่ใจ การเดินทางไปหลายร้อยเมตรก็ไม่ลำบากสำหรับเขาอยู่ดี.
ทั้งสองไม่ได้เจอซอมบี้ระหว่างทางเลย.
”เพราะภูเขากวงชิงอยู่ใกล้ชุมนุมมากมันเลยไม่เจอซอมบี้”เด็กสาวอธิบาย”มันห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร มันต้องมีผู้มีพลังหมั่นมาตรวจสอบแน่ๆ.”
”ขึ้นไปบนเขา”หลินเฟยพูด บางทีเด็กสาวตัวน้อยยังคงปีนเขาอยู่เลยตอนนี้.
”ไปเร็วๆเถอะ.”
เด็กสาวกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เธอจึงพาหลินเฟยและวิ่งไปตามถนนตามภูเขา.
การเดินทางนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น และในที่สุดทั้งสองก็พบเด็กน้อยระหว่างทางขึ้นเขา.
หลินเฟยมองไปรอบๆด้วยพลัง[perspective]และไม่มีซอมบี้อยู่บนภูเขาแห่งนี้ เห็นได้ชัดว่าผู้มีพลังในชุมนุมได้กวากล้างสถานที่แห่งนี้ไปหมดแล้ว.
”เด็กน้อย.”
ยี่หยู่เซว่รีบวิ่งเข้าไปรั้งเด็กสาวตัวน้อย.
นี่คือเด็กสาวตัวน้อยที่น่ารัก.
แต่เพราะเธอกำลังปีนเขา ใบหน้าน้อยๆของเธอจึงเต็มไปด้วยเหงื่อและแม้กระทั่งเสื้อผ้าของเธอก็เปียกโชก.
ยี่หยู่เซว่จับเธอไว้และพูดว่า”เธอรู้ไหมว่าปู่ของเธอเป็นห่วงเธอมาก?”
เด็กสาวตัวน้อยตกตะลึงสักครู่หนึ่งก่อนที่จะเงยหน้ามองไปที่หยู่เซว่”คุณปู่ให้พี่มาเรียกหนูหรอ?”
”แต่หนูยังกลับไม่ได้ตอนนี้.”
”ทำไม?”หยู่เซว่พูดด้วยสีหน้าเครียดๆ”รู้ไหม การไปไหนมาไหนคนเดียวมันอันตราย.”
”รู้.”
เด็กน้อยพยักหน้าอย่างจริงจังและพูดว่า”แต่หนูต้องขึ้นไปบนยอดเขา”
ท้ายที่สุดเด็กน้อยก็ยังคงมุ่งหน้าเดินขึ้นไป เธอเหนื่อและเหงื่อออก แต่เธอก็ยังคงปืนขึ้นไปพร้อมกับกัดฟันของเธอ.
หยู่เซว่ถามด้วยความงง”ที่ยอดเขามีอะไรหรอ?”
”ปู่บอกว่าเมื่อยืนที่สุดจะมองเห็นได้ไกล และพูดได้ไกลขึ้น ดังนั้นหนูเลยอยากจขอพรบนยอดเขา พะรเจ้าจะได้ต้องยินหนูแน่ๆ.”
หลินเฟยตามมาและเมื่อได้ยินสิ่งนี้เขาก็เริ่มสนใจ.
ดูน่าสนใจดีนะ.
”งั้นฉันจะพาเธอขึ้นไป”หยู่เซว่พูด.
”ไม่เอา”เด็กสาวพูดด้วยท่าทีดื้อรั้น”คุณต้องใช้กำลังของตัวเองถึงจะขึ้นไปได้ มันจะได้เห็นว่าเรานั้นเอาจริง.”
ทันใดนั้นหยู่เซว่ก็ไม่มีทางเลือก.
”ทำไมหนูถึงเชื่อในพระเจ้าขนาดนั้น?”หยู่เซว่ติดตามหลินเฟยมาเป็นเวลานานและรู้อะไรมากมาย อย่างไรก็ตาม เธอได้ไล่ตามหาข่าวของเทพมานาน.
”เพราะปู่เล่านิทานให้ฟัง.”
”นิทานอะไร?”หยู่เซว่ถามอย่างสงสัย.
เด็กน้อยพูดอย่างจริงจังว่า”ถ้าวันหนึ่งเห็นดาวตกในตอนกลางวัน วันนั้นจะเป็นวันที่พระเจ้าลงมาช่วยโลก”
เด็กสาวยิ้มทันที”มันจะเป็นไปได้ยังไง?”
”ตอนกลางวันไม่เห็นอุกกาบาต เพราะแสงของมันถูกดวงอาทิตย์กลบ.”
ในที่สุดครึ่งชั่วโมงต่อมาก สาวน้อยก็ปีนไปถึงยอดเขา.
ตึบ.
เธอคุกเข่ากับพื้นพร้อมพนมมือและหลับตาอธิฐานอย่างช้าๆ.
”พระเจ้า.”
”ตอนนี้วันสิ้นโลกแล้ว คุณอยู่ไหน? มาช่วยเราหน่อย?”
เด็กสาวส่ายหัวอย่างจริงจัง.
หลินเฟยยืนอยู่ข้างๆและทันใดนั้นก็พูดว่า”ถ้าเธอทำขนาดนั้นแล้วพระเจ้ายังไม่มา ฉันควรจะทำอย่างไร?”
”ไม่มา.”
สาวน้อยพูดอย่างจริงจัง”คุณปู้บอกว่าพระเจ้าดีมา ถ้าเขาได้ยินฉัน เขาจะมาช่วยเราอย่างแน่นอน.”
”ถ้าพระเจ้าไม่มา คงเพราะเสียงของเรายังคงไปไม่ถึงเขา…”
หลินเฟยพูด”ฉันก็หวังอย่างนั้นนะ.”
พระเจ้าจะมาจริงไหม?
ดาวตกตอนกลางวัน.
คุณจะเห็นดาวตกตอนกลางวันจริงๆงั้นหรือ?
ปกติแล้วหลินเฟยก็ไม่เชื่อตำนานเหล่านี้ เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องโกหกเพื่อให้กำลังใจสำหรับคนที่สิ้นหวัง.
แต่ตอนนี้เด็กสาวตัวน้อยยังเล็กนัก เขาไม่ต้องการบอกความจริงกับเธอ การโกหกเด็กๆมันคงมีความหมายบางอย่าง.
”ไปเถอะ.”
หลินเฟยพูด”ฉันจะพาเธอกลับไป ปู่ของเธอยังรอเธออยู่ที่หน้าประตูชุมนุม.”
”ค่ะ”เด็กน้อยลุกขึ้นจากพื้น.
แต่เพราะเธอขึ้นเขาและยังคุกเข่าอีกสักพัก เด็กน้อยที่ลุกขึ้นมาก็รู้สึกขาอ่อนและเกือบจะล้มลง.
โชคดีที่หลินเฟยจับเธอไว้ได้ทัน.
”ฉันจะแบกเธอลงไปเอง”หลินเฟยพูดอย่างหมดหนทาง.
แม้ว่าเด็กน้อยจะเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่เขาก็ไม่สนใจ มันจะเป็นเรื่องใหญ่ถ้ากลางคืนแล้วยังไม่อาบน้ำ.
”ขอบคุณพี่ใหญ่”เด็กน้อยยิ้ม.
สิบนาทีต่อมาหลินเฟยก็กลับไปที่ประตูชุมนุมกับเด็กน้อย.
”เหวินเหวิน!”
ก่อนที่หลินเฟยจะหาชายชราพบ เขาก็ได้ยินเสียงชายชราเรียกชื่อเล่นของเด็กน้อยอย่างกระวนกระวายใจ.
หลินเฟยวางเด็กน้อยลงและหลังจากพักมาพักหนึ่งแล้ว เธอก็สามารถเดินไปต่อเองได้.
”เธอไม่เป็นไรนะ? ให้ปู่ดูก่อนว่าหนูเจอซอมบี้หรือเปล่า?”ชายชราถามอย่างกังวลใจ.
”ไม่เจอหรอก ตลอดทั้งทางไม่เจออะไรเลย”เด็กน้อยพูด.
ชายชรามองไปที่หลินเฟยอีกครั้งและพูดขอบคุณ”ขอบคุณน้องชาย เธอต้องไปนั่งบ้านฉันบ้าง”
หลินเฟยเดิมทีต้องการที่จะปฏิเสธ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องไปเพราะเห็นชายชราตื่นเต้นเพียงใดและเขายังถูกเด็กน้อยจูงมือไปอีกด้วย.
เด็กสาวมองอยู่ด้านข้างและหัวเราะเบาๆ.
บ้านของชายชรานั้นแตกต่างจากบ้านของคนอื่นๆ บ้านของเขามีลานเล็กๆ มีต้นไม้ใหญ่ปลูกไว้.
”เชิญ”ชายชราพูดและเดินเข้าไปในห้อง.
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หยิบเอากล่องเหล็กออกมาและเปิดมันต่อหน้าหลินเฟย ข้างในมีมะม่วงตากแห้งมากมาย.
”กินสิ เราไม่มีของดีกว่านี้แล้ว”ชายชราพูดอย่างช้าๆเขินๆ.
เขาถอนหายใจ มะม่วงนี้ปลูกเอง โชคไม่ดีที่สวนผลไม้อยู่ชานเมือง ตอนนี้มันอาจะโดนซอมบี้ทำลายเกือบหมดแล้ว.”
”ซอมบี้พวกนี้น่าเกลียดจริงๆ”เด็กน้อยที่อยู่ข้างๆก็พูดเสริมอีกว่า”สวนของคุณปู่ใหญ่มาก มีมะม่วง,แอปเปิ้ล,เชอร์รี่,ส้ม,กล้วย…”
หลินเฟยไม่ได้ฟังมากนัก เพราเขาตกตะลึง.
สวนผลไม้?
เขาหรี่ตามองชายชราและถามว่า”คุณบอกว่าคุณเป็นเจ้าของสวนผลไม้?”
”ใช่”ชายชราพูด”แค่นั่นก็ต้องพูดว่าก่อนเกิดเหตุภัยพิบัติทั้งหมดและตอนนี้สวนผลไม้น่าจะถูกทำลายไปนานแล้ว.”
”สวนอยู่ที่ไหน?”หลินเฟยไม่คิดว่าซอมบี้พวกนั้นจะเบื่อพอที่จะทำลายต้นไม้เหล่านั้น.
เขาต้องไปดูเพื่อหาต้นกล้า.
ถ้าเขาเจอสวน กล้าไม้ทั้งหมดก็ลืมไปได้เลย เขาจะได้ต้นที่โตเต็มที่ทันที!
แค่ดูแลมันให้ดีๆก็รอดแน่นอน.
มันจะออกผลในอีกสองปี!
สวยงาม.