One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - ตอนที่ 377-378
บทที่ 377-378
”ในเขตชานเมือง”ชายชราด้วยสีหน้าแปลกๆ”เธอถามทำไม? ตอนนี้ไม่มีผลไม้ที่สุกแล้ว.”
หลินเฟยยิ้มและพูดว่า”ฉันต้องการปลูกต้นไม้บ้างและฉันจะพาคุณมากินผลไม้ในปีหน้า.”
ชายชราตกใจอย่างมาก”เธอจะปลูกต้นไม้?”
”ไม่ ตอนนี้ฉันจะเอาสิ่งที่ฉันมีให้เธอได้อย่างไง?”ชายชราพูดเสริม.
”ถูก ตราบใดที่คุณยังคิดถึง คุณก็ยังสามารถมีกินได้”หลินเฟยยิ้มและพูดว่า”ผมไม่ต้องการมะม่วงตากแห้งเหล่านี้ บอกผมทีว่าสวนของคุณอยู่ที่ไหน เดี่ยวผมจะไปดูเอง.”
ชายชราจ้องไปที่หลินเฟยเป็นเวลานาน แต่ท้ายที่สุดเขาก็ทำได้เพียงแค่ถอนหายใจ.
”ตกลง.”
เขาบอกหลินเฟยถึงตำแหน่งสวนของเขาโดยประมาณ.
”เธอต้องระวังให้ดี แม้ว่ามันจะไม่มีมอนเตอร์ในเขตชานเมือง”ชายชราพูดอย่างจริงจัง.
”ไม่ต้องห่วง”หลินเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม”เมื่อผลไม้ออกผลแล้ว ก็กินผลไม้นั้น”
เมื่อพูดเสร็จแล้ว เขาก็รีบออกไปพร้อมกับเด็กสาว.
เด็กสาวยิ้มอยู่ข้างๆเขาและพูดว่า”นี่คือรางวัลของคนดีหรอ? คุณช่วยปู่คนนั้น และก็ได้ผลไม้ที่คุณอยากได้มาตลอด.
”น่าจะอย่างนั้น”หลินเฟยพูด.
อันที่จริงนี่อาจจะเป็นพลังเหตุและผลของเขา.
เพราะเขาอยากได้ต้นผลไม้มาตลอด เหตุการณ์แบบนี้จึงเกิดขึ้นและปล่อยให้เขาได้ต้นไม้เหล่านั้นจากในสวน.
สวนผลไม้อยู่ชานเมืองห่างออกจากไปชุมนุมเล็กน้อย.
แต่สำหรับหลินเฟยมันไม่ไกลนัก เขากับเด็กสาวก็บินออกไปหลังเดินออกห่างจากชุมนุมไปพักหนึ่ง.
”เขาบอกว่ามีทะเลสาบเล็กๆอยู่ใกล้ๆ”หลินเฟยพูด.
ด้วยลักษณะของพื้นที่ที่ทำให้ง่ายต่อการค้นหา เขาเพียงแค่บินขึ้นสูงและมองสำรวจดูก็ทำให้เขาหาสวนผลไม้นี้ได้ง่ายขึ้น.
ไม่นาน เขากับเด็กสาวก็เห็นสวนผลไม้.
สวนผลไม้นี้อยู่บนเนินเขาไม่สูงนัก มันมีขนาดหลายร้อยไร่และล้อมด้วยนรั้วไม้.
แต่เมื่อมองจากบนฟ้า ก็จะเห็นรั้วที่พังได้.
และไม่มีใครมาที่นี่ได้ 2-3 เดือนแล้ว หญ้าที่นี่รกชัน มันสูงถึงครึ่งตัวคนแล้ว.
มีซอมบี้หลายตัวเดินเตร่อยู่ในสวน.
เพราะมันเป็นเขตชานเมือง ซอมบี้ที่นี่ค่อนข้างนอก สิ่งที่อันตรายที่สุดในเขตชานเมืองคือสัตว์กลายพันธุ์มากกว่าซอมบี้.
”ฆ่าทีละตัวเมื่อเข้าใกล้.”
หลินเฟยกลัวว่าเขาจะทำลายภูเขาด้วยหมัดของเขา.
ถึงเวลานั้น ผลไม้ทั้งหมดก็หายไปและก็มาร้องไห้ทีหลัง.
เขาหยิบธนูขึ้นมา.
ฟุ่บ!
ซอมบี้ถูกฆ่าในดอกเดียวและไม่นาน ที่นี่ก็ถูกกวาดจนเหี้ยน.
”มีบางอย่างผิดปกติ”ในตอนนี้ เด็กสาวขมวดคิ้วและบอกว่าเธอรู้สึกถึงอันตรายอย่างร้ายแรง สัมผัสที่เธอสัมผัสได้ถึงความร้ายแรงนี้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล.
”มีอะไร?”หลินเฟยงง.
”มีบางอย่างผิดปกติที่นี่”เด็กสาวขมวดคิ้วและมองไปรอบๆแต่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น.
กรอบ แกรบ–
ในตอนนี้ หญ้ารอบๆเคลื่อนไหวเบาๆ ราวกับมีบางอย่างกำลังเข้ามาจากทุกทิศทางอย่างช้าๆ.
หลินเฟยใช้[perspective]ทันทีและเมื่อเขาเห็นสิ่งต่างๆรอบๆตัวของเขา ใบหน้าของเขาก็เหลือเพียงสามนิ้วทันที.
มันเป็นไปได้ไง!
เขารู้สึกว่าขนกำลังลุกชันและเขาก็รีบอุ้มเด็กสาวขึ้นไปบนฟ้า.
”เกิดอะไร?”เด็กสาวถามอย่างกังวล.
เพราะเธอรู้สึกว่าหลินเฟยตัวสั่น.
”ฉันสงสัยในชีวิต”หลินเฟยกลืนน้ำลายและพูดอีกว่า”ในโลกนี้มีสิ่งที่น่ากลัวอย่างนี้ได้อย่างไง?”
”อะไร?”เด็กสาวมองไปที่พื้นด้วยความกังวล.
”อย่ามองมัน”หลินเฟยะูด”คราวนี้มันแย่มาก ฉันจะพาเธอกลับไปก่อน”
เขาหยิบรีโมทออกมาและทั้งสองก็กลับไปที่บ้านบนเนินเขา ก่อนที่จะปล่อยให้เด็กสาวอยู่ที่บ้านและเขาก็กลับมาที่สวนตัวคนเดียว.
หลินเฟยสาบานได้ว่านี่เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่เขาเคยเห็นมาก่อนในชีวิตของเขา.
หายใจเข้าลึกๆ ลูกบอลเพลิงก็ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา.
ตูมม!
เขาปาบอลเพลิงอัดลงไปที่หญ้ารกด้านล่างและเผามันทันที เปลวไฟได้ลุกไหม้และหลินเฟยได้ใช้พลังของเขาเพื่อปกป้องต้นผลไม้.
ป้องกันการถูกเผาโดยไม่ตั้งใจ.
ไฟค่อยๆมอดลงและในที่สุดสิ่งที่ซ่อนอยู่ในพงหญ้าก็ถูกเปิดเผย.
กองขี้เถ้านับไม่ถ้วนปลิวว่อน…
มันก็คืองู.
แต่ละตัวมีความยาวไม่น้อยกว่าครึ่งเมตร และที่น่ากลัวที่สุดคือร่างกายของมันเต็มไปด้วยดวงตาของมนุษย์!
เมื่อครั้งแรก ทั้งภูเขาและที่พืชพรรณนั้นมีสุดลูกหูลูกตา.
และเมื่อสิ่งมีชีวิตที่เหมือนงูเลื้อยคลาน หลินเฟยก็รู้สึกว่าภาพจินตนาการของเขากำลังหายไปอย่างรวดเร็ว.
ผู้มีจิตใจปกติย่อมมองเห็นสิ่งปกติ.
และคนที่ไร้เรี่ยวแรงก็ย่อมจะมองเห็นในสิ่งที่คนธรรมดามองไม่เห็น.
อย่างเช่น เมื่อคิดว่ากลุ่มเหล่านี้เป็นศพของเด็กสาว และมนุษย์ธรรดาเป็นกลุ่มซอมบี้…
เมื่อมองไปที่ภูเขาและที่ราบ หลินเฟยเริ่มสงสัยในความถูกต้องของโลกนี้ มันน่ากลัวเสียจนถือว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติ!
นี่มันนรกตอนกลางวันชัดๆ.
นั่นเป็นเหตุผลที่หลินเฟยส่งเด็กสาวกลับไปก่อน.
เขากังวลว่าถ้าคนธรรมดามาเห็นภาพเหล่านี้ พวกเขาอาจจะบ้าตายทันที.
”ทนไม่ไหวแล้ว.”
ตูม!
หลินเฟยใช้พลังเหนือธรรมชาติของเขา ในตอนนี้ พื้นดินที่มีต้นผลไม้อยู่ก็ได้ถูกยกขึ้นและกลายเป็นแท่นดินสูง.
จากนั้นเขาก็เอาต้นผลไม้ออกไปพร้อมกับดิน.
ก่อนที่เขาจะเทเลพอต เขาก็ได้ตรวจสอบต้นไม้ทุกต้นอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่หรือลูกของสิ่งมีชีวิตที่น่าขยะแขยงเหล่านี้หลบซ่อนได้.
ครึ่นๆๆ–
คราวนี้ บนยอดเขา พื้นดินแตกเป็นแผ่นๆและลอยขึ้นไปบนอากาศ แต่ละแผ่นจะมีต้นไม้อยู่หนึ่งต้น.
หลินเฟยยืนอยู่กลางอากาศ ตรงกลางของผืนดินเหล่านั้น เขาตรวจสอบต้นไม้ทุกต้นอย่างระมัดระวัง.
ถ้ามันติดเชื้อ เขาจะเผาทันที.
ท้ายที่สุดต้นไม้ทั้งหมดในสวนก็ถูกเขาเอาไป.
สายตาของเขาจ้องมองไปที่สัตว์ประหลาดด้านล่าง บางคนอาจต้องการศึกษาพวกมัน แต่หลินเฟยไม่!.
”ตายซะ!”
เขายกมือขึ้นฟ้า.
ครึ่นๆๆ–
ก้อนดินลอยอยู่รอบๆตัวของเขาทันที มันบนขึ้นไปบนฟ้นและเกิดการชนกันอย่างรุนแรงจนเละเป็นโคลน.
”ไฟ!”
ตูม!
ก้อนโคลนถูกเผาอย่างรุนแรง ความร้อนที่แผ่ออกมานั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก มันราวกับเป็นดวงอาทิตย์ขนาดย่อม.
พรึ่บพับๆ!
หลินเฟยโบกมือและดวงอาทิตย์ขนาดย่อมก็ตกลงบนเนินเขาด้านล่าง.
ใกล้ๆ.
ทุกสิ่งที่อยู่บนภูเขากำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง.
รวมทั้งสัตว์ที่น่าขยะแขยงอย่างงูก็เหมือนกัน.
พวกมันบิดร่างกายไปมาในกองไฟและส่งเสียงร้องเหมือนกับเด็กน้อย ซึ่งมันดูแตกต่างไปกว่าเดิม.
ตูม!
แต่เสียงร้องไม่นานก็ถูกกลบด้วยเสียงระเบิด และดวงอาทิตย์ขนาดย่อมก็กระทบดินราวกับดาวหางพุ่งชนโลกที่เนินเขา.
ความร้อนทำลายทุกอย่างในรัศมีสิบไมล์รอบๆทันที และทุกสิ่งก็ถูกเผา.
นี่คือความจริงภายในสิบไมล์.
เนินเขาถูกทำลายจนเป็นผงและกลายเป็นหลุมลึก ดวงอาทิตย์น้อยก็ยังอยู่ที่ก้นหลุมและเผาผลาญอย่างรุนแรง.
หลินเฟยเหลือบไปมองที่ด้านล่างของหลุมและไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดๆอีก.
เพราะทุกอย่างถูกเผาจนเป็นถ่าน.
”ไม่ ฉันต้องไม่กังวล”เมื่อคิดถึงรูปลักษณ์ที่น่าขยะแขยงของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น หลินเฟยก็รู้สึกว่าเขาจะต้องฝันร้ายแน่ๆ.
ดังนั้นเขาจึงมาอีกครั้ง.