One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - บทที่ 405-406
บทที่ 405
เป็นหลินเฟยและเด็กสาว.
”มีซอมบี้อยู่ด้านหน้า”เมื่อเด็กสาวเห็นซอมบี้เธอก็ตื่นตัวทันที.
ซอมบี้ตัวนี้แตกต่าง เพราะมันผอมเกินไป ดูเหมือนว่ามันจะหิวมาหลายปีแล้วจนเห็นซี่โครงบนร่างกายของมัน.
เธอยังเห็นบางอย่างดิ้นอยู่ภายใต้ผิวหนังของมัน…
”น่าแขยง”เด็กสาวพูด เธอกำลังจะจัดการกับซอมบี้.
ผลก็คือ เธอเห็นซอมบี้นั่งยองๆอยู่ที่บนพื้นและจับหัวของมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง.
”หืม?”
เด็กสาวเลิกคิ้วเล็กน้อย น้ำแข็งที่มือของเธอก็หายไปทันที.
”ซอมบี้ตัวนี้กลัวพวกเรา?”หลินเฟยรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เป็นไปได้ไหมที่ไอคิวของซอมบี้จะสูงมากในตอนนี้จนพวกมันเรียนรู้เรื่องที่จะกลัว.
มันน่าเหลือเชื่อมาก.
หลินเฟยรู้สึกว่าอีกสักเดือน ซอมบี้อาจจะพูดได้.
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่าานมา ซอมบี้ได้พัฒนาจนมีชื่อเสียงอย่างมาก เมื่อทั้งมนุษย์และซอมบี้ต่างก็มีเขตแดนเป็นของกันและกัน?
ในหลายๆปีที่ผ่านมา มนุษย์และซอมบี้อยู่กันอย่างสามัคคี?
แน่นอน.
หลินเฟยรีบส่ายหัวและโยนความคิดบ้าๆเหล่านี้ออกจากหัวของเขา มันน่ากลัว จริงๆแล้วพอนึกว่ามีคนแต่งงานกับซอมบี้ เขาก็กังวลว่าจะนอนไม่หลับ.
”เกิดอะไรขึ้นกับรูปปั้นน้ำแข็งเนี่ย?”หลินเฟยสังเกตเห็นรูปปั้นแท่งน้ำแข็งสองสามอันข้างๆเขา.
ด้านในยังมีคนหนุ่มสาวที่กำลังหัวเราะกันอยู่ก่อนที่จะถูกแช่แข็ง.
”ที่เธอไม่ลงมือเพราะมันร้อนไปหรือเปล่า?”หลินเฟยสงสัย.
เขาสามารถสัมผัสความเย็นเฉียบได้จากรูปปั้นน้ำแข็งเหล่านี้.
”นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือซอมบี้ตัวนี้”เด็กสาวพูด”ซอมบี้ตัวนี้กลัวเราจริงๆ!”
หลินเฟยเดินเข้าไปใกล้อีกสองก้าว มองดูซอมบี้อย่างระมัดระวังครู่หนึ่งและในที่สุดก็หันไปหาเด็กสาวและพูดว่า”บางทีซอมบี้อาจจะกลัวเพราะจิตสังหารของฉันที่แผ่ออกมา.”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฟย เด็กสาวก็อดไม่ได้ที่จะกรอกตา.
อย่าหลงตัวเองมากนัก.
แต่เมื่อเธอกำลังจะเข้าใกล้ซอมบี้ ซอมบี้ก็ยืนขึ้นทันทีและพ่นแท่งน้ำแข็งออกมาจากปากของมัน.
ตาของเด็กสาวหดและอยากจะร้องตะโกนโดยไม่รู้ตัว.
แต่หลินเฟยเตรียมพร้อมไว้แล้ว เมื่อซอมบี้อ้าปาก หลินเฟยก็หันมาและยกมือป้องกันแท่งน้ำแข็ง.
จู่ๆ บรรยากาศก็อึดอัดเล็กน้อย.
ตาของซอมบี้เบิกกว้างและมองไปที่หลินเฟยด้วยความตกใจ.
ปอ แปะ–
หลินเฟยตบฝุ่นและยิ้มพร้อมกับพูดว่า”น้องชาย นายยังเด็กเกินไปที่จะหลอกฉัน.”
”กลเม็ดพวกนี้ล้าสมัยไปเมื่อหมื่นกว่าปีก่อนแล้ว มันไม่เป็นไรถ้าจะหลอกเด็ก.”
”แต่จะมาหลอกฉัน? ไม่มีวันซะหลอก.”
เขารู้สึกแปลกๆตั้งแต่ต้น ไม่มีซอมบี้อื่นอยู่รอบๆและก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เหล่านี้ก็เหมือนจะเพิ่งถูกปล่อยออกมา.
ถ้าไม่ใช่เพราะซอมบี้ด้านหน้า เขาคงต้องเขียนชื่อกลับหัว.
เมื่อเห็นว่าวิธีของมันถูกมองทะลุ ซอมบี้ก็ไม่เสแสร้งอีกแล้ว มันเริ่มโจมตีอย่างบ้าคลั่ง.
เมื่อมันอ้าปาก เกล็กหิมะก็ถูกพ่นออกมา.
ผลก็คือก่อนที่จะโดนหลินเฟยมันถูกสะท้อนด้วยสิ่งที่มองไม่เห็นกลางอากาศและกระเด็งกลับไปด้วยความเร็วที่มากขึ้น ซอมบี้ก็กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งทันที.
”กล้าโกหกฉัน!”เด็กสาวเดินเข้ามาอย่างโกรธๆ เธอเตะก้อนน้ำแข็งนั้นด้วยเท้า.
ในหมู่รูปปั้น ซอมบี้ที่ถูกแช่แข็งก็ระเบิดและแตกเป็นเสี่ยงๆ.
หลินเฟยพูดไม่ออกเมื่อเห็นฉากนี้.
ในอนาคต อย่าปิดบังเด็กสาวจะดีกว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะแสดงด้านที่น่ากลัวบางอย่างออกมา.
มันน่ากลัว.
บทที่ 406
ทั้งสองเดินเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต มีซอมบี้มากมายแต่ไม่แข็งแกร่ง.
ท้ายที่สุดเด็กสาวก็เป็นคนที่อยู่โลกนี้ เธอต้องเคยมาที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตหลายครั้งเพื่อซื้อของ ดังนั้นหลินเฟยจึงปล่อยให้เธอนำทาง.
ทั้งสองพบก๊อกน้ำหลายตัวภายในซุปเปอร์มาร์เก็ต.
เก็บใส่ในกระเป๋า.
ด้วยการที่มีสิ่งของออกมาไม่มีวันหมด ภารกิจถือว่าเสร็จ!
ต่อไป เขาต้องไปหาแท้งค์เก็บน้ำ แต่เพราะด้วยความยากลำบากที่ทั้งสองไม่คุ้นชินกับเมืองเลย.
คนเดียวที่รู้เส้นทางคือเด็กสาว.
”ฉันไม่รู้ว่าแท้งค์เก็บน้ำอยู่ที่ไหน?”เด็กสาวพูดอย่างอายๆ”ฉันยังจำแทบไม่ได้ว่าทางไปชุมนุมอยู่ไหน.”
ท้ายที่สุดทั้งสองก็เดินไปรอบๆและเห็นชุมนุมหลายครั้งและแน่นอนว่าพวกเขาก็ลืมทางไปชุมนุมทุกครั้ง.
”ไม่มีทาง ฉันหามันได้ช้ามาก”หลินเฟยพูด”บางทีแท้งค์เก็บน้ำอาจจะอยู่ไม่ห่างจากโรงไฟฟ้า?”
ความจริงแล้วมันเป็นแค่การเดาและสถานการณ์จริงก็ยังแตกต่างกัน.
หลินเฟยและเด็กสาวเดินออกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตพยายามหาแท็งค์เก็บน้ำ แต่พวกเขาไม่ได้ไปไกลนักก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์.
ม่อน มอน หมอนนน!
มันเสียงดังมาก ราวกับจะระเบิดถนน.
วินาทีถัดมา ทั้งสองก็เห็นมอเตอร์ไซค์สามคันอยู่ที่สุดปลายถนน.
รถมอเตอร์ไซค์มีเลื่อยยนต์ที่หมุนด้วยความเร็วและมีหนามแหลมอยู่ข้างๆพร้อมกับแสงไฟหลากสีสัน.
ไฟยังคงกระพริบวิบวับเล็กน้อย.
เมื่อมองไปที่รถทั้งสามคัน หลินเฟยก็จำบางอย่างได้ทันที.
เด็กแว้น?
ทันทีที่เกิดเรื่องแบบนี้ พ่อแม่ก็เลี้ยงดูอย่างไม่ดูดำดูดี.
เมื่อเห็นมอไซค์สามคันวิ่งมาตามทาง หลินเฟยก็จับมือเด็กสาวและถอยไปด้านข้างอย่างเต็มใจ.
”พวกเขาไม่กลัวที่จะดึงดูดซอมบี้หรอ?”เด็กสาวถามอย่างสงสัย.
หลินเฟยตอบ”พวกเขาแค่ต้องการที่จะเท่ แต่ไม่มากขนาดนั้น.”
แต่เมื่อมอไซค์เข้ามาใกล้ จู่ๆพวกเขาก็หยุดห่างจากทั้งสองไม่กี่เมตร.
มีรอยยางครูดกับพื้นเป็นทางยาว.
”อืม…”หลินเฟยกระซิบอย่างช่วยไม่ได้”ปัญหากำลังมา.”
ทั้งสามเดินลงจากรถและเดินเข้าหาทีละก้าวๆ.
จ้องมองไปที่เด็กสาวและพวกเขาก็เพิ่งจะเห็นว่ามีเด็กสาวที่สวยในวันสิ้นโลก.
เห็นแค่ครั้งแรก พวกเขาก็หวั่นไหว.
แต่……
มีคนที่ขวางทางไว้.
ดังนั้นพวกเขาจึงมองไปที่หลินเฟยอีกครั้งและชายหนุ่มผมตั้งก็พูดเสียงดังว่า”นี่แฟนนายหรอ? เธอเป็นของฉันแล้ว? ออกไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก”
เด็กสาวขมวดคิ้วและเตรียมลงมือทำ.
แต่ในเวลานี้.
บรึ้นๆๆ!
อีกฝั่งของถนนก็มีเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังขึ้นมาอย่างกระทันหัน.
ทันทีที่ทั้งสามได้ยิน พวกเขาก็ขมวดคิ้วแน่น.
”เขามาที่นี่อีกแล้ว”ทั้งสามเหลือบมองเด็กสาวเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นทุกคนก็ขึ้นมอไซค์และขับออกไปอย่างไม่ลังเล.
หลินเฟยและเด็กสาวมองไปที่อีกฝั่งถนน มีรถตู้ดัดแปลงเข้ามาอย่างรวดเร็ว.
เมื่อเห็นตอนนี้ หนุ่มๆทั้งสามดูเหมือนจะเลี่ยงรถตู้คันนี้?
เมื่อทั้งสองคนงุนงงเล็กน้อย รถตู้ก็ค่อยๆหยุดตรงหน้าพวกเขา จากนั้นประตูก็เปิดออกและชายวัยกลางคนก็เดินออกมาจากด้านใน.
”นายไม่เป็นไร?”ชายกลางคนห่วงใยทั้งสองคนก็พูดว่า”เด็กเหลือขอสามคนไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม?”
”ไม่เป็นไร”หลินเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม.