One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - บทที่ 415
บทที่ 415
ตึก ตึก.
วันรุ่นผมดำเดินเซถอยหลังไปสองก้าว.
นักตุกติกตายแล้ว!
”แก……”
เขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อคำพูดกำลังจะออกมาจากปากของเขา เขาก็รู้สึกลืมไปว่าจะพูดอะไร เขารู้ว่าหลินเฟยมาที่นี่เพื่อแก้แค้น แต่เขาก็ไม่มีทางหยุดความโกรธได้.
ในเวลานี้ เขาเสียใจกับมันจริงๆ.
เมื่อหลินเฟยมาพร้อมกับเพลิงแห่งความแค้น วันรุ่นผมดำก็ตระหนักว่าเขาทำอะไรผิดไปมาโดยตลอด.
ถ้าเขาตาย ใครจะล้างแค้นให้เขา?
จะมีคนที่แข็งแกร่งมาล้างแค้นให้เขาไหม?
เห็นได้ชัดว่าจะไม่มีแน่นอน.
”มีอะไรสั่งเสียไหม?”หลินเฟยชี้ปืนไปที่หน้าผากของวันรุ่นดำ.
ตุบ!
ขาของวัยรุ่นผมดำอ่อนลงและคุกเข่าลงกับพื้น เขาเงยหน้ามองหลินเฟยและขอร้อง”ฉัน…”
ปัง–
ในบริเวณแท้งค์เก็บน้ำ จู่ๆก็มีเสียงปืนดังขึ้น.
จากนั้น รอบๆอ่างเก็บน้ำที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาก็เงียบสนิท.
หลินเฟยโยนปืนออกไปและเดินไปรอบๆอ่างเก็บน้ำ อย่างแรกเลยก็คือเขาเห็นปั๊มน้ำขนาดใหญ่ แล้วก็เจอปั๊มน้ำขนาดเล็กหลายตัว.
ตอนแรก เขาแค่อยากได้ปั๊มน้ำ.
แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอมันมากมายขนาดนี้.
หลินเฟยมองก่อนที่จะออกไป.
เขาใช้เครื่องเทเลพอตเพื่อกลับไปที่พัก และได้กลิ่นทันที เด็กสาวก็เตรียมอาหารกลางวันเสร็จแล้ว.
”ยินดีต้อนรับกลับบ้าน~ กินข้าวกันเถอะ”เด็กสาวยิ้มขณะเดินออกมาทักทาย.
แต่ท้ายที่สุด ทั้งก็นั่งโต๊ะแต่ก็ยังไม่กินอะไรเป็นเวลานาน.
”ไปจัดงานศพกันเถอะ”หลินเฟยพูดขึ้นทันที.
เด็กสาวพยักหน้า.
กลับไปที่บ้านเล็กๆ ไม่มีร่างของลุงอีกต่อไป พวกเขาเลยถามคนอื่น ปรากฏว่าพวกเขาเผาไปแล้ว ทั้งสองมาช้าเกินไป.
”คุณแก้แค้นให้เขาหรอ?”
เพือนบ้านยิ้มและพูดว่า”ด้วยวิธีนี้ เขาก็สามารถจากไปได้อย่างสงบ เธอสองคนอย่าทำหน้าเศร้าอย่างนั้น เธอยังมีชีวิตอยู่ แก่,ป่วยและตาย และเธอจะได้สัมผัสกับความเป็นตายเสมอ.”
”อีกอย่าง เธอแก้แค้นให้เขาแล้ว ฉันก็เลยมีอะไรจะให้เธอ.”
จากนั้นเพือนบ้านก็หยิบหมวกออกมาจากห้อง.
”คุณยายของฉันทำสิ่งมาก่อน ฉันไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อะไร งั้นก็ให้มันอยู่กับเธอแล้วกัน”เพือนบ้านหัวเราะ.
หลินเฟยหยิบหมวกและมองไปรอบๆ.
หมวกทำมาจากโครงไม้ไผ่และสานด้วยใบไผ่ซึ่งมันบังลมและฝนได้.
มันก็แค่หมวกไม้ไผ่ธรรมดาๆ.
”ขอบคุณ”หลินเฟยพูด.
ลุงถูกเผาและไม่มีอะไรให้ทำอีกแล้ว วันสิ้นโลก งานศพมันจะต้องเป็นแบบไหนอีก?
กลับมาที่บ้าน อาหารก็เย็นแล้ว และเด็กสาวก็รู้หน้าทีก่อนที่จะไปอุ่นอาหาร.
”กินกันเถอะ”เธอยิ้ม.
หลินเฟยพยักหน้า เรื่องการจากไปของลุง พูดแล้วก็อดเศร้าไม่ได้ เพิ่งเจอกันวันเดียว ยังไม่ทันจะพูดคุย หรือแม้แต่จะนับเป็นเพือนกันได้ด้วยซ้ำ.
แค่รู้สึกสงสาร แต่วันนึงก็ยังต้องดำเนินต่อไป.
”นี่อะไร?”หลังจากกินอาหาร เด็กสาวก็มองไปที่หมวกที่หลินเฟยถืออยู่อย่างสับสน.
หลินเฟยแปลกใจเล็กน้อย คนในยุคนี้ไม่รู้จักหมวกนี้ด้วยซ้ำ?
หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาก็เข้าใจได้ว่าหมวกใบนี้ถูกสือทอดมาจากสมัยโบราณเช่นกัน เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า หมวกหลายแบบก็ปรากฏขึ้นมาอย่างไม่มีสิ้นสุด และการสูญหายของหมวกก็เป็นเรื่องปกติ.
”นี่เรียกว่าหมวกจอมยุทธ”หลินเฟยพูดพร้อมกับยิ้ม”พูดอีกอย่าง มีแต่จอมยุทธเท่านั้นที่สวมใส่ได้.”