One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - บทที่ 425-426
บทที่ 425
หลินเฟยและเด็กสาวตามหาทั้งสามคนและท้ายที่สุดก็มาถึงที่ชุมนุมตอนบ่ายสองโมง.
ชุมนุมบางแห่งนั้นใหญ่มาก แต่ที่นี่ ชุมนุมแห่งนี้เล็กกว่าชุมนุมก่อนหน้ามาก.
ระหว่างทาง ท้องถนนว่างเปล่าและหลินเฟยก็คาดไว้ว่าน่าจะมีคนสักแสนคนที่นี่.
”มีคนมากมายในชุมนุม แต่มีบางอย่างเกิดขึ้น….”เฉียนเฉินหยุดพูด.
พูดไปได้แค่ครึ่งทาง!
หลินเฟยก็เริ่มสนใจและถามทันที”เกิดอะไรขึ้น?”
เฉียนเฉินเหลือบมองหลินเฟยและถอนหายใจในที่สุด”แต่เดิมนี่เป็นเรื่องต้องห้าม แต่เนื่องจากคุณเป็นเบอร์หนึ่งของโลก บางทีคุณอาจมีทางออก.”
”ความจริง ไม่ได้มีแค่ชุมนุมที่นี่ แต่มีชุมนุมที่ใหญ่กว่านี้อยู่ที่ตะวันออกของเมือง.”
เฉียนเฉินพูด”แต่จู่ๆวันหนึ่ง พื้นที่ตรงนั้นก็หายไป และชุมนุมใหญ่นั้นก็หายไปอย่างสมบูรณ์ ไม่เหลืออะไรไว้เลย.”
”หืมมม?”หลินเฟยประหลาดใจเล็กน้อย เขารู้สึกว่าวิญญาณของเขาสั่นเล็กๆ?
เด็กสาวเดินเข้ามาใกล้หลินเฟยมือของเธอก็จับแขนหลินเฟยไว้แน่น.
”เราได้ส่งผู้มีพลัง 6 คนไปที่นั่น 2 คนเป็นเลเวล S และ 4 คนเป็นเลเวล A ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้มีพลังที่มีชื่อเสียงมาก สุดท้ายที่หนีรอดกลับมาได้มีเพียงแค่เลเวล S เท่านั้น.”
”แต่เมื่อเราถามว่าเกิดอะไรขึ้นภายใน เขาไม่พูดอะไร ดูเหมือนว่าเขาจะสูญเสียความทรงจำ.”
หลินเฟยถอนหายใจ”มันน่ากลัวมาก?”
”ดังนั้นพื้นที่ตรงนั้นจึงเป็นเรื่องต้องห้าม ด้านยอกก็มีซอมบี้จำนวนมาก มันมากกว่าที่อื่น.”
เฉียนเฉินพูดอีกว่า”ถึงแม้คุณจะเป็นเบอร์หนึ่งของโลก แต่ผมก็อยากจะแนะนำให้คุณไม่ต้องสนใจมัน.”
”เพราะเราไม่รู้ว่ามีอะไรและไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นได้ แม้ว่าคุณจะทรงพลังแต่มันก็อันตราย.”
”ฉันรู้ ฉันรู้”หลินเฟยพยักหน้าอย่างจริงจัง.
มันแปลกๆเมื่อได้ยิน.
แต่มันราวกับมีมนต์ขลัง หลินเฟยตั้งใจว่าจะแวะไปดู.
บางทีเขาอาจจะมีข่าวของพระเจ้าอยู่ในนั้น?
แต่ตอนนี้แกล้งทำเป็นรับฟังไปก่อน.
”ช่างเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว คุณมีที่พักไหม?”เฉียนเฉินถาม.
”โอ้”หลินเฟยพยักหน้าและพูด”มี.”
เมื่อพวกเขามาถึงที่ชุมนุม ทั้งหลินเฟยและเด็กสาวก็ไม่ได้ไปที่กิลด์เพื่อลงทะเบียน เพราะพวกเขาวางแผนที่จะมาหาข่าวของพระเจ้าเท่านั้น.
แต่ตอนนี้ ทันทีที่พวกเขาเข้ามา เขาได้ยินข่าวที่อาจเกี่ยวกับพระเจ้าและหลินเฟนก็อดใจที่จะไปดูมันไม่ไหว.
หลังจากบอกลาพวกเขา เด็กสาวก็จับมือเขาและมองเห็นสิ่งที่หลินเฟยคิด.
”คุณอยากจะไปดูมันใช่ไหม.”
”ถ้าเธอรู้จักฉัน ยี่หยู่เซว่ก็รู้เช่นกัน”หลินเฟยพูดพร้อมกับรอยยิ้ม”ฉันอยากจะไปดู บางทีมันอาจจะเกี่ยวกับพระเจ้า.”
”คุณหมายถึงหญิงหน้ากาก?”
เด็ฏสาวพูด”เธอทรงพลังมาก มาและไปอย่างไร้ร่องรอย เธอต้องเป็นพระเจ้า ทำไมไม่ไปขอความช่วยเหลือจากเธอหล่ะ เธอส่งเราไปได้ใช่ไหม?”
หลินเฟยเงียบไปครู่หนึ่งและพูดว่า”ฉันคิดว่าเธอน่าจะเกลียดฉันนิดหน่อย?”
”คุณก็รู้หรอ?”เด็กสาวพูดอย่างแปลกใจ.
”ฉันไม่รู้จักเธอ”หลินเฟยพูด”อาจจะเป็นเพราะฉันทุบตีน้องชายของเธอครั้งล่าสุด เธอเลยมาที่นี่เพื่อแก้แค้น.”
”เธอไม่ช่วยแน่นอน”เด็กสาวพูดพร้อมกับแสดงถึงท่าทีที่น่าสงสาร”ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปดูสถานที่ลึกลับนั่นกัน.”
บทที่ 426
แต่มันก็น่าสงสาร…
สิ่งนี้ไม่มีประโยชน์สำหรับหลินเฟยตั้งแต่แรก เพราะเขาไม่ใช่ผู้มีพลังตั้งแต่ต้น และไม่มีพลังพิเศษในร่างกายของเขา ดังนั้นพลังของเขาจะหายไปได้อย่างไง?
นี่เป็นสถานที่ต้องห้ามของคนที่มีพลัง แต่ไม่ใช่กับหลินเฟย.
”ไม่เป็นไร มากับฉัน”หลินเฟยจับเด็กสาวและบินตรงไปพื้นที่ตรงข้าม.
เขาไปยังหินที่กำลังลอยอยู่บนอากาศก้อนหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นเส้นทางบางอย่าง.
เส้นทางปกติที่จะไปถึงปราสาทได้ก็คือกระโดดข้ามหิน แต่ใครจะคิดว่าหลินเฟยจะบินได้?
หลังจากที่บินผ่านหุบเหวแล้วทั้งสองก็มาถึงประตูเมือง.
ประตูมันสูงมากกว่า 10 เมตร และมีลวดลายวิจิตรบรรจง และมีดวงไฟที่ไร้แสง 6 ดวงอยู่ที่ทั้งสองข้างของประตู.
”ประตูปิดอยู่ เราจะเปิดไปได้อย่างไง?”เด็กสาวถามอย่างสงสัย.
”ลองเคาะประตูเอาแล้วกัน”หลินเฟยพูด.
จากนั้นเขาก็พาเด็กสาวไปเคาะประตู เขามาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญ การเคาะประตูมันจะต้องดีกว่าอยู่แล้ว?
ก๊อก ก๊อก–
เกิดเสียงเบาๆสองครั้งจากการเคาะประตูของหลินเฟย.
แต่ทั้งสองก็รออยู่นาน ประตูก็ไม่เปิด กลับเป็นว่ามีมอนเตอร์มาจากทุกทิศทางมากมาย.
มอนเตอร์เหล่านี้ดูคุ้นๆในสายตาของหลินเฟย.
มันเหมือนกับที่เขาเคยเห็นในถ้ำมืด(อุโมงค์).
พวกมันกางกรงเล็บและแยกเขี้ยว คลานไปทางเด็กสาวและหลินเฟย ดูเหมือนว่าพวกมันจะแข็งแกร่งมากเมื่ออยู่ที่นี่ และความเร็วของพวกมันก็เร็วกว่าปกติมาก.
”มันนี่เอง.”
หลินเฟยพูด พลางตบไปทีหนึ่งบนประตู.
ตูม!
เกิดเสียงดัง ประตูทองแดงสูงกกว่าสิบเมตรก็ระเบิดออกมา.
”เพราะว่ามันเป็นแก ฉันเลยไม่จำเป็นต้องสุภาพ”หลินเฟยกระทืบอีกครั้ง ปราสาทก็สั่นสะเทือน มอนเตอร์ที่วิ่งมาจากทุกทิศทางก็ระเบิดกลางอากาศ
”เข้าไปดูข้างในกัน.”
หลินเฟยพาเด็กสาวเดินเข้าไปในปราสาททันที.
แต่ในเวลานี้.
ฮู่มมม!
มิติสั่นสะเทือนและมีคนหกได้ปรากฏขึ้นในโลกที่ไร้แสงแห่งนี้.
”เราต้องกำจัดตัวอันตรายก่อนที่สถานที่แห่งนี้จะขยายออกไป”ชายที่เป็นหัวหน้ากล่าว”นี่เป็นวิธีเดียวที่จะปกป้องชุมนุมและทำการยุทธวิธี ตัดหัว”
ทั้งห้าพยักหน้ารับ.
ทั้งหก ถูกส่งมาโดยสมาคม นำโดยผู้มีพลังเลเวล S สามคนและผู้มีพลังเลเวล A สามคน เพื่อทำยุทธวิธี ตัดหัว.
ความจริง ทางสมาคมได้ทราบสถานการณ์ที่นี่แล้ว.
แม้แต่ศัตรูที่นี่ยังถูกค้นพบ.
”ไปเปิดประตูก่อน.”
กัปตันพูดว่า”กระโดดข้ามหินลอยพวกนี้.”
ในระหว่างกระโดด เขาพูดอีกครั้ง”ทางเข้าปราสาทอยู่ตรงหน้า ประตูปิดแล้ว เราจะส่งพลังที่มากที่สุดเปิดประตู แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร”
”ต่อมาเราค้นพบวิธีที่จะเปิดประตู.”
กัปตันกล่าวว่า”มีไฟดับอยู่ 6 ดวงที่หน้าประตู เมื่อเรายืนอยู่หน้าประตู ฝูงมอนเตอร์ทั้งหกจะปรากฏขึ้น หัวหน้าของมันคืออัศวิน.”
”ตราบใดที่อัศวินทั้ง 6 ถูกตัดหัว นายก็จะได้ลูกไฟ เราต้องวางลูกไฟไว้บนไฟ เมื่อไฟทั้งหกดวงสว่าง ประตูจะเปิดทันที.”
”เข้าใจยัง?”
ทั้งห้าคนกลืนน้ำและพูดว่า”เข้าใจแล้ว!”
มันกลับกลายเป็นว่ามันซับซ้อนมากที่จะเปิดประตู…
แต่เมื่อพวกเขาทั้งหกมาที่ประตู พวกเขาก็ตกตะลึง.
ดินแตก,ศพกระจายไปทั่ว,เสาไฟหัก,ประตูพัง…
ทันใดนั้น ทั้งหกก็ราวกับเห็นภาพลวงตา ดูเหมือนว่ามีอะไรผิดไป?