One-click Invincibility Of The Apocalyptic Super System Modifier - บทที่ 431-432
บทที่ 431
หลังจากฟังมานานแล้ว หลินเฟยก็เข้าใจ แต่ไม่อยากเข้าใจเพราะมันลำบากเกินไป.
ห่าอะไรกัน มันโครตน่าสนใจเลยงั้นหรอ?.
มีเพียงความมืดเท่านั้นที่จะเอาชนะความมืดได้? อัศวินทมิฬที่มีกลิ่นเหม็นนั่น ตอนแรกเจอกับหลิน แต่ตอนนี้เจอกับไอร่อนฟิซ!
”นายแค่ฆ่าอัศวินไปตรงๆไม่ได้หรอ?”
หลินเฟยพูด”เช่น ฉันชกออกไปเพื่อแก้แค้นให้กับทุกคนจากที่ชุมนุมตาย.”
”เป็นไปไม่ได้”กัปตันส่ายหัวและพูดว่า”ยกเว้นแต่ดาบของอัศวิน ไม่มีการโจมตีใดๆที่สามารถทำร้ายมันได้ แม้ว่าคุณจะทรงพลังมาก คุณก็ทำร้ายมันได้ก็ต่อเมื่อโดนมันเท่านั้น หากไม่โดนมันก็ไม่เกิดผลใดๆ.”
”ถ้าอย่างนั้นมันก็ทรงพลังมาก?”หลินเฟยอุทาน”นี่มันเหมือนกับใช่บัคเลย.”
”หืม บัคอะไร?”กัปตันถาม.
”บัคมันก็คือช่องโหว่ของระบบ”หลินเฟยอธิบาย”มันอยู่เหนือทุกสิ่ง.”
”ถ้าคุณพูดอย่างนั้น อัศวินมันก็เป็นบัคจริงๆ”กัปตันถอนหายใจ แต่เขาไม่รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขานั้นคือบัคที่ตัวใหญ่ที่สุดโลก.
มันไม่อาจแก้ไขได้.
แม้ว่าอัศวินทมิฬจะทรงพลังอย่างไง แต่ก็ยังมีดาบทมิฬที่ฆ่ามันได้ แต่หลินเฟย….จนถึงตอนนี้ มีเพียงหญิงหน้ากากที่ลึกลับเท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเขา.
”งั้นพวกคุณก็ไปเถอะ”หลินเฟยพูด”ผมเหนื่อยมาทั้งทางแล้ว.”
มันไม่ใช่เขาไม่อยากจัดการ แต่เขาฆ่ามาตลอดทั้งทางและรู้สึกเบื่อเล็กๆ.
”บางทีฉันควรจะเปลี่ยนงาน”หลินเฟยคิดแบบนี้.
หากเป็นคุณจะทำอะไร ในเมื่อฆ่ามอนเตอร์ได้ในไม่กี่วินาที?
”ได้ คุณทำงานหนักแล้วกับการเดินทางครั้งนี้”กัปตันพยักหน้าและพูด เขาไม่โทษหลินเฟยใดๆที่เขาหยุดตอนนี้ เพราะเขารู้ว่าหลินเฟยออกแรงไปมากโดยที่เขาก็คิดไม่ถึง.
สองคนเปิดประตู สองคนสร้างสะพาน สองคนจัดการเขาวงกต…
มันเป็นลำบากที่ไม่อาจรู้ได้.
”คุณเป็นคนแข็งแกร่ง ผมชื่นชมคุณ”กัปตันพูด”แต่งานนี้ มันจะถูกจัดการโดยพวกเรา ดู ความแข็งแกร่งของพวกเรา!”
หลินเฟยพยักหน้าและทันใดนั้นเขาก็รู้สึกแย่นิดๆ มันเกิดอะไรขึ้น.
ท้ายที่สุดก็เดินมาถึงหน้าประตูของปราสาท.
ด้านหน้าเขามีบันไดยาวหลายร้อยขั้น และประตูก็อยู่ที่หน้าทางเข้า แต่มีร่างสูงตระหง่าน 6 คนยืนอยู่หน้าประตู.
นี่คือผู้เฝ้าประตู.
พวกมันยังถือโล่ในมือซ้ายและถือดาบในมือขวา ยืนตรงราวกับเทพสงคราม.
”ตามแผนเดิม”กัปตันพูด.
”รับทราบ.”
คนอื่นๆพยักหน้าอย่างจริงจัง.
”อะไร!”
เมื่อชายคนแรกเคลื่อนไหว เขาก็ตะโกน และดึงดูดความสนใจของผู้เฝ้าประตูทั้งหกในทันที.
หลังจากนั้นเขาก็สร้างโล่อากาศ.
โล่นี้ไม่ใหญ่ไปกว่าถังและมีแสงสีม่วงไหลเวียนอยู่ในนั้น เมื่อเขาจับโล่ได้ วิญญาณผู้พิทักษ์ก็พุ่งออกมาจากร่างของเขา.
”พร้อม!”กัปตันตะโกน.
”เราพร้อมแล้ว!”
ผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนและด้วยไม้เท้าในมือของเธอ แสงสีทองก็ปรากฏขึ้นบนไม้เท้า.
ตูม!
เธอวางไม้เท้ากระแทกบนพื้นและเห็นวงกลมปรากฏขึ้นใต้เท้าของทุกคน ทันทีที่ปรากฏแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ลุกโชนในวงแหวนเวทย์และทุกคนก็เปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์.
”เร็วเข้า มีเวลาแค่สามสิบวิฯ”ผู้หญิงคนนั้นพูด.
”ชาโดว์ แอร์โร่!”
ชายในชุดคลุมได้กระโดดขึ้นและหยิบคันธนูสีดำและลูกศรก็ออกมาจากความว่างเปล่าก่อนที่จะกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้.
บทที่ 432
คันธนูและลูกศรได้ยิงแสงสีดำออกไป.
ผลก็คือ แสงสีดำตกลงมาบนบันไดข้างๆอัศวินทั้งหก.
มีดาบเล่มหนึ่งพุ่งออกไป?
ขณะที่หลินเฟยงง มีดสีดำปักบนพื้นก่อนที่จะดึงโซ่สีดำสนิทออกมาหกเส้นเพื่อมัดอัศวินทั้งหกให้แน่น.
อัศวินทั้งหกไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ในตอนนี้!
”ฉันจัดการเอง.”
ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าข่ายเวทย์ทันใดนั้นก็เกิดเปลวไฟก็ลุกโชนขึ้นบนร่างกายของเขา จากนั้นเปลวไฟก็ควบแน่นอยู่ที่มือขวาของเขาและกลายเป็นปืนลูกโม่.
เขาเอียงหัวพร้อมกับปิดตาข้างหนึ่งและเล็งไปที่หัวของผู้เฝ้าประตูที่อยู่ด้านหน้า.
ตูม!
เกิดเสียงดังและมีเปลวไฟพุ่งออกไป.
ฟุ่บ!
ลูกกระสุนยิงโดนผู้เฝ้าประตูตรงๆและทะลุหัวไป!
”ฉันเผลอเอามือกันเลย มันแรงมาก!”เมื่อเห็นฉากนี้ หลินเฟยก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม.
”คนอื่น ตามฉันมา!”
กัปตันพูดเสียงดังและใช้ท่าไม้ตายของเขาอีกด้วย.
ยกมือขวาขั้นสะบัดสะบัดมือออกไป และก็เกิดเสียงกึกก้องราวกับฟ้าร้องฟ้าผ่า เกิดเป็นสายฟ้าฟาดมาที่มันและกลายเป็นไม้พลองยาว!
ตัวของกัปตันเต็มไปด้วยพลังสายฟ้าพร้อมกับถือไม้พลองที่ทำจากสายฟ้าไว้ในมือ มันเท่มากอย่างบอกไม่ถูก.
โดยไม่ลังเลใดๆ เขารีบวิ่งไปหาผู้เฝ้าประตูอีกห้าตัวที่บันไดอย่างรวดเร็ว.
ชายที่มีโล่วิ่งออกมาด้านหน้า.
”ระวังด้วย.”
เกิดเสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งและมีคนกระโดดขึ้นและจากนั้นก็รวบรวมพลังลมก่อนที่จะผลักไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว บอลลมก็พุ่งไปหาอัศวินทั้งหกพร้อมกับปล่อยคมมีดสายลมตลอดทั้งทาง.
ครึ่นๆๆ–
บอลลมลอยข้ามโล่ของอัศวินทั้ง 5 ก่อนที่จะระเบิดออกมา.
ทั้ง 6 คนพุ่งออกไปพร้อมกัน พวกเขาโจมตีอัศวินทั้ง 5 และอีกตัวที่เหลือก็ถูกยิงไปตั้งแต่แรก!
ห้าตัวที่เหลือก็ดูไม่ดี ร่างกายเต็มไปด้วยแผล.
ชายที่ถือโล่กระโดดขึ้นในอากาศและหมุนตัวโยนโล่ในมือ.
ปัง ปัง ปัง–
โล่เด้งไปมาระหว่างอัศวินทั้ง 5 ทำให้พวกมันยืนไม่นิ่ง.
แต่ในเวลานี้ กัปตันก็มาถึง เขาถือสายฟ้าไว้ในมือและเผชิญหน้ากับอัศวินที่บาดเจ็บสาหัสเหล่านี้ก่อนที่จะจัดการไปหนึ่งตัวอย่างง่ายดาย!
”สุดยอด”หลินเฟยอดที่จะปรบมือไม่ได้.
ความร่วมมือของทั้ง 6 คนนี้ไม่อาจบรรยายได้ พูดได้เลยว่าหากมีใครหลุดคิวไปสักคน พวกเขาจะไม่อาจทำสำเร็จได้เลย.
”หืม-”
แต่เมื่อการต่อสู้จบ ทั้ง 6 ก็นั่งอยู่บนบันไดพลางหอบหายใจ.
”ไม่เป็นไรนะ?”หลินเฟยเดินเข้ามาถาม.
”มันไม่ใช่เรื่องใหญ่”กัปตันส่ายหัวและพูดว่า”พวกเราสามารถต่อสู้ได้ อย่างน้อยๆก็ไม่มีปัญหาในการจัดการอัศวินทมิฬ.”
สภาพแวดล้อมที่นี่มีความพิเศษและความสามารถที่จะถูกใช้ไปและจะไม่ถูกฟื้นฟู.
พวกเขาเลยต้องรีบ.
”คุณพร้อมยัง?”
กัปตันลุกขึ้นจากบันไดและถามเสียงดังว่า”ทุกคนพร้อมไหม?”
”พร้อม!”
สมาชิกในทีมคนอื่นๆก็ยืนขึ้นและตอบเสียงดัง.
”งั้นก็ตามฉันมา.”
ทีมที่มีสมาชิก 6 คนหยิบดาบทมิฬทั้งหกเล่มจากพื้นและเดินไปที่ห้องโถงโดยไม่หันกลับมามอง.
”ฮีโร่.”
มองดูด้านหลังของคนทั้งหก หลินเฟยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ”ฉันไม่คิดเลยว่าวันหนึ่ง ฉันจะได้เป็นสักขีพยานในการกำเนิด ฮีโร่”
”ถ้าเป็นพวกเขา พวกเขาจะเอาชนะอัศวินทมิฬได้อย่างแน่นอน?”
หลินเฟยพาเด็กสาวเดินตามไป เขาวางแผนที่จะดูการแสดงต่อไป.