Open a Clinic to Cultivate Myself - ตอนที่ 203
บทที่ 203 ในภาพยนตร์ก็มีฉากนี้เหมือนกัน
จ้าวหวูซวงผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์เมื่อผู้กำกับตะโกน “คัต” เธอถอด
เสื้อโค้ทผ้าฝ้ายตัวหนาที่สวมอยู่ เสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีขาวด้านล่างของเธอ
เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะเธอสวมเสื้อโค้ทหนา ๆ ในสภาพอากาศ
ร้อนนี้ แม้จะมีเสื้อชั้นในอยู่ข้างใน แต่ก็มีรูปร่างยั่วยวนบางอย่างโผล่
ขึ้นมาบนผิวกายของเธอซึ่งดึงดูดสายตาของผู้ชายทุกคนในห้อง
คนส่งอาหารยื่นกล่องอาหารให้จ้าวหวูซวง
“ขอบคุณค่ะ” จ้าวหวูซวงที่ได้รับกล่องอาหารก็ได้มุ่งหน้าไปข้างนอก
ทันที เธอรู้สึกอึดอัดและรู้สึกรังเกียจแม้กระทั่งเมื่อมีผู้ชายหลายคน
จ้องมองเธอ
“หวู่ซวง” หลี่เสี่ยวเฟิงปรากฏตัวที่ประตูโดยขวางทางของจ้าวหวูซวง
เอาไว้ พร้อมกับในมือของเขามีช่อดอกกุหลาบที่สวยงามและรอยยิ้ม
ที่อ่อนโยนแขวนอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา
ผู้ชายที่หล่อเหลาและสุภาพอ่อนโยนเช่นเขาซึ่งเป็นนายหนุ่มของ
ธุรกิจครอบครัวที่มีมูลค่าสุทธิหลายพันล้านไม่ได้ขาดดาราหญิงที่
ต้องการ มันเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะจีบผู้หญิงคนไหน แต่ตราบใด
ที่เขาริเริ่มทำมาก็ไม่มีผู้หญิงคนใดสามารถต้านทานเขาได้
ยกเว้นจ้าวหวูซวง
“คุณต้องการอะไร? ได้โปรดหลีกทางให้ฉันด้วย” ใบหน้าของหลี่
เสี่ยวเฟิงจะทำให้จ้าวหวูซวงนึกถึงว่าอีกฝ่ายเคยดูถูกหนิงเถาที่บ้าน
รุ่งเรืองอย่างไรและเขาทำให้เธอเข้าใจผิดอย่างไรกับเรื่องนั้น แน่นอน
ว่าเธอยังคงรู้สึกขอโทษและรู้สึกผิดต่อหนิงเถา แต่หลี่เสี่ยวเฟิงก็ยังคง
ยืนกรานอย่างน่ารังเกียจไล่ตามเธอมาที่นี่
ความเกลียดชังได้แวบผ่านมาภายในดวงตาของหลี่เสี่ยวเฟิง แต่ก็ไม่
นานเขายังคงยิ้มและน้ำเสียงของเขายังคงอ่อนโยน “หวู่ซวง! คุณไม่
ยอมรับคำขอโทษของผมเมื่อวานนี้ดังนั้นผมจึงรู้สึกไม่สบายใจและ
นอนไม่หลับ ผมนอนไม่หลับเพราะจิตใจของผมนั้นเต็มไปด้วยคุณ
ดังนั้นผมจึงมาเยี่ยมคุณและขอโทษอีกครั้ง ได้โปรดรับดอกไม้และ
ความจริงใจของผมเอาไว้ด้วย”
มือของจ้าวหวูซวงไม่แม้แต่จะขยับ “ได้โปรดหลีกทางด้วย!”
หลี่เสี่ยวเฟิงที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้โค้งตัวลงและมอบช่อดอกไม้ให้
จ้าวหวูซวงด้วยมือทั้งสองข้างของเขา
การตามจีบผู้หญิงจำเป็นต้องมีความกล้าหาญและในสิ่งที่ดีที่สุดคือ
การไร้ยางอาย เห็นได้ชัดว่าหลี่เสี่ยวเฟิงเข้าใจหลักความคิดนี้ดี
“หวู่ซวง! ซีอีโอหลี่ก็เป็นเพื่อนของคุณ มันจะดีกว่าถ้าจะดีต่อกัน ยิ่ง
ไปกว่านั้นคฤหาสน์หลังนี้เป็นของครอบครัวของเขา” ชายสวมหมวก
แก๊ปและเสื้อกั๊กพูดขึ้นมาหลังจากที่เขาเห็นการณ์ที่เกิดขึ้น แน่นอน
ว่าเขาเป็นผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังเป็นถึงหนึ่งในผู้กำกับ
ระดับแนวหน้าของประเทศและมีชื่อเสียงมาก
จ้าวหวูซวงที่ได้ยินแบบนั้นก็หันกลับมามองยังคนพูด ก่อนที่เธอจะ
ตอบกลับไปว่า “งั้นทำไมผู้กำกับไม่มารับมันเองละถ้าคุณต้องการ”
ก่อนที่เธอจะเดินจากไป
ทุกคนในห้องต่างจ้องมองกันอย่างแปลกใจ
หลี่เสี่ยวเฟิงยังคงอยู่ในท่าโค้งคำนับและไม่ได้เงยหน้าขึ้นในทันที
เพราะการแสดงออกของเขาน่ากลัวอย่างมากในตอนนั้น
“ซีอีโอหลี่ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันจะคุยกับหวูซวงในภายหลังและขอให้
เธอขอโทษคุณ” ติงจื่อพยายามทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง เขาอยู่
ในตำแหน่งที่น่าอึดอัดใจเพราะเขาไม่สามารถรุกรานหลี่เสี่ยวเฟิง
และไม่กล้าที่จะรุกรานจ้าวหวูซวงด้วยเช่นกัน
ในที่สุดหลี่เสี่ยวเฟิงก็ยืดตัวขึ้นและยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร เป็นเรื่อง
ปกติที่ผู้หญิงจะขี้งอนและใช้อารมณ์”
ติงจื่อพยายามทำให้สถานการณ์ดีขึ้น “ใช่ ๆ ซีอีโอหลี่! พรุ่งนี้คุณว่าง
ไหม? ถ้าคุณว่างก็สามารถมางานเลี้ยงอาหารเย็นที่จะจัดขึ้นได้ ผมจะ
พยายามชวนหวูซวไปงานเลี้ยงนี้ด้วย คุณคิดว่ายังไง?”
“ฟังดูดีมาก” หลี่เสี่ยวเฟิงพูดขึ้นระหว่างที่เขาเดินผ่านไป “อันที่จริง
ที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อพูดคุยกับผู้อำนวยการติงด้วยเช่นกัน ตอนนี้ผมมี
สคริปต์ภาพยนตร์ที่น่าสนใจอยู่เรื่องหนึ่งและต้องการถ่ายทำมัน และ
คนแรกที่ผมคิดถึงก็คือผู้กำกับ แน่นอนว่าเรื่องเงินนั้นไม่มีปัญหา
เพราะผมจะลงทุนในครั้งแรกก่อนเป็นเงิน 200 ล้าน ไม่รู้ว่าผู้กำกับ
คิดยังไงกับเรื่องนี้?”
ติงจื่อที่ได้ฟังแบบนั้นก็มีสายตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “ดีครับ! แต่
ซีอีโอหลี่พอจะบอกผมได้ไหมว่าบทของคุณเป็นแนวไหน”
“หน่วยคอมมานโดช่วยตัวประกัน! มันเป็นหนังพลังบวก…” หลี่
เสี่ยวเฟิงได้พูดออกมาเหมือนว่าตัวเองมีบทนั้นจริง ๆ อันที่จริงเขา
ไม่มีบทอะไรนั้นอยู่กับตัวเองด้วยซ้ำ ที่เขาทำไปแบบนั้นก็เพียงเพราะ
ต้องการรอเพื่อให้ยาที่อยู่ในอาหารของจ้าวหวูซวงออกฤทธ์ิเท่านั้น
ภายในห้องด้านข้างจ้าวหวูซวงเปิดอาหารกล่อง เธอถ่ายทำจนถึงตี 4
เธอเหนื่อยและหิวมาก เธอแยกตะเกียบที่ใช้แล้วทิ้งและกำลังจะหยิบ
อาหารขึ้นมา
“อย่ากินมัน” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
อ่ะ!
จ้าวหวูซวงที่ได้ยินแบบนั้นก็ทิ้งตะเกียบลงด้วยความตกใจ ก่อนที่
เธอจะหันกลับมาและตะลึงทันที
เป็นหนิงเถาที่ยืนอยู่ที่นั่น
แต่ทำไมเขาถึงมาที่นี่?
เขาต้องการอะไร?
ความกลัวทั้งหมดของจ้าวหวูซวงหายไปเหมือนหมอกภายใต้แสงแดด
ทันทีที่เธอเห็นหนิงเถา กระนั้นเธอก็ยังคงประหม่าและในความเป็น
จริงก็กังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ ความคิดของเธอจะไม่ดุเดือดได้อย่างไร
ตั้งแต่หนิงเถาปรากฏตัวในห้องของเธอในเวลานี้
หนิงเถายิ้มอย่างใจเย็น “ฉันกังวลว่าจะมีบางอย่างที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับ
เธอ แต่เมื่อฉันโทรหาเธอและเธอไม่ได้รับสายฉันจึงรีบมาหาเธอ
ทันที ต้องขอโทษด้วยที่มันอาจจะรู้สึกอึดอัดหน่อยกับสถานการณ์
แบบนี้”
จ้าวหวูซวงยิ้ม “โอ้ จริงเหรอ? ในละครที่ฉันกำลังถ่ายทำก็มีโครง
เรื่องแบบนี้เหมือนกัน เยาวชนผู้รักชาติคนนั้นเข้ามาในห้องของฉัน
กลางดึกเพราะเขากังวลว่าฉันจะตกอยู่ในอันตราย”
“แล้ว?” หนิงเถาไม่รู้ว่าทำไม แต่เขาเสียใจทันทีที่ถาม
แก้มของจ้าวหวูซวงแดงระเรื่อเล็กน้อย “พี่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น?
หรือว่าพี่ต้องการให้มันเกิดขึ้นจริง ๆ ?”
“อะแฮ่ม” หนิงเถากระแอมในลำคอและเปลี่ยนหัวข้อ “หลี่เสี่ยวเฟิง
ขอให้ใครมาวางยาในอาหารของเธอ ดังนั้นมันจะดีกว่าถ้าเธอจะไม่
กินอาหารที่อยู่ในกล่องนั้น”
จ้าวหวูซวงไม่ได้โกรธอย่างที่เขาคาดหวัง แต่เธอก็ยิ้มให้หนิงเถา
“ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ เยาวชนผู้รักชาติในละครก็พูดเช่นเดียวกัน”
หนิงเถา. “…”
จ้าวหวูซวงยังคงพูดเสริมว่า “จริง ๆ แล้วอาหารไม่ได้มีอะไรใช่มั้ย?
พี่พูดแบบนี้เพื่อสร้างบรรยากาศไม่ใช่เหรอ”
หนิงเถาฉีกยิ้มและพูดว่า “ถ้าเธอไม่เชื่อฉันก็ลองกินได้”
เขาระบุด้วยความสามารถในการดมกลิ่นของเขาว่ายาที่อยู่ในนั้นเป็น
เพียงยาชาและนอนหลับเท่านั้น นอกจากการหมดสติแล้วจะไม่มี
อะไรเลวร้ายเกิดขึ้น นอกจากนี้เขาไม่ต้องการให้เธอเป็นพยานว่าเขา
กำลังจะทำอะไรต่อไป
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันไม่มีอะไร?” จ้าวหวูซวงจ้องมองเขาอย่างยั่ว
เย้า
“เธอต้องการเดิมพัน?”
“ใช่ ถ้ามันไม่มีอะไรอยู่ในอาหารนี้ ฉันเองก็อยากจะขออะไรก็ได้
จากพี่สักครั้งได้ไหม?” จ้าวหวูซวงเต็มไปด้วยความมั่นใจ เมื่อ หนิง
เถาอยู่ข้างเธอเธอก็รู้สึกไม่กลัวอะไรเลย นอกจากนี้เธอยังเชื่อว่าหนิง
เถาเข้ามาในห้องของเธอในตอนดึกด้วยแรงจูงใจที่ซ่อนเร้นบางอย่าง
หนิงเถายักไหล่ “ได้เลย”
จ้าวหวูซวงที่ได้ยินแบบนั้นก็หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วเช็ดด้วยกระดาษ
ทิชชู่จากนั้นก็เริ่มรับประทานอาหาร เมื่อเห็นว่าเธอกินอาหารอย่าง
รวดเร็วเหมือนว่าเธอนั้นไม่ได้ทานอะไรมานั้น เธอพึมพำขณะ
รับประทานอาหาร “เห็นไหมฉันรู้ว่าอาหารนั้นปลอดภัย หลี่เสี่ยวเฟิง
จะกล้าวางยาในอาหารของฉันได้ยังไง? พี่ควรเป็นคนตรงไปตรงมา
เกี่ยวกับสิ่งที่พี่ต้องการทำมากกว่านี้ พี่อย่าเขินอาย…”
จ้าวหวูซวงได้ทรุดตัวลงบนโต๊ะก่อนที่เธอจะพูดจบประโยค
หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็ปิดไฟแล้วอุ้มเธอวางไว้ใต้เตียง จากนั้นเขาก็
ซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าคลุมและเปิดฟังก์ชันการบันทึกบนโทรศัพท์ของเขา
ก่อนที่เขาจะวางโทรศัพท์ไว้ข้างหมอนแล้วยกผ้าห่มขึ้นคลุมหัว
ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านนอก จากนั้นก็มีเสียง
เคาะประตูและเสียงใครบางคน “หวูซวง ฉันเข้ามาได้ไหม?”
ห้องนั้นเงียบ
“เธอไม่ได้พูดอะไรเลยดังนั้นฉันคิดว่าเธอยอมรับว่าโอเคนะ! ได้!
ฉันจะเข้าไปแล้วนะ” หลี่เสี่ยวเฟิงพูดจบก็ได้ผลักเปิดประตูและเดิน
เข้าไปเขาปิดประตูด้านหลังและล็อคมันทั้ง ๆ ที่จ้าวหวูซวงไม่ได้
ล็อคไว้
ห้องเป็นสีดำสนิท หลี่เสี่ยวเฟิงหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาและ
ส่องแสงจากโทรศัพท์ว่ามีคนอยู่บนเตียง เขายังเห็นกล่องอาหารที่
เหลืออยู่และตะเกียบคู่หนึ่งตกอยู่บนโต๊ะ
หลี่เสี่ยวเฟิงยิ้มเยาะทันที “จ้าวหวูซวง โอ้ จ้าวหวูซวง ทำไมต้องลง
เอยแบบนี้ ทำไมเธอไม่สามารถให้ความสุขกับฉันได้? ทำไมต้อง
ขายหน้าตัวเองด้วยการอยู่กับหมอคลินิกโง่ ๆ แบบนั้น เธอมันก็แค่
ผู้หญิงเลวทรามคนหนึ่งเท่านั้น มันดีแค่ไหนแล้วที่ฉันให้เกียรติเธอ
ก่อนหน้านี้ แต่ดูสิ่งที่เธอทำมัน เธอไม่ต้องการมันเหรอ? ดี! ฉันจะ
แสดงให้เธอเห็นว่าผู้ชายที่แท้จริงเป็นอย่างไร!”
หนิงเถายังคงนอนเงียบ ๆ
หลี่เสี่ยวเฟิงเดินเข้ามาข้างเตียงและเอื้อมมือเข้าไปใต้ผ้าคลุม เขาลูบ
น่องของหนิงเถาและขยับขึ้น เมื่อเทียบกับการลงมือทันที หลี่เสี่ยว
เฟิงชอบความก้าวหน้าแบบค่อยเป็นค่อยไปและผจญภัยแบบนี้
มากกว่า
“จ้าวหวูซวง?”
สัมผัสที่หลี่เสี่ยวเฟิงรู้สึกนั้นคืออีกฝ่ายสวมกางเกงและขาของเธอ
รู้สึกค่อนข้างหยาบ
ทันใดนั้นความรู้สึกสงสัยเพิ่มขึ้นใน หลี่เสี่ยวเฟิงได้ใช้มือของเขา
เอื้อมไปที่บริเวณอุ้งเชิงกรานอย่างรวดเร็วและก้าวไปข้างหน้าเพื่อ
คว้ามัน เหมือนถูกฟ้าผ่าเขาก็แข็งทันที เขาคิดว่าจะไปจับหอยเป๋ าฮื้อ
แต่กลับได้งวงช้างแทน …
หลี่เสี่ยวเฟิงรีบถอนมือทันที ก่อนที่เขาจะเปิดผ้าห่มออกมา
ไม่ใช่คนน่ารักตาโตจ้าวหวูซวง แต่เป็นหนิงเถาที่มีหน้าตาที่ดูดีแทน
เมื่อเขาเห็นใบหน้าของหนิงเถา หลี่เสี่ยวเฟิงก็ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
ปากของเขาอ้าปากค้าง แต่ก่อนที่เขาจะส่งเสียงหนิงเถาก็พูดขึ้น
หนิงเถาพูดว่า “มันจะดีกว่าถ้านายจะเงียบเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคนอื่น
อาจจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้น”
หลี่เสี่ยวเฟิงที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบปิดปากทันที เขาเป็นคนวางแผนที่
จะวางยาในอาหารของจ้าวหวูซวง แล้วแอบซุ่มอยู่ในห้องของเธอ
ไม่มีทางที่เขาจะดึงดูดความสนใจมาที่นี่ได้
หนิงเถาได้ลงจากเตียงและยืนเผชิญหน้ากับหลี่เสี่ยวเฟิงตรง ๆ
หลี่เสี่ยวเฟิงรู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัดเสียงของเขาสั่นเทา “อะไร…คุณ
ต้องการอะไร”
หนิงเถาตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แล้วนายคิดยังไงละ?”
จู่ ๆ หลี่เซียวเฟิงก็พูดว่า “นี่นาย! เห็นได้ชัดว่านายเป็นคนที่วางยา
อาหารของจ้าวหวูซวง และมีแรงจูงใจที่ซ่อนเร้นอยู่! ฉันเพียงแค่เดิน
ผ่านมาและได้ยินเสียงร้องตะโกนเท่านั้น ดังนั้นฉันจึงมาที่นี่เพื่อ
หยุดนาย !”
หนิงเถาถึงกับถอนหายใจ “เห็นได้ชัดว่านายเป็นคนที่วางยาในอาหาร
ของจ้าวหวูซวงและเข้าไปในห้องของเธอเพื่อทำสิ่งที่ไม่ดี แต่นาย
กลับกล่าวหาฉันแทน ฉันรู้ว่านายไม่ใช่คนดี แต่ฉันไม่เคยคิดว่านาย
จะแย่ขนาดนี้”
หลี่เสี่ยวเฟิงเป็นคนหน้าด้านกว่าที่เห็น “ฉันเข้าไปในห้องของจ้าว
หวูซวง? ให้ฉันบอกนายคฤหาสน์นี้เป็นของครอบครัวของฉัน การ
เข้าห้องในทรัพย์สินของฉันไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายใช่ไหม?
แล้วนายล่ะ? ตัวเองนายมากกว่าที่เข้ามาได้ยังไง? ถ้านายไม่บอก
เหตุผลที่มาที่นี้ให้ชัดเจน ฉันคงจะต้องโทรแจ้งตำรวจ”
จู่ ๆ หนิงเถาก็ชกหมัดเข้าที่หน้าท้องของหลี่เสี่ยวเฟิงด้วยความโกรธ
แรงของมันเพียงพอที่จะส่งหลี่เสี่ยวเฟิงลอยออกจากพื้น
ปัง!
หลี่เสี่ยวเฟิงกระอักเลือดหลังจากล้มลงกับพื้น เขากำลังจะตะโกน
แต่เขาเจ็บปวดมากจนไม่สามารถส่งเสียงได้
หนิงเถาเดินเข้าไปและเตะหลี่เสี่ยวเฟิงที่หว่างขาของเขา
แน่นอนว่าหลี่เสี่ยวเฟิงเกือบจะเป็นลมจากการเตะครั้งนี้
ไม่มีความเห็นอกเห็นใจแม้แต่นิดเดียว เขาได้เตะหลี่เสี่ยวเฟิงอย่าง
แรงที่หว่างขาอีกครั้ง
หลี่เสี่ยวเฟิงไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไปและหมดสติไปทันที