Open a Clinic to Cultivate Myself - ตอนที่ 206
บทที่ 206 สถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
ไป๋เซิงหายตัวไปในขณะที่อีกคนกลับมา
หนิงเถาไปที่บ้านรุ่งเรืองทันทีที่เขาได้รับโทรศัพท์จากเจียงเฮาเมื่อ
เขาไปถึงที่นั่น เจียงเฮาและเมิ่งป๋อก็มาถึงแล้วเช่นกัน บ้านรุ่งเรืองทั้ง
หลังยังคงถูกปิดตายไม่มีใครสามารถเข้าไปข้างนอกได้และไม่มีใคร
เข้าไปข้างในได้
เจียงเฮาพาหนิงเถาเข้าไปในบ้านรุ่งเรือง
“เธอกลับมาได้ยังไง?” หนิงเถาถามขณะที่เขาเดินเข้าไปข้างใน
เจียงเฮาตอบว่า “ฉันเองก็ไม่รู้ เธอเพิ่งกลับมา ฉันไม่ได้ติดต่อกับเธอ
เลย”
“ทำไมไม่ถามเธอล่ะ?”
“นายลืมไปแล้วหรือไงว่าตัวเองเองมีอีกตัวตนหนึ่งคือสายลับของ
ฉัน และอีกอย่างเป็นนายที่รู้จักเธอมากกว่าฉัน ดังนั้นมันจะดีกว่าที่
จะให้นายจัดการ” เจียงเฮาอธิบายขึ้นมา
จู่ ๆ หนิงเถาก็จำอะไรบางอย่างได้และพูดขึ้นหลังจากเงียบไป “เอ่อ!
เนื่องจากฉันเป็นสายลับ งั้นแสดงว่าฉันก็จะได้ปืนพกใช่ไหม??”
เจียงเฮารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “นายอยากได้ปืนเหรอ?”
หนิงเถาผงกศีรษะ การต่อสู้ของเขากับไป๋ เซิงในช่วงเช้าตรู่นั้นเป็น
เรื่องที่อันตรายมาก เขาไม่สามารถปลดปล่อยพลังของเจ้ามีดผ่าฟืน
ของเขาได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ มันคงจะดีกว่าถ้าเขาทำการปรับแต่ง
ปืนของเขาให้เหมือนกับรถจักรยานไฟฟ้าเจตจำนงของพระเจ้า เขา
มั่นใจว่าถ้าเจออีกฝ่ายในครั้งหน้าเขาจะไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์
ที่เป็นอันตรายอีกต่อไป?
เจียงเฮาที่ได้ฟังแบบนั้นก็เบ้ปากขึ้นเล็กน้อย “ทำไมผู้ชายหลายคน
ชอบเล่นปืนกัน?? ปืนเป็นอาวุธอันตรายไม่ใช่ของเล่น ประเทศของ
เราจึงมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากเกี่ยวกับปืน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะ
ได้รับ แต่ในเมื่อนายขอฉันจะจัดการให้ แต่มันจะไม่ใช่เร็ว ๆ นี้
แน่นอนเข้าใจไหม?”
หนิงเถาที่ได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและพึมพำ “เงินเดือน
ของฉันก็อยู่ในบัตรธนาคารของเธอและมาตอนนี้เธอยังจะขี้เหนียว
เรื่องนี้กับฉันอีกเหรอ? เฮ้อ! ฉันอยากรู้แล้วสิว่าตัวเองเป็นสายลับ
แบบไหนกันแน่?”
เจียงเฮาถึงกับหลุดหัวเราะขึ้นมา “สายลับแบบไหนนะเหรอ? โอเค!
โอเค! ถ้านายอยากเล่นปืนจริง ๆ ฉันจะให้ปืนของฉันไปเล่นซักพัก
แน่นอนว่านายจะต้องคืนปืนให้ฉันหลังจากเล่นเสร็จเข้าใจไหม?”
หนิงเถาได้พูดขึ้นว่า “เอาเถอะ! ฉันแค่พูดเล่นเท่านั้น เธอเองก็อย่าไป
สนใจมันมากนักเลย”
“นี่นายกำลังโกรธเหรอ? ” จู่ ๆ เจียงเฮาก็เอื้อมมือไปแตะที่หน้าของ
หนิงเถา
หนิงเถาหลบแต่เธอทำให้เขาหัวเราะ เขาต้องการปืน แต่เขารู้ว่าอาวุธ
จำพวกปืนนั้นมีการควบคุมที่เข้มงวดที่สุด เห็นได้จากมีปืนเพียง
กระบอกเดียวสำหรับสถานีตำรวจในเขตเมืองที่มีผู้คนนับหมื่น ไม่ใช่
ความคิดที่ดีที่เขาจะขอปืนจากสำนักปฏิบัติการพิเศษ ยิ่งไปกว่านั้น
เขาไม่เคยรับตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษหรือสายลับมาก่อน นอกจากนี้
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจียงเฮาเขามั่นใจว่าเพียงแค่ความสามารถ
ของเขามันก็มากพอแล้วที่จะช่วยได้
หนิงเถาคิดกับตัวเองว่า “ฉันจะถามเชินเซิงหลินว่าเขาเข้าถึงปืนได้
ไหม…ลืมไปเลย ในที่สุดเขาก็กลับตัวเป็นคนดีขึ้นมาแล้ว ฉันจะให้
เขาซื้อปืนให้ฉันได้ยังไง? นั่นคงจะดีไม่ดี”
ทันใดนั้นผู้หญิงคนหนึ่งก็ออกมาจากอาคารหลัก เธอคือ จู้หงฉิน
เธอสวมชุดกี่เพ้าสีกรมท่าและส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายยังคง
สมบูรณ์แบบ เธอดูไม่เหมือนผู้หญิงในยุค 40 เลย ผิวของต้นขาที่เผย
ให้เห็นจากร่องในชุดกี่เพ้าขาวและบอบบางและได้รับการดูแลอย่างดี
การปรากฏตัวของเธอทำให้จิตใจของหนิงเถากลับมา
เธอถูกพาไปโดยไป๋ เซิงส่วนไป๋ เซิงและที่พักบนภูเขากับหายตัวไป
แต่ตอนนี้กลับเป็นเธอที่กลับมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ สรุปแล้วมัน
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“สวัสดีตอนเช้าหมอหนิง” จู้หงฉินทักทายยิ้ม “แล้วนี่ใครกัน?”
หนิงเถากำลังจะแนะนำตัวเมื่อเจียงเฮาแตะที่ไหล่เขาและพูดว่า “ไม่
สำคัญว่าฉันเป็นใครแต่คุณจำเป็นต้องให้ความร่วมมือกับเรา”
จู้หงฉินพยักหน้าอย่างสุภาพและกล่าวว่า “ได้! ทำไมเราไม่มาคุยกัน
ข้างในกันละ?”
เมื่อเข้าไปข้างในเจียงเฮาและหนิงเถาก็นั่งลง ก่อนที่จู้หงฉินจะเป็น
คนชงชาให้พวกเขาคนละถ้วย
“คุณกลับมาได้ยังไง?” หนิงเถาเป็นคนแรกที่ถามออกมาตรง ๆ
จู้หงฉินตอบอย่างใจเย็น “ฉันเรียกรถแล้วกลับมา”
หนิงเถาขมวดคิ้ว “ไป๋เซิงได้ลักพาตัวคุณไปและเราสามารถช่วยคุณ
ได้ นั่นคือทั้งหมดที่คุณต้องการจะพูดใช่ไหม?”
“ลักพาตัว? คุณกำลังพูดถึงอะไร” จู้หงฉินดูประหลาดใจ “ฉันถูก
ลักพาตัวเมื่อไหร่? ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลย?”
หนิงเถาและเจียงเฮามองหน้ากันโดยไม่ได้ตั้งใจและทั้งคู่ก็แสดง
สีหน้าประหลาดใจออกมาเล็กน้อย
จู้หงฉินยังพูดเสริมว่า “ไป๋ เซิงเป็นผู้ชายที่น่านับถือมาก เขาและฉัน
เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ภายใต้สถานการณ์นั้นเขาคิดว่าฉันตกอยู่ใน
อันตรายเขาจึงพาฉันไป เรายังได้ทานอาหารเย็นด้วยกันแล้วฉันก็พัก
ในโรงแรมหนึ่งคืนก่อนที่ฉันจะกลับบ้าน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ฉัน
ไม่ได้ถูกลักพาตัวไปจริง ๆ”
เจียงเฮาเป็นฝ่ายถามว่า “คุณแน่ใจใช่ไหมว่าเขาไม่ได้ลักพาตัวคุณไป?
หากคุณแน่ใจในเรื่องนี้หน่วยรบพิเศษและตำรวจที่อยู่รอบ ๆ ที่นี้จะ
ออกไปทันที”
จู้หงฉินพยักหน้าอย่างจริงจังและพูดอย่างหนักแน่นว่า “ใช่! ฉัน
แน่ใจ”
“เขาขู่คุณหรือ? ถ้าเป็นแบบนั้นคุณสามารถมั่นใจได้ว่าเราจะปกป้อง
คุณ” เจียงเฮายังคงพูดเสริมขึ้น
จู้หงฉินตอบว่า”ไม่! ฉันไม่ได้ถูกคุกคามจริง ๆ และตอนนี้ฉันก็กำลัง
บอกความจริงอยู่”
“ไป๋ เซิงอยู่ที่ไหนตอนนี้?” หนิงเถาถามขึ้นมา
จู้หงฉินพูดว่า “ฉันเองก็ไม่รู้ เขาออกไปหลังจากทานอาหารเย็นกับ
ฉันเมื่อคืนนี้”
หนิงเถาตกอยู่ในความเงียบ ตามที่จู้หงฉินบอกมาทั้งหมด มีความ
เป็นไปได้ว่าเธอได้ทำข้อตกลงกับไป๋ เซิง
“ครอบครัวซินของคุณเอาชิ้นส่วนกะโหลกมาจากไหน?” เจียงเฮา
เป็นฝ่ายตั้งคำถามใหม่
จู้หงฉินตอบว่า “ย้อนกลับไปหลายร้อยปี ลูกสาวขององค์ชายสาม
แห่งราชวงศ์หมิงได้ช่วยบรรพบุรุษคนหนึ่งของตระกูลซินและมอบ
ที่ดินให้พวกเขา มันเป็นความกรุณาอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของฉัน
มาโดยตลอด ต่อมาเมื่อลูกสาวขององค์ชายสามได้ถูกฆ่าทิ้งอย่างไร้
ร่องรอย เมื่อบรรพบุรุษของตระกูลซินมาถึงที่เกิดเหตุพวกเขาพบ
เพียงชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะอันนั้นเพียงอันเดียว ดังนั้นพวกเขาจึง
สร้างหลุมฝังศพของจู้หงหยูไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม นอกจากนี้
ผู้ชายตระกูลซินยังมีประเพณีการแต่งงานกับผู้หญิงจากตระกูลจู้เพื่อ
ตอบแทนน้ำใจของพวกเขา ฉันเองก็แต่งงานกับตระกูลซินเพราะ
ประเพณีนี้เช่นกัน”
เธออ้างว่าเธอไม่ได้ถูกลักพาตัวและชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะเป็นของ
บรรพบุรุษ ไม่มีข้อบกพร่องในเรื่องที่เธอพูด เห็นได้ชัดว่ามีการ
เตรียมการล่วงหน้า
“คุณรู้ไหมว่ามีอะไรอยู่ในชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะนั้น?” เจียงเฮา
ยังคงถามต่อ
จู้หงฉินตอบว่า “ฉันไม่รู้รายละเอียดเลยเพราะฉันไม่เคยเปิดโลงศพดู
ฉันเพิ่งได้ยินสามีบอกฉันเกี่ยวกับสูตรยาอะไรบางอย่าง ครอบครัว
ของฉันไม่ได้อยู่ในธุรกิจยาดังนั้นฉันจึงไม่สนใจ โลงศพในสุสาน
ถูกเปิดโดยเพื่อนของหมอหนิงและหมอหนิงก็อยู่ด้วย คุณสามารถ
ถามเขาได้ฉันคิดว่าเขาน่าจะรู้ดีกว่าฉัน”
เจียงเฮาเหลือบมองไปที่หนิงเถาโดยไม่ได้ตั้งใจ
กริ๊ง ๆ ๆ
จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของหนิงเถาก็ดังขึ้น เขาดึงโทรศัพท์ออกมา
ชำเลืองมองที่หน้าจอแล้วลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู “ฉันจำเป็นต้อง
รับสายนี้”
“ใครโทรหานายเหรอ” เจียงเฮาถามออกมาด้วยความสงสัย
“ชิงจื้อ” หนิงเถาตอบ
เมื่อรู้ว่ามาจากชิงจื้อเจียงเฮาจึงหยุดถาม เธอจำได้ว่าอีกฝ่ายเคยเสนอ
ให้เธอในนามของหนิงเถาและในตอนนั้นเธอทำเพียงยิ้มเพราะเธอ
คิดว่าอีกฝ่ายอาจจะมีความผิดปกติเล็กน้อย แต่เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอ
ถึงรู้สึกประทับใจในตัวชิงจื้อ
หนิงเถารับโทรศัพท์หลังจากที่เขาเดินออกจากประตู
อันที่จริงมันไม่ได้มาจากชิงจื้อแต่มาจากไป๋ ซู่เจิน หนิงเถาไม่ได้ตั้งใจ
โกหกเจียงเฮาแต่จู้หงฉินรู้ว่าไป๋ ซู่เจินเป็นปีศาจที่พยายามทำร้ายลูก
ชายของเธอ หนิงเถาไม่สามารถบอกเจียงเฮาด้วยตัวเองว่าไป๋ ซู่เจิน
เป็นคนโทรมาหาเขา อีกเหตุผลหนึ่งคือดูเหมือนว่าจู้หงฉินจะได้ทำ
ข้อตกลงกับไป๋เซิงโดยไม่รู้ว่าเขาได้กำจัดแมลงที่มีลักษณะคล้ายงูพิษ
ออกจากร่างของไป๋ ซู่เจิน ถ้าเขาบอกเจียงเฮาด้วยตัวเองว่าเป็นไป๋ ซู่
เจินโทรมาไม่ช้าก็เร็วที่จะไป๋ เซิงรู้เรื่องนี้
“ไป๋ เซิงยังไม่ตาย” เสียงของไป๋ ซู่เจินดังมาจากโทรศัพท์มือถือพร้อม
กับอาการประหม่าเล็กน้อย
“คุณรู้ได้ยังไง?” หนิงเถาถาม
“ฉันเพิ่งตรวจสอบอีเมล์ของฉันและสังเกตเห็นว่าไป๋เซิงได้ออกเอกสาร
การเลิกจ้างกับฉัน”
“เลิกจ้าง?”
“เขาไล่ฉันออกจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปแล้ว” ไป๋ ซู่เจินพูดขึ้นมา
“แล้วใครเข้ามารับตำแหน่งของคุณ?”
“ยังไม่มีใครเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของฉัน ฉันกำลังโทรมาบอกให้
นายระวังตัว เขายังไม่ตาย เขาสามารถโจมตีนายได้ทุกเมื่อ” เสียง
ของไป๋ ซู่เจินเต็มไปด้วยความกังวล
“โอเค! ฉันจะคุยเรื่องนี้กับคุณอีกครั้งเมื่อฉันกลับมา” หนิงเถาวาง
สายและกลับไปที่อาคารหลักอีกครั้ง
เจียงเฮามองไปที่หนิงเถาและถามว่า “ชิงจื้อโทรมาเรื่องอะไรเหรอ?”
หนิงเถาตอบว่า”ฉันมีคนไข้ที่อยากเจอฉันนะ! แต่มันไม่มีอะไร
ร้ายแรงมากดังนั้นฉันจึงบอกให้เธอบอกคนไข้ว่าให้รอจนกว่าฉันจะ
กลับไป”
เจียงเฮาโน้มตัวเข้ามาในหูของหนิงเถาและกระซิบ “พยาบาลของนาย
ตลกดี นายพบเธอที่ไหนเหรอ?”
หนิงเถาไอและเปลี่ยนเรื่อง “คุณจู้! คุณควรคิดให้ดีกับคำพูดของคุณ
อีกครั้ง ตามที่คุณบอกตำรวจแบบนี้ทางเราจะปิดคดีและคนที่ปกป้อง
ที่นี่จะจากไป นี่ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายแล้วคุณแน่ใจหรือว่าตัวคุณนั้น
ไม่ได้ถูกลักพาตัวไป?”
จู้หงฉินพูดขึ้นว่า “ฉันชัดเจนมาก ฉันแน่ใจ และฉันก็ไม่ต้องการการ
ปกป้องอะไรทั้งนั้น”
นี่เป็นการสิ้นสุดการสนทนาของพวกเขา
หนิงเถาได้ลุกขึ้นยืนและพูดว่า “เราไปกันเถอะ”
เจียงเฮาเองก็พยักหน้าและลุกขึ้นตามหนิงเถา
จู้หงฉินไม่ได้ลุกขึ้นมาดูพวกเขา แต่เฝ้าดูหนิงเถาและจู้หงฉินจากไป
อย่างเงียบ ๆ พร้อมกับสายตาแปลก ๆ ในดวงตาของเธอและรอยยิ้ม
ที่น่าสนใจกำลังปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ
เจียงเฮาได้โทรศัพท์เพื่อรายงานสถานการณ์ หลังจากได้รับคำแนะนำ
เธอสั่งให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องถอนกำลังออกไปทันที
“มากับฉันเถอะ!” เจียงเฮาพูดขึ้นมา
หนิงเถาตอบว่า “ฉันเองก็มีบางอย่างที่จัดการ เมื่อฉันจัดการทางนี้
เสร็จแล้วฉันจะรีบไปหาเธอทันที”
เจียงเฮาพูดขึ้นว่า “นายห้ามโกหกฉันเด็ดขาด! นายรู้ไหมว่าฉันเบื่อที่
จะได้ยินแม่พูดถึงตัวนายทุกวัน เมื่อนายมาที่เมืองหลวงอีกครั้งนาย
เอาเครื่องเทศของนายมาด้วยเข้าใจไหม?”
หนิงเถายิ้มและพูดว่า “ได้สิ! ฉันฝากทักทายแม่ของเธอแทนฉันด้วย”
ทันใดนั้นเจียงเฮาได้ยื่นมือของเธอให้หนิงเถา
หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็ได้หยุดชั่วครู่แล้วเอื้อมมือไปจับมือของเจียง
เฮา อย่างไรก็ตามเขาไม่คาดคิดว่าเมื่อเขาเริ่มดึงมือกลับเจียงเฮาก็เดิน
ตามมือของเขาเหวี่ยงตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแล้วกอดเอวของ
เขาไว้แน่น
ตำรวจและหน่วยรบพิเศษบางคนมองไปที่หนิงเถาและเจียงเฮาที่
กอดกันและกัน
เมิ่งป๋อเป็นคนแรกที่ผิวปากและยิ้มด้วยรอยยิ้ม “ว้าว! เมื่อไหร่เราจะ
ได้ขนมแต่งงานของพวกคุณสองคนกัน?”
หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกท้อแท้และไม่รู้จะพูดอะไร
ทันใดนั้นเจียงเฮาก็ปล่อยหนิงเถาออกพร้อมกับแก้มสีแดงของเธอ
แต่เธอยังคงพูดด้วยน้ำเสียงปกติว่า “ฉันแค่อยากกอดนายเท่านั้น อย่า
เข้าใจฉันผิด ก็แค่นั้นแหละ ฉันต้องไปแล้ว”
หนิงเถาพูดขึ้นว่า “ดูแลตัวเองให้ดี! และ…ถ้าทำได้อย่าเข้าไป
เกี่ยวข้องกับโครงการต้นกำเนิดบรรพบุรุษ”
เจียงเฮาตอบ “ฉันรู้ว่ามันอันตราย แต่นี่คือภารกิจของฉัน” หลังจาก
หยุดชั่วขณะเธอพูดเสริมว่า “… มีอะไรอีกไหมที่นายอยากจะพูดกับ
ฉัน”
หนิงเถาทำเพียงส่ายหัวเป็นการปฏิเสธ