Open a Clinic to Cultivate Myself - ตอนที่ 204
บทที่ 204 การต่อสู้อันนองเลือดกับไป๋ เซิง
เนื่องจากหนิงเถาเป็นคนทำร้ายหลี่เสี่ยวเฟิงเอง ทำให้เขาไม่อาจจะรู้
ได้ว่าที่จริงแล้วหลี่เสี่ยวเฟิงนั้นมีค่าบาปมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นหนิง
เถาจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยหลี่เสี่ยวเฟิง อย่างไรก็ตามถ้าเขาปล่อยให้
ผู้ชายคนนี้หลุดออกไปแบบนี้ พระเจ้าก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้จะไปสร้าง
เจ็บปวดกับผู้หญิงคนอื่นอีกมาก
เมื่อคิดได้แบบนั้นหนิงเถาก็หยิบเข็มศักด์ิสิทธ์ิออกมาและติดไว้ใน
อวัยวะเพศของหลี่เสี่ยวเฟิง
เข็มนี้ได้ทำลายเส้นประสาทในบริเวณนั้นและรักษาอาการบาดเจ็บ
ของเขาในเวลาเดียวกัน หลี่เสี่ยวเฟิงจะตื่นขึ้นมาโดยไม่มีความเจ็บปวด
และไม่มีรอยแผลเป็นจากการถูกทุบตี แต่เขาก็ไม่สามารถทำร้าย
ผู้หญิงได้ในลักษณะนี้ได้อีกต่อไป
มันเป็นสิ่งที่น่ากลัว แต่ในฐานะระหว่างความดีและความชั่วเขาเกิด
มาพร้อมกับด้านที่ชั่วร้าย เขาเลวร้ายยิ่งกว่าคนชั่วเมื่อเขาตกอยู่ใน
สภาพชั่วร้าย!
หลังจากเหตุการณ์นี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีเส้นสีดำปรากฏขึ้นบน
บัญชีแยกประเภทใบไผ่ แต่หนิงเถาไม่สนใจ เขายังได้ทำความดีซึ่ง
ทำให้เขาสามารถกำจัดเส้นดำนี้ได้ เขาไม่สามารถเป็นคนดีบริสุทธ์ิ
และไม่สามารถเป็นคนชั่วร้ายได้ เขาเป็นคนที่เปลี่ยนไปมาระหว่าง
ความดีและความชั่วซึ่งต้องรักษาสมดุลระหว่างความดีและความชั่ว
หลี่เสี่ยวเฟิงไม่ได้ตื่นขึ้นมาในทันที แต่เขาหมดสติไป
หนิงเถาพาจ้าวหวูซวงออกมาจากใต้เตียงแล้วนำเธอไปนอนยังเตียง
ของตัวเอง ในขณะที่เขากำลังจะฉีดพลังพิเศษทางจิตวิญญาณเข้าไป
ในร่างกายของเธอเพื่อช่วยเธอในการกำจัดยาสลบ ความรู้สึกที่
อันตรายก็เข้ามาครอบงำเขา
มันเป็นสัมผัสที่หกของเขาซึ่งเฉียบแหลมและแม่นยำมาก
ไม่มีลมด้านนอก แต่หน้าต่างเปิดโดยอัตโนมัติ
จากนั้นไป๋ เซิงก็เข้ามาทางหน้าต่าง
แสงจันทร์ที่เย็นชาได้ส่องเข้ามาในห้องด้านหลังเขา ด้วยชุดขาวราว
กับหิมะ ด้วยแก้มที่มีเลือดฝาดเขาเหมือนนางฟ้าชายที่บินมาจากดวง
จันทร์
นั่นคือตอนที่หนิงเถารู้ว่าสายโทรศัพท์ที่คุกคามของไป๋ เซิงทำให้เขา
เสียสติ เขาคิดว่า จ้าวหวูซวงตกอยู่ในมือของไป๋เซิงและไม่คาดคิดว่า
ไป๋เซิงจะใช้จ้าวหวูซวงเป็นเหยื่อล่อจับเขา!
ไป๋ เซิงมองไปที่หลี่เสี่ยวเฟิงที่นอนอยู่บนพื้นและยิ้มกว้าง “ข้าอยากจะ
ปรากฏตัวทันทีที่เจ้ามาที่นี้ แต่พอดีว่าข้าไม่อยากขัดจังหวะเจ้า เมื่อ
ข้าเห็นเจ้ากำลังสนุกกับมันมากแค่ไหน ดังนั้นข้าจึงรอให้เจ้าจัดการ
เรื่องทั้งหมดนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าการที่เจ้ากล้ามาที่นี้เพียงคนเดียวนั้น
แสดงว่าเจ้าไม่ได้กลัวข้าเลย”
หนิงเถาเอื้อมมือไปด้านหลังของเขาและดึงพัดนิรันดร์ออกจากเอว
ของเขากางออกด้วยเสียงดังและพัดมัน “ฉันควรจะขอบคุณไหม?”
“เจ้านั้นยังอคติกับข้าอยู่อีกเหรอ? ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ข้าก็ยังคงเต็ม
ใจที่จะให้โอกาสครั้งสุดท้ายกับเจ้า หากเจ้าสามารถสร้างสันติกับข้า
และปรุงยาอมตะให้ข้าได้ ข้าจะยังคงถือว่าเจ้าเป็นลูกเขยของข้า
แน่นอนว่าในอนาคตครอบครัวของเราสามารถสร้างรายได้และ
ฝึกฝนอย่างมีความสุข เป็นแบบนั้นจะไม่ดีกว่าเหรอ?” ไป๋ เซิงมอง
ไปที่หนิงเถาซึ่งเต็มไปด้วยอาการต่อต้าน
“ถ้าฉันปฏิเสธล่ะ”
“งั้นข้าคงต้องขอโทษด้วย เพราะข้าคงจะต้องฆ่าเจ้า”
หนิงเถาได้เอื้อมมือไปข้างหลังอีกครั้งและดึงมีดตัดฟืนออกจากเข็ม
ขัด
ไป๋ เซิงไม่ได้พยายามโจมตีเขาในทันที แต่พูดเรียบ ๆ ว่า”เมื่อวานนี้
ขนาดเจ้ามีคนช่วยถึงสองคนก็ยังไม่อาจจะเอาชนะข้าได้ แล้วมา
ตอนนี้เหลือเพียงแค่เจ้าคนเดียว เจ้าคิดว่าจะสามารถเอาชนะข้าได้
หรือไง?”
แผนเดิมของหนิงเถานั้นไม่ได้วางแผนที่จะต่อสู้กับไป๋ เซิง อันที่จริง
เขาเพียงแค่ต้องการมาตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ในตอนนี้
เขาไม่มีทางเลือกเพราะมีจ้าวหวูซวงอยู่ที่นี่ จะเกิดอะไรขึ้นกับเธอถ้า
เขาหนีไป?
นี่คือสิ่งที่ทำให้ไป๋ เซิงน่ากลัว แม้ว่าเขาจะมีความได้เปรียบในอำนาจ
แต่เขาก็ยังจับจ้าวหวู่ซวงเป็นตัวประกันเพื่อผูกมัดหนิงเถา!
ไป๋เซิงมองกลับไปที่เตียงเหลือบมองไปที่จ้าวหวูซวงและถามว่า
“เจ้าคิดว่าข้าจะฆ่าผู้หญิงคนนี้ยากไหมถ้ามีการต่อสู้กัน?”
หนิงเถาเงียบ แต่เขารู้ดีว่าถ้าไป๋เซิงต้องการฆ่าจ้าวหวูซวงเขาก็ไม่มี
โอกาสช่วยเธอได้
“เจ้าหลังชนกำแพงแล้ว เจ้าแน่ใจหรือว่าจะปฏิเสธข้อเสนอของข้า
และต่อสู้กับข้า?” น้ำเสียงของไป๋ เซิงดูอ่อนโยน แต่จริง ๆ แล้วมันมี
ความโกรธที่น่ากลัวปนอยู่
หนิงเถาชะงักก่อนจะพูดว่า “เมื่อนายฆ่าเธอเพื่อนของฉันปีศาจต่อสู้
หยินโมลาจะฆ่าชิงจื้อ และนอกจากนี้ลูกสาวคนโปรดของนายเองอยู่
ในมือของฉัน นายคิดว่าฉันจะเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ด้วยไม่เตรียม
ตัวหรือไง?”
ทันใดนั้นใบหน้าของไป๋ เซิงก็มืดลงทันที
หนิงเถายังคงพูดต่อว่า “ถ้านายให้ฉันพาจ้าวหวูซวงไปฉันจะปล่อย
ไป๋ ซู่เจินไปเช่นกัน”
ไป๋ เซิงถึงกับหลุดหัวเราะเยาะ “เจ้าคิดว่าข้าสนใจว่าไป๋ ซู่เจินมีชีวิตอยู่
หรือตายไปจริงเหรอ? ถ้าข้าสนใจเธอจริง ๆ ข้าคงไม่ขอให้เธออยู่กัน
พวกเจ้าหรอก! เจ้าไม่คิดว่ามันไร้สาระเกินไปเหรอที่ตัวเจ้ากำลังใช้
เบี้ยที่ข้าทิ้งไปแล้วมาขู่ข้า? นอกจากนี้ถ้าข้าไม่ได้พูดแบบนั้นทาง
โทรศัพท์ เจ้าจะมาที่นี่โดยคิดว่าเจ้าถือไพ่เหนือกว่าหรือไม่”
“นายอ้างว่าไป๋ ซู่เจินเป็นลูกสาวของคุณ แต่ในสายตาของนายเธอไม่
มีค่าอะไรเลยหรือ? ฉันรู้สึกเสียใจกับเธอจริง ๆ”
“ไป๋ ซู่เจินจะเทียบกับสูตรยาต้นกำเนิดบรรพบุรุษได้ยังไง? ข้านั้น
สามารถหาคนอย่างไป๋ ซู่เจินได้มากเท่าที่ข้าต้องการ” ไป๋ เซิงพูด
พร้อมกับสะบัดแขนของเขาและปล่อยกรงเล็บงูที่แหลมคมของ
ออกมา
ทันใดนั้นอากาศในห้องก็เย็นลงและแทบจะเป็นน้ำแข็ง
“นายอยากจะฆ่าฉันจริง ๆ” เมื่อเผชิญหน้ากับการคุกคามของความ
ตายหนิงเถาดูเหมือนสงบ
ไป๋ เซิงตอบอย่างเย็นชา “ทำไมข้าต้องให้เจ้าเป็นนักปรุงยาที่ยังมีชีวิต
อยู่ในเมื่อเจ้าปฏิเสธที่จะทำงานให้ข้า ถ้าข้าฆ่าเจ้าคลินิกของเจ้าก็จะ
ไม่มีเจ้าของและทุกอย่างในนั้นจะเป็นของข้า ข้ารู้ว่าเจ้ามีสูตรยา
อมตะอยู่และเมื่อข้าได้สูตรนั้นพวกลูก ๆ ของข้าก็จะกลับมาหาข้า
เอง เห็นไหมว่าการฆ่าเจ้านั้นมีผลดีมากขนาดไหน”
เมื่อเขาพูดจบหนิงเถาก็พุ่งเข้ามาหาเขาและพยายามโจมตีไป๋เซิงด้วย
มีดตัดฟืนของเขา
เนื่องจากทั้งคู่ต้องการฆ่ากันจึงไม่จำเป็นต้องคุยกัน ท้ายที่สุดผู้ที่
โจมตีก่อนย่อมได้เปรียบ!
หนิงเถาได้ออกแรงมีดตัดฟืนอย่างหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่มันก็
ยังไม่ปล่อยพลังงานออกมา หากผู้ที่ใช้อาวุธตอนนี้เป็นอดีตเจ้าของ
มันอย่างถังเทียนเหริน การโจมตีทั้งหมดนี้อาจทำให้กำแพงฝั่งตรง
ข้ามแตกออกจากกันไปแล้ว!
แม้ว่าจะไม่มีพลังงานถูกปล่อยออกมา แต่ก็เป็นเครื่องมือวิเศษของผู้
ฝึกตนซึ่งมันถือว่าเป็นอาวุธที่ค่อนข้างคมเลยทีเดียว ไม่ว่าหัวของไป๋
เซิงจะแข็งแค่ไหนเขาก็คิดว่าถ้าอีกฝ่ายโดนมีดนี้เข้าไปจัง ๆ ก็หลุด
ได้เช่นกัน
ไป๋ เซิงที่เห็นแบบนั้นก็ได้ก้มตัวลงและเลือกที่จะแทงมือไปยังท้อง
ของหนิงเถากลับ
หนิงเถาได้กระโดดออกไป แต่กรงเล็บงูของไป๋ เซิงยังคงตัดชายเสื้อ
ของเขาได้ ทำให้มีเศษผ้าหล่นลงมาจากท้องฟ้า
ก่อนที่หนิงเถาจะทำอะไรต่อไปได้ กรงเล็บจากมือซ้ายของไป๋ เซิงก็
ได้ออกมาแทงเข้าที่หัวใจ
หนิงเถาไม่สามารหลบได้ ในทางทฤษฎีเขาไม่น่าจะออกแรงจากบน
อากาศได้ แต่นั้นสำหรับคนอื่นเพราะทันทีที่เขาเห็นแบบนั้นเขาก็ได้
แตะเท้าขึ้นไปในอากาศหนึ่งครั้งและถอยออกไปทันเวลาเพื่อ
หลีกเลี่ยงการโจมตีของไป๋เซิง
“เหอะ! เจ้าค่อนข้างมีดี ถ้าอย่างนั้นข้าก็มีเหตุผลเพิ่มขึ้นที่จะลบเจ้า
ออกจากโลกนี้!” ไป๋ เซิงได้ร้องตะโกนขึ้นมาก่อนที่จะพุ่งเข้าไปหา
หนิงเถาทันที ทางด้านหนิงเถาเองก็ไม่ได้ยอมถอยเช่นกัน เขาถึงกับ
ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับยกแขนขึ้นและสับลงในเวลาเดียวกัน
ในอากาศมีเงาสีเขียวซีดเป็นรูปตัว “X”
ในความเป็นจริงมันไม่ใช่เงา แต่เป็นออร่าปีศาจสีเขียว ไป๋เซิงได้
หลอมรวมออร่าปีศาจของเขาให้กลายเป็นใบมีดที่สามารถตัดทอง
และหยกได้!
สิ่งนี้ปิดทั้งสี่ทิศทำให้หนิงเถาวิ่งไปไหนไม่ได้!
หนิงเถาถอยกลับไปที่เตียง ไม่มีทางออก ในช่วงเวลาสำคัญเขาได้
เหวี่ยงมีดตัดฟืนไปที่ไป๋เซิงตรง ๆ
มีดตัดฟืนหลุดออกจากมือของเขาและชนเข้ากับพลังปีศาจของอีก
ฝ่าย แต่มันน่าเสียดายที่มีดตัดฟืนไม่มีพลังแฝงอยู่ทำให้มันไม่อาจจะ
ทำลายการโจมตีของไป๋ เซิงลงได้
ทันใดนั้นไป๋ เซิงก็ได้เอื้อมมือไปคว้ามีดฝ่าฟืน
หนิงเถาไม่สามารถเอื้อมมือไปแย่งมีดกลับมาได้ เพราะตอนนี้มือ
ของอีกฝ่ายได้พุ่งมาใกล้ถึงหน้าอกซ้ายของเขาแล้ว
ทันทีที่มือนั้นมาถึงตรงอกซ้าย ไป๋ เซิงก็ไม่รอช้าที่จะสร้างบาดแผลที่
น่ากลัวสองอันขึ้นมา ก่อนที่จะมีเลือดพุ่งออกจากบาดแผลทันที!
หนิงเถาที่ถูกการโจมตีเข้าไปก็ไม่อาจจะทรงตัวให้ตั้งตรงได้อีกต่อไป
เขาถึงกับลอยขึ้นจากพื้นและพุ่งตรงไปยังเตียงที่จ้าวหวูซวงนอนอยู่
เกิดเรื่องขึ้นมากมายแต่จ้าวหวูซวงก็ยังไม่ตื่น
ไป๋ เซิงไม่คิดจะปล่อยให้สถานการณ์นี้ดำเนินไปนานเช่นกัน เขาได้
เดินมาที่เตียงทันที จากนั้นเขาก็ยกแขนขวาขึ้นโดยสัญชาตญาณและ
เหวี่ยงไปที่หนิงเถา ตอนนั้นเขารู้ว่าเขาถือมีดตัดฟืนโดยสันมีดหัน
เข้าหาตัวเองและหันด้านที่มีคมเข้าหาหนิงเถา
แคร้ง!
แน่นอนว่าผลลัพธ์ควรจะรู้ผลในตอนนี้ แต่ทันทีที่ใบมีดวาดมาถึง
คอของหนิงเถา ใบมีดก็ได้หยุดลงเหมือนกับว่ามันได้ปะทะเข้ากับ
เหล็กไม่ใช่กล้ามเนื้อแต่อย่างใด
ขณะที่ไป๋ เซิงได้ฟันเขาที่คอด้วยใบมีดเขาก็เอื้อมมือไปโจมตีอีกฝ่าย
ที่หน้าอกเช่นกัน
ผลกระทบไม่ได้ส่งให้อีกฝ่ายบินผ่านอากาศ แต่ทำได้เพียงถอยหลัง
ไปสองก้าวก่อนที่จะทรุดตัวลงไปเท่านั้น ไป๋ เซิงถึงกับก้มหน้าอย่าง
แรงดวงตาของเขาหวาดกลัวเพราะเขาเห็นเข็มสีน้ำเงินที่หน้าอกของ
ตัวเอง เขาไม่รู้เกี่ยวกับเข็มเงินสีน้ำเงิน นี้แต่เขารู้ว่ามันเป็นต้องไม่ใช่
ของธรรมดา!
ในเวลาไม่กี่วินาทีเมื่อไป๋ เซิงตกตะลึงหนิงเถาก็รีบวาดประตูวาร์ป
ขึ้นมาและหยิบกุญแจคลินิกออกมา
ไป๋เซิงดูเหมือนจะรับรู้อะไรบางอย่างและกระโดดไปที่หนิงเถาโดย
ไม่รู้ตัว แต่ทันทีที่เขาขยับเขาก็สั่นไปทั้งตัว
“เจ้า…” ไป๋เซิงถึงกับชะงักด้วยความตกใจ
หนิงเถาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่น่ากลัวและเอ่ยออกมา “นาย
พยายามจะฆ่าฉันเหรอ? งั้นนายคงต้องเอาตัวให้รอดก่อน มีคนมากมาย
อยากจะฆ่าฉัน แน่นอนว่าไม่ใช่นายคนเดียว แต่จนถึงตอนนี้ฉันยังมี
ชีวิตอยู่”
แน่นอนว่าเข็มที่ปักอยู่ที่หน้าอกของไป๋ เซิงนั้นคือเข็มศักด์ิสิทธ์ินั่นเอง
ถ้าหนิงเถามีอาวุธที่เรียกว่าสามารถทำร้ายอีกฝ่ายได้จริง ๆ ก็คงมี
เพียงเจ้าเข็มศักด์ิสิทธ์ินี้เท่านั้น
ไป๋ เซิงไม่พูดอะไรอีก เขาถึงกับฉีกเสื้อออกทันที ท่ามกลางแสง
จันทร์ที่เย็นเยียบเขาเห็นจุดสีดำขนาดใหญ่บนหน้าอกของตัวเอง สิ่ง
ที่น่ากลัวกว่านั้นคือจุดดำนั้นเริ่มส่งกลิ่นของความเน่าออกมา!
หนิงเถาพูดออกมาด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าของเขาว่า “ยิ่งนาย
เคลื่อนไหวรุนแรงมากเท่าไหร่ นายก็จะตายเร็วขึ้นเท่านั้น”
จู่ ๆ ไป๋เซิงก็โยนมีดผ่าฟืนใส่หนิงเถาอีกครั้ง
หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็รีบใช้กุญแจเปิดประตูทันที ทันใดนั้นประตู
ก็เปิดออกและเขาก็ตกลงไปพร้อมกับจ้าวหวูซวงรวมไปถึงโทรศัพท์
และเตียงทั้งหมด
แน่นอนว่ารวมไปถึงมีดผ่าฟืนที่พุ่งตรงมายังหนิงเถาด้วย
เพียงเสี้ยววินาทีไป๋ เซิงอยากจะวิ่งเข้าไปในนั้นเพื่อจับหนิงเถา แต่
ทันทีที่ความคิดนี้เกิดขึ้นกับเขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงในใจ เขา
ไม่ลังเลอีกต่อไปและกระโดดออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนที่เขาจะ
หายไปในเวลากลางคืน
หลังจากนั้นไม่นานหลี่เสี่ยวเฟิงก็ลืมตาขึ้น ดูเหมือนมีบางอย่างเข้า
มาในความคิดของเขาและเขาก็ลุกขึ้นยืนและมองไปรอบห้องอย่าง
ประหม่า
ห้องว่างเปล่าและมีเลือดอยู่บนเตียงและพื้น ดูเหมือนสถานที่เกิดเหตุ
จู่ ๆ หลี่เสี่ยวเฟิงก็จำอะไรบางอย่างได้ เขารีบปลดซิปกางเกง …
มันยังดูสบายดี มันไม่ได้รับบาดเจ็บ
เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในตัว
เขา
สายตาของเขาเคลื่อนกลับไปที่ผ้าปูที่นอนที่เปื้อนเลือด หลังจากดู
เป็นเวลาสองวินาทีเขาก็พูดเยาะเย้ยที่อธิบายไม่ได้ “ดูเหมือนว่าไอ้
หมอนั้นเองก็คงทำไม่สำเร็จเหมือนกัน”
จากนั้นเขาก็ออกจากห้องไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น