Open a Clinic to Cultivate Myself - ตอนที่ 207
บทที่ 207 ความสุขและความเศร้าโศกของการอยู่ร่วมกับผู้หญิงสองคน
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
เมื่อแสงไฟยามเย็นสว่างขึ้นถนนในเมืองกวนก็กลายเป็นคึกคักขึ้นมา
ทันที
ถนนเต็มไปด้วยผู้หญิง เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋ า น้ำหอม เครื่องสำอาง
และสินค้าอื่น ๆ ของผู้หญิง ของใช้ผู้หญิงและสินค้าทุกประเภทที่ออกมา
แสดงโชว์นี้ต่างก็ทำให้ผู้คนตื่นตา ผู้หญิงไม่เพียงแต่ชอบซื้อของบน
ถนนสายนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ชายด้วยเพราะพวกเขาสามารถเห็นสาว ๆ
หลายคนที่นี่มีต้นขาขาวและสะโพกสวย ๆ ได้จากที่นี้ มันจึงทำให้ถนน
สายนี้นั้นดูเหมือนงานเลี้ยงในรูปแบบภาพอุกิโยะ
แต่ในตอนนี้บนถนนสายนี้กับชายคนหนึ่งดูอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่าชายคนนี้คือหนิงเถา เดิมทีเขาต้องการอยู่ในคลินิกแต่เขากับ
ถูกสาว ๆ บังคับให้ออกไปซื้อของ ตอนแรกที่เขาได้รับคำชวนเขาคิดจะ
ปฏิเสธมันไปแต่เมื่อเขาคิดได้ว่าอาจจะเกิดเรื่องขึ้นโดยฝีมือของไป๋ เซิง
เขาจึงออกไปกับพวกเธอมาด้วย
หนิงเถาถือถุงช้อปปิ้งมาเจ็ดหรือแปดถุง แต่ไป๋ ซู่เจินและชิงจื้อยังคงอยู่
ในการช้อปปิ้ง จากนั้นเขาก็ถูกลากเข้าไปในร้านขายชุดชั้นใน
มันเป็นร้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสื้อชั้นในและกางเกงในรวมถึงชุดชั้นใน
สุดเซ็กซี่ที่ทำให้ใคร ๆ นึกถึงอะไรบางอย่าง
“ร่าเริงขึ้นไหม? นายกำลังจะแสดงสีหน้าเหมือนคนแก่เลยรู้ไหม??” ไป๋
ซู่เจินพูดติดตลก
ทันใดนั้นก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาจากปากของหนิงเถาก่อนที่จะกลับมา
เป็นราบเรียบแบบเดิม “ฉันดูไม่มีความสุขตอนไหน? คุณคิดมากเกินไป
เห็นได้ชัดว่าฉันนั้นมีความสุขมาก”
“ฉันตกงานเพราะนาย นายไม่คิดเหรอว่าควรจะซื้อของขวัญให้ฉันเพื่อ
เป็นการปลอบโยนฉันนะ?” ไป๋ ซู่เจินถาม
หนิงเถาถือถุงช้อปปิ้งในมือขึ้นขึ้นมา “ฉันก็เป็นคนจ่ายเงินทั้งหมดนี้
แล้วไงละ? คุณต้องการอะไรอีก?” มีการหยุดชั่วคราวและมีบางอย่างเกิด
ขึ้นกับเขาในทันใด “คุณพูดได้อย่างไรว่าคุณตกงานเพราะฉัน กรุณามี
เหตุผลหน่อยได้ไหม?”
เขาเป็นถึงคนที่แก้พิษงูพิษออกจากร่างของเธอและทำให้เธอเป็นอิสระ
แต่มาตอนนี้เธอกับอ้างว่าเธอตกงานเพราะเขา นั่นไม่สมเหตุสมผลเลย
จริง ๆ
ไป๋ ซู่เจินยิ้มและพูดว่า “เมื่อไหร่ที่นายเคยเห็นผู้หญิงมีเหตุผลละ?”
ทันใดนั้นหนิงเถาไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้
เจ้าของร้านขายชุดชั้นในชายในวัย 40 ต้น ๆ มองไปที่หนิงเถาและไป๋ ซู่
เจินด้วยรอยยิ้มครึ่งหนึ่งและความชื่นชมอย่างไม่ปิ ดบังในสายตาของเขา
ไป๋ ซู่เจินเป็นผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่ที่ร้อนแรงและสวยงามราวกับนางฟ้า
เมื่อดูภาพรวมทั้งหมดแล้วไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะไม่ต้องการเธอ
“พี่หนิง! ดูฉันสิ! พี่คิดว่าฉันดูดีไหม?” ชิงจื้อมาหาหนิงเถาพร้อมกับชุด
ชั้นในตาข่าย
ชุดชั้นในเป็นตาข่ายทั้งหมดและแทบจะไม่มีผ้าอยู่ข้างใต้ หนิงเถาอยากจะ
กระอักเลือดออกมาทันทีและรีบตะโกน “นี่เธอคิดอะไรอยู่? เธอจะใส่
เสื้อผ้าแบบนั้นให้ใครดูกัน?”
“แน่นอนว่าจะต้องเป็นพี่” ชิงจื้อพูดและเธอก็จงใจทาบมันลงบนตัวเธอ
เพื่อลอง
ทันใดนั้นเจ้าของร้านขายชุดชั้นในก็ตาเบิกกว้างขึ้นมาทันที
ในเวลาเดียวกันไป๋ ซู่เจินก็เอื้อมมือไปที่ชั้นวางเพื่อหยิบชุดสีแดงทอง
ขนาดเล็กที่มีหางเสืออยู่ด้านหลังจากนั้นก็ทาบมันไว้บนตัวเธอเพื่อลองดู
ก่อนที่เธอจะหันถามด้วยรอยยิ้ม “หนิงเถา! นายคิดว่าชุดนี้ดูดีไหม?”
หนิงเถาที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ในตอนนี้กรามของเจ้าของร้านขายชุดชั้นในลดลงอย่างไม่มีเสียง “พวก
เธอทั้งหมดเป็นผู้หญิงของเขา!” เพียงแค่หนึ่งในพวกเธอก็เพียงพอแล้วที่
จะทำให้ผู้ชายจำนวนมากต้องอิจฉาตาร้อน แต่นี่เขาถึงกับได้ถึงสอง?!
หนิงเถายังคงทุกข์ทรมานเมื่อมีเพียงชิงจื้ออยู่กับเขาเขายังสามารถทนได้
ด้วยฟันที่กัดฟัน แต่ตั้งแต่มีไป๋ ซู่เจินเข้ามาการกระตุ้นและการล่อลวงก็
เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ถึงแม้ว่าในสายตาของคนนอกจะเต็มไปด้วยความ
อิจฉาเขาที่มีสาวสวยสองคนอยู่เคียงข้าง แต่ใครจะรู้ว่าเขาต้องทนทุกข์
กับอะไร
เขาและไป๋ ซู่เจินต่างก็มีความสัมพันธ์ตามปกติและเธอไม่มีเหตุผลที่จะ
ล่อลวงหรือกระตุ้นเขา แต่ปีศาจงูต้องการเหตุผลก่อนที่เธอจะพยายาม
ล่อลวงหรือกระตุ้นใครบางคนหรือไม่? ไม่ใช่เลย นั่นเป็นธรรมชาติของ
พวกเธอ เมื่อใดก็ตามที่เธอต้องการทุกสิ่งที่เธอพูดและทำแม้กระทั่งการ
มองตาเธอก็มีเวทมนตร์ที่เย้ายวนใจ ในทางกลับกันไป๋ ซู่เจินดูเหมือนจะ
หลอกล่อเขาเพื่อนั้นเป็นความสุขในชีวิตประจำวันของเธอโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งการหลอกล่อเขาพร้อมกับชิงจือ
“พี่หนิง! อีกเดี๋ยวฉันกับพี่สาวจะเข้าไปในห้องลองเสื้อแล้ว ทำไมพี่ไม่
เข้าไปพร้อมกับพวกเราละ” ทันใดนั้นชิงจื้อก็พูดขึ้นมา
ในเวลาเดียวกันเจ้าของร้านขายชุดชั้นในก็กำลังจะเลือดกำเดาไหล
ในเวลานี้หนิงเถาทำได้เพียงแสดงรอยยิ้มออกมาอย่างบิดเบี้ยวได้เท่านั้น
“ไม่จำเป็นต้องลองแล้ว! ซื้อเลย! ขอโทษนะครับสองชุดนี้ราคาเท่าไหร่
เหรอครับ?”
เจ้าของร้านขายชุดชั้นที่กำลังตกอยู่ในจินตนาการของตัวเองอยู่ก็ได้
โพล่งออกมาว่า “ฟรีครับ! ผมยกให้พวกคุณฟรีเลย”
หนิงเถาที่ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ยินประโยคนี้ก็ถึงกับตะลึง เจ้าของร้านพูด
ว่าอะไรนะ?
แต่เมื่อเขาคิดจะอธิบายถึงความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของเขากับปี ศาจงูทั้ง
สอง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้
เจ้าของร้านนั้นเข้าใจผิด ๆ อย่างช่วยไม่ได้
หนิงเถาออกจากร้านขายชุดชั้นในพร้อมถุงช้อปปิ้งอีกสองใบในมือ
บนถนนที่คึกคักไป๋ ซู่เจินได้ดึงโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาและอ่าน
ข้อความ จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “ซินจื่อหยู่ต้องการพบฉันอีก
แล้ว นี่คือข้อความที่ 27 ของเขาแล้วในวันนี้ ฉันนี่อยากจะฆ่าเขาจริง ๆ”
“งั้นเราก็ไปฆ่าเขากัน” ชิงจื้อที่กำลังเดินตามหลังมาก็แสดงความเห็น
ด้วยทันที
“เฮ้อ! พวกเธอช่วยอย่าพูดถึงการฆ่าคนอีกต่อไปจะได้ไหม?” หนิงเถา
พูดต่อว่า “ถ้าเธอไม่ต้องการให้เขามารบกวนอีกเธอก็สามารถทำให้เบอร์
ติดต่อเขาอยู่ในบัญชีดำได้”
ไป๋ ซู่เจินพูดขึ้นว่า “ทำไมฉันจะต้องปิ ดกั้นเขาด้วย? ไม่แน่ว่าคนเหล่านี้
อาจมีประโยชน์ในอนาคตก็ได้”
หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำเพียงยักไหล่เล็กน้อย เขารู้สึกว่าถึงเขาจะพูด
อะไรออกไปอีกฝ่ายก็ไม่รับฟังอยู่ดี
“อย่างไรก็ตามฉันไม่ใช่ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทนิวเทคโนโลยีอีกแล้ว
ฉันเป็นคนมีความสามารถสูงที่ตกงาน หนิงเถา! นายไม่สนใจที่จะลงทุน
กับฉันเหรอ”
“ลงทุนในตัวเธอ?” หนิงเถาตะลึง “ฉันเป็นหมอที่ไม่ได้ร่ำรวยและเปิ ด
เพียงคลินิกเล็ก ๆ เท่านั้น ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปลงทุนได้กัน”
ไป๋ ซู่เจินพูดว่า “ไม่ใช่ว่านายมีครีมบำรุงผิวกับยาอมตะอยู่กับตัวเหรอไง?
เราสามารถก่อตั้งบริษัทชีวเภสัชภัณฑ์หรือบริษัท เครื่องสำอางได้ ฉันยก
ให้นายเป็นผู้จัดหาเทคโนโลยีและฉันจะรับผิดชอบการขายเอง เราสามารถ
ทำให้บริษัทนี้ใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น”
หนิงเถารู้สึกประทับใจกับคำแนะนำนี้ แต่เขาส่ายหัวด้วยความคิดที่สอง
“ลืมมันซะ! การทำยาแบบนั้นมันต้องใช้เวลามาก ไหนจะเรื่องของสมุนไพร
อีก มันเป็นอะไรที่ไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ สำหรับการทำครีมบำรุงผิวนั้น
ยิ่งยุ่งยากมากขึ้น มันจำเป็นต้องใช้เวลานานในการทำมันขึ้นมา ดังนั้น
ฉันคิดว่าการขายแบบเดิมก็ดีอยู่แล้ว”
ไป๋ ซู่เจินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ขมวดคิ้วคู่งามของตัวเองขึ้นมา “ชิงจื้อ! น้อง
ควรจะอบรมผู้ชายของตัวเองบ้างนะ! นี่พี่อุตส่าห์เสนอแผนทำเงินดี ๆ
ให้กับมาปฏิเสธได้ไง?”
ชิงจื้อถึงกับหัวเราะออกมาและพูดว่า “เราไม่ได้นอนด้วยกันด้วยซ้ำ! แล้ว
แบบนี้จะเรียกว่าผู้ชายของน้องได้ยังไง? แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นฉันก็ยัง
สามารถบอกพี่หนิงแบบส่วนตัวได้เหมือนกัน ” ด้วยคำพูดเหล่านี้จู่ ๆ
เธอก็โน้มตัวไปข้างหูของหนิงเถาและเป่าลมร้อน ๆ ออกมา
หนิงเถาถึงกับกระตุกยิ้มและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “เราอยู่ที่ถนนอยู่นะ!
เธอควรทำตัวดี ๆ หน่อย?”
ในความเป็นจริงมีหลายคนที่กำลังมองพวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
หรืออิจฉา
ไป๋ ซู่เจินไม่ได้ให้ค่าเกี่ยวกับสายตาของคนมอง เธอพูดว่า “หนิงเถา! นาย
ควรลองคิดดูดี ๆ นายไม่สามารถหาเงินจากคลินิกนั้นได้ ชิงจื้อได้บอก
ฉันว่านายรักษาคนไข้บางคนแล้วให้เงินพวกเขา นายไม่คิดเหรอว่าด้วย
การกระทำแบบนี้ของนาย มันจะใช้เวลานานเท่าไหร่ก่อนที่เงินที่นายมี
จะหมดไป? และไหนจะการฝึกตนของตัวเองอีก? นายก็รู้ว่าถ้าเราอยากจะ
แข็งแกร่งขึ้น สิ่งแรกที่เราจำเป็นต้องมีคือเงิน!”
“และวิธีทำเงินให้นายแบบง่าย ๆ ก็อยู่ตรงหน้าของนายแล้ว ทำไมนายยัง
ไม่คิดจะทำมันอีก?”
“ฉันจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทีหลังก็แล้วกัน” หนิงเถาทำเพียงพูดปัดออกมา
เท่านั้น จากนั้นเขาก็ถามว่า “เธอรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับวิธีการใช้เงินเพื่อการ
เพาะปลูกของไป๋เซิง?”
ไป๋ ซู่เจินได้ส่ายหัวเป็นคำตอบ “มีหลายอย่างที่เขาไม่ได้บอกฉัน”
พวกเขาเดินคุยกันจนมาถึงที่จอดรถ หนิงเถายื่นถุงช้อปปิ้งให้ไป๋ ซู่เจินและ
ชิงจื้อจากนั้นเดินเข้าไปในลานจอดรถเพื่อขี่รถจักรยานไฟฟ้าเจตจำนง
ของพระเจ้าของเขา เขากำลังจะขอให้ชิงจื้อและไป๋ ซู่เจินขึ้นมา แต่ทันใด
นั้นก็มีวัยรุ่นบางคนเดินเข้ามาหาพวกเขา เด็กผู้ชายรูปร่างผอมสูงคน
หนึ่งยื่นใบปลิวให้เขาแล้วแสดงอะไรบางอย่างเป็นภาษามือ
หนิงเถาไม่รู้ภาษามือ เขาเหลือบมองไปที่ใบปลิวในมือ แต่พบว่าไม่ใช่
ใบปลิวทั่วไป แต่มันเป็นใบปลิวสำหรับคนหายไปอย่างผิดปกติ มีภาพ
ทั้งหมดห้าภาพ ทั้งหมดเป็นเด็กผู้หญิง คนที่อายุมากที่สุดคือ 19 ปีและ
คนสุดท้องอายุ 15 ปีข้อมูลระบุตัวตนในการแจ้งเตือนผู้สูญหายพบว่า
เด็กหญิงทั้ง 5 คนเป็นนักเรียนของโรงเรียนสอนคนหูหนวกทั้งหมด
ทันใดนั้นหนิงเถามักนึกถึงคนเลวสองคนก่อนหน้านี้ขึ้นมา แต่คนเหล่านั้น
ต่างก็ถูกฆ่าไปแล้วด้วยฝีมือของชิงจื้อ และนอกจากนี้เขายังได้ช่วยผู้หญิง
ทั้งหมดที่อยู่บนเรือนั้นกลับมาได้สำเร็จ
แล้วทำไมถึงมีผู้หญิงหายตัวไปอีก? นอกจากนี้พวกนั้นยังกำหนดเป้าหมาย
ไปที่เด็กผู้หญิงในโรงเรียนสำหรับคนหูหนวกอีกด้วย?
ชิงจื้อและไป๋ ซู่เจินเข้ามา ก่อนที่จะเป็นไป๋ ซู่เจิน ถามว่า “พวกเขาให้อะไร
นายเหรอ?”
หนิงเถาตอบว่า “เป็นภาพคนหายนะ! มีใครรู้ภาษามือไหม?”
“ไม่! ใครจะไปเรียนรู้เรื่องนั้นกัน” ไป๋ ซู่เจินพูดขึ้น
หนิงเถาที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบบอกชายร่างสูงผอมที่ส่งใบปลิวให้เขาแล้ว
พูดขึ้นว่า “ใบปลิวนี้มีข้อมูลน้อยเกินไป คุณมีปากกาและกระดาษไหม?
ฉันอยากจะถามคำถามอะไรบางอย่างกับคุณหน่อย! ฉันต้องการช่วยคุณ
และฉันต้องการข้อมูลเพิ่มเติม” ในขณะที่เขาพูดเขาเขียนด้วยนิ้วเดียว
เป็นตัวอักษรต่าง ๆ
มันเป็นภาษากายที่เข้าใจง่าย เด็กชายตัวสูงผอมพยักหน้าแล้วทำท่าทาง
ใส่เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขา ทันใดนั้นเด็กนักเรียนผู้หญิงก็แกะกระเป๋ า
เป้ของเธอและหยิบปากกาและกระดาษออกมา
จากนั้นก็มีรถเซราติได้แล่นเข้ามายังลานจอดรถ หนิงเถาและนักเรียนหู
หนวกบางคนกำลังขวางทางคนที่ขับรถอยู่ ก่อนที่จ้าของรถจะยื่นหัว
ออกมาบีบแตรและพูดอย่างหยาบคายว่า “ออกไปให้พ้นทางนะ! ไอ้พวก
เด็กบ้านนอกพวกนี้! ”
นักเรียนหูหนวกหลายคนให้ความสำคัญกับหนิงเถาที่เต็มใจช่วยเหลือ
พวกเขาโดยที่พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นรถบีบแตรและมีคนตะโกนใส่
พวกเขา พวกเขาได้ยินเสียงแตรได้ยังไงก็ในเมื่อพวกเขาไม่ได้ยินแม้แต่
เสียงฟ้าร้องด้วยซ้ำ?
จู่ ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งก็ชะโงกหน้าออกไปนอกหน้าต่างและตะโกนว่า “แก
เป็นคนหูหนวกเหรอไง? หลีกทางไปนะ!”
น้ำเสียงฟังดูคุ้นเคยหนิงเถามองไปที่ที่มาของเสียงและทันทีที่เห็น
ใบหน้าที่คุ้นเคย
ผู้หญิงในที่นั่งผู้โดยสารของเซราติคือเป่ าเอ๋อ
แต่เป่าเอ๋อไม่เห็นหนิงเถาเพราะหนิงเถาถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มนักเรียน
หูหนวก
ชิงจื้อและไป๋ ซู่เจินเองก็ได้เห็นเป่ าเอ๋อในเวลาเดียวกัน พวกเธอได้หันมา
สบตากันก่อนที่จะเดินไปที่เป่ าเอ๋อ ในวันนั้นที่บ้านรุ่งเรืองเป่ าเอ๋อและ
หลี่เสี่ยวเฟิงได้ใส่ร้ายหนิงเถาด้วยกัน เมื่อพวกเธอบังเอิญพบอีกฝ่ายพวก
เธอจะไม่ทักทายได้ยังไงกัน?
หนิงเถารู้ว่าพวกเธอกำลังจะทำอะไรและเขาเตือนพวกเธอว่า “อย่าไป
ไกลเกินไปพวกคุณทั้งสองคน”
“เข้าใจแล้ว” ชิงจื้อตอบ
หนิงเถาลงจากจักรยานไฟฟ้าและแสดงท่าทางให้นักเรียนหูหนวกเดิน
ตามเขาไป นักเรียนหูหนวกเหล่านี้ไม่สามารถเข้าใจคำพูดของหนิงเถา
ได้ แต่พวกเขาสามารถเข้าใจภาษากายของได้อย่างชัดเจน ดังนั้นพวกเขา
จึงเดินตามหลังของหนิงเถาไปยังพื้นที่ที่สะดวกกว่านี้
เป่ าเอ๋อยังไม่เห็นหนิงเถา แต่เธอได้เห็นไป๋ ซู่เจินโดยบังเอิญ เธอหยุดชั่ว
ครู่แล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า”คุณไป๋ ? พี่ซินพึ่งจะพูดถึงคุยเมื่อไม่นานมานี้
และตอนนี้เขาเองก็อยู่ไม่ไกล ฉันจะโทรหาเขาตอนนี้และให้เขามาหา
คุณที่นี้ แน่นอนว่าเขาจะต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนนั้นให้คุณฟัง”
เป่าเอ๋อลงจากรถและล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพื่อรับโทรศัพท์ของเธอ
ทันใดนั้นมุมปากของไป๋ ซู่เจินเปิดขึ้นด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย