Perfect Superstar - ตอนที่ 134 ความฝันของผม
ตอนที่ 134 ความฝันของผม
ลู่ซีขมวดคิ้วเผยสีหน้าไม่พอใจ เหมือนมีสิ่งที่ทำให้เธอไม่มีความสุข
แต่เมื่อได้ยินลู่เฉินถาม เธอจึงรีบเก็บโทรศัพท์ทันที “ไม่มีอะไร แกไม่ต้องสนใจ!”
ลู่เฉินส่ายหน้าพูดว่า “พี่ครับ พี่ทำแบบนี้ผมยิ่งเป็นห่วง มันมีผลกระทบต่อผมมากนะ”
ลู่ซีต้องเจอเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาแน่นอน ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่เป็นแบบนี้
เขารู้ว่าต้องรับมือกับพี่สาวอย่างไร
ลู่ซีถลึงตาใส่เขา แล้วจึงยื่นโทรศัพท์ให้ “ก็แค่คนน่าเบื่อคนหนึ่ง…”
ลู่เฉินรีบเปิดอ่าน ไม่ช้าก็เข้าใจแล้ว
ในโทรศัพท์ของลู่ซีแสดงเนื้อหาของบล็อกล่างฉาว เจ้าของบล็อกคือจวงเฮ่า
บรรณาธิการและนักวิจารณ์เพลงของนิตยสารแฟชั่น ‘ซิ่วเหม่ย’ คนนี้โพสต์ข้อความหนึ่งเวลาบ่ายสามโมงตรง ช่วงนี้เขาวิจารณ์เพลงที่กำลังดังอยู่ในโลกออนไลน์ ชื่อเพลงว่า ‘วิ่งตามความฝันด้วยใจอันบริสุทธิ์’
จวงเฮ่าเขียนในโพสต์บล็อกว่าเพลงนี้ฟังแล้วไม่เลว เนื้อเพลงก็ปลุกใจฮึกเหิม ระดับของนักร้องถือว่าพอใช้ได้ เพราะฉะนั้นก็มีเหตุผลที่จะดัง
แต่ สังเกตตรงคำว่าแต่!
แต่เขาไม่เห็นด้วยกับความคิดของนักร้องนักแต่งเพลงคนนี้ เพราะเดิมทีก่อนที่จะร้องเพลงนี้ เขาเคยประกาศในรายการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ว่าความฝันของเขาคือการหาเงิน อยากหาเงินให้มากๆ!
นี่คือเรื่องน่าขำมากไม่ใช่เหรอ
เงินอย่างไรก็สำคัญอยู่แล้ว แต่ความฝันของวัยรุ่นไม่ควรจะจ้องแต่เงิน ควรจะมองไปที่ทัศนคติทางความคิดที่สูงมากกว่า
การไล่ตามความฝันทางดนตรีไม่ดีเหรอ
โพสต์บล็อกนี้มีความยาวเกือบหนึ่งพันตัวอักษร พูดต่อว่าลู่เฉินโดยไม่ระบุชื่ออย่างสาดเสียเทเสีย
ความจริง ใจความสำคัญคือจับคำพูดที่ลู่เฉินเคยพูดตอนที่แข่งขันในเขตปักกิ่งมาเปรียบเทียบกับเพลง ‘วิ่งตามความฝันด้วยใจอันบริสุทธิ์’ ตอนร้องแข่งที่เขตปี้ไห่ พูดจาเสียดสีความฝันของลู่เฉินที่เห็นแก่เงิน ไม่มีทัศนคติทางความคิดที่แท้จริง เพราะฉะนั้นไม่ควรเป็นเป้าหมายในการสนับสนุนของเด็กวัยรุ่น!
ตอนท้ายของโพสต์บล็อก เขายังเพิ่มวิดีโอที่ลู่เฉินอยู่ในการแข่งขันทั้งสองรอบเพื่อเป็นหลักฐาน
ดังคำกล่าวว่าฆ่าคนโดยไม่ใช้อาวุธ ก็เหมือนกับบรรณาธิการและนักวิจารณ์เพลงนิตยสารคนนี้ การเขียนของจวงเฮ่าเฉียบคมเป็นอย่างมาก จับช่องโหว่ของลู่เฉินแล้วโจมตีเขา เพื่อให้ลู่เฉินกลายเป็นคนที่พ่ายแพ้ต่อศีลธรรม!
โพสต์บล็อกนี้ถูกคนแชร์ต่อและยังส่งไปที่ @ลู่เฉิน ด้วย สุดท้ายลู่ซีจึงเห็นเข้า
บล็อกล่างฉาวของลู่เฉินตอนนี้มีจำนวนแฟนคลับที่ติดตามมากกว่า 4.2 ล้านคน ห่างจากมาตรฐานของบล็อกวีไอพีห้าล้านคนแค่นิดเดียว แต่จำนวนแฟนคลับของเขาสะสมขึ้นมาภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนสั้นๆ เท่านั้น ซึ่งมีแนวโน้มที่ดีมาก
บล็อกล่างฉาวเป็นสถานที่ในการโปรโมทโฆษณาที่สำคัญมาก ต่อให้เป็นดาราเล็กๆ ระดับสามระดับสี่ก็ยังต้องเปิดบัญชีบล็อกเพื่อสร้างกระแสหรือไม่ก็สร้างภาพลักษณ์ให้มากขึ้น เพราะฉะนั้นลู่ซีในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของลู่เฉินจึงเป็นคนจัดการด้วยตัวเองมาตลอด
โดยเฉพาะเมื่อลู่เฉินถูกใส่ร้ายป้ายสีถึงสองครั้ง เธอจึงมีความรู้สึกไวในด้านนี้เป็นพิเศษ
โพสต์บล็อกของจวงเฮ่าเป็นโพสต์ที่มีเจตนาร้าย ดังนั้นจึงทำให้เธอโกรธมาก
ทว่าลู่เฉินกลับไม่โกรธ ตรงกันข้ามกลับหัวเราะ
ตอนแรกจวงเฮ่าจงใจแกล้งลู่เฉินขณะที่อยู่ในช่วงคัดเลือกของรายการ ‘นักร้องนักแต่งสุดสตรอง’ โดยร่วมมือกับกรรมการอีกสองคนเพื่อคัดให้ลู่เฉินตกรอบ หลังจากนั้นพอเรื่องแดงจึงถูกสถานีโทรทัศน์เซียงหนานยกเลิกการทำงานร่วมกัน ทำให้เขาเสียหน้าหมด
เจ้าหมอนี่แค้นฝังใจกับลู่เฉินมาก ถึงได้ทำเรื่องแปลกๆ ยากที่จะเข้าใจ!
แต่วันนี้กับวันนั้นไม่เหมือนกัน ตัวเขาเองมีชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปแล้ว เมื่อคิดจะใส่ร้ายลู่เฉินอีกจึงตลกมาก
โพสต์บล็อกนี้ส่งออกมาเวลาบ่ายสามโมงตรง ตอนนี้มียอดการแชร์ต่อเพียงสองร้อยกว่า จำนวนกดไลก์แค่เจ็ดสิบห้าเท่านั้น แต่กลับมีการแสดงความคิดเห็นนับพันข้อความ…ล้วนแต่เป็นการด่าเขา
ซูเสี่ยวไป๋ “คุณก็เหมาะสมกับคำว่าศีลธรรมหรือไง”
ลูกชิ้นเนื้อราเมน “นี่คือศัตรูของลู่เฉินเหรอ พูดมาสิ ครั้งนี้ได้เงินจากคนอื่นเท่าไร”
ปืนแม่เหล็กไฟฟ้าวิทยาศาสตร์ “วิ่งตามความฝันด้วยใจอันบริสุทธิ์เป็นเพลงเพราะฟังร้อยรอบก็ไม่เบื่อ คุณอยากจะใส่ร้ายก็ต้องใส่ร้ายอย่างมีระดับหน่อย!”
ขี้เถ้าบุหรี่ฮ่องกง “ความฝันคือเงินแล้วมีปัญหาอะไรไหม ไม่มีเงินแล้วแกจะกินอะไร”
โบโบ “พูดได้ดี ให้คุณห้าคะแนน สู้ต่อไป!”
ฉลามใหญ่777 “นี่คือโพสต์ที่ตลกที่สุดเท่าที่ฉันเห็นในปีนี้เลย เจ้าของบล็อกยังมีหน้าอีกเนอะ!”
แมวเหมียว “เหอะๆ ทำร้ายคนอื่นครั้งเดียวไม่พอยังคิดจะทำอีก จิตใจคับแคบจริงๆ ไม่กลัวออกจากบ้านแล้วถูกรถชนบ้างเหรอ”
ฉันชื่อต้าหมี่ “หาเงินแล้วทำไมล่ะ ความฝันของฉันก็คือการหาเงินเยอะๆ คุณเกี่ยวอะไรด้วย”
อายุสิบแปดตลอดกาล “@นิตยสารซิ่วเหม่ย ยังไม่รีบมาดูหมาของพวกคุณอีก มันกัดคนอื่นอีกแล้วเนี่ย”
อิสระเสรี “เชิญไสหัวไปเลย…”
นอกจากคนที่ผ่านไปมาจำนวนน้อยไม่รู้ความจริงแล้ว ความคิดเห็นส่วนใหญ่อีกเก้าสิบเปอร์เซ็นต์คือด่าจวงเฮ่า ในนี้ไม่น่าจะมีแฟนคลับตัวจริงของลู่เฉินมากนัก ไม่อย่างนั้นคงถูกด่าเละไปแล้ว
คนที่ด่าจวงเฮ่าส่วนใหญ่เคยฟังและชื่นชอบเพลง ‘วิ่งตามความฝันด้วยใจอันบริสุทธิ์’ ดังนั้นจึงรังเกียจและไม่พอใจพฤติกรรมการใส่ร้ายของจวงเฮ่าเป็นอย่างมาก และเป็นฝ่ายเข้ามาช่วยตอบโต้พูดเสียดสีแทนลู่เฉิน
แต่ก็มีบางคนที่รู้เรื่องความแค้นของทั้งสองฝ่าย จึงรังเกียจดูถูกจวงเฮ่าถึงขีดสุด…ตัวเองก็ไม่ค่อยมีศีลธรรมเท่าไร ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นไร้ยางอาย สู้สุภาพบุรุษจอมปลอมยังไม่ได้เลย!
มีคนที่ด่าจวงเฮ่าจำนวนไม่น้อยมอบเงินให้เขาห้าเหมาเพื่อแสดงความรู้สึกดูแคลนของตัวเอง
โพสต์บล็อกพูดจาเสียดสีของเขามีค่าเพียงเงินจำนวนเท่านี้
จวงเฮ่าจึงได้กำไรสองสามหยวนจากเรื่องนี้!
ลู่เฉินอ่านอย่างมีความสุขมาก เขาชี้ความคิดเห็นคลาสสิกสองสามอันให้ลู่ซีอ่าน
“พี่ครับ พี่ไม่ต้องโกรธ พี่ดูสิคนอื่นกำลังด่าเขาอยู่ ไม่มีผลกระทบอะไรกับผมเลย”
ก็แค่คนเลวที่หาเรื่องก่อกวนไปเรื่อย ไม่มีค่าให้ต้องโกรธ
ถ้าหากลู่เฉินคิดเล็กคิดน้อยและด่าจวงเฮ่า ก็น่าจะตกหลุมพรางของฝ่ายตรงข้ามพอดี
หรือว่าจุดประสงค์ของจวงเฮ่าก็คือสิ่งนี้!
เพียงแต่หลังจากสถานีโทรทัศน์แสดงอำนาจครั้งที่แล้ว ข่าวต่อว่าลู่เฉินในบล็อกล่างฉาวก็หายไปเลย ไม่มีบัญชีการตลาดคอยผลักดันสนับสนุนมือสร้างกระแสหรือบัญชีวีไอพีพวกนั้น โพสต์บล็อกนี้ก็เหมือนกับระลอกคลื่นเล็กๆ ที่ไม่สามารถพลิกขึ้นมาได้
จวงเฮ่าอยากจะสร้างกระแสให้ตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย และอยากใช้จังหวะนี้แก้แค้นลู่เฉินด้วย
เขาใช้สมองครุ่นคิดอย่างหนักในการเลือกเวลาหาเรื่อง
น่าเสียดายที่ไม่มีคนตอบรับ
แน่นอนว่าลู่ซีไม่หลงกลง่ายๆ
เธอแค่คิดไม่ถึงว่าวงการนี้จะซับซ้อนขนาดนี้
มีกับดักที่เต็มไปด้วยขวากหนามทุกหนทุกแห่ง เธอซึ่งเป็นพี่สาวจึงอดเป็นห่วงอนาคตของลู่เฉินไม่ได้
เฉินเจี้ยนหาวพาพี่น่ามาแสดงความเป็นห่วงเช่นกัน
หลังจากทำความเข้าใจสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เขาจึงยิ้มมองความกลุ้มใจของลู่ซี
“วงการบันเทิงก็เป็นแบบนี้ ไม่เคยใสสะอาด ลู่เฉินแค่รักษาตัวเองให้บริสุทธิ์ผุดผ่องก็พอ คนอื่นอยากใส่ร้ายยังไง ก็ต้องดูความสามารถของตัวเองด้วย”
“คุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป ไม่มีดาราคนไหนไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ก่อนจะมีชื่อเสียง ขอเพียงความสามารถของลู่เฉินแข็งแกร่งมากพอ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งใดหรือกฎระเบียบในที่ลับและที่แจ้ง”
ลู่เฉินพยักหน้า เข้าใจหลักการว่าถ้าอยากจะตีเหล็กก็ต้องทำตัวเองให้มีความสามารถในการตีเหล็กเสียก่อน
เฉินเจี้ยนหาวพูดอีกว่า “เรื่องทุเรศของจวงเฮ่าถือว่าไม่มาก แต่นายโต้กลับก่อนขึ้นแสดงได้นะ!”
ลู่เฉินยิ้มพูด “ขอบคุณคำชี้แนะของพี่เจี้ยนหาวครับ”
เฉินเจี้ยนหาวตบไหล่ของเขา ก่อนให้กำลังใจ “สู้ๆ คว้าแชมป์มาให้ได้นะ!”
ภายในห้องถ่ายทำรายการ T1 การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศยังคงดำเนินต่อไป
คนแล้วคนเล่า สิบสุดยอดนักร้องทั่วประเทศของรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ค่อยๆ ขึ้นไปบนเวทีทีละคน พวกเขาแสดงความสามารถของตัวเองอย่างสุดฤทธิ์ สร้างแรงปะทะเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด
ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนนั่งอยู่หน้าจอทีวีหรือไม่ก็หน้าคอมพิวเตอร์ ให้ความสนใจและดูการแข่งขันที่ดุเดือดเป็นอย่างมาก
ภายในห้องถ่ายทอดสดลู่เฟยของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ คึกคักถึงขีดสุด
นับตั้งแต่ที่ลู่เฉินร่วมการแข่งขันประกวดในรายการวาไรตี้ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ จำนวนการติดตามและคนที่ออนไลน์ในห้องถ่ายทอดสดลู่เฟยก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ระดับความคึกคักเพิ่มขึ้นไม่หยุด
ถึงแม้จะเป็นเหตุจากการเข้าร่วมการแข่งขัน หลี่เฟยอวี่จึงเป็นผู้ดำเนินรายการแทนหลายครั้ง แต่ความนิยมของเขาก็ยังสูงเหมือนเดิม
โดยเฉพาะรอบชิงชนะเลิศในคืนนี้ ‘จิงอวี๋ทีวี’ จึงลงแนะนำหลักในหน้าแรกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
ยามปกติทั่วไป ฝ่ายเว็บไซต์ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่ผู้ดำเนินรายการเชิญคนอื่นมาถ่ายทอดสดแทนตัวเอง อาจจะมีบ้างสองสามครั้งก็ยังทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้ ถึงอย่างไรเรื่องที่ไม่คาดคิดก็มักจะมีอยู่เสมอ
แต่ถ้าให้ดำเนินรายการแทนบ่อยๆ ก็มีปัญหาแล้ว ฝ่ายเว็บไซต์จำเป็นต้องลงโทษ กระทั่งยกเลิกสัญญาโดยตรง
แต่สถานการณ์ของลู่เฉินไม่เหมือนกัน ในฐานะดาวดวงใหม่ที่เดินออกไปจาก ‘จิงอวี๋ทีวี’ คนหนึ่ง เขาประสบความสำเร็จในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ทำให้ฝ่ายเว็บไซต์มีหน้ามีตาไปด้วย จึงถือโอกาสนี้สร้างกระแสเล็กน้อย
เพราะฉะนั้นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในคืนนี้ ฝ่าย ‘จิงอวี๋ทีวี’ จึงอนุมัติให้ออกแบบแบนเนอร์โฆษณาโปรโมทขนาดใหญ่ลงในหน้าแรก
ทั้งยังเป็นโฆษณาที่สะดุดตาเป็นพิเศษ ห้องถ่ายทอดสดลู่เฟยจึงได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น!
จำนวนการกดติดตามของแฟนคลับทะลุหลักล้านแล้ว ความนิยมขณะออนไลน์อยู่ที่ 1.7 ล้านคนขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไม่หยุด!
ตัวเลขแบบนี้ทะลุสถิติใหม่ของห้องถ่ายทอดสดอย่างไม่ต้องสงสัย
การคอมเมนต์สดบนหน้าจอราวกับน้ำทะเลขึ้น ลูกบอลปลาราวกับฝนตก!
หลี่เฟยอวี่เสียงแหบด้วยความตื่นเต้น พยายามกระตุ้นจังหวะอย่างเต็มที่
เหล่าแฟนคลับลู่เจียจวินก็กำลังรอคอยลู่เฉินขึ้นเวทีอย่างกระตือรือร้น รอคอยว่าเขาจะคว้าแชมป์ได้ในที่สุด
ที่บาร์เดย์ลิลลี่ ถึงแม้เฉินเจี้ยนหาวและคนอื่นๆ จะไม่อยู่ แต่การแข่งขันถ่ายทอดสดก็ยังเปิดอยู่บนหน้าจอใหญ่ของเวที
ครอบครัวของลู่เฉินที่ปินไห่ ฟางอวิ๋นกับลู่เสวี่ยก็นั่งรออยู่ในห้องรับแขกนานแล้ว…
เวลาสามทุ่มห้านาที นักร้องคนที่เก้าสิ้นสุดการแสดงและลงจากเวที
ลู่เฉินคือผู้เข้าแข่งขันที่ขึ้นเวทีเป็นคนสุดท้าย
เขาขึ้นเวที โค้งคำนับ และทักทาย “สวัสดีทุกคน สวัสดีกรรมการทั้งสี่ ผมคือนักร้องลู่เฉินครับ!”
สายตาของผู้ชมในงานทั้งหมดสามพันคนจับจ้องไปที่ตัวของเขา ห้องถ่ายทำรายการเงียบลงในทันที
“สวัสดีลู่เฉิน พวกเราเจอกันอีกแล้วนะคะ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มถามว่า “ได้ยืนบนเวทีในคืนนี้ คุณมีความรู้สึกยังไงบ้างคะ”
ลู่เฉินครุ่นคิด แล้วตอบว่า “ผมคิดมากมายหลายอย่างครับ ตอนแรกที่แข่งขันรอบชิงชนะเลิศย่านปักกิ่ง ผมเคยพูดกับตัวเองว่าความฝันของผมคือการหาเงิน หาเงินให้มากๆ ครับ!”
สายตาของเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นประกาย “ตอนนี้ความฝันของคุณเปลี่ยนไปแล้วใช่ไหมคะ”
“ไม่ครับ!”
ลู่เฉินส่ายหน้าอย่างแน่วแน่ “ความฝันของผมในตอนแรกไม่เคยเปลี่ยน เพราะว่าผมต้องหาเงินไปช่วยใช้หนี้ที่บ้าน ผมอยากให้ครอบครัวของตัวเองใช้ชีวิตที่มีความสุข อยากให้แม่ของผมไม่ต้องทำงานเหนื่อยทุกวันอีกต่อไป!”
“ดังนั้นผมต้องหาเงินให้ได้เยอะๆ ครับ!”
“แต่ผมยังมีความฝันใหม่ นั่นก็คือทำให้คนทั้งโลกได้ฟังเพลงของผม”
“ให้พวกเขาจดจำชื่อของผม…”
“ผมมายืนที่นี่ ผมมาเพื่อความฝันของตัวเองครับ!”
…………………………………………………………………………