Perfect Superstar - ตอนที่ 417 เจียงหนาน
ตอนที่ 417 เจียงหนาน
ถ้าเปลี่ยนเป็นศิลปินคนอื่น นอกเสียจากจะเตรียมการไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นความต้องการของเฉินเฟยเอ๋อร์จะเป็นการกลั่นแกล้งกันมากกว่า หรืออาจถึงขั้นทำให้ไม่มีทางลงกันเลยทีเดียว
ความจริงแล้วการเขียนเพลงนั้นง่ายมาก ขอเพียงรู้เทคนิคพื้นฐาน พยายามจับมาผสมเชื่อมต่อกันก็ได้บทเพลงหนึ่งออกมาแล้ว
แต่การเขียนเพลงก็ยากมากเช่นเดียวกัน เพลงดีๆ สักเพลงจะเกิดขึ้นได้ไม่เพียงแต่ต้องมีแรงบันดาลใจ ยังต้องเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ อีกอย่างต้องมีโชคช่วยด้วย
จะให้เขียนเพลงออกมาง่ายๆ ได้ทุกเวลาได้ยังไง?
แต่ลู่เฉินนั้นต่างออกไป พรสวรรค์และความสามารถทางด้านการแต่งเพลงของเขาเป็นที่ประจักษ์ทั้งในและนอกวงการ ผลงานเพลงชั้นยอดและผลงานเพลงระดับตำนานถือกำเนิดออกมาจากมือของเขาไม่หยุดหย่อน ทำให้คนนับถือยกย่อง
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การได้ฟังเพลงใหม่ของเขาในค่ำคืนนี้ ได้กลายเป็นหนึ่งใน ‘ผู้ฟังเสียงแรก’ สำหรับแฟนคลับที่อยู่ ณ สถานที่นี้ทุกคนเป็นเรื่องที่น่ายินดีและชื่นใจ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความปรารถนาของเฉินเฟยเอ๋อร์ และการรอคอยของแฟนคลับ ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วถามว่า “ผมขอปฏิเสธได้ไหม”
เฉินเฟยเอ๋อร์ส่ายหัว ตอบอย่างหนักแน่นว่า “ไม่ได้ค่ะ!”
ลู่เฉินยอมแพ้ “งั้นก็ได้ครับ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มแย้ม “ดีจังเลย!”
ทั้งสองหยอดรับกันอยู่บนเวทีได้ดี จนแฟนคลับที่อยู่ด้านล่างหัวเราะตาม
ลู่เฉินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเอ่ยว่า “ก่อนที่ผมจะร้องเพลงใหม่ ผมขอพูดอะไรสักหน่อย”
ทั้งห้องเงียบลงอีกครั้ง แม้แต่เฉินเฟยเอ๋อร์ยังถอยไปอยู่ด้านข้าง มอบเวทีคืนให้ลู่เฉิน
ลู่เฉินพูดต่อว่า “สำหรับผมเมืองหังโจวเป็นเมืองที่พิเศษมาก ผมเรียนจบมหาวิทยาลัยจากที่นี่ เคยใช้ชีวิตที่มีความสุขอยู่ที่นี่ช่วงหนึ่ง คนที่นี่ วิวทิวทัศน์ของเมืองนี้ ควรค่าแก่ความถวิลหา”
ในหมู่แฟนคลับมีคนท้องถิ่นอยู่ไม่น้อย บางคนเรียนหนังสือ บางคนทำงานใช้ชีวิตในเมืองหังโจว ลู่เฉินผูกพันและรู้สึกดีกับเมืองหังโจว ทำให้พวกเขาภาคภูมิใจ
“ความจริงผมถือว่าเป็นคนหังโจวครึ่งหนึ่ง ดังนั้นผมจึงเลือกเมืองนี้เป็นเมืองแรกในการเดินสายโปรโมต แม้ตอนนี้ผมจะทำงานและมีบ้านอยู่ที่ปักกิ่ง แต่วันหนึ่งเมื่อผมแก่ตัวลง ร้องเพลงไม่ไหวแล้ว ผมจะกลับมาที่นี่เพื่อใช้ชีวิตบั้นปลาย!”
เสียงปรบมือดังขึ้น แสดงความเห็นด้วยกับลู่เฉิน
ลู่เฉินตบท้ายว่า “เพลงนี้มีชื่อเพลงว่า ‘เจียงหนาน’ ขอมอบให้พวกคุณ และเมืองหังโจวอันสวยงามแห่งนี้!”
เจียงหนาน!
พูดถึงเจียงหนาน ใครไม่รู้จักหังโจว ใครไม่รู้จักทะเลสาบซีหู?
ผู้ชมทุกคนยิ่งรอคอยผลงานเพลงใหม่ของลู่เฉิน
ลู่เฉินใช้กีตาร์สร้างดนตรีประกอบเหมือนเดิม
“…
ลมพัดมาถึงตรงนี้ก็ติด
ติดกับความคิดถึงของคนที่เคยเดินผ่าน
ฝนโปรยถึงตรงนี้กลายเป็นสาย
ผูกรัดพวกเราไว้กับโลกมนุษย์
เธออยู่ข้างกายเป็นวาสนา
วาสนาที่สลักไว้บนหินสามภพ
ความรักหวานชื่นมีเพียงเศษเสี้ยว
ขอให้ฝังร่างฉันไว้ใต้ฟ้าผืนนี้!
วิ่งวนหมุนเวียนวิ่งวน
ฉันในทุกวันทุกปี
มองหน้าของฉันดีๆ
ใบหน้าที่อ่อนโยนแม้มีโทสะ
อ่อนโยนแม้ยามตำหนิติเตียน!
…”
ความสวยงามไม่มีที่ไหนล้ำกว่าเจียงหนาน แสงจากทะเลสาบทอประกาย สีเขียวชอุ่มของขุนเขาและเมฆหมอกอันเมามัว อิฐสีเทากระเบื้องสีขาวกับต้นหลิว สมัยนั้นวัยรุ่นรวมเสื้อผ้าบางเบา ควบม้าไปตามสะพาน สาวน้อยหันมาส่งยิ้มเอียงอาย เป็นเรื่องโรแมนติกที่เล่าได้ไม่จบไม่สิ้น
เพลง ‘เจียงหนาน’ ขับร้องถ่ายทอดถึงความฝันของหนุ่มสาวนับไม่ถ้วน ทำนองเพลงไพเราะจับใจ ยังมีท่อนเด่นที่กระตุกใจคน แต่ละคำแต่ละประโยคขุดคุ้ยความใฝ่หาและความถวิลหาในใจของผู้คนที่มีต่อดินแดนอันงดงามแห่งนี้ออกมาได้อย่างง่ายดาย ยังมีตำนานเรื่องเล่าความรักเป็นพันปีที่ตราตรึง
ลู่เฉินร้องเพลง ‘เจียงหนาน’ แสดงให้เห็นถึงฝีมือและเทคนิคการร้องเพลงขั้นสูงของเขา อารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมากับเสียงเพลงทั้งจริงใจและมีแรงชักนำ
เพลงผลงานใหม่เพลงเดียว แต่มันได้สร้างบรรยากาศที่พิเศษให้แก่ผู้ฟัง
“…
พวกเราที่ไม่รู้จักความรักความชัง ดีร้าย ทุกข์สุข
กลับคิดว่ารักกันเป็นเหมือนสายลมที่เปลี่ยนแปลง
เชื่อว่ารักกันวันหนึ่งนั่นคือตลอดไป
ในห้วงเวลาที่หยุดนิ่งนั้น
พวกเราที่ไม่รู้จักแสดงความอบอุ่นอ่อนโยน
คิดว่าการพลีชีพเพื่อรักเป็นเพียงคำเล่าลือในอดีต
การจากลามันช่างเจ็บปวดจนเหมือนแผลกลัดหนอง
เมื่อความฝันถูกฝังลงในหมอกฝนแห่งเจียงหนาน
ใจสลายถึงได้รู้!
…”
เพลง ‘เจียงหนาน’ เป็นเพลงรัก บรรยายถึงความรักที่มีมาแต่โบราณ
ทำนองและแนวเพลงของมัน ไม่อาจทำให้มันเป็นเพียงเพลงธรรมดาทั่วไป อาจเพราะตอนนี้ผู้ฟังเพิ่งได้ฟังครั้งแรกยังฟังไม่ออก แต่ในอนาคตพวกเขาจะได้รู้จักคำศัพท์ที่เกี่ยวกับดนตรีคำหนึ่ง
คำนี้เรียกว่า ’แนวเพลงจีน’!
ผู้ชมเป็นร้อยคนไม่มีใครพูดคุยหรือใจลอยเลย พวกเขาและพวกเธอเมามายไปกับเสียงเพลงของลู่เฉิน ราวกับกำลังลอยละล่องอยู่ท่ามกลางฝนโปรยปรายในเจียงหนาน เบื้องหน้าเป็นภาพสีหมึกที่ตระการตา
ขณะนี้ เวลานี้ แค่เพลิดเพลินไปกับดนตรีก็เพียงพอแล้ว
จนกระทั่งลู่เฉินร้องจบ
“ขอบคุณครับ!”
เขากอดกีตาร์ก้มโค้งขอบคุณ แฟนคลับทั้งงานไม่มีใครไม่ลุกขึ้นยืนปรบมือ
พวกเขาและพวกเธอขอบคุณเช่นกัน ขอบคุณที่ลู่เฉินมอบเพลงดีขนาดนี้ให้ เป็นเพลงที่ดีอย่างแท้จริง!
เสียงปรบมือดังตลอดหลายนาที
ลู่เฉินถามเฉินเฟยเอ๋อร์ว่า “ชอบไหม”
เฉินเฟยเอ๋อร์ตาลุกวาว พยักหน้าแรงๆ…เธอชอบเพลงนี้มาก
แล้วก็คนร้องเพลงนี้ด้วย
ลู่เฉินยิ้ม “ถ้าชอบละก็ ช่วยผมเรื่องหนึ่งได้ไหม”
เฉินเฟยเอ๋อร์สงสัย “ช่วยอะไรคะ”
ลู่เฉินตอบว่า “ง่ายมาก ช่วยจับฉลากรางวัลใหญ่ของคืนนี้ให้หน่อยครับ!”
แฟนคลับถึงได้นึกขึ้นได้ งานแฟนมีตติ้งคืนนี้ยังมีการจับฉลากรางวัลด้วย แถมยังเป็นรางวัลใหญ่ที่ได้ประกาศออกมาแล้วด้วย นั่นก็คือรถยนต์จงหวารุ่นใหม่ล่าสุดราคาแสนกว่าหยวน!
คิดถึงรางวัลใหญ่ล่อตาล่อใจ ทุกคนพากันตื่นเต้นขึ้นมา
“จับฉลาก!”
เสียงเรียกร้องจากผู้ชมดังสนั่น ทำให้เฉินเฟยเอ๋อร์หาเหตุผลปฏิเสธไม่ได้
เจ้าหน้าที่เตรียมกล่องจับฉลากขึ้นมาบนเวที
บัตรเชิญของแฟนคลับทุกคนที่มาร่วมงานแฟนมีตติ้งในคืนนี้ ตรงหางบัตรจะถูกดึงออกตอนเข้ามา บนนั้นมีหมายเลขบัตรอยู่ จากนั้นทั้งหมดถูกนำมาใส่ลงในกล่องใบนี้เพื่อใช้จับฉลากรางวัล
นอกจากรางวัลใหญ่แล้ว ยังมีรางวัลที่หนึ่ง สอง สาม ของรางวัลได้แก่ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ อัลบั้มลิมิเต็ด เป็นต้น ทางบริษัทรถยนต์จงหวาเป็นผู้จัดหาให้
ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ร่วมกันจับรางวัลที่สามจำนวนยี่สิบใบ ตามด้วยรางวัลที่สองสิบใบ…
แฟนคลับที่หมายเลขของตัวเองถูกจับขึ้นมาทั้งรู้สึกดีใจและผิดหวัง เพราะโชคดีที่จับได้ แต่ก็แปลว่าพลาดรางวัลใหญ่ไปแล้ว
รถยนต์ที่เป็นรางวัลใหญ่เป็นรางวัลสุดท้าย ผู้ที่ได้ครอบครองคือเด็กสาวอายุสิบกว่าปี
ทำให้เธอดีใจที่สุด ทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก
บรรยากาศตอนนี้เริ่มเข้าสู่จุดไคลแมกซ์อีกครั้ง
งานแฟนมีตติ้งเพื่อโปรโมตอัลบั้มใหม่ของลู่เฉินซึ่งจัดขึ้นที่เมืองหังโจวเป็นที่แรก ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์!
………………………………………………
หมายเหตุ: เพลง ‘เจียงหนาน’ (江南) คำร้อง: หลี่รุ่ยสวิน (李瑞洵), เฉินเส้าฉี (陈少琪) ทำนอง: หลินจวิ้นเจี๋ย (林俊杰)