Perfect Superstar - ตอนที่ 441 ลงหนังสือพิมพ์
ตอนที่ 441 ลงหนังสือพิมพ์
บางคนกำลังร้องเพลง บางคนกำลังเต้น บางคนกำลังเที่ยวสนุกสนาน บางคนกำลังหัวเราะอย่างมีความสุข
ยามค่ำคืนของฮ่องกงไม่เคยหลับใหล
ดังนั้นยามที่หลายคนนอนหลับไปแล้ว ก็ยังมีอีกหลายคนที่กำลังดื่มด่ำกับชีวิต หรือไม่ก็ง่วนอยู่กับงานที่ยุ่งเหยิง
ถนนราชินีตะวันตก เลขที่ 269 ถนนกวงหมิง ตึกหลงชิ่ง อาคารบี ชั้น 27 ภายในห้องบรรณาธิการ ‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ ยังคงสว่างไสว กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ยังคงทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กันอย่างตึงเครียด
‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ เป็นหนึ่งในหนังสือพิมพ์ฟรีที่มียอดจัดจำหน่ายมากที่สุดในฮ่องกง ยอดจัดจำหน่ายรายวันมากกว่าเจ็ดแสน เพราะฉะนั้นจึงมีอิทธิพลอย่างมากในฮ่องกง
หนังสือพิมพ์สำหรับมวลชนสำนักนี้ ขึ้นชื่อเรื่องการรายงานข่าวสังคมที่เร็ว แม่นยำ และโหดเหี้ยมไร้ความปรานีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
‘เร็ว’ หมายถึงการออกข่าวของพวกเขารวดเร็วมาก ถึงแม้ไม่อาจเทียบกับอินเทอร์เน็ตได้ แต่ต่อให้เป็นข่าวที่เพิ่งเกิดขึ้นตอนเย็นของวันนี้ พรุ่งนี้เช้าประชาชนตื่นขึ้นมาออกจากบ้าน ก็สามารถเห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์หรือไม่ก็เห็นรายงานข่าวที่เกี่ยวข้องในกล่องอีเมลของตัวเองแล้ว
ส่วนคำว่า ‘แม่นยำ’ หมายถึงการเลือกข่าวที่แม่นยำของพวกเขา พุ่งเป้าไปที่ประเด็นร้อนในสังคมและเรื่องซุบซิบนินทาในวงการบันเทิงของฮ่องกง จับรสนิยมของประชนได้ถูกต้อง ดังนั้นยอดจัดจำหน่ายจึงสูงขึ้นตลอด
ส่วนคำว่า ‘โหดเหี้ยมไร้ความปรานี’ มีความหมายที่หลากหลาย นักข่าวปาปารัสซี่ของ ‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ แย่งข่าวได้ ‘เหี้ยมโหด’ มาก อำนาจปลายปากกาของบรรณาธิการของพวกเขาก็ ‘เหี้ยมโหด’ นัก หากให้พูดอย่างละเอียดก็มากพอที่จะเขียนหนังสือนิทานเล่มหนาได้เล่มหนึ่งเลยทีเดียว
เนื่องด้วยอาศัยคัมภีร์ตรีอักษรและกลยุทธ์การจัดจำหน่ายฟรี ‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ ที่ก่อตั้งไม่ถึงสิบปี ได้ฝ่าเส้นทางสายเลือดสู่เส้นทางชีวิตใหม่ ปราบคู่แข่งในฮ่องกงจนกลายเป็นผู้ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครในอุตสาหกรรมหนังสือพิมพ์
ภายในห้องหัวหน้ากองบรรณาธิการ หลี่หวั่น หัวหน้ากองบรรณาธิการกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานตรวจสอบแบบร่างต้นฉบับหนังสือพิมพ์ที่เพิ่งพิมพ์ออกมา นี่คืองานที่เขาต้องทำให้เสร็จทุกวัน มิฉะนั้นเขาจะนอนหลับไม่เป็นสุข
ความสำเร็จของ ‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ กับความขยันหมั่นเพียรของอดีตรองหัวหน้ากองบรรณาธิการ ‘หนังสือพิมพ์หมิงเป้า’ ไม่อาจแยกกันได้ แม้ว่าจะอายุเกินสี่สิบปีแล้ว แต่กำลังและจิตใจของเขายังคงสูสีพอๆ กับวัยรุ่นหนุ่มสาวอีกมากมาย
“หัวหน้าหลี่ครับ!”
เด็กหนุ่มแบกกล้องรูปร่างผอมแห้งคนหนึ่งวิ่งพุ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน แล้วตะโกนว่า “ผมได้รูปทำข่าวของซูจิ้งมาครับ!”
เสียงของเขาดังมาก ดังนั้นคนทั้งฝ่ายบรรณาธิการจึงได้ยินอย่างชัดเจน
ฝ่ายบรรณาธิการของ ‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ เป็นออฟฟิศแบบเปิด ถึงแม้หลี่หวั่นหัวหน้ากองบรรณาธิการจะมีออฟฟิศส่วนตัวเป็นของตนเอง แต่หน้าต่างกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน ล้วนทำให้ทุกคนที่อยู่ทั้งด้านในและด้านนอกมองเห็นกันอย่างชัดเจน
เว้นเสียแต่ว่ามีเรื่องสำคัญหรือเรื่องลับสุดยอด มิฉะนั้นประตูออฟฟิศของเขาก็จะเปิดอยู่ตลอดเวลา มีพนักงานที่เจาะจงโดยเฉพาะบางคนที่ไม่จำเป็นต้องแจ้งหรือเคาะประตูก่อนก็สามารถเดินพุ่งเข้าไปได้เลย เพื่อรายงานการทำงานให้เขาทราบโดยตรง
กฎระเบียบที่ดูเหมือน ‘ไม่ค่อยเป็นกฎระเบียบ’ นี้ ทำให้หลี่หวั่นจับงานของ ‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ ได้อยู่หมัด กิตติศักดิ์ของเขาในหมู่นักข่าวหนังสือพิมพ์และบรรณาธิการ แม้แต่เถ้าแก่ก็ยากที่จะเทียบได้
เด็กหนุ่มที่พุ่งเข้ามาเมื่อครู่ก็คือหนึ่งในนักข่าวสายบันเทิงที่ทำงานให้กับ ‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าปาปารัสซี่
หลี่หวั่นวางร่างต้นฉบับในมือ มองอีกฝ่ายแล้วเผยรอยยิ้มเล็กน้อยออกมา “เสี่ยวโหว ครั้งนี้นายจะไม่ปล่อยไก่อีกใช่ไหม”
เสี่ยวโหวหน้าแดงก่ำ รีบชูกล้องที่อยู่ในมือแล้วเอ่ยว่า “ครั้งนี้ของจริงครับ ตอนเย็นซูจิ้งจัดงานเลี้ยงการกุศลที่โรงแรมแชงกรีลา หลังจากงานเลี้ยงจบแล้วเธอไปที่ร้านกาแฟกับหนุ่มหล่อคนหนึ่ง จากนั้น…”
“รีบเอามาให้ฉันดูสิ!”
หลี่หวั่นสนใจขึ้นมาทันที หยิบกล้องของเสี่ยวโหว แล้วเชื่อมสายเคเบิลเชื่อมต่อข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ ดึงรูปภาพที่อยู่ที่การ์ดหน่วยความจำออกมาดู
ซูจิ้งเคยเป็นอดีตราชินีแห่งวงการเพลง หลังจากแต่งงานกับเศรษฐีที่ร่ำรวยแล้วก็ออกจากวงการบันเทิง เมื่อสองสามปีก่อนมีคดีฟ้องหย่าเป็นที่อื้ออึงไปทั่ว จวบจนทุกวันนี้ก็ยังเป็นบุคคลที่ได้รับความสนใจในวงการบันเทิงเช่นเคย
ซูจิ้งเป็นดารา และยังเป็นหญิงสาวผู้งามพร้อมที่ทั้งสวย รวย และเก่ง ตัวของเธอมีคุณสมบัติสามารถเป็นข่าวได้เสมอ เมื่อหย่าร้างไปสองสามปีก็ไม่เคยได้ยินว่าเธอคบกับใคร ถ้าหากรูปที่เสี่ยวโหวถ่ายได้สามารถพิสูจน์ว่าเธอมีรักครั้งใหม่จริง เช่นนั้นก็คุ้มค่าพอที่จะทำเป็นพาดหัวข่าว
“รูปนี้ คุณดูสิครับ แล้วก็รูปนี้…”
เสี่ยวโหวยืนชี้อยู่ข้างๆ แถมยังอธิบายอย่างตื่นเต้นว่า “ตอนเย็นที่ย่านเซ็นทรัลรถเยอะมาก เดิมทีน่าจะมาถึงนานแล้ว แต่รถติดมาก”
ในฐานะเด็กใหม่ เสี่ยวโหวมีประสบการณ์น้อยที่สุดใน ‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ เนื่องจากประสบการณ์น้อยคราวที่แล้วตอนแย่งข่าวจึงกลายเป็นเรื่องตลกไป เป็นผลทำให้เขาเงยหน้าไม่ขึ้นต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน
ครั้งนี้เขานั่งเฝ้าคอยติดตามซูจิ้งด้วยความอดทนบวกกับความโชคดี ในที่สุดก็ได้ถ่ายรูปที่มีมูลค่าบ้าง
แต่เสี่ยวโหวก็กังวลมากเช่นกัน ถ้าหากมีเพื่อนสายอาชีพเดียวกันอยู่ตรงนั้นด้วย ข่าวพิเศษที่ควรจะเป็นของเขาคนเดียวก็เป็นอันจบกัน
ดังนั้นได้เรียงพิมพ์ในช่วงแรกสุดคือสิ่งสำคัญที่สุด
หลี่หวั่นโบกมือ
ภาพถ่ายสำคัญสองสามรูปเขาดูแล้ว พูดจริงๆ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะซูจิ้งอยู่กับหนุ่มหล่อก็จริง แต่ข้างกายของทั้งสองคนมีผู้ช่วยหรือไม่ก็เพื่อนอยู่ด้วย ไม่ได้ถ่ายภาพที่ดูสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวเลย
ใช้รูปภาพสองสามรูปนี้มายืนยันว่าเธอคบคนใหม่แล้ว เห็นได้ชัดว่าพลังโน้มน้าวไม่พอ แต่เสี่ยวโหวมีมุมของภาพถ่ายอีกสองใบที่เลือกได้ไม่เลว เวลาดูแล้วทำให้คนรู้สึกว่ามีความสนิทสนมกันมาก
ทว่าหลี่หวั่นได้ค้นหาความทรงจำในหัวสมองของเขาแล้ว แต่กลับแยกแยะไม่ออกว่าชายหนุ่มที่สูงและหล่อคนนี้เป็นดาราคนไหนในวงการบันเทิง หรือเป็นลูกหลานของตระกูลร่ำรวยที่ไหน
แน่นอนว่าฮ่องกงนั้นกว้างใหญ่ เด็กหนุ่มที่โดดเด่นมีมากมายนับไม่ถ้วน ซูจิ้งอยากจะหาคนรักนอกวงการที่ไม่มีใครรู้จักก็เป็นเรื่องปกติ แต่ฐานะของอีกฝ่ายต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงยืนยันว่า “ให้ตำแหน่งบีกับนาย ใช้รูปภาพสองสามรูปนี้ ให้พวกเสี่ยวจางเรียงพิมพ์หัวข้อใหม่ ตรวจสอบเสร็จแล้วก็รีบส่งพิมพ์เลย!”
สำหรับหนังสือพิมพ์ฟรีอย่าง ‘หนังสือพิมพ์รายวันโปโล’ ที่เน้นข่าวสังคมและข่าวบันเทิงเป็นหลัก การจัดเรียงหน้ากระดาษโดยทั่วไปมักใช้หัวข้อขนาดใหญ่ ภาพขนาดใหญ่ และตัวหนังสือน้อย พาดหัวข่าวมักจะใหญ่เกินขนาดแบบอักษรหัวข้อข่าวเสมอ เขียนเนื้อหาปลุกปั่นยั่วยุเกินจริง จากนั้นก็แทรกรูปภาพ เพื่อช่วยอธิบายประกอบตัวหนังสือปริมาณน้อย ต่างจากหนังสือพิมพ์การเมืองปัจจุบันและหนังสือพิมพ์เฉพาะที่เคร่งครัดอย่างสิ้นเชิง
รูปแบบการจัดเรียงเช่นนี้มีข้อดีตรงที่เปลี่ยนรูปแบบได้ง่าย การเปลี่ยนเนื้อหาและแบบก่อนพิมพ์มีให้เห็นทั่วไปพวกบรรณาธิการก็คุ้นเคยมานานแล้ว
ตำแหน่งบีก็คือหัวรอง ซึ่งรองลงมาจากหัวข่าว และเสี่ยวโหวก็ดีใจกับสิ่งที่คาดไม่ถึง
มีบรรณาธิการบางคนบ่นว่า “เสี่ยวโหว ถือว่านายได้ของแล้วคราวนี้ ทำให้พวกเราต้องทำงานดึกอีก…นายต้องเลี้ยงข้าวด้วยนะ”
เสี่ยวโหวหัวเราะฮิๆ อย่างเซ่อซ่า
หลี่หวั่นที่นั่งอยู่ในออฟฟิศกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เขาจับเมาส์แล้วเลือกรูปภาพสองสามรูปก่อนหน้านั้นออกมา
ไม่รู้ว่าเป็นอะไร หัวหน้ากองบรรณาธิการคนนี้รู้สึกว่าชายหนุ่มที่ดื่มกาแฟกับซูจิ้งตอนค่ำดูคุ้นหน้าอยู่บ้าง
ด้วยความรู้สึกไวของมืออาชีพ เขาจึงตรึกตรองอย่างดี ไม่แน่อาจจะเป็นข่าวใหญ่ก็เป็นได้
ในขณะเดียวกัน บนเว็บบอร์ด ‘เพลงป็อป’ ฟอรัมที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง เพิ่งมีคนโพสต์วิดีโอตัวหนึ่ง
เขียนหัวข้อว่า ‘มีใครเคยฟังเพลงนี้บ้าง’
…………………………………………………………………………