Perfect Superstar - ตอนที่ 591 ตะลึงพรึงเพริด
ตอนที่ 591 ตะลึงพรึงเพริด
มีบางคนทำผิดหรือพูดผิด มักจะบ่ายเบี่ยง หลีกเลี่ยง หรือไม่ก็แสร้งทำเป็นหมาตายไปเลย แต่มีบางคนที่ยอมขอโทษอย่างเปิดเผย ถึงแม้จะมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของตัวเองด้วยเหตุนี้ก็ตาม
บัญชีเล็กใหญ่ในบล็อกล่างฉาวก็มีคนทั้งสองประเภท แต่จำนวนของคนประเภทแรกมีเยอะกว่าคนประเภทหลังอย่างไม่ต้องสงสัย บางคนถึงขนาดยอมต้องคดีเสียเงินแต่ไม่ยอมขอโทษ เพราะกลัวว่าจะสูญเสียแฟนคลับด้วยสาเหตุนี้
วังเสี่ยวซวี่เป็นคนประเภทหลังอย่างไม่ต้องสงสัย
ปลายปากกาของเขายอดเยี่ยมนัก ยามที่ทำสงครามวิจารณ์กับคนอื่นในคอลัมน์หรือในบล็อกจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆแต่ถ้าหากตัวเองผิดจริง เขาจะไม่แบกหน้าไว้ให้เมื่อย
วันที่ 4 เมษายน เวลาสี่ทุ่มห้านาที นักเขียนชื่อดังควบตำแหน่งนักวิจารณ์ภาพยนตร์คนนี้ ซึ่งมีแฟนคลับในบล็อกราวหนึ่ง 1.75 ล้านคน ได้ขอโทษ ‘โปเยโปโลเย’ กับลู่เฉินอย่างจริงจัง
สาเหตุที่ต้องขอโทษ เพราะคราวที่แล้วเขาเอ่ยวาจาสงสัยรายได้หนังกับยอดขายสินค้าที่ระลึกของ ‘โปเยโปโลเย’ ที่ฮ่องกงในรายการ ‘วีกลีมูฟวี่ทอล์ก’ ความเป็นจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขาเป็นฝ่ายผิด
เพราะคืนนี้ วังเสี่ยวซวี่ได้ไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยตัวเอง และยังซื้อสินค้าที่ระลึกมาหนึ่งชิ้น
ไม่ได้ตรวจสอบก็ไม่มีสิทธิ์พูด เขายอมรับว่าตัวเองมีทัศนคติที่ผิด มีความอคติต่อภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศจนชิน แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ‘โปเยโปโลเย’ จะโดดเด่นขนาดนี้
ในโพสต์นี้ วังเสี่ยวซวี่ชมเชย ‘โปเยโปโลเย’ อย่างเลิศลอย คิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว ตัวละคร เพลงประกอบ หรือว่าฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก รวมทั้งเอฟเฟกต์ล้วนทำได้เยี่ยมมาก โดยเฉพาะเพลงประกอบและการสร้างตัวละครเรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอก!
และสินค้าที่ระลึกของ ‘โปเยโปโลเย’ ไม่เพียงแต่มีจำนวนมหาศาล คุณภาพก็ดีเยี่ยม ราคาไม่ถือว่าแพงมาก สามารถสร้างยอดขายได้ดีขนาดนี้นับว่าเหนือความคาดหมาย และก็สมเหตุสมผล
ไม่ว่าจะเป็นตัวของภาพยนตร์ หรือว่าสินค้าที่ระลึก สามารถนำคำว่า ‘ใช้ใจ’ สองคำนี้มาบรรยายฝ่ายผลิตได้!
สิบกว่าปีที่ผ่านมา ตลาดภาพยนตร์ในประเทศทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง บวกกับการมาเยือนของยุคอินเทอร์เน็ต การวิจารณ์ภาพยนตร์จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้เชี่ยวชาญในวงการจำนวนน้อยเท่านั้น ในบล็อกออนไลน์ หน้าเว็บ หรือฟอรัมมีชาวเน็ตที่วิจารณ์ภาพยนตร์แต่ละเรื่องได้ฟังดูดีมีเหตุผลเยอะแยะถมไป
แต่ในวงการนี้จะว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะว่าเล็กก็เล็ก วังเสี่ยวซวี่เป็นนักวิจารณ์ภาพยนตร์ที่ค่อนข้างมีอิทธิพลพอสมควร บทวิจารณ์ของเขาไม่เพียงแต่ปรากฏในบล็อกส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังถูกตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์และนิตยสารบ่อยๆ
ดังนั้นตอนที่เขาเขียนบทวิจารณ์ภาพยนตร์ในรูปแบบการขอโทษและโพสต์ลงบนบล็อก จึงเกิดความสั่นสะเทือนในแวดวงขึ้นไม่น้อย คนในวงการหลายคนช่วยกันแชร์หรือไม่ก็แสดงความคิดเห็น
พวกแฟนคลับที่เดิมทีเยาะเย้ยวังเสี่ยวซวี่ก็ไม่เห็นแล้ว พวกเขาเปลี่ยนมุมมองทันที รู้สึกชื่นชมกับท่าทีขอโทษจากใจจริงของวังเสี่ยวซวี่ และช่วยกันแชร์ต่อเป็นจำนวนมาก
จำนวนแฟนคลับในบล็อกของวังเสี่ยวซวี่พุ่งทะยานเป็นสองล้านอย่างรวดเร็ว!
ชาวเน็ตทั่วไปจำนวนไม่น้อยได้อ่านบทวิจารณ์ของวังเสี่ยวซวี่ จึงเกิดความสงสัยในตัว ‘โปเยโปโลเย’ ขึ้นมา ทุกคนอยากจะดูว่าภาพยนตร์ที่ถูกชื่นชมอย่างเลิศเลอเรื่องนี้จะคุ้มค่าจริงหรือไม่ จากนั้นจึงทยอยกันจองตั๋วหนังทางออนไลน์
ถึงแม้จะมีคนสงสัยว่าวังเสี่ยวซวี่รับเงินมาแล้วร่วมมือกันสร้างกระแสกับลู่เฉินหรือเปล่า แต่เสียงนี้อ่อนแอเกินไป ไม่สามารถเกิดคลื่นลมได้แต่อย่างใด
เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะว่าคู่แข่งที่ ‘โปเยโปโลเย’ เผชิญหน้าเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดนำเข้า ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ผลิตในประเทศที่มีการลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาล ไม่อย่างนั้นเสียงแห่งความสงสัยคงดังไม่น้อยกว่าสิบเท่า
เสียงวิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตสามารถสะท้อนความเป็นจริงได้ โดยเฉพาะการชมปากต่อปากที่มีต่อภาพยนตร์วันที่ 2 เมษายน ‘โปเยโปโลเย’ ทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศวันแรก 38.75 ล้านหยวน วันถัดมาทะลุสี่สิบล้านหยวน วันที่ 4 พุ่งไปถึงสี่สิบสามล้านหยวน ทะลุหนึ่งร้อยล้านในสามวัน!
สิ่งที่ทำให้คนตกตะลึงอ้าปากค้างคือ วันที่ 5 เมษายน รายได้ตั๋วหนังของ ‘โปเยโปโลเย’ พุ่งทะยานไปถึงหกสิบห้าล้านกว่าหยวน อัตราการฉายเกินสามสิบเปอร์เซ็นต์ ตีโต้ ‘สงครามเทพอัคคี’ ได้อย่างแข็งแกร่ง!
‘สงครามเทพอัคคี’ เข้าฉายสองสัปดาห์แล้ว รายได้ตั๋วหนังลดลงอย่างแน่นอน แต่ปัญหาอยู่ที่ นับตั้งแต่ที่ ‘โปเยโปโลเย’ เข้าฉาย รายได้ตั๋วหนังของมันลดลงฮวบฮาบอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะวันที่ 5 ร่วงลงมาถึงสามสิบเจ็ดล้าน แพ้ให้กับรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศของ ‘โปเยโปโลเย’ ถึงยี่สิบแปดล้าน
สำหรับบุคลลที่เชี่ยวชาญในวงการบางคน นี่เป็นความตกตะลึงพรึงเพริดจนลูกตาแทบกระเด็นเลยทีเดียว!
เป้าหมายของ ‘สงครามเทพอัคคี’ คือวิ่งไปที่สองสามพันล้าน เดิมทีคู่ต่อสู้ที่แท้จริงที่มันเลือกคือภาพยนตร์แนวแฟนตาซีเรื่อง ‘ตำนานดินแดนศักดิ์สิทธิ์’ ของไลออนพิคเจอร์สที่จะออกฉายในวันที่ 9 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ที่ลงทุนด้วยเงินมหาศาลเช่นกัน
คิดไม่ถึงว่า ‘ตำนานดินแดนศักดิ์สิทธิ์’ ยังมาไม่ถึง ก็แพ้ให้กับ ‘โปเยโปโลเย’ ไปก่อนแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมต ขนาดของการลงทุน หรือฉากเอฟเฟกต์…‘สงครามเทพอัคคี’ สามารถบดขยี้ ‘โปเยโปโลเย’ ได้อย่างง่ายดาย ผลสรุปที่ออกมาแบบนี้ทำให้คนตาแทบถลน
วันที่ 6,7,8 เมษายน รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศของ ‘โปเยโปโลเย’ เพิ่มขึ้นเป็นลำดับตามอัตราการฉาย เพิ่มขึ้นน่าสุดตาเป็นอย่างยิ่ง และในวันที่ 8 ซึ่งก็คือหนึ่งวันก่อนที่ ‘ตำนานดินแดนศักดิ์สิทธิ์’ จะเข้าฉาย ทำรายได้ตั๋วหนังวันเดียวทะลุหนึ่งร้อยล้าน!
สำหรับภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ผลิตในประเทศ นี่เป็นดั่งปาฏิหาริย์อย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้จะไม่ถึงกับเป็นหนึ่งเดียวไม่เป็นสองรองใคร แต่สองสามปีที่ผ่านมามีเพียงตัวอย่างเดียวไม่มีเรื่องอื่นเลย!
วันที่ 2 ถึงวันที่ 8 เมษายน ‘โปเยโปโลเย’ เข้าฉายหนึ่งสัปดาห์ รายได้ตั๋วหนังสัปดาห์แรกมากถึงสี่ร้อยยี่สิบล้าน
ในวงการต่างเงียบกริบ
หลายคนรู้ว่า ‘โปเยโปโลเย’ ใช้เงินลงทุนเพียงสามสิบล้านเท่านั้น การโปรโมตและทำการตลาดในประเทศโดยรวมแล้วก็ใช้เม็ดเงินไปประมาณนี้ แม้ว่าจะลงทุนโปรโมตประชาสัมพันธ์เพิ่มภายหลัง มากสุดก็ไม่เกินหนึ่งร้อยล้าน
บ็อกซ์ออฟฟิศสี่ร้อยยี่สิบล้านสามารถเรียกต้นทุนทั้งหมดกลับมาได้อย่างมั่นคง ผลกำไรถือว่าน่าดูชมเป็นอย่างยิ่ง
ไม่เพียงแต่เท่านี้ การจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของ ‘โปเยโปโลเย’ ก็มากกว่าแปดสิบล้าน สร้างสถิติที่ภาพยนตร์ในประเทศรวมไปถึงภาพยนตร์ฮ่องกงและไต้หวันไม่เคยทำได้มาก่อน และผลงานยอดขายนี้ก็เหนือว่า ‘สงครามเทพอัคคี’
ภาพยนตร์ฮอลลีวูดบล็อกบัสเตอร์เรื่องหนึ่งที่มีเงินลงทุนเกินหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ กลับพ่ายแพ้ให้กับสินค้าที่ระลึกของภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ผลิตในประเทศ นี่เป็นเรื่องที่ในอดีตไม่อาจจินตนาการได้ แต่ตอนนี้กลายเป็นความจริงแล้ว!
นี่ทำให้คนนึกถึงการประกาศวาจาอย่างมาดมั่นในบล็อกของลู่เฉินก่อนหน้านี้ ซึ่งพูดว่า ‘โปเยโปโลเย’ จะทำรายได้ตั๋วหนังเกินห้าร้อยล้านและมียอดขายสินค้าที่ระลึกเกินหนึ่งร้อยล้าน
ตอนนั้นนอกจากแฟนคลับตัวยงของลู่เฉิน ก็ไม่มีใครเชื่อเขาเลย คนในวงการมากมายยังแอบหัวเราะเยาะความโอหังของเขา คิดว่าเขาสมองมีปัญหา
แล้วตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ‘โปเยโปโลเย’ ทำรายได้ตั๋วหนังเกินห้าร้อยล้านได้อย่างไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน หากทะลุหนึ่งพันล้านก็ไม่ใช่ความฝันอะไร หนำซ้ำยังมีศักยภาพเช่นนี้อย่างแท้จริง
คนที่เยาะเย้ยเขาในตอนแรก ตอนนี้แต่ละคนเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง!
เรื่องเซอร์ไพรส์ของจริงยังอยู่ข้างหลัง วันที่ 9 เมษายน เนื่องจากการเข้าฉายของ ‘ตำนานดินแดนศักดิ์สิทธิ์’ ในที่สุด ‘โปเยโปโลเย’ ก็ร่วงลง ทำให้คนอื่น ‘เหมือนยกภูเขาออกจากอก’ ทำรายได้ในวันนั้นแปดสิบเจ็ดล้านหยวน
แต่ในอัตราการฉายที่คล้ายกัน รายได้ตั๋วหนังของ ‘ตำนานดินแดนศักดิ์สิทธิ์’ เกินแปดสิบล้านมานิดหน่อย รายได้วันแรกกลับสู้ ‘โปเยโปโลเย’ ที่เข้าฉายไปแล้วแปดวันไม่ได้!
…………………………………………………………………………