Perfect Superstar - ตอนที่ 758 มีลูกด้วยกันสักคน
ตอนที่ 758 มีลูกด้วยกันสักคน
โคมไฟผ้าสีขาวบางมีแสงสีส้มทะลุออกมา ปรับแสงในห้องส่วนตัวให้สว่างเท่าๆ กัน ไม้จันทน์หอมอ่อนๆ วางอยู่มุมสูงสร้างบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวสวยแปลกใหม่
เจ้าของบ้านยกอาหารที่ผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันออกมาเสิร์ฟทีละจาน กุ้งผัดเซียงล่า ยำทะเล ไข่ตุ๋นสามสี สลัดแตงกวาจีน ไก่ฉีกผัดถั่วงอก…ล้วนเป็นอาหารบ้านๆ ทั่วไป ทว่าอาหารแต่ละจานล้วนอร่อยไปทุกด้านไม่ว่าจะเป็นรูป รสกลิ่น สี
ลู่เฉินถึงแม้จะไม่ใช่นักกินอย่างแท้จริง แต่อาหารเลิศรสที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้อยากอาหารมาก ดื่มเหล้าข้าวที่เจ้าของบ้านหมักเองกับถานหงด้วยอารมณ์ที่คึกคัก โดยไม่รู้สึกเมาแต่สบายใจมากกว่า
เฉินเฟยเอ๋อร์ช่วงนี้กำลังลดน้ำหนัก ทั้งๆ ที่มีรูปร่างตามแบบมาตรฐานแล้ว แต่ยังคิดจะลดลงอีกหนึ่งถึงสองกิโลกรัม อยากกินแต่ไม่กล้ากินเยอะรู้สึกสับสนมาก
ถงซินเหยาเป็นนักกินตัวจริง เชิญอาจารย์ทุกท่านอย่างกระตือรือร้นห้ามเกรงใจเด็ดขาด ต้องกินเยอะๆ กินจนกว่าจะอิ่ม โดยใช้ตัวเองเป็นตัวอย่าง วาดตะเกียบคีบขึ้นมากินคำโต ทำเอาหมิ่นลี่ห้ามแทบไม่ทัน
ข้างๆ ของเธอยังมีเด็กช่างกินอีกคนหนึ่ง ขนมน้ำเชื่อมกุ้ยฮวาเก้าชิ้นในจาน ถูกเด็กน้อยกินไปสี่ชิ้น จนซ่งหว่านหลิ่วต้องเอ็ดไปสองสามประโยค เด็กน้อยยังทำท่าทาง ‘ถ้าแม่ไม่ให้หนูกินหนูจะร้องไห้ให้แม่ดูเดี๋ยวนี้เลย’ ทำให้ทุกคนหัวเราะขำ
ถานหงดื่มเหล้าข้าวไปสองสามแก้ว ไม่ค่อยกินกับข้าวเท่าไรนัก ตอนนี้เขาออกจากวงการพักอยู่ที่บ้าน เน้นให้ความสำคัญกับสุขภาพเป็นหลัก แต่เนื่องด้วยวันนี้เป็นคำเชิญของลู่เฉิน ไม่อย่างนั้นแม้แต่เหล้าเขาก็ไม่ดื่ม
ที่น่าสนใจก็คือ ถานหลิงคุยกับลู่ซีถูกคอมาก ถึงแม้ทั้งสองคนจะเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก แต่กลับเหมือนรู้จักกันมานานแล้ว ดื่มเหล้าจนหน้าแดงเล็กน้อย พูดคุยกันอย่างสนิทสนมราวกับเป็นพี่สาวน้องสาว
บรรยากาศเช่นนี้สุดยอดอย่างไม่ต้องสงสัย สามารถผ่อนคลายได้อย่างแท้จริง
ลู่เฉินครุ่นคิด ร้านอาหารในบ้านร้านนี้เยี่ยมจริงๆ วันหลังจะให้ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ ถือว่าเป็นการฆ่าเวลาที่ดีมาก
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่ ถานเจียหว่านที่ดื่มกินจนอิ่มแล้ววิ่งเข้ามา ดึงแขนของเขาแล้วเอ่ยว่า “พี่ลู่เฉิน หนูมีเรื่องอยากให้พี่ช่วย ได้ไหมคะ”
เด็กน้อยกะพริบดวงตาโต นัยน์ตาเผยแววตาน่าสงสารออกมา ไม่ว่าใครก็ยากที่จะปฏิเสธ
ลู่เฉินกลับใจแข็ง หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกล่าวว่า “งั้นหนูต้องให้อั่งเปาพี่ก่อน หนึ่งเหมาสองเหมาพี่ไม่เอา หนึ่งร้อยสองร้อยถือว่าไม่มาก จากนั้นค่อยพูดเรื่องที่อยากให้ช่วย”
“อ๋า…”
ใบหน้าเล็กๆ ของถานเจียหว่านทรุดลงมาทันที โผเข้ากอดเฉินเฟยเอ๋อร์ร้องไห้ฟ้องว่า “พี่เฟยเอ๋อร์ พี่ลู่เฉินแกล้งหนู พี่ช่วยหนูด้วยค่ะ!”
ซ่งหว่านหลิ่วขึงตาใส่ลูกสาวหนึ่งที “อย่าทำตัวรุ่มร่าม อยากโดนตีก้นเหรอ”
เฉินเฟยเอ๋อร์ปกป้องไม่ยอมอ่อนให้ “เดี๋ยวพี่ช่วยเคลียร์ให้…”
เธอขึงตาใส่ลู่เฉิน
ลู่เฉินจึงได้แต่ยอมจำนน “ก็ได้ๆ หนูพูดมาก่อนว่าเรื่องอะไร”
ลูกสาวคนนี้ของถานหงเป็นเด็กที่ฉลาดแสนซนนัก ทุกครั้งที่เจอหน้ามักจะถูกเธอแย่งของไม่พอ แถมยังชอบเล่นพิเรนทร์อีก ถูกพ่อของเธอตามใจจนเสียคน
อืม ยังมีพี่สาวอีกคนหนึ่งที่โอ๋เธอมาก!
เด็กน้อยยิ้มหน้าระรื่นทันที หันมากอดแขนของลู่เฉินเอ่ยว่า “โรงรียนของพวกเรามีงานเลี้ยงปีใหม่ค่ะ และได้จัดรายการร้องเพลงเดี่ยวให้กับหนู แต่หนูไม่อยากร้องเพลงที่คนอื่นร้องมาแล้ว ดังนั้นจึงให้คุณพ่อแต่งเพลงขึ้นมาหนึ่งเพลง…”
ลู่เฉินพยักหน้า “แบบนั้นก็ดีแล้ว แล้วมีปัญหาอะไรล่ะ”
“มีปัญหาใหญ่มากค่ะ!”
เด็กน้อยขมวดคิ้วทำหน้าขมขื่น พูดบ่นว่า “พี่รู้ไหมว่าพ่อเขาแต่งเพลงอะไรให้หนู”
เธอร้องออกมาโดยตรง “เจ้าเป็ดน้อยว่ายน้ำในคลอง ร้องก้าบๆๆ…”
ร้องแค่สองประโยค ใบหน้าที่ขมขื่นของถานเจียหว่านเปลี่ยนเป็นสีหน้าไม่ชอบใจ “พี่ลู่เฉินฟังสิคะ เพลงติ๊งต๊องขนาดนี้จะให้หนูขึ้นไปร้องบนเวที พี่คิดว่าพวกเพื่อนๆ จะมองหนูยังไงคะ”
ลู่เฉิน “เอ่อ…”
เด็กน้อยบ่นต่อ “ได้โปรด หนูอยู่ชั้นป.สองแล้วนะคะ ไม่ใช่เด็กเล็กๆ ไร้เดียงสาในโรงเรียนอนุบาล คุณพ่อแต่งเพลงนี้ให้หนูขายหน้ามากจริงๆ ค่ะ!”
ลู่เฉิน “เอ่อ…”
ทุกคนที่อยู่ข้างๆ ต่างหัวเราะ มีเพียงถานหงเท่านั้นที่ทำหน้ามุ่ยอย่างจนใจ
เด็กน้อยถอนหายใจ บ่นต่อ “มีพ่อแบบนี้หนูโชคไม่ดีจริงๆ ค่ะ จนถึงตอนนี้ชื่อรายการของหนูก็ยังไม่ได้แจ้งเลยค่ะดังนั้น…”
เธอใช้แรงแกว่งแขนของลู่เฉิน “พี่ลู่เฉิน พี่แต่งเพลงให้หนูหน่อย หนูจะให้อั่งเปาพี่ห้าสิบ ไม่สิร้อยหนึ่งดีไหมคะ”
เขามองออกว่าเด็กน้อยตัดสินใจอย่างแน่วแน่ คนที่เอาแต่เงินเข้ากระเป๋าไม่เคยเอาออกอย่างเธอ กลับยอมที่จะให้อั่งเปาหนึ่งร้อยหยวน
ลู่เฉินรู้สึกซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง “งั้นก็ได้”
เด็กน้อยดีใจกระโดดโลดเต้น ‘จุ๊บ’ ใบหน้าของลู่เฉินหนึ่งที “พี่ลู่เฉินดีที่สุดเลยค่ะ!”
ลู่เฉินถูกซื้อตัวอย่างสิ้นเชิง “พี่จะแต่งเพลงให้หนูตอนนี้เลย”
“ดีจังเลยค่ะ…”
เด็กน้อยปรบมือเอ่ยว่า “หนูเอากีตาร์กับโน้ตบุ๊กมาด้วย อยู่ในรถข้างนอกค่ะ”
มีการเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ ลู่เฉินยอมศิโรราบจริงๆ “งั้นก็ไปเอามาเลยครับ”
เด็กน้อยรีบวิ่งไปอยู่ตรงหน้าถานหง ไม่สนใจใบหน้าที่ดำมืดของอีกฝ่าย “คุณพ่อ หนูขอกุญแจรถด่วนค่ะ”
ถานหลิงยิ้มเอ่ยว่า “เจียหว่าน ให้อาไปหยิบกับหนูดีกว่า”
เด็กน้อยแน่นอนว่าไม่มีปัญหา “ขอบคุณคุณอาค่ะ!”
จากนั้นได้หยิบกุญแจรถจากในมือของถานหงที่กำลังจนใจ ถานหลิงจูงมือเด็กน้อยไปหยิบกีตาร์กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
ถานหงยิ้มเจื่อนๆ กับลู่เฉินแล้วเอ่ยว่า “มีลูกไม่ดีก็เป็นแบบนี้แหละ…”
เขาเพิ่งมีลูกสาวตอนอายุสี่สิบปี ดังนั้นจึงโอ๋หนักมาก ตอนนี้ถือว่าทำผลกรรมใดไว้ก็รับผลกรรมนั้น
“นายแต่งเพลงสองสามประโยคง่ายๆ ให้น้องก็พอ หลอกนิดหลอกหน่อยก็ได้แล้ว”
ลู่เฉินเอ่ยว่า “เด็กนักเรียนสมัยนี้หลอกไม่ง่ายแล้วครับ เจียหว่านฉลาดเกินไป”
ตอนที่เขาเรียนชั้นประถมศึกษา ชอบรวมหัวกับพวกเพื่อนนักเรียนชายแกล้งเพื่อนนักเรียนหญิงทั้งวัน ไม่รู้ประสีประสาไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง แต่เด็กที่เกิดหลังจากปี 2000 กลับเกิดในยุคแห่งข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก ตอนเด็กๆ ก็เริ่มสัมผัสข้อมูลในหลายด้านแล้ว ดังนั้นมักจะฉลาดและโตเป็นผู้ใหญ่เร็วกว่ามาก
อย่างเช่นถานเจียหว่าน คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือเล่นเก่งกว่าคุณพ่อของเธอด้วยซ้ำ สร้างกลุ่มสนทนาในเฟยซวิ่นกับพวกเพื่อนนักเรียน ชำนาญคำศัพท์ออนไลน์ต่างๆ ไม่สามารถเอาลูกอมสองสามเม็ดมาหลอกล่อได้เด็ดขาด
ถานหงแต่งเพลง ‘เจ้าเป็ดน้อย’ ทุกคนยังรู้สึกว่าไร้เดียงสาเกินไปจริงๆ!
เฉินเฟยเอ๋อร์บอกว่า “ฉลาดถึงจะดี แบบนี้ต่อไปจะได้ไม่ถูกผู้ชายหลอก…”
ขณะที่พูด เธอเหลือบมองลู่เฉินหนึ่งที แต่กลับเต็มไปด้วยความรักที่หวานชื่น
ซ่งหว่านหลิ่วถอนหายใจกล่าวว่า “เธอตามใจลูกของฉันมากกว่าพี่ถานอีก ทุกครั้งที่ฉันอบรมลูก ลูกชอบบอกว่าจะหนีออกจากบ้านไปหาพี่สาว แบบนี้ให้เธออุ้มกลับบ้านไปเลยก็แล้วกัน”
เฉินเฟยเอ๋อร์เม้มปากยิ้มเอ่ยว่า “ฉันก็อยากทำแบบนั้นเหมือนกันค่ะ เสียดายพี่ถานคงไม่ยอมแน่ๆ”
ซ่งหว่านหลิ่วยิ้มพูดว่า “ถ้าอยากจริงๆ งั้นเธอกับลู่เฉินก็มีลูกด้วยกันสักคนสิ”
“พี่สะใภ้…”
เฉินเฟยเอ๋อร์หน้าแดงระเรื่อ
ซ่งหว่านหลิ่วพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันพูดจริงๆ ผู้หญิงเนี่ยนะ ต้องมีลูกเร็วๆ ตอนที่ฉันคลอดเจียหว่านรู้สึกเหมือนโดนทำโทษมากๆ จนถึงตอนนี้ร่างกายยังฟื้นฟูกลับมาไม่หมดเลย”
ลู่ซียกมือ “ฉันสนับสนุน แม่ก็รอวันที่จะได้อุ้มหลานชายเหมือนกัน!”
ลู่เฉินกระอักกระอ่วน จู่ๆ หัวข้อสนทนาเปลี่ยนมาเกี่ยวข้องกับตัวเองและเฉินเฟยเอ๋อร์ได้อย่างไร
ทว่ามีบางเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจังจริงๆ
เขามองเฉินเฟยเอ๋อร์ และเฉินเฟยเอ๋อร์ก็หันมาพอดี ทั้งสองคนสบตากัน
หัวใจตรงกัน
…………………………………………………………………………