Perfect Superstar - ตอนที่ 766 เล่นใหญ่ไปเลย
ตอนที่ 766 เล่นใหญ่ไปเลย
สงครามไซเบอร์จีนเกาหลีนี้ไม่ได้ใช้เวลาติดต่อกันนานมาก
เนื่องจากการโจมตีของชาวเน็ตจีนรุนแรงเกินไป จำนวนผู้เข้าร่วมมากเกินที่จะจินตนาการได้ FLOO เว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้สถานการณ์ที่หนักหนาเช่นนี้ จำเป็นต้องบล็อกไอพีที่มาจากเขตประเทศจีน
ชาวเน็ตเกาหลีหลายคนยังไม่ยอมแพ้ วิ่งไปแหกปากตะโกนในบล็อกล่างฉาวอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็สร้างกระแสคลื่นลมอะไรไม่ได้
วันที่ 31 ลู่เฉินได้รับจดหมายท้ารบของหลี่เจ๋อเฉิงที่โรงแรมเดอะชิลลา
บุคคลที่ปรมาจารย์เทควันโดให้นำหนังสือท้ารบมาส่ง ก็คือเผียวหย่งจวิ้นลูกศิษย์ของเขา และยังมีนักข่าวของสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซีที่เดินทางมาด้วย เพื่อบันทึกการถ่ายทำตลอดทาง!
เอ็มบีซีเป็นสถานีโทรทัศน์ใหญ่อันดับสองของเกาหลีใต้ เจตนาของหลี่เจ๋อเฉิงชัดเจนเป็นอย่างมาก
หนังสือท้ารบฉบับนี้เขียนด้วยภาษาจีน แถมยังใช้พู่กันจีนในการเขียนตัวอักษร การเขียนพู่กันจีนถือว่าดีมาก แรงพู่กันแข็งแกร่งเหมือนดั่งหลี่เจ๋อเฉิง ปิดบังเขี้ยวเล็บและความฮึกเหิมเอาไว้ไม่อยู่
ในหนังสือท้ารบ หลี่เจ๋อเฉิงแสดงตัวว่าจะรอต้อนรับลู่เฉินอยู่ที่หน้าประตูโรงฝึก เวลาให้ลู่เฉินเป็นคนตัดสินใจ!
ภายใต้การถ่ายภาพด้วยกล้องบันทึกภาพสองตัว ลู่เฉินอ่านจดหมายท้ารบจนจบด้วยสีหน้านิ่งเฉย จากนั้นก็พูดกับเผียวหย่งจวิ้นลูกศิษย์ของหลี่เจ๋อเฉิงว่า “งั้นเป็นวันมะรืนตอนเช้าแล้วกันครับ วันที่ 2 เก้าโมง ผมจะไปตรงตามเวลา!”
วันที่ 2?
เผียวหย่งจวิ้นตกตะลึงทันที
การต่อสู้อันท้าทายที่เสนอโดยหลี่เจ๋อเฉิงเป็นเรื่องที่จริงจังมาก และสร้างความฮือฮาเป็นอย่างยิ่ง การแข่งขันแบบนี้น่าจะอลังการมากถึงจะถูก อย่างไรเสียก็ต้องบำรุงกำลังและเตรียมสภาพจิตใจให้ดีพร้อมสักสองสามวันไม่ใช่หรือ
ท่าทีของลู่เฉินปกติมากเกินไป ดูไม่เหมือนการต้อนรับการต่อสู้ที่สำคัญในครั้งนี้ แต่เหมือนการไปกินข้าวที่บ้านธรรมดา
ขณะที่ครุ่นคิดอยู่ในใจ สีหน้าของเผียวหย่งจวิ้นเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดอยู่บ้าง
ลู่เฉินถามว่า “คุณเผียว มีปัญหาอะไรไหมครับ”
เผียวหย่งจวิ้นได้สติกลับมา เขามองลู่เฉินอย่างลึกซึ้งหนึ่งที ก่อนจะส่ายหน้าเอ่ยว่า “ไม่มีปัญหาครับ…”
เวลาและสถานที่ให้ลู่เฉินเป็นคนตัดสินใจ นี่คือสัญญาที่หลี่เจ๋อเฉิงรับปากด้วยตนเอง แน่นอนว่าเขาไม่สามารถกระทำการโดยพลการได้
แต่เขาอดไม่ได้ที่จะเสริมอีกหนึ่งประโยค “คุณลู่ คุณไม่ต้องเตรียมตัวจริงๆ ใช่ไหมครับ”
เผียวหย่งจวิ้นพูดภาษาจีนได้ดีมาก พูดชัดถ้อยชัดคำและคล่องแคล่ว ดังนั้นหลี่เจ๋อเฉิงถึงได้ส่งเขามาเป็นตัวแทน ส่งหนังสือท้ารบให้ลู่เฉิน
ลู่เฉินยิ้มเล็กน้อยเอ่ยว่า “มีเวลาเตรียมตัวหนึ่งวัน ผมคิดว่าพอแล้วครับ”
เผียวหย่งจวิ้นอดไม่ได้ที่ได้รู้สึกโกรธขึ้นมาในใจ ถ้าหากไม่ใช่เพราะข้างๆ มีนักข่าวของสถานีโทรทัศน์คอยตามถ่าย บวกกับชื่อเสียงของอาจารย์ของเขา เช่นนั้นเขาคงจะต่อยสั่งสอนลู่เฉินก่อนแน่นอน
เคยเห็นคนบ้า แต่ไม่เคยเห็นคนบ้าขนาดนี้มาก่อน!
เผียวหย่งจวิ้นไม่คิดว่าลู่เฉินจะเป็นคู่แข่งของหลี่เจ๋อเฉิงได้ ในสายตาของเขา ลู่เฉินเป็นไอ้หนุ่มที่ไม่เจียมตัวอย่างสิ้นเชิง และถูกกำหนดมาให้เป็นก้อนหินที่ถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้าของอาจารย์ของเขา
“ครับ!”
เขากัดฟันพูดว่า “อาจารย์ของผมมีข้อเสนออย่างหนึ่ง อยากลองถามความคิดเห็นของคุณครับ”
ลู่เฉินเอ่ยว่า “คุณพูดมาเลยครับ”
เผียวหย่งจวิ้นสงบสติอารมณ์เล็กน้อย แล้วเอ่ยว่า “อาจารย์ของผมอยากให้สถานีโทรทัศน์เอ็มบีซีถ่ายทอดสดการแข่งขันครั้งนี้ สถานีโทรทัศน์เอ็มบีซีตกลงที่จ่ายเงินหนึ่งพันห้าล้านวอนเป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะ!”
เขาหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริดของลู่เฉิน เชื่อว่าต้องเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของลู่เฉินแน่นอน
ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่รางวัลผู้ชนะหนึ่งพันห้าร้อยล้านวอน แต่เป็นการถ่ายทอดสด
ถ้าหากเป็นการแข่งขันในที่ปิดมิดชิด ผลของการแพ้ชนะไม่ได้มีผลกระทบอะไรมาก แต่การถ่ายทอดสดเป็นคนละเรื่องเลย สร้างความกดดันให้แก่ผู้แข่งขันทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก
และหลี่เจ๋อเฉิงก็เป็นผู้คว้าเหรียญทองโอลิมปิกสองสมัย การถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไม่ได้มีความกดดันอะไรสำหรับเขา ในทางกลับกันมันคือพลังขับเคลื่อน แต่สำหรับลู่เฉินกลับตรงกันข้ามกันพอดี
แน่นอนว่าลู่เฉินสามารถปฏิเสธได้ แต่แบบนี้เท่ากับว่าเขาแพ้ในเรื่องอำนาจและความมั่นใจ
การต่อสู้กันของยอดฝีมือ ไม่ได้เทียบกับแค่พลังและความเร็วเท่านั้น แต่ยังมีสภาพจิตใจ หลี่เจ๋อเฉิงเสนอให้ถ่ายทอดสดการแข่งขัน เป็นกลอุบายอย่างชัดเจน ลู่เฉินมีแค่สองตัวเลือกจะตกลงหรือปฏิเสธ
ไม่ว่าเขาจะเลือกตกลงหรือปฏิเสธ ล้วนถูกใจหลี่เจ๋อเฉิงทั้งหมด!
การต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย อันที่จริงได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่การท้าทายใน FLOO ของปรมาจารย์คนนี้แล้ว วันนี้มาส่งหนังสือท้ารบ เท่ากับว่าออกหมัดโดยตรง
เผียวหย่งจวิ้นเข้าใจเจตนาของอาจารย์เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงนับถือเลื่อมใสอย่างศิโรราบ
นัยน์ตาของเขาที่มองดูลู่เฉิน แอบซ่อนไปด้วยแววตาเยาะเย้ยที่ไม่อาจสังเกตเห็น
ทว่าไม่ช้าเผียวหย่งจวิ้นก็ต้องผิดหวัง เพราะหลังจากลู่เฉินฟังจบแล้วไม่ได้รู้สึกตกใจหรือลำบากใจเลยสักนิด กลับดูเหมือนคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “ได้หมดเลยครับ แต่ในเมื่อทางคุณได้เชิญสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซีมาถ่ายทอดสด งั้นฝั่งผมก็จำเป็นต้องเชิญสถานีโทรทัศน์ที่ประเทศจีนมาร่วมถ่ายทอดสดเหมือนกัน แน่นอนว่าจะจ่ายค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้อง”
เขารู้ว่าหลี่เจ๋อเฉิงออกข้อเสนอให้ถ่ายทอดสดการแข่งขัน ไม่ได้อยากสร้างแรงกดดันให้ตัวเอง แต่อยากอาศัยโอกาสนี้ขยายอิทธิพลให้มากขึ้น…จะมีอะไรได้ผลดียิ่งกว่าการโปรโมตผ่านการถ่ายทอดของสถานีโทรทัศน์
แล้วลู่เฉินจะไม่ยอมได้อย่างไร
ในเมื่อต้องเล่น งั้นก็เล่นใหญ่ไปเลย!
เผียวหย่งจวิ้นตกตะลึงอีกครั้ง รีบเอ่ยว่า “แบบนั้นยุติธรรมและมีเหตุผลมากครับ ผมคิดว่าไม่มีปัญหา”
ลู่เฉินยิ้มแฉ่งมากกว่าเดิม “งั้นก็ดีครับ แต่เงินรางวัลหนึ่งพันห้าร้อยล้านวอนน้อยเกินไปหรือเปล่าครับ ผมคิดว่าสถานีโทรทัศน์ในประเทศของพวกเราน่าจะยินดีจ่ายเงินสามสิบล้านหยวนเพื่อให้ได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสด”
หนึ่งพันห้าร้อยล้านวอนไม่ถึงสิบล้านหยวน ในฐานะการต่อสู้แบบถ่ายทอดสดครั้งหนึ่ง ถือว่าไม่น้อยแล้ว แต่ลู่เฉินรู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไร
สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งหรือสถานีโทรทัศน์เจ้อตง ยินดีที่จะใช้เงินสามสี่เท่าเพื่อซื้อสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดอย่างแน่นอน
เพราะว่าเขาคือลู่เฉิน คุ้มค่าราคานี้!
ลู่เฉินยิ้มด้วยสีหน้าหยอกล้อทำเอาใบหน้าเผียวหย่งจวิ้นร้อนผ่าว แม้แต่คนของสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซีสองสามคนที่อยู่ข้างๆ ก็ยังทำสีหน้าเก้ๆ กังๆ
เผียวหย่งจวิ้นจริงๆ แล้วรู้ความจริงว่า ทางเอ็มบีซีออกเงินสำหรับการถ่ายทอดสดนี้ไม่ได้เยอะถึงหนึ่งพันห้าร้อยล้านวอนขนาดนั้น ส่วนใหญ่หลี่เจ๋อเฉิงเป็นคนควักเงินจ่ายเอง เพื่อเพิ่มอิทธิพล
อย่างไรก็ตามเขาต้องชนะได้เงินคืนอยู่แล้ว
ผลปรากฏว่าถูกลู่เฉินเยาะเย้ย ถูกแล้ว ในสายตาของเผียวหย่งจวิ้นลู่เฉินกำลังเยาะเย้ยอย่างชัดเจน!
สามสิบล้านหยวน นั่นเท่ากับห้าพันล้านวอน!
เผียวหย่งจวิ้นไม่ได้สงสัยว่าลู่เฉินพูดเกินจริง เพราะตอนนี้คนจีนมีเงินเยอะมาก ดาราเกาหลีหลายคนได้วิ่งไปร่วมรายการวาไรตี้และถ่ายทำภาพยนตร์ที่ประเทศจีน ทำรายได้มากกว่าในเกาหลีสิบกว่าเท่ากระทั่งหลายสิบเท่า
ลู่เฉินที่ได้ความนิยมและมีอิทธิพลในประเทศจีน มีสถานีโทรทัศน์ใหญ่ที่ร่ำรวยยินดีจ่าย นั่นเป็นเรื่องที่ปกติมาก
ทว่าลู่เฉินเอาความมั่นใจมากมายมาจากไหน
แต่ถึงเวลานี้เผียวหย่งจวิ้นไม่อาจถอยได้ เขายังฝืนพูดว่า “ช่วยเลื่อนเวลาการแข่งขันออกไปอีกสองสามวันได้ไหมครับ ผมคิดว่ามีหลายธุรกิจที่ยินดีเป็นสปอนเซอร์”
ลู่เฉินยิ้มเอ่ยว่า “งั้นก็เปลี่ยนเป็นวันที่ 5 มกราคมแล้วกันครับ”
มองดูรอยยิ้มมั่นใจของเขา เผียวหย่งจวิ้นพลันรู้สึกว่าเรื่องราวหลุดจากเส้นทางที่ฝ่ายของตนวางแผนเอาไว้!
…………………………………………………………………………