Perfect Superstar - ตอนที่ 840 ยินดีอย่างยิ่ง
ตอนนี่ 840 ยินดีอย่างยิ่ง
ในบรรดาผู้คนที่อยู่ในงาน มีเพียงเฉินเฟยเอ๋อร์และลู่ซีเท่านั้นที่รู้ว่า ‘อี้จินกู่’ จริงๆ แล้วเป็นเสื้อกั๊ก[1]ของลู่เฉิน
แม้ว่าพวกเธอจะไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลที่ลู่เฉินปกปิดตัวตนก็ตาม เพราะถ้าพูดตามหลักเหตุผลแล้วมันเป็นเรื่องดีที่จะเพิ่มแสงให้ตัวเอง แต่ในเมื่อลู่เฉินยืนกรานที่จะทำเช่นนี้ ทั้งสองคนที่ใกล้ชิดกับลู่เฉินย่อมสนับสนุนอย่างไม่มีเงื่อนไข
เมื่อได้ยินคำถามที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของจางเย่าเฉิง เฉินเฟยเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะลอบมองลู่เฉิน
ลู่เฉินสังเกตเห็นสายตาของเฉินเฟยเอ๋อร์ เขาหัวเราะแห้งๆ และเอ่ยว่า “ประธานจาง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คุณไม่ต้องกังวลไป ผมรับประกันว่าหนังสือเล่มใหม่ของเขาจะยังคงร่วมมือกับสำนักพิมพ์ซานไห่อย่างแน่นอน”
‘อี้จินกู่’ คือตัวเขาเอง การรับประกันนี้เป็นของแท้แน่นอน
จางเย่าเฉิงอยากคุยกับผู้เขียนเองจริงๆ อีกทั้ง ‘อี้จินกู่’ ยังเป็นตัวทำเงินของสำนักพิมพ์ซานไห่ด้วย หากถูกคนอื่นแย่งตัวไป เกรงว่ารองผู้จัดการใหญ่และหัวหน้าบรรณาธิการคนนี้คงทำได้เพียงยอมรับผิดทั้งหมดและลาออกไป ไม่อย่างนั้นยากที่เขาจะชดใช้ความผิดได้!
เดิมทีจางเย่าเฉิงไม่ได้กังวลมากมายอะไรขนาดนั้น แต่หลังจากได้ดูภาคแรกของภาพยนตร์ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ จบแล้ว เขารู้สึกได้ว่าภาพยนตร์กำลังภายในเรื่องนี้มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างความฮือฮา และผลลัพธ์ที่ได้จะต้องมีแรงผลักดันอย่างมากต่อความนิยมของนิยายกำลังภายใน
คุณค่าของ ‘อี้จินกู่’ จะเพิ่มขึ้นเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น และย่อมเป็นที่ต้องการของคู่แข่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถ้าเขาไม่มีความรอบคอบและระมัดระวังในเรื่องนี้ จางเย่าเฉิงจะเปลี่ยนจากพนักงานขายธรรมดามาเป็นหัวหน้าของสำนักพิมพ์ซานไห่คนปัจจุบันได้อย่างไร
ตอนนี้ได้รับการรับประกันจากปากของลู่เฉิน เขาไม่สามารถพูดได้ว่าสบายใจแล้ว แต่ในที่สุดก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตอนที่จางเย่าเฉิงเดินออกไปก็รู้สึกพึงพอใจ เหมือนกันกับหลินจื้อเจี๋ยที่เดินจากไปก่อนหน้านี้
จากนั้นแขกผู้มีเกียรติระดับสูง เช่น สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง สถานีโทรทัศน์เจ้อตง เว็บไซต์เฟยซวิ่น บริษัทเอสวายจี ที่ได้รับเชิญให้มาร่วมพิธี ต่างทยอยมาแสดงความยินดีกับลู่เฉิน
ระหว่างการสังสรรค์ เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
บรรดาแขกเหรื่อทั้งหลายเริ่มกล่าวลาและกลับออกไป ในฐานะที่ลู่เฉิน เฉินเฟยเอ๋อร์ และลู่ซีเป็นเจ้าภาพก็ส่งแขกออกไปทีละคน
“สวัสดีครับลู่เฉิน!”
ลู่เฉินเพิ่งส่งผู้จัดการของเว็บไซต์เฟยซวิ่นวิดีโอออกไป ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งทักทายเขาอย่างสุภาพ
ลู่เฉินยิ้มและยื่นมือออกไปจับมือกับเขา “สวัสดีครับ…”
ในค่ำคืนนี้เขายิ้มมากจนเกินไป ใบหน้าแทบจะแข็งกระด้างแล้ว ทว่าการคบค้าสมาคมมันก็ต้องเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว
แต่สำหรับผู้ชายที่อยู่ด้านหน้าคนนี้ ลู่เฉินรู้สึกแปลกหน้ามากทีเดียว จึงเพียงแค่ทักทายกลับอย่างสุภาพ
ชายวัยกลางคนแนะนำตัวเอง “ผมชื่อเมิ่งเซ่าถาง…”
ลู่เฉินตอบสนองแทบจะทันที รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ที่แท้ก็เป็นอาจารย์เมิ่งนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จักครับ!”
ความจำของเขาดีมาก เพราะได้ดูรายชื่อแขกรอบปฐมทัศน์ในคืนนี้มาก่อนแล้ว แม้ว่าจะไม่เคยเห็นหน้าค่าตาของหลายๆ คน แต่ก็จดจำข้อมูลพื้นฐานของอีกฝ่ายไว้ในใจ
เมิ่งเซ่าถางคนนี้เป็นนักเขียนอิสระที่มีชื่อเสียงมาก ไอดีในบล็อกล่างฉาวคือ ‘อาจารย์เมิ่ง’ เขียนบทวิจารณ์ภาพยนตร์มาแล้วมากมาย และมีแฟนคลับมากกว่าล้านคน
จำเป็นต้องชี้ให้เห็นว่า เมิ่งเซ่าถางเป็นอาจารย์คนหนึ่งจริงๆ เพียงแต่ว่าเพิ่งลาออกไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน
ลู่เฉินยังจำได้ว่าตัวเองเคยอ่านบทความของเขามาแล้วหลายฉบับ เขียนได้ไม่เลวเลยจริงๆ
เมิ่งเซ่าถางยิ้มและเอ่ยขึ้น “เกรงใจแล้วครับ เป็นเกียรติมากที่ได้รับเชิญจากเฉินเฟยมีเดีย และการที่ได้พบกับคุณที่นี่ เป็นเกียรติของผมถึงจะถูก ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ของคุณถ่ายทำออกมาได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก คืนนี้ช่างเป็นการเดินทางมาที่คุ้มค่าจริงๆ!”
ลู่เฉินกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณครับ!”
เมิ่งเซ่าถางพูดอย่างจริงจัง “หลังจากดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมมีความคิดมากมาย หลังจากกลับไปแล้วในคืนนี้ผมเตรียมจะเขียนบทความวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมทราบดีว่าเวลาของคุณมีค่ามาก แต่ผมหวังจริงๆ ว่าถ้ามีโอกาสก็อยากจะพูดคุยกับคุณอย่างละเอียดเกี่ยวกับภาพยนตร์กำลังภายใน ไม่ทราบว่าความปรารถนาของผมจะเป็นจริงได้ไหม”
“แน่นอนว่าไม่มีปัญหา…”
ลู่เฉินเตรียมตัวที่จะตอบตกลงทันที แต่ความคิดใหม่ก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในหัวของเขา
“อาจารย์เมิ่ง ถ้าผมอยากจะนำการคุยกันครั้งนี้ไปลงในรายการโทรทัศน์ ไม่ทราบว่าคุณจะยินดีไหมครับ”
ใส่ลงไปในรายการโทรทัศน์?
เมิ่งเซ่าถางตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็เป็นคนในวงการอยู่ครึ่งหนึ่งเช่นกัน เพียงแวบเดียวก็เข้าใจความคิดของลู่เฉิน
ไม่มีความสำเร็จของใครเป็นเรื่องบังเอิญ!
เมิ่งเซ่าถางที่เข้าใจดี รู้สึกเลื่อมใสลู่เฉินเหลือเกิน เพราะเห็นได้ชัดว่านี่เป็นความคิดเพียงชั่วขณะของลู่เฉิน ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่วางแผนเอาไว้ก่อน แต่กลับเป็นการคำนึงถึงเวลาและผลประโยชน์ที่สมบูรณ์แบบ
สถานีโทรทัศน์จะต้องชื่นชอบรายการทอล์กโชว์นี้อย่างแน่นอน
เพราะอิทธิพลของลู่เฉินวางให้เห็นอยู่ตรงนี้ และสิ่งที่จะพูดคุยกันคือภาพยนตร์ที่เพิ่งจะเข้าฉาย เรตติ้งจะต้องดีแน่ๆ
ลู่เฉินสามารถอาศัยสิ่งนี้ประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ของตัวเอง ไม่เพียงไม่ต้องเสียเงินสักหยวน บางทีอาจมีค่าตัวในการออกงานอีกต่างหาก
ส่วนตัวของเขาเองนั้น…
แม้ว่าเมิ่งเซ่าถางจะเป็นนักเขียนอิสระที่โรแมนติกสุดๆ แต่เขาไม่ใช่นักบุญที่ไม่กินไม่ดื่มอาหารของโลกมนุษย์ ทั้งยังต้องหาเงินเพื่อเลี้ยงดูครอบครัว และยังหวังว่าจะได้รับความสนใจและการยอมรับจากผู้คนมากขึ้น
สำหรับข้อเสนอของลู่เฉิน มีแต่ประโยชน์ไม่มีผลร้าย หากเขาไม่ตอบตกลงละก็ สมองคงโดนลาเตะไปแล้วแน่ๆ!
เนื่องด้วยการรักษาท่าทีของผู้รู้หนังสือ เขาครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างจริงจังและกล่าวว่า “ผมยินดีอย่างยิ่ง ขอบคุณครับ!”
ลู่เฉินยิ้มและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะจัดเวลาแล้วให้คนในบริษัทติดต่อคุณไปนะครับ”
หลังจากทิ้งข้อมูลการติดต่อไว้ เมิ่งเซ่าถางกล่าวลาลู่เฉิน เขารีบร้อนที่จะกลับไปเขียนบทความวิจารณ์ภาพยนตร์
ลู่เฉินมองดูร่างของอีกคนหายเข้าไปในลิฟต์อย่างครุ่นคิด
“เป็นอะไรไป”
เฉินเฟยเอ๋อร์เดินเข้ามา และมองไปทางลิฟต์อย่างสงสัย “เมื่อสักครู่นี้คือใครเหรอ”
“อาจารย์เมิ่ง เมิ่งเซ่าถาง…”
ลู่เฉินอธิบายสั้นๆ ถึงตัวตนของอีกฝ่ายให้เธอฟัง พร้อมบอกแผนการของเขาด้วย
เฉินเฟยเอ๋อร์อมยิ้ม “ความคิดพิเรนทร์ของนายนี่มากมายเหลือเกินนะ!”
เธอถามขึ้นอีกครั้ง “แล้วนายจะให้สถานีโทรทัศน์ไหนทำรายการนี้ล่ะ สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง หรือสถานีโทรทัศน์เจ้อตง”
ลู่เฉินแสร้งทำเป็นไม่พอใจ “เป็นสถานีซีซีทีวีไม่ได้เหรอ”
เฉินเฟยเอ๋อร์หัวเราะแกนๆ “นายคิดว่าสถานีซีซีทีวีเป็นของครอบครัวนายหรือไง”
ลู่เฉินลูบคางของเขาไปมา “มีเหตุผล…”
แม้ว่าทั้งคู่จะหยอกล้อกัน แต่เรื่องนี้ก็มีโอกาสทำได้จริงๆ เพราะเฉินเฟยมีเดียหรือลู่เฉินได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีผ่านรายการคัดเลือกคนมีความสามารถอย่าง ‘ชุมนุมยอดมือปราบ’
ตราบใดที่เขายินดีที่จะใช้เส้นสายนี้ เชื่อว่าจะไม่มีอุปสรรคใหญ่โตในสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีช่องสอง
แต่เรื่องนี้กลับไม่ใช่เรื่องสำคัญ ในสายตาของลู่เฉินนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร ภาคกระบี่จากเทือกเขาฮว่าซาน’ จะเข้าฉายอย่างเป็นทางการในวันชาติจีน
แม้การฉายรอบปฐมทัศน์ในค่ำคืนนี้จะมีกระแสวิจารณ์เชิงบวก แต่ท้ายที่สุดแล้วผู้ชมธรรมดาหลายร้อยล้านคนจะเป็นผู้ตัดสินชะตากรรมสุดท้าย นั่นคือผลของยอดจำหน่ายตั๋ว
ถ้ายอดจำหน่ายตั๋ว ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ไม่ดี เขาจะสนทนาพูดคุยกับเมิ่งเซ่าถางในรายการโทรทัศน์ไปเพื่ออะไร
พิธีฉายรอบปฐมทัศน์สิ้นสุดลงแล้ว แต่การเดินทางของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เพิ่งจะเริ่มต้น
วันมะรืนนี้ ก็เป็นวันที่ 1 ตุลาคมแล้ว
………………………………………………………………
[1]เสื้อกั๊ก นามแฝงหรือชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่ง