Perfect Superstar - ตอนที่ 861 เส้นหลินแห่งซงซาน
ตอนที่ 861 เส้นหลินแห่งซงซาน
วันที่ทีมงานของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ มาถึงเมืองเติงเฟิง ก็ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่จากเทศบาลในพื้นที่
ตอนเย็นมีงานเลี้ยงต้อนรับที่ถูกจัดขึ้นเป็นพิเศษโดยสำนักงานการท่องเที่ยว ผู้นำระดับสูงของเทศบาลเมืองเติงเฟิงและหัวหน้าจากหลายหน่วยงานที่สำคัญก็มาร่วมงานนี้ด้วย เรียกได้ว่ามีมาตรฐานการต้อนรับที่สูงเป็นอย่างมาก
เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าเหล่านี้ไม่ได้มาเพื่อติดตามดารา สิ่งที่พวกเขากำลังไล่ตามนั้นแท้จริงแล้วคือเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่งที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่ได้ต่างหาก!
‘กระบี่จากเทือกเขาฮว่าซาน’ ที่เป็นภาคแรกของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ออกฉายและได้รายได้จากการจำหน่ายตั๋วเป็นพันล้านในหนึ่งเดือน ทำให้กระแสกำลังภายในกลายเป็นที่นิยมภายในประเทศจีน ลู่เฉินและเฉินเฟยมีเดียนับว่าเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรง แต่ก็ยังมีผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้รับส่วนแบ่งก้อนโตมาด้วยเช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่นหนิงซาน โรงถ่ายหนิงซานได้ถูกผลักดันให้มีชื่อเสียงในคราวเดียวด้วยกระแสของ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ พร้อมด้วยการร่วมลงทุนของเฉินเฟยมีเดียที่ทำให้โครงการการท่องเที่ยวที่กำลังหมิ่นเหม่ในตอนแรกได้เปล่งประกายเรืองรองไปด้วยความมีชีวิตชีวาและพละกำลังแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แฟนหนังจากทั่วประเทศมาเพื่อชื่นชมที่นี่ รายได้จากการขายบัตรเข้าชมจึงพุ่งสูงขึ้นหลายสิบเท่า และยังเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวในท้องถิ่นเป็นอย่างมากอีกด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีฮว่าซานอีกด้วย เมื่อเทียบกับจุดชมวิวของหนิงซาน จุดชมวิวของฮว่าซานเดิมทีก็มีชื่อเสียงมากอยู่แล้ว จึงแน่นอนว่าอิทธิพลเชิงบวกที่มาจาก ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ นั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่ากับหนิงซาน แต่ก็ยังมากพอที่จะทำให้สำนักงานการท่องเที่ยวในท้องถิ่นมีความสุขกันถ้วนหน้าอยู่ดี
ในปัจจุบัน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร ภาคกระบี่จากเทือกเขาฮว่าซาน’ ได้เริ่มออกฉายอย่างต่อเนื่องในประเทศต่างๆ ทางฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว จึงยิ่งมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นไปอีก
การที่ภาพยนตร์ชื่อดังเรื่องหนึ่งได้ขับเคลื่อนธุรกิจการท่องเที่ยวของสถานที่หนึ่งนั้นก็ไม่ได้เป็นเพียงตำนานเรื่องเล่าอะไร แต่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นกรณีตัวอย่างที่มีประสิทธิภาพมากในการทำธุรกิจ จึงสมเหตุสมผลแล้วที่เมืองเติงเฟิงจะกระตือรือร้นกับการมาถึงของทีมงาน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เป็นอย่างมาก
เมืองเติงเฟิงเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ราชวงศ์เซี่ยได้สร้างเมืองหลวงที่เมืองเติงเฟิง หรือที่เรียกกันว่าเมืองอวี่ตูหยาง เนื่องจากตั้งอยู่ที่เชิงเขาตอนใต้ของซงซานจงเยวี่ย ดังนั้นการท่องเที่ยวจึงเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญของเมืองเติงเฟิงมาโดยตลอด
ถึงแม้บนภูเขาจะมีวัดโบราณที่มีชื่อเสียงอยู่ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้การพัฒนาของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในเมืองเติงเฟิงกลับเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นนัก ซงซานไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเท่าไท่ซาน ฮว่าซาน หรือหวงซาน ยังคงขาดแคลนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่นมากเพียงพอ เศรษฐกิจการท่องเที่ยวจึงเติบโตได้ช้ามาก
ตั้งแต่ที่ได้เข้าสู่ศตวรรษใหม่ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศก็เกิดการพัฒนาขึ้นอย่างทวีคูณภายในระยะเวลาอันสั้น จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุด สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมักจะเต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่านคึกคัก แออัดจนแทบจะไม่มีที่เดิน สร้างผลประโยชน์มากมายให้แก่เศรษฐกิจในพื้นที่
แต่วงการการท่องเที่ยวอันแสนหอมหวานนี้กว้างใหญ่มากเกินไป มีสถานที่อยู่อีกมากมายที่อยากจะลิ้มลองความสำเร็จอันหวานล้ำนี้สักครั้ง ดังนั้นจึงมีการแข่งขันที่ดุเดือดเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้นักท่องเที่ยวไม่เพียงแค่ต้องการไปเที่ยวอย่างสนุกสนานเท่านั้น แต่ยังต้องการไปที่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่โดดเด่นอีกด้วย
ในเรื่องนี้ ความสามารถในการแข่งขันของเมืองเติงเฟิงนั้นยังไม่แข็งแกร่งมากพอ ทางเทศบาลก็ได้พยายามสร้างเศรษฐกิจการท่องเที่ยวขึ้นมาใหม่หลายครั้งแล้ว แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่เป็นที่น่าพอใจเลยสักครั้ง
ดังนั้นเมื่อเฉินเฟยมีเดียได้เริ่มติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเมืองเติงเฟิงเข้ามา เพื่อทำเรื่องขอใช้สถานที่ท่องเที่ยวของซงซานในการถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ในตอนนั้นหน่วยงานท้องถิ่นรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และรีบรายงานกับเทศบาลเมืองในทันที
ผู้นำของเทศบาลเป็นผู้ตัดสินใจโดยตรง ให้ความร่วมมือแก่ทีมงานอย่างเต็มที่ แถมยังมาเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับด้วยตนเองอีกด้วย
“คุณลู่เฉิน คุณเฉินเฟยเอ๋อร์…”
นายกเทศมนตรีเมืองเติงเฟิงแซ่หลู่คนนี้เป็นชายวัยกลางคนที่มีท่าทางสง่างาม ให้อารมณ์ของความภูมิฐานที่ไม่เป็นทางการมากนัก เขาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมเป็นตัวแทนในนามของประชาชนห้าแสนคนในเมืองเติงเฟิง ยินดีต้อนรับพวกคุณที่มาที่นี่ และหวังว่าทีมงานจะถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ได้อย่างราบรื่นในเมืองเติงเฟิง และเผยแพร่ทิวทัศน์ของซงซานให้คนทั้งประเทศได้เห็นครับ!”
ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ยืนขึ้นเพื่อชนแก้วกับเขา ลู่เฉินยิ้มและกล่าวว่า “ขอบคุณครับนายกเทศมนตรีหลู่ พวกเราจะตั้งใจทำงานกันอย่างหนักแน่นอนครับ!”
ถึงแม้จะบอกว่าเมืองเติงเฟิงนั้นร้องขอต่อทีมงาน ได้แสดงออกถึงถึงความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก แต่ลู่เฉินกลับไม่มีความคิดที่จะหยิ่งผยองถือตัวเลย เพราะว่าการให้ความร่วมมือกันอย่างเป็นมิตรนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย
การที่ทีมงานมาถ่ายทำ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ที่ซงซานนั้น แน่นอนว่าจะทำให้เติงเฟิงได้รับผลประโยชน์มากมาย การให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันของเทศบาลท้องถิ่นก็สามารถช่วยทีมงานลดปัญหายุ่งยากนับไม่ถ้วนได้ด้วยเช่นกัน แถมยังประหยัดต้นทุนได้อีกเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปกครองเมืองเติงเฟิงท่านนี้ ลู่เฉินยังคงรักษาไว้ซึ่งความเคารพและนับถืออย่างเต็มที่ นี่ยังเป็นการทำให้บรรยากาศของห้องจัดเลี้ยงมีความกลมกลืนและเป็นกันเองเป็นพิเศษ
นายกเทศมนตรีหลู่ดื่มอวยพรหมดแก้วก่อนจะกล่าวว่า “ทางฝั่งเทศบาลของพวกเราจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทีมงานของพวกคุณ หากพวกคุณต้องการอะไรก็ขอเพียงแค่บอกมา ตราบใดที่พวกเรามีความสามารถพอที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ จะไม่มีการล่าช้าและทำอย่างขอไปทีอย่างแน่นอน”
สิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ใช่คำพูดตามมารยาท แต่เป็นการให้คำมั่นสัญญาอย่างจริงจังมั่นคง
ลู่ฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดออกมาว่า “อันที่จริงก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ต้องการการสนับสนุนจากคุณครับ”
นายกเทศมนตรีหลู่อึ้งไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขายิ้มออกมาและพูดว่า “ได้สิ พวกเรามานั่งคุยกันเถอะครับ”
หลังจากนั่งลงไปใหม่อีกครั้ง ลู่เฉินไตร่ตรองประโยคต่อไปแล้วจึงพูดออกมาว่า “นายกเทศมนตรีหลู่ครับ ทีมงานของพวกเรามาถ่ายทำที่เติงเฟิงในครั้งนี้มีฉากถ่ายทำหลักๆ อยู่สามจุด และหนึ่งในนั้นก็คือวัดเส้าหลิน”
นายกเทศมนตรีหลู่พยักหน้า “อืม ผมรู้จักวัดเส้าหลิน นับว่าเป็นวัดโบราณที่มีประวัติศาสตร์ แล้วมีปัญหาอะไรหรือ”
ปัญหาใหญ่เลยละ!
ในโลกแห่งความฝันของลู่เฉิน มีวัดอยู่นับพันแห่งในโลก และวัดเส้าหลินก็เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ถึงขั้นเป็นที่รู้จักกันดีของทุกคน นอกจากนี้ก็ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของเติงเฟิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดอีกด้วย แม้กระทั่งตัวซงซานเองก็ยังถูกบดบังไปด้วยเลย
แต่ในความเป็นจริง ชื่อเสียงของวัดเส้าหลินนั้นไม่ได้โด่งดังเลยสักนิด ในบรรดาจุดชมวิวของซงซานก็นับว่าเป็นวัดที่พอจะมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งเท่านั้น หากจะให้จัดไว้ในขอบเขตของสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศนั้น แม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวระดับสองหรือสามก็ยังเป็นไม่ได้ด้วยซ้ำไป
ก่อนมาที่เติงเฟิง ลู่เฉิงสั่งคนไปที่วัดเส้าหลินเป็นพิเศษเพื่อถ่ายรูปและวิดีโอกลับมามากมาย ผลที่ได้คือวัดขนาดใหญ่แห่งนี้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกในโลกแห่งความฝัน มีสภาพที่ค่อนข้างเก่าและทรุดโทรมอยู่เล็กน้อย ทั้งยังขาดการซ่อมแซมและการปรับปรุงที่เหมาะสม
ซึ่งนี่มันไม่สอดคล้องกับสถานะของวัดเส้าหลินในนิยายเรื่อง ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เลย อย่างน้อยที่สุดก็ควรมีหน้าประตูที่เหมาะสมสักหน่อย แต่ในความเป็นจริงคือหน้าประตูของวัดเส้าหลินนั้นธรรมดาเป็นอย่างมาก ไม่ได้มีความแตกต่างกับวัดทั่วไปมากนัก
สถานะของวัดเส้าหลินในเติงเฟิง ฟังจากคำพูดของนายกเทศมนตรีหลู่ก็สามารถเข้าใจได้แล้ว
ลู่เฉินอธิบายปัญหาของการจัดฉากในการถ่ายทำอย่างสั้นๆ เข้าใจง่าย และนายกเทศมนตรีหลู่ก็ตระหนักได้ในทันที “แบบนี้นี่เอง อย่างนั้นก็เปลี่ยนไปใช้วัดอื่นดีไหม อย่างเช่นวัดซงซานก็ไม่เลวเลยนะ อย่างมากก็แค่เปลี่ยนป้ายชื่อวัดเท่านั้นเอง”
วัดซงซานเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในซงซาน มีเจดีย์วัดซงซานที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นของหน่วยงานคุ้มครองวัฒนธรรมแห่งชาติ ทุกๆ ปีเทศบาลท้องถิ่นจะจัดสรรเงินจำนวนมากสำหรับการบำรุงรักษาและซ่อมแซม ไม่ว่าจะในด้านไหนล้วนแข็งแกร่งกว่าวัดเส้าหลินทั้งสิ้น
ลู่เฉินเองก็รู้จักวัดซงซาน เขาพูดอย่างยิ้มๆ ว่า “วัดซงซานก็เป็นส่วนหนึ่งของฉากได้เหมือนกัน แต่ผมก็ยังหวังว่าจะมีฉากที่ได้ถ่ายทำในวัดเส้าหลินมากกว่านี้…”
หยุดไปสักพัก ลู่เฉินก็พูดต่อว่า “เฉินเฟยมีเดียยินดีที่จะบริจาคเงิน 30 ล้านหยวนให้กับวัดเส้าหลิน เพื่อใช้สำหรับการซ่อมแซมและปรับปรุงวัด หวังเพียงแค่ว่าทางเทศบาลจะสามารถให้การสนับสนุนได้ และดำเนินการงานนี้ให้เสร็จสิ้นอย่างเร็วที่สุดโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการให้ความร่วมมือกับความต้องการในการถ่ายทำของพวกเรา”
บริจาคเงิน 30 ล้านหยวนให้กับวัดเส้าหลินเพื่อนำไปใช้ซ่อมแซมและปรับปรุง เพียงเพื่อความต้องการในการถ่ายทำเท่านั้นน่ะหรือ
ข้อเสนอของลู่เฉินทำให้นายกเทศมนตรีหลู่รวมถึงเหล่าเจ้าหน้าที่ทั้งหมดรู้สึกประหลาดใจ ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ
…………………………………………………………………………