Perfect Superstar - ตอนที่ 871 เข้าใจผิด
ตอนที่ 871 เข้าใจผิด
ทันทีที่ลู่เฉินตื่น เขาได้กลิ่นของอาหารทันที
เขาพลิกตัวนั่งบนโซฟา ขยี้ตาที่กำลังง่วงนอน และเห็นว่าแม่ของเขาเพิ่งจะยกจานอาหารออกจากครัว ไอร้อนลอยขึ้นจากจานโขมง
ลู่เฉินถามด้วยความประหลาดใจ “แม่ ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ”
เขาหลับสบายมาก รู้สึกเหมือนหลับไปนานมาก แต่ไฟในห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ และมันก็ยังเป็นช่วงกลางคืนอยู่เลย
“ลูกตื่นแล้วเหรอ…”
ฟางอวิ๋นยิ้มและพูดว่า “แม่ไปซื้อผักที่ซูเปอร์มาร์เก็ตมา คิดว่าลูกคงยังไม่ได้กินข้าวเย็นแน่ ตื่นมาแล้วคงจะหิวมาก ตอนนี้ตื่นมาก็ดีแล้ว”
ลู่เฉินล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาดู ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว ดูเหมือนจะนอนไปสามชั่วโมงกว่า เขาอดรู้สึกอบอุ่นในใจไม่ได้
“ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ…”
เขารีบวิ่งไปที่ห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จออกมา จานชาม ตะเกียบบนโต๊ะก็ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว อาหารที่ทำก่อนหน้านี้ก็อุ่นใหม่เรียบร้อยแล้ว
ลู่เฉินไม่เกรงใจแล้ว เขาหยิบชามกับตะเกียบขึ้นมาแล้วขยับแก้มเคี้ยวทันที
ยังคงเป็นรสชาติเดิมที่แสนคุ้นเคย
แม้จะพูดไม่ได้ว่าอาหารที่แม่ปรุงให้อร่อยที่สุดในโลก แต่รสชาติที่เป็นของที่บ้านนี้ กลับหากินข้างนอกบ้านไม่ได้เลย
อาหารค่ำที่ดึกมากมื้อนี้ ลู่เฉินกินข้าวสวยไปถึงสามถ้วย และยังกินกับข้าวจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือ
“ลูกอย่ากินอิ่มเกินไปนะ…”
ฟางอวิ๋นเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ เธอถามว่า “อาหารในกองถ่ายแย่ขนาดนั้นเลยหรือลูก”
เมื่อเห็นท่าทางที่กินอย่างมูมมามของลู่เฉิน ที่ดูเหมือนไม่ได้กินอะไรมาสามวันสามคืนแล้ว แม่อย่างเธอก็ต้องเป็นห่วงใยมาก
“เอิ๊ก…”
ลู่เฉินเรอไปหนึ่งที เขาลูบไปยังหน้าท้องที่พองตัวขึ้นมา “ก็ไม่หรอกครับ เป็นเพราะแม่ทำอร่อยมากกว่า”
“ปากหวานกว่าร้องเพลงอีกนะเราน่ะ”
ฟางอวิ๋นยกยิ้มจนตาหยี เธอพูดว่า “เอาแต่พูดยอแม่ อ่อ ใช่สิ งานสถาปนาโรงเรียนวันที่ 29 ใช่ไหม”
งานสถาปนาโรงเรียนมัธยมปินไห่นี้ เพื่อเป็นการรับประกันว่าลู่เฉินจะมาเข้าร่วม ครูใหญ่ถึงกับพยายามอย่างมากทีเดียว ไม่เพียงแค่ให้อาจารย์ที่ปรึกษาของเขาโทรหาเขา ยังเชิญฟางอวิ๋นอีกด้วย
ฟางอวิ๋นนั้นรู้จักครูใหญ่โอวของโรงเรียนมัธยมปินไห่ ดังนั้นจึงต้องให้เกียรติเขา
ลู่เฉินพยักหน้า ก่อนจะพูดว่า “วันที่ 29 เข้าร่วมงานสถาปนาโรงเรียน วันที่ 30 ผมจะไปหังโจวครับ แม่ครับ พรุ่งนี้แม่ลางานหนึ่งวันสิ ผมจะพาแม่ไปซื้อเสื้อผ้าสักสองสามชุด”
“เสื้อผ้าหรือจ๊ะ”
ฟางอวิ๋นตกใจ “แม่มีเสื้อผ้าเยอะแล้ว ดังนั้นลูกไม่จำเป็นต้องซื้อเลย แต่ถ้าลูกต้องการซื้อ แม่ก็จะไปกับลูก”
ลู่เฉินจนใจ “แม่ให้ผมได้ทำตัวเป็นลูกกตัญญูหน่อยเถอะครับ ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่ต้องว่าผมอีกแน่”
แม้ว่าเธอเคยถูกมองว่าเป็นครอบครัวที่มั่งคั่ง แต่ตั้งแต่การล่มสลายของตระกูลลู่ ฟางอวิ๋นก็ประหยัดมากเพื่อที่จะชำระหนี้ก้อนโตที่ครอบครัวของเธอเป็นหนี้อยู่ เธอมักจะสลับสวมเสื้อผ้าเพียงแค่สองสามชิ้นตลอดทั้งปี
ตอนนี้แน่นอนว่าไม่ขาดเงิน แต่นิสัยประหยัดของฟางอวิ๋นยังคงเดิม ซื้อเสื้อผ้าอะไรก็ซื้อแต่สินค้าราคาถูก แม้ว่าลู่เฉินและลู่ซีจะพูดหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็ไม่เปลี่ยนไปเลย ยังคงยืนกรานไม่ให้ลูกทั้งสองซื้อของแบรนด์เนมให้ตนเอง ให้ทั้งสองประหยัดเงินไว้ใช้ในหน้าที่การงานเถอะ
ที่จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นลู่เฉินหรือว่าลู่ซี ไม่ได้สิ้นไร้เรื่องเงินทองเลย!
ดังนั้นการกลับบ้านในครั้งนี้ ลู่เฉินตัดสินใจว่าจะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้แม่ของเขา อย่างน้อยก็ต้องใส่ให้เต็มตู้
ฟางอวิ๋นกลอกตาบนใส่เขา “ลูกกลัวแม่จะทำให้ลูกขายหน้าเหรอ”
ลู่เฉินยิ้มเขินๆ “ไม่ใช่…”
ฟางอวิ๋นไล่เขาไป “ไปๆ รีบขึ้นไปพักข้างบน เดี๋ยวแม่เก็บตรงนี้เอง เรื่องพรุ่งนี้พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
ลู่เฉินยิ้มเหอๆ ก่อนจะขึ้นไปพักข้างบน
วันถัดมาฟางอวิ๋นไม่ได้ลาหยุด เพราะที่ทำงานยังมีงานอีกไม่น้อยที่ต้องทำให้เสร็จ ตามคำพูดของเธอก็คือ งานที่วันนี้ต้องทำให้เสร็จไม่มีเหตุผลที่ต้องลากไปทำต่อพรุ่งนี้ เพื่อทำให้คนอื่นต้องลำบาก
แต่เธอก็ตื่นแต่เช้าไปซื้ออาหารสดใหม่มากองใหญ่ กลางวันนี้ตั้งใจจะกลับมาทำอาหารให้ลู่เฉิน เดิมทียังวางแผนจะกินอาหารเย็นที่บ้านด้วย แต่ลู่เฉินยืนยันว่าจะไปกินอาหารเย็นที่ห้างวั่นหาวซิตี้ในเมืองปินไห่ และถือโอกาสนี้ไปชอปปิงด้วย
ห้างวั่นหาวซิตี้เพิ่งเริ่มเปิดตัวที่เมืองปินไห่ ถือว่าเป็นศูนย์การค้าเชิงพาณิชย์และวัฒนธรรมขนาดใหญ่ที่สุดและมีระดับสูงที่สุดในปินไห่ ซึ่งรวมการรับประทานอาหาร การดื่ม และความบันเทิงเข้าด้วยกัน ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้รวบรวมแบรนด์ต่างประเทศเอาไว้จำนวนมาก
ห้างวั่นหาวซิตี้เป็นแบรนด์ที่สำคัญที่สุดของวั่นหาวกรุ๊ป บริษัทผลิตภาพยนตร์วั่นหาวที่มีการแข่งขันโดยตรงกับเฉินเฟยมีเดีย เป็นบริษัทลูกของวั่นหาวกรุ๊ปนี่เอง
ลู่เฉินพาแม่ของเขาไปซื้อของที่ห้างวั่นหาวซิตี้ แน่นอนว่าจะไม่ถือเป็นการเอาเงินไปให้กับศัตรูแน่
ห้างวั่นหาวซิตี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจัตุรัสประชาชนที่รุ่งเรืองที่สุดในเมืองปินไห่ ที่แห่งนี้เคยเป็นโรงงานของรัฐขนาดใหญ่ในเมืองปินไห่ หลังจากการรื้อถอน ที่ดินแห่งนี้ได้สร้างสถิติราคาขายที่ดินเชิงพาณิชย์ของเมืองปินไห่ขึ้นใหม่เลยทีเดียว และก็ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์โดยรอบราคาเพิ่มขึ้นมากโข
พูดถึงเรื่องนี้ เวลาที่ลู่เฉินอาศัยอยู่ในปินไห่นั้นน้อยลงเรื่อยๆ ตั้งแต่เขาเข้ามหาวิทยาลัย ตอนเรียนมหาวิทยาลัยยังมีปิดเทอมภาคฤดูร้อนและปิดเทอมภาคฤดูหนาว หลังจากที่เขาไปทำงานที่ปักกิ่งแล้วเข้าสู่วงการบันเทิง ในหนึ่งปีจำนวนครั้งที่กลับมาปินไห่นั้นแทบจะนับนิ้วมือได้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หน้าตาของเมืองปินไห่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ตัวอย่างเช่น อาคารหลายแห่งรอบ ๆ จัตุรัสประชาชนได้ถูกรื้อถอนและสร้างใหม่ อาคารสูงระฟ้าสมัยใหม่เรียงรายกันเป็นแถว ไฟยามค่ำคืนของอาคารและป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เสริมกัน ทำให้ลู่เฉินรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเมืองที่ให้กำเนิดเขาแห่งนี้นิดหนึ่ง
หลังจากรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารในห้างวั่นหาวซิตี้ ลู่เฉินก็พาแม่ของเขาไปชอปปิงในห้างสรรพสินค้า
วันนี้เขาสวมชุดลำลองและแว่นกันแดดขนาดใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก แต่รูปร่างที่สูงใหญ่และใบหน้าที่คมชัดของเขาไม่สามารถปกปิดได้ ยังคงดูหล่อเหลาเอามากๆ
เมื่อสังเกตเห็นสายตาประหลาดที่คนอื่นมองมาเรื่อยๆ ฟางอวิ๋นก็ควงแขนลู่เฉินแน่นขึ้นไปอีก
แม้ว่าเธอรู้ดีว่าหลายคนต้องเข้าใจผิดแน่ แต่เธอไม่สนใจ ในใจกลับรู้สึกลำพองใจ ลูกฉันหล่อน่ะสิ ต่อให้มีแว่นตาดำปิดบังใบหน้าก็ยังคงหล่อ อิจฉากันละสิ!
“เอ๊ะ ฟางอวิ๋นเหรอ”
และในตอนนี้เอง ด้านข้างจู่ๆ ก็มีเสียงร้องด้วยความประหลาดใจดังขึ้น “เธอก็มาซื้อของเหรอ”
ลู่เฉินและฟางอวิ๋นหันหน้ากลับมามอง เห็นเพียงในระยะห่างไปไม่กี่ก้าว มีหญิงวัยกลางคนที่ดูรวยคนหนึ่งกำลังถลึงตามองพวกเขาทั้งสองคน ข้างกายเธอยังมีชายอายุราวห้าสิบกว่าและเด็กวัยรุ่นอายุราวยี่สิบกว่าอยู่ด้วย ดูเหมือนจะเป็นครอบครัวที่มีสามคน
ฟางอวิ๋นหัวเราะก่อนจะตอบว่า “พี่จางหรือคะ บังเอิญจัง พวกคุณก็มาเดินซื้อของเหมือนกัน”
หญิงวัยกลางคนพยักหน้า ดวงตากวาดขึ้นลงบนร่างของลู่เฉิน “บังเอิญมาก คนนี้คือ?”
สายตาของนางประหลาดมาก
เมื่อตอนฟางอวิ๋นยังวัยรุ่นถือเป็นคนสวยคนหนึ่ง ตอนนี้แม้ว่าใกล้จะห้าสิบแล้ว เสน่ห์และบุคลิกยังคงโดดเด่นมาก หลังจากสามีเสียชีวิต มีคนในที่ทำงานพยายามจับคู่ให้เธอ
พี่จางก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ไม่ว่าใครจะมาเป็นแม่สื่อ ล้วนถูกฟางอวิ๋นปฏิเสธไปอย่างหนักแน่น
ตอนนี้เป็นฟางอวิ๋นควงแขนเด็กหนุ่มหล่อมาเดินห้าง พี่จางรู้สึกเหมือนจับชู้ได้ รู้สึกเหมือนค้นพบแผ่นดินใหม่อย่างนั้นเลย
ต้องบอกก่อนว่าฟางอวิ๋นในตอนนี้ ไม่ได้ตกระกำลำบากเหมือนหลายปีก่อนแล้ว ทุกคนล้วนทราบดีว่าเธอมีเงินเยอะมาก
…………………………………………………………………………