Perfect Superstar - ตอนที่ 215 ความรักในโลกมนุษย์
ตอนที่ 215 ความรักในโลกมนุษย์
บริษัทระดมทุน ลู่เฉินเป็นคนสร้างขึ้นมากับมือ เป็นธุรกิจที่มีต้นกำเนิดมาจากโลกแห่งความฝันของเขา
ตั้งแต่มีการก่อตั้งเว็บไซต์ขึ้น ลู่เฉินไม่เคยคิดจะลงมาดูแลและพัฒนาธุรกิจนี้เต็มตัว หลายวันก่อนเขาได้ขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับตระกูลหลี่แล้ว เปลี่ยนมายืนอยู่เบื้องหลังแทน
ตอนนี้บริษัทระดมทุนมู่เฉิน มีหลี่มู่ซือเป็นผู้กุมอำนาจสูงสุด ลู่เฉินซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเก็บผลกำไรไปนับสิบล้านและคงหุ้นไว้ 10% ใช้ชีวิตอย่างอิสระเสรีนับแต่นั้น ส่วนหลี่มู่ไป๋ยังคงต้องฝืนทนเป็นผู้จัดการฝ่ายธุรกิจต่อไป
เมื่อได้รับบางสิ่งก็ต้องสูญเสียบางอย่าง หลังจากขายหุ้นส่วนใหญ่ออกไปแล้ว ลู่เฉินเหลือเพียงแต่อำนาจในการให้คำแนะนำ ไม่อาจสั่งการให้เว็บไซต์ที่กำลังเจริญรุ่งเรืองนี้ให้บริการตัวเองเพียงคนเดียวได้อีก
ครั้งนี้ลู่เฉินอยากให้การระดมทุนเป็นไปเพื่อการรับบริจาคให้เมิ่งเมิ่ง แน่นอนว่าต้องขอความช่วยเหลือจากหลี่มู่ซือ เขาไม่กังวลเลยว่าฝ่ายหลังจะปฏิเสธคำร้องขอแบบนี้
แต่คิดไม่ถึงว่าหลี่มู่ซือจะรับปากอย่างง่ายดาย ทั้งยังทำเหมือนกับได้พบขุมทรัพย์อีกด้วย!
“ระดมทุนเพื่อการกุศล!”
ดวงตาของเธอวาววับ ถามลู่เฉินว่า “เรื่องดีๆ แบบนี้นายคิดออกมาได้ยังไงเนี่ย”
ลู่เฉินพูดไม่ออก
เขาเพียงแค่อยากช่วยเหลือเมิ่งเมิ่งอย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดว่าจะส่งผลกับเว็บไซต์ระดมทุนมากนัก
แต่ในมุมมองของหลี่มู่ซือ ลู่เฉินเข้าใจแล้ว
หลี่มู่ซืออยากอาศัยโครงการระดมทุนเพื่อการกุศลนี้ ช่วยเผยแพร่เว็บไซต์ระดมทุนออนไลน์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เพิ่มความนิยมและการบอกต่อ ทั้งยังได้ชื่อเสียงที่ดีงามอีกด้วย
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว แค่ค่าคอมมิชชันเล็กน้อยไม่กี่เปอร์เซ็นต์นับเป็นอะไร
ด้วยความหลักแหลมของเธอบวกกับอำนาจของตระกูลหลี่ คาดว่าน่าจะต้องหยิบยืมการสร้างกระแสในสื่อต่างๆ สักครั้ง
หรือพูดอย่างไม่เกรงใจก็คือ ขอเพียงลงมืออย่างเหมาะสม เว็บไซต์ระดมทุนก็อาจจะอาศัยโครงการแบบนี้ทะยานขึ้นไปติดลมบนได้ในครั้งเดียว!
เมื่อถึงเวลานั้นมูลค่าของบริษัทก็จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าอย่างไม่มีปัญหา
ลู่เฉินเพียงแค่อยากช่วยคน หลี่มู่ซือกลับอยากได้ผลประโยชน์ทางธุรกิจ
แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงความขัดแย้งสักเท่าไร
ลู่เฉินไม่ได้เป็นโรคคลั่งคุณธรรม ถ้าการสร้างกระแสปล่อยข่าวออกไปจะช่วยชีวิตคนคนหนึ่งได้ แล้วจะเป็นอะไรไปล่ะ
การช่วยเหลือผู้อื่น โดยมีผลประโยชน์ที่ได้มาอย่างชอบธรรมเป็นผลพลอยได้ ความจริงแล้วถ้าเทียบกับการช่วยเหลือโดยไม่ได้สิ่งใดตอบแทน…
ยิ่งน่าสนับสนุนมากกว่า!
หลี่มู่ซือราวกับรู้ความคิดของลู่เฉิน เธอพูดยิ้มๆ ว่า “อย่าหาว่าฉันเลือดเย็นเลยนะ โครงการระดมทุนเพื่อการกุศลครั้งนี้ ถ้าถึงตอนนั้นได้ยอดไม่ครบตามเป้า ส่วนที่เหลือฉันรับผิดชอบเอง!”
ลู่เฉินนับถือ “พี่มู่ซือฉลาดมาก!”
หลี่มู่ซือกลอกตา “ถ้าอย่างนั้นให้พี่สาวของนายมาช่วยฉันทำงาน…”
ลู่เฉินรีบตัดบททันที “เนื้อหาโครงการระดมทุนเพื่อการกุศลไว้ผมกลับไปค่อยส่งให้พี่ ไว้เจอกันครับ!”
พี่สาวคนนี้ยังไม่ล้มเลิกความคิดอีก!
ลู่เฉินรีบขอตัว
“ฮ่าๆๆๆ…”
หลี่มู่ซือมองดูเงาหลังไวๆ ของลู่เฉิน พลางหัวเราะชอบใจ
…
คืนนั้นตอนหนึ่งทุ่ม ลู่เฉินโพสต์บทความใหม่ลงในบล็อกส่วนตัว…’ลู่เฉิน FMX’
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาลงบล็อกหลังจากเหตุการณ์วีรบุรุษช่วยหญิงงามครั้งนั้น
แต่เนื้อหาในบล็อกครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการสาดน้ำกรดเลย
หัวข้อบล็อกตั้งว่า ‘ขอแค่ทุกคนช่วยบริจาคด้วยความรัก ก็จะทำให้โลกนี้สวยงามน่าอยู่ขึ้น!’
ในบล็อก ลู่เฉินเล่าเรื่องของเมิ่งเมิ่ง และขอให้ทุกคนช่วยกันบริจาคด้วยความรักความเมตตา
ด้วยเหตุนี้เขาจึงตั้งโครงการระดมทุนเพื่อการกุศลขึ้นโครงการหนึ่ง ตั้งเป้ายอดเงินบริจาคไว้ที่หนึ่งล้านหยวน บริจาคหนึ่งคะแนนคิดเป็นหนึ่งหยวน กำหนดระยะเวลารับบริจาคไว้ที่หนึ่งสัปดาห์
ลู่เฉินยังระบุอีกว่า ตอนนี้แฟนคลับในบล็อกของเขามีทั้งหมดเก้าล้านเจ็ดหมื่นคน ขอแค่แฟนคลับหนึ่งในสิบยอมสละเงินหนึ่งหยวน ก็เพียงพอที่จะช่วยชีวิตเมิ่งเมิ่งได้แล้ว!
นี่ไม่เหมือนกับการระดมทุนธรรมดา การระดมทุนเพื่อการกุศลไม่มีสิ่งตอบแทน เว็บไซต์ระดมทุนจะไม่เก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งยังจะแต่งตั้งคนไปตรวจสอบการใช้เงินบริจาค เพื่อให้ใช้เงินตามวัตถุประสงค์ ถึงตอนนั้นจะเปิดเผยบัญชีการใช้จ่ายเงินบริจาคต่อสาธารณชน
นอกจากนี้ลู่เฉินยังบอกว่า ถ้าถึงกำหนดแล้วยังไม่ได้รับเงินบริจาคตามเป้า เขาก็จะดูแลรับผิดชอบเงินส่วนที่เหลือเอง เพื่อให้เมิ่งเมิ่งได้รับการรักษา ต่อชีวิตของเธอให้ยาวนานขึ้น
ท่อนสุดท้ายของบล็อก ลู่เฉินได้ใส่รูปคู่ของตัวเองกับเมิ่งเมิ่งลงไปพร้อมกับที่อยู่เว็บไซต์ระดมทุนออนไลน์!
เนื่องจากเรื่องการสาดน้ำกรดส่งผลให้ความนิยมของลู่เฉินในเว็บบล็อกล่างฉาวมีแต่เพิ่มขึ้นไม่มีลดลง วันก่อนแค่บล็อกเนื้อหาทั่วไปที่เขาโพสต์ตอนอยู่เมืองหังโจวก็มียอดคอมเมนต์มากกว่าสองล้านข้อความแล้ว
ข้อความวิจารณ์มีแต่การชื่นชมและชมเชย
ชื่อเสียงและกิตติศัพท์อันดีงามของลู่เฉินในบล็อก เรียกได้ว่าดังระเบิด
จำนวนแฟนคลับที่ติดตามเขายิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก ห่างจากจำนวนสิบล้านคนไม่มากแล้ว
ดังนั้นเมื่อเขาลงเนื้อหาใหม่นี้ในบล็อก ก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามทันที
คนในวงการบันเทิงคนอื่น ที่เห็นเนื้อหาในบล็อกของลู่เฉิน ต่างช่วยกันแชร์เผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว
หนึ่งในนั้นมีซูเปอร์สตาร์ในวงการอย่างถานหงและเฉินเฟยเอ๋อร์รวมอยู่ด้วย ตอนที่เฉินเฟยเอ๋อร์แชร์บล็อกได้เพิ่มรูปภาพหลักฐานการบริจาคและข้อความที่เขียนว่า ‘เมิ่งเมิ่งสู้ๆ!’ ลงไปด้วย
จำนวนที่เธอบริจาคคือห้าหมื่นคะแนน หรือก็คือเงินห้าหมื่นหยวน
เงินก้อนนี้สำหรับเธอแล้วน้อยนัก ด้วยความสามารถของเธอ อย่าว่าแต่หนึ่งล้านเลย ต่อให้สิบล้านเธอก็นำออกมาได้อย่างง่ายดาย
แต่ปกติแล้วดาราส่วนใหญ่จะไม่แบกรับเรื่องราวเช่นนี้เอาไว้คนเดียว เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นการจงใจสร้างกระแส
เหตุผลนั้นธรรมดามาก เพราะการช่วยเหลือคนคนหนึ่งอาจจะนำมาซึ่งการร้องขอความช่วยเหลือจากคนจำนวนมาก จริงเท็จประการใดนั้นตรวจสอบยาก อาจจะเกิดความยุ่งยากตามมาไม่สิ้นสุด หรืออาจถึงขั้นเสียชื่อเสียงเลยก็เป็นได้
ฟังแล้วไม่น่าเชื่อ แต่ความจริงเป็นเช่นนี้ ทั้งยังมีบทเรียนมาก่อนแล้ว
ดังนั้นในฐานะบุคคลสาธารณะ การมอบความช่วยเหลือต้องระมัดระวังตัวมาก หากประสบเหตุหายนะ เช่น แผ่นดินไหว จะบริจาคมากหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่สำหรับการบริจาคให้คนคนหนึ่ง จำเป็นต้องอยู่ในระดับที่พอดี
นอกเสียจากเป็นการบริจาคที่ไม่ระบุนาม ไม่อย่างนั้นแค่ส่งใจไปก็พอแล้ว
จุดนี้ศิลปินในวงการบันเทิงล้วนเข้าใจดี หรือหากไม่เข้าใจก็จะมีคนสอน
สาเหตุที่ลู่เฉินใช้การระดมทุนการกุศลเพื่อช่วยเมิ่งเมิ่ง ส่วนหนึ่งเพราะเงินทุนของเขาไม่เพียงพอ อีกส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นไปตามสามัญสำนึกเช่นนี้นี่แหละ
เฉินเฟยเอ๋อร์บริจาคห้าหมื่น ก็เป็นเพราะเหตุนี้เหมือนกัน
ถานหงบริจาคห้าหมื่น ถือว่าเห็นแก่หน้ามากแล้ว
ที่น่าสนใจคือ เถียนเถียน พิธีกรสาวชื่อดังแห่งสถานีโทรทัศน์เจ้อตงก็บริจาคสามหมื่นหยวน
ยังมีนักร้องสาววงเอ็มเอสเอ็นแห่งบริษัทเฟยสือเรคคอร์ดที่ร่วมบริจาคสองหมื่นหยวน
กิจกรรมจำพวกการบริจาคเงินด้วยใจเมตตาเช่นนี้ ในวงการมีกฎเกณฑ์ซ่อนอยู่ นั่นก็คือใช้ระดับในวงการบันเทิงเป็นตัวกำหนดยอดเงินบริจาค ยิ่งเป็นดาราศิลปินที่มีระดับในวงการสูง ยิ่งต้องบริจาคเงินมาก
ถ้าระดับในวงการไม่สูงพอ จำนวนเงินบริจาคก็ไม่ควรสูงเกินกว่าที่ดาราศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์บริจาค เพราะนั่นถือเป็นการไม่ให้เกียรติ
แบบนี้ก็เท่ากับว่าคนในวงการบันเทิง ทั้งที่เป็นเพื่อนกับลู่เฉินหรือแม้แต่คนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับลู่เฉิน ได้บริจาคเงินช่วยเหลือมากกว่าห้าแสนหยวน เกินครึ่งของเป้าที่ตั้งไว้แล้ว!
ที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อคนโด่งดังมีชื่อเสียงเหล่านี้ช่วยแชร์ต่อ โครงการระดมทุนเพื่อการกุศลนี้ก็ยิ่งเป็นที่สนใจของคนจำนวนมาก ทำให้บังเกิดผลตามมา
นั่นก็คือจำนวนบัญชีผู้ใช้ของเว็บไซต์ระดมทุนออนไลน์พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายในไม่กี่ชั่วโมงก็สูงเกินกว่ายอดรวมในช่วงแรกแล้ว!
แต่นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
ตั้งแต่หนึ่งทุ่มที่ลู่เฉินลงเนื้อหาในบล็อกจนถึงเที่ยงคืน ภายในเวลาสั้นๆ แค่ห้าชั่วโมง โครงการระดมทุนเพื่อการกุศลนี้ได้รับการสนับสนุนจนยอดสูงกว่าหนึ่งล้านแล้ว
จากเดิมที่ตั้งระยะเวลาไว้เจ็ดวัน แค่ไม่ถึงครึ่งวันก็บรรลุเป้าหมายแล้ว!
ทั้งในบล็อกทางการของทีมแฟนคลับลู่เฉิน ในโพสต์ ในฟอรัม ในกลุ่มแช็ตของแฟนคลับต่างวิจารณ์กันอย่างร้อนแรง
จิตใจของคนเหมือนคลื่นน้ำ ถูกความรักกระตุ้นให้เคลื่อนไหว!
“เมิ่งเมิ่งก็คือเมิ่งเมิ่งนี่เอง ฉันเคยอ่านบทความของเธอ อย่างนี้ต้องบริจาค!”
“น้องเมิ่งเมิ่งเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ทุกคนช่วยไปบริจาคในเว็บไซต์ระดมทุนออนไลน์กันหน่อย คนละหนึ่งหยวนก็พอ!”
“ฉันบริจาคให้สิบคะแนนแล้ว เงินค่าอาหารเช้าของวันพรุ่งนี้”
“คนข้างบนกินอาหารมื้อเช้าตั้งสิบหยวนเลยเหรอ ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว ฉันบริจาคให้ยี่สิบหยวน ค่าอาหารทั้งวัน!”
“ตอนแรกอยากเปลี่ยนมือถือใหม่ ใช้เครื่องเก่าไปก่อนแล้วกัน ช่วยคนสำคัญกว่า”
“ลู่เฉินพูดได้ดีมาก แค่มอบความรักความเมตตา โลกนี้ก็จะสวยงามน่าอยู่!”
“ฉันให้ร้อยคะแนน น้องเมิ่งเมิ่งสู้ๆ!”
“ห้าสิบคะแนน!”
จำนวนคนต่อคิวเข้ามาบริจาคมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงกับทำให้เว็บไซต์ระดมทุนออนไลน์ที่เพิ่งอัปเกรดไปเริ่มเกิดปัญหาติดขัดเป็นช่วงๆ…เพราะยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้นกว่าปกติหลายร้อยเท่า!
สภาพการณ์แบบนี้ ทำให้ลู่เฉินผู้เป็นตัวต้นเรื่องได้แต่ตะลึงตาค้าง
เขาดูถูกอิทธิพลของตัวเองมากเกินไป และก็ดูแคลนจำนวนคนที่มีความเมตตามากเกินไป…โลกใบนี้ยังมีคนดีอยู่อีกมาก
ลู่เฉินจำเป็นต้องติดต่อหลี่มู่ซือ เพื่อเปลี่ยนแผนการใหม่
เมื่อยอดบริจาคสูงกว่าหนึ่งล้านสองแสนแล้ว เว็บไซต์ระดมทุนออนไลน์ออกประกาศว่าจะถอนเงินบริจาคส่วนหนึ่งออกไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลของเมิ่งเมิ่งก่อน ช่วยให้เธอได้ทำการผ่าตัดให้เร็วที่สุด
โรคของเมิ่งเมิ่งยิ่งรักษาได้เร็วเท่าไร การฟื้นตัวหลังผ่าตัดก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น ไม่ควรรอช้า
ส่วนระยะเวลาของโครงการระดมทุนยังไม่เปลี่ยนแปลง เงินส่วนเกินจากค่ารักษา จะบริจาคให้โรงพยาบาลประชาชนแห่งที่หนึ่งของเมืองหนิงย่วน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวคนอื่นต่อไป!
คืนนั้นตอน 00.45 น. ลู่เฉินได้ลงบล็อกอีกครั้ง
ในเนื้อหาใหม่นี้ลู่เฉินได้ขอบคุณเพื่อนร่วมวงการและคนนอกวงการทุกคน ที่สนับสนุนโครงการระดมทุนเพื่อการกุศล ขณะเดียวกันก็แนบไฟล์เสียงไฟล์หนึ่ง เนื้อหาของไฟล์เป็นเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อกิจกรรมส่งต่อความรักความเมตตาครั้งนี้
มีชื่อเพลงว่า ‘มอบความรัก’
“นี่เป็นเสียงเรียกของหัวใจ
นี่คือการมอบความรัก!
นี่คือความสดใสของโลกมนุษย์
นี่คือจุดกำเนิดของชีวิต
ไม่มีอีกแล้วความแห้งแล้งในใจ
ไม่มีอีกแล้วดินแดนที่รกร้างไร้รัก
ยมทูตเฝ้ามองแต่ไม่เข้าใกล้
โชคดีที่ดอกไม้ยังเบ่งบาน
อา~
ขอเพียงทุกคนมอบความรักคนละหน่อย
โลกทั้งใบก็จะสวยงาม
อา~
ขอเพียงทุกคนมอบความรักคนละหน่อย
โลกใบนี้ก็จะสวยงาม
อา~
ขอเพียงทุกคนมอบความรักคนละหน่อย
โลกใบนี้ก็จะสวยงาม
…”
เพลงนี้ลู่เฉินเล่นเปียโน ไม่มีการเรียบเรียงเสียงประสาน ไม่มีเครื่องดนตรีอื่นเล่นคลอ ส่วนคนร้องคือเฉินเฟยเอ๋อร์ แต่ไม่ได้บันทึกเสียงในห้องอัดแบบมืออาชีพ ทั้งหมดถูกจัดทำขึ้นอย่างรีบร้อน
ทว่าเพลงที่จัดทำขึ้นอย่างหยาบๆ เพลงนี้กลับต้องใจคนมากมาย วันรุ่งขึ้นโครงการระดมทุนเพื่อการกุศลนี้ทำยอดทะลุเป้าครั้งใหม่ ไม่ได้ลดน้อยลงเลยถึงแม้จะได้เงินตามเป้าที่คาดหวังไว้แล้ว!
…………………………………………………………………………………
นิยายเรื่องนี้เข้าร่วมโปรโมชั่น
อัปเพิ่มต่อ +1
เพิ่มตอนจากปกติ เวลา 18.00 น. ตลอดช่วงแคมเปญ
18-31 ต.ค. 64 เท่านั้น!
ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
Ink Stone