Perfect Superstar - ตอนที่ 245 เธอคือบทเพลงบทหนึ่งในดวงใจฉัน
ตอนที่ 245 เธอคือบทเพลงบทหนึ่งในดวงใจฉัน
ห้องถ่ายทอดสดของลู่เฉินใน ‘จิงอวี๋ทีวี’
หลังจากลู่เฉินเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ ‘จิงอวี๋ทีวี’ แล้ว ห้องถ่ายทอดสดของเขาก็ได้รับการอัปเกรดไปพร้อมกัน มีการเพิ่มเครื่องมือโฆษณาทางการตลาดในหน้าแรกตลอดระยะเวลาของสัญญา เพลิดเพลินไปกับการดูแลขั้นสูงของเว็บไซต์
งานเลี้ยงเฉลิมฉลองรางวัลแพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์ของวงเอ็มเอสเอ็นก็ถ่ายทอดสดในห้องถ่ายทอดสดของลู่เฉินด้วย ซึ่งทาง ‘จิงอวี๋ทีวี’ ได้ปล่อยโฆษณาออกมาก่อนหน้านี้นานแล้ว
เพราะฉะนั้นหลังจากเริ่มถ่ายทอดสด จำนวนคนออนไลน์ในห้องถ่ายทอดสดของลู่เฉินก็ทะลุหลักล้านอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้จะพูดว่าลู่เฉินในตอนนี้ ยังห่างไกลจากดาราตัวท็อปในวงการอีกมาก แต่เขาก็เป็นซูเปอร์สตาร์ที่ดังที่สุดใน‘จิงอวี๋ทีวี’ ปัจจุบันมีแฟนคลับที่ติดตามเกินหนึ่งล้านห้าแสนคนขึ้นไป
แค่อาศัยความนิยมนี้ก็ดูเหมือนว่า ‘จิงอวี๋ทีวี’ จะสามารถฟื้นฟูกลับไปอยู่ในช่วงสูงสุดในตอนแรกได้อย่างกลายๆ แล้ว!
การถ่ายทอดสดงานเลี้ยงฉลองในคืนนี้คือตัวพิสูจน์ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
โดยเฉพาะตอนที่ลู่เฉินขึ้นเวทีร่วมแสดงกับวงเอ็มเอสเอ็น จำนวนคนออนไลน์ในห้องถ่ายทอดสดเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ จากหนึ่งล้านห้าแสน เป็นหนึ่งล้านเจ็ดแสน เป็นหนึ่งล้านเก้าแสน เป็นสองล้านสามแสน…
จนกระทั่งตอนที่ลู่เฉินเริ่มร้องเพลงคู่กับมู่เสี่ยวชู จู่ๆ จำนวนคนออนไลน์ก็ทะลุเกินสองล้านหกแสน!
นับตั้งแต่ที่ ‘จิงอวี๋ทีวี’ เปิดเว็บไซต์ขึ้นมา นี่คือบันทึกสถิติจำนวนคนออนไลน์ที่สูงที่สุดของห้องถ่ายทอดสดขณะเดียวกันก็เป็นบันทึกสถิติที่สูงที่สุดของลู่เฉินด้วยเช่นกัน เพียงระยะเวลาสั้นๆ สองสามนาทีจำนวนลูกบอลปลาก็เกิน 100T แล้ว!
ถึงแม้ตอนนี้ลู่เฉินจะไม่ได้ทำกำไรโดยอาศัยส่วนแบ่งเงินรางวัลของห้องถ่ายทอดสดอีกต่อไป เพราะเงินจากส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วนน้อยลงเรื่อยๆ เมื่อเทียบจากรายได้รวมทั้งหมด แต่คืนนี้เขาได้รับรายได้รายวันมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ความเร็วในการทำเงินแบบนี้ มากพอที่จะทำให้ดาราระดับสามระดับสี่หลายคนอิจฉา!
แต่ใครก็ไม่สงสัย ว่านี่ไม่ใช่ความสามารถสูงสุดของลู่เฉิน เพราะสถิตินั้นมีไว้ทำลาย!
อารมณ์ของเหล่าแฟนคลับถูกกระตุ้นจนถึงจุดสูงสุด
คอมเมนต์สดและลูกบอลปลามากมายราวสายฝน
ลู่เฉินที่อยู่ในงานแน่นอนว่าไม่สามารถเข้าใจความคึกคักและการเอะอะโวยวายในห้องถ่ายทอดสดได้ แต่ความกระตือรือร้นของพวกแฟนคลับที่อยู่ในงานเลี้ยง ก็มากพอที่จะทำให้อารมณ์ของเขาเพิ่มสูงขึ้น นิ้วมือกดแป้นเปียโนอย่างมีพลังเป็นพิเศษ
เขาหันหน้ามา ยิ้มเล็กน้อยและร้องเพลงให้มู่เสี่ยวชูที่มีสีหน้าเขินอาย “เธอคือบทเพลงบทหนึ่งในดวงใจฉัน…”
“ดอกไม้ช่อหนึ่งเริ่มผลิบานกลางใจ!”
เพลงนี้มีชื่อว่า ‘เธอคือบทเพลงบทหนึ่งในดวงใจฉัน[1]’!
มู่เสี่ยวชูรวบรวมความกล้า สบประสานกับสายตาของลู่เฉินและจับไมค์ขึ้นมา “เธอคือบทเพลงบทหนึ่งแห่งชีวิตฉัน…”
“ความคิดถึงนั้นมากจนสามารถรวมกันเป็นสายน้ำได้หนึ่งสาย!”
ตอนที่ร้องเนื้อเพลงสองประโยคนี้ออกมา นัยน์ตาของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยว
เธอชอบลู่เฉิน
และเธอก็รู้ว่าลู่เฉินชอบตัวเองเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ความรักของหนุ่มสาว
มู่เสี่ยวชูกระทั่งรู้ว่า ความสัมพันธ์ของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ธรรมดา มีความเป็นไปได้สูงที่กำลังคบกันอยู่
ทว่ามู่เสี่ยวชูก็ไม่เคยคิดที่จะยอมแพ้
เธอเจอลู่เฉินครั้งแรก คือหลังเวทีการแข่งขันในรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ แวบแรกที่เห็นเขาก็มีความรู้สึกที่ดีแล้วต่อมาหลังจากนั้นลู่เฉินก็ดูแลเธอมากขึ้นทำให้เธอยิ่งแอบรักเขา
ทว่าตอนนั้นมู่เสี่ยวชูไม่มีความกล้ามากพอที่จะสารภาพรัก ดังนั้นจึงพลาดไป
แต่เธอก็ยังคงชอบลู่เฉิน
ด้วยเหตุนี้เธอจึงทะนุถนอมช่วงเวลาที่ได้อยู่กับลู่เฉินเป็นพิเศษ เหมือนอย่างการร้องเพลงบนเวทีในค่ำคืนนี้
เพลงนี้คือเสียงหัวใจของมู่เสี่ยวชู
ความรักของหญิงสาวมักเป็นบทกลอนเสมอ
“…
พะวงถึงบทเพลงบทหนึ่งในดวงใจฉัน
ไม่ต้องการให้เป็นแค่เพียงแขกคนหนึ่งที่มาเยือนแล้วผ่านเลยไป
ในชีวิตของฉันเหลือไว้ซึ่งเพลงบทหนึ่ง
ไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นเช่นไร
อยากถามเธอนัก
แท้จริงแล้วมีใจหวั่นไหวกับฉันบ้างไหม
เงียบเหงามานาน
มีแต่จะทำให้ฉันไม่ระวังทำพลาดไป
พะวงถึงบทเพลงบทหนึ่งในดวงใจฉัน
ไม่ต้องการให้เป็นแค่แขกคนหนึ่งที่มาเยือนแล้วผ่านเลยไป
ในชีวิตของฉันเหลือไว้ซึ่งเพลงบทหนึ่ง
ไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นเช่นไร
…”
เพลง ‘เธอคือบทเพลงบทหนึ่งในดวงใจฉัน’ มีทำนองที่เพราะและจำง่าย เนื้อเพลงร้องง่ายติดปาก สไตล์เพลงแปลกใหม่สดใส การร้องคู่กันของชายหญิงทำให้เพลงนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความอบอุ่น ไม่เศร้าโศกไม่เสียใจเหมาะสมกับอายุของลู่เฉินและมู่เสี่ยวชูมากที่สุด
ถึงแม้เนื้อเพลงจะพูดถึงเนื้อหาเกี่ยวกับความรัก แต่ก็เป็นแค่เพลงรักเท่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน ทุกคนไม่มีทางเข้าใจผิด แค่รู้สึกว่ามีความสวยงามเป็นพิเศษเท่านั้นเอง
โดยเฉพาะการร่วมมือกันของทั้งสองคน ทำให้คนแอบอิจฉาขึ้นมาโดยไม่ต้องบอกกัน
หนิงเถียนกับซูเจียเจียอิจฉามากจริงๆ
เพราะพวกเธอรู้ดีว่า เพลงนี้ลู่เฉินหยิบออกมากะทันหัน เพื่อเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนคลับทั้งหลายในงานเลี้ยงคืนนี้และเขาก็เลือกมู่เสี่ยวชูเป็นนางเอก
ทั้งๆ ที่รู้ว่าลู่เฉินกับมู่เสี่ยวชูมีมิตรภาพของความเป็นพี่น้องมานานแล้ว แต่พอเห็นภาพทั้งสองคนร้องเพลงด้วยกันกับตาตัวเองในตอนนี้ ก็ยังคงทำให้ความอิจฉาผุดขึ้นมาจากหัวใจของพวกเธอ…ทำไมคนที่อยู่ข้างกายลู่เฉินไม่ใช่ฉันบ้าง
“…
เธอคือบทเพลงบทหนึ่งในดวงใจฉัน
ดอกไม้ช่อหนึ่งเริ่มผลิบานกลางใจ
เธอคือบทเพลงบทหนึ่งแห่งชีวิตฉัน
ความคิดถึงนั้นมากจนสามารถรวมกันเป็นสายน้ำได้หนึ่งสาย
อยากถามเธอนัก
แท้จริงแล้วมีใจหวั่นไหวกับฉันบ้างไหม
เงียบเหงามานาน
มีแต่จะทำให้ฉันไม่ระวังทำผิดพลาดไป
ไม่ระวังทำผิดพลาดไป
พะวงถึงบทเพลงบทหนึ่งในดวงใจฉัน
ไม่ต้องการให้เป็นแค่เพียงแขกคนหนึ่งที่มาเยือนแล้วผ่านเลยไป
ในชีวิตของฉันเหลือไว้ซึ่งเพลงบทหนึ่ง
ไม่ว่าผลสุดท้ายจะเป็นเช่นไร!”
ร้องเพลงประโยคสุดท้ายจบแล้ว ลู่เฉินจึงยกสองมือ สบตาและยิ้มให้มู่เสี่ยวชู
ยามนี้ความไม่มีเสียงชนะทุกอย่าง ยามนี้ทั้งสองคนช่างมีใจตรงกัน เข้าใจความรู้สึกภายในหัวใจของกันและกัน
ความรู้สึกที่มู่เสี่ยวชูมีต่อลู่เฉินคือความชอบ ความรัก ความหลงใหล
ความรู้สึกที่ลู่เฉินมีต่อมู่เสี่ยวชูคือความสงสาร ความรักและเอ็นดู ความห่วงใย!
เสียงปรบมือดังไปรอบๆ ตัวของคนทั้งสอง ดังอยู่นานด้วยความคึกคัก
ภายในห้องถ่ายทอดสดของลู่เฉินระเบิดแล้ว คอมเมนต์สดค้างเต็มหน้าจอ ซ้อนกันเป็นชั้นๆ แน่นไปหมด!
“เพลงเพราะมาก!”
“อบอุ่นและโรแมนติกจัง อยากให้พี่ลู่เฉินกับน้องเสี่ยวชูคบกันจริงๆ!”
“น้องเสี่ยวชูเป็นของฉัน ใครก็ห้ามแย่ง!”
“ฮ่าๆๆ คบกันๆ!”
“ร้องอีกรอบได้ไหม อยากฟังอีก”
“จะออกอัลบั้มใหม่หรือซิงเกิลเมื่อไหร่ เครื่องเล่นซีดีของฉันหิวโหยมาก!”
“นี่คือผลงานเพลงคู่เพลงแรกของพี่ลู่เฉินใช่ไหม”
“เยี่ยมๆๆ!”
ลู่เฉินลุกขึ้น แล้วยื่นมือไปหามู่เสี่ยวชู
มู่เสี่ยวชูตกตะลึงก่อนเป็นอย่างแรก ไม่ช้าก็เข้าใจ หน้าแดงเล็กน้อย เธอรีบยื่นมือเล็กของตัวเองไปอยู่ในมือใหญ่ของลู่เฉิน
มือของลู่เฉินอบอุ่นมาก
ทั้งสองคนจับมือกัน โค้งคำนับให้แฟนคลับที่อยู่ในงานและในห้องถ่ายทอดสด
บรรยากาศของงานเลี้ยง ถูกกระตุ้นถึงจุดสูงสุดของคืนนี้ทันที!
หลังจากขอบคุณแล้ว มู่เสี่ยวชูรวบรวมความกล้าโดยพลัน หมุนตัวอ้าแขนทั้งสองข้างแล้วกอดลู่เฉิน
“ขอบคุณค่ะ พี่ลู่เฉิน!”
ลู่เฉินตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะทันที แล้วจึงสวมกอดสาวน้อยเหมือนกัน
เขาตบไหล่ของมู่เสี่ยวชูเบาๆ และเอ่ยพูดเสียงเบาว่า “ร้องได้ดีมาก”
ลู่เฉินรู้มาตลอดว่ามู่เสี่ยวชูมีความรู้สึกแบบนั้นกับตัวเอง ไม่รู้สึกซาบซึ้งก็คงเป็นการโกหก
แต่ลู่เฉินให้เธอได้เท่านี้จริงๆ
และภาพที่อบอุ่นสุดประทับใจนี้ ก็ถูกตากล้องในงานจับภาพทันที
หลังจากนี้ต่อไปอีกหลายปี ตอนที่ผู้คนนึกถึงเรื่องราวระหว่างลู่เฉินกับวงเอ็มเอสเอ็น ภาพสุดคลาสสิคนี้ก็จะปรากฏขึ้นเสมอ!
ทั้งสองคนสวมกอดกันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วมู่เสี่ยวชูก็เป็นฝ่ายปล่อยมือก่อน
“ร้องอีกหนึ่งเพลง!”
มีแฟนคลับตะโกนเสียงดังอยู่ด้านล่างเวที แล้วก็ได้รับการตอบสนองจากคนอื่นๆ ทันที “ร้องอีกหนึ่งเพลง!”
ลู่เฉินโบกมือยิ้ม
ร้องเพลงเดียวก็พอแล้ว คืนนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองที่วงเอ็มเอสเอ็นได้รับรางวัลแพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์ เขาจะเด่นกว่าเจ้าของงานไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
เสียงถอนหายใจด้วยความเสียดายดังขึ้นท่ามกลางแฟนคลับหลายคน ลู่เฉินลงจากเวทีกลับไปนั่งที่
งานเลี้ยงดำเนินต่อไป
ลู่เฉินเพิ่งจะหย่อนก้นนั่ง หลินจื้อเจี๋ยก็ขยับเข้ามาและถามว่า “เพลงนี้ นายเขียนให้มู่เสี่ยวชูโดยเฉพาะหรือเปล่าหรือว่ามีเก็บสำรองไว้อยู่แล้ว”
ไม่ว่าจะเป็นนักแต่งเพลงคนไหน ต่อให้ไม่ได้รับงาน หากเกิดแรงบันดาลใจก็จะเริ่มเขียนผลงานขึ้นมาแน่นอน
ผลงานแบบนี้จะเก็บสำรองไว้ หากมีโอกาสที่เหมาะสมก็จะปล่อยออกมา
ดังนั้นหลินจื้อเจี๋ยจึงถามแบบนี้
ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับหลายสิ่งมาก ถ้าหากลู่เฉินแต่งให้มู่เสี่ยวชูโดยเฉพาะ อย่างนั้นเฟยสือเรคคอร์ดก็จะพิจารณาให้เป็นเพลงเดี่ยวของมู่เสี่ยวชู จัดให้เธอเป็นจิตวิญญาณหลักของวงเอ็มเอสเอ็น
ในอนาคตหากวงเอ็มเอสเอ็นแยกวง มู่เสี่ยวชูก็จะได้บินเดี่ยว
แต่ถ้าเป็นผลงานสำรองของลู่เฉิน ทางเฟยสือเรคคอร์ดซื้อมาแล้ว ก็จะไม่ให้วงเอ็มเอสเอ็น…ช่วงนี้พวกเธอโดดเด่นมากๆ ควรจะให้โอกาสศิลปินนักร้องคนอื่นที่อยู่ในสังกัดบ้าง
บทเพลงรักที่ชายหญิงร้องคู่กันหนึ่งเพลง สามารถผลักดันให้ดวงดาวแจ้งเกิดได้สองดวง!
ตัวอย่างแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนก็เคยมีนักร้องคู่รักคู่หนึ่ง ซึ่งอาศัยเพลงรักที่ทุกคนคุ้นหูเพลงหนึ่งร้องเพลงคู่กันมาจนถึงทุกวันนี้ และยังรับงานแสดงอยู่บ่อยๆ
ลู่เฉินเข้าใจความหมายของหลินจื้อเจี๋ย จึงคิดแล้วเอ่ยว่า “ไม่ได้ให้เสี่ยวชูโดยเฉพาะ ในเมื่อรับปากแล้วว่าจะให้บริษัทของพวกพี่ งั้นพวกพี่ก็จัดการกันเองเถอะครับ”
เขารู้สึกว่ายังไม่เหมาะสมที่จะให้มู่เสี่ยวชูรับหน้าที่สำคัญของวงเอ็มเอสเอ็น เฟยสือเรคคอร์ดมองหนิงเถียนเป็นหัวหน้าวงเอ็มเอสเอ็น จริงๆ แล้วก็มีเหตุผลมาก
นิสัยของทั้งสองคนต่างกัน
หลินจื้อเจี๋ยยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ถ้างั้นฉันรู้แล้ว นายกับมู่เสี่ยวชูนี่ก็จริงๆ เลย…”
เขาส่ายหน้า เผยสีหน้าล้อเล่นออกมาเล็กน้อย “นายไม่กลัวเฟยเอ๋อร์หึงเหรอ”
หลินจื้อเจี๋ยเป็นเพื่อนรักของเฉินเฟยเอ๋อร์ และตอนนี้ก็เป็นเพื่อนรักกับลู่เฉินเหมือนกัน ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน ถือว่าเขารู้มากที่สุด
ดังนั้นจึงพูดล้อเล่นได้สองสามประโยค
ลู่เฉินกระอักกระอ่วน “ผู้อำนวยการหลิน ผมมองเสี่ยวชูเป็นน้องสาวครับ!”
หลินจื้อเจี๋ยยิ้มแต่ไม่พูด
เปลี่ยนจากน้องสาวบุญธรรมกลายเป็นน้องสาวที่รัก ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกเหรอ
ความรู้สึกที่มู่เสี่ยวชูมีต่อลู่เฉิน หากมีคนมองก็จะมองออก น่าเสียดายลู่เฉินมีเฉินเฟยเอ๋อร์แล้ว
แน่นอนว่าเป็นเรื่องระหว่างคนหนุ่มสาว เขาไม่อยากถามอะไรมาก ได้แต่เตือนเขาด้วยความหวังดี
ตอนนี้วงเอ็มเอสเอ็นเป็นต้นไม้เขย่าเงินของเฟยสือเรคคอร์ดเชียวนะ!
เวลาต่อจากนี้ ก็คือกิจกรรมสนทนาระหว่างพวกแฟนคลับกับสาวๆ ทั้งสามคน แถมยังมีการจับรางวัลในงานอีกด้วยเป็นต้น
งานเลี้ยงที่มีบรรยากาศคึกคักสนุกสนาน สิ้นสุดลงในเวลาสี่ทุ่ม
วันที่สามหลังจากไปร่วมงานเลี้ยงฉลองรางวัลแพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์ของวงเอ็มเอสเอ็น ลู่เฉินก็เดินทางออกจากปักกิ่งกลับไปที่จินหลิง
เนื่องจากตอนที่สองของละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ถ่ายทำเสร็จแล้ว กำลังเตรียมถ่ายทำเนื้อหาของตอนที่สาม
และเขาก็จะปรากฏตัวในครึ่งหลังของตอนที่สามอย่างเป็นทางการ!
…………………………………………………………………………
[1] 《你是我心内的一首歌》เพลงเธอคือบทเพลงบทหนึ่งในดวงใจฉัน เนื้อร้อง ติงเสี่ยวเหวิน (丁晓雯) ทำนอง หวังลี่หง (王力宏)