Perfect Superstar - ตอนที่ 512 แย่งชิง
ตอนที่ 512 แย่งชิง
ฮ่องกงมีสถานีโทรทัศน์ไร้สายใหญ่สองแห่งคือสถานีโทรทัศน์ฮ่องกงและสถานีโทรทัศน์เอทีวี และสถานีเคเบิ้ลทีวีขนาดกลางและขนาดเล็กอีกสิบกว่าแห่ง ทุกปีจะนำเสนอรายการบันเทิงวาไรตี้มากมายนับไม่ถ้วน รวมทั้งการแข่งขันประกวดเรียลลิตี้โชว์รูปแบบต่างๆ
แต่ไม่เคยทำรายการแข่งขันที่มุ่งเน้นไปที่เพลงป็อปต้นฉบับอย่างจริงจัง ดังนั้นความคิดเห็นของคุณนายจินก่อนหน้านี้จึงมีหลายคนที่ไม่เห็นด้วย รู้สึกว่าเธอคิดเพ้อเจ้อในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง
แต่การสนับสนุนและการเข้าร่วมของหลิวกั่งเซิง ทำให้ความคิดเพ้อฝันนี้มีความเป็นไปได้ทันที เขายินดีที่จะเป็นคณะกรรมการ และไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ฮ่องกงหรือสถานีเอทีวีล้วนอยากแย่งชิงกันทั้งนั้น
ควรทราบว่า ในฐานะดาราเบอร์ใหญ่ระดับสูงของวงการบันเทิงฮ่องกง หลิวกั่งเซิงปรากฏตัวในรายการวาไรตี้ต่างๆ น้อยมาก มากสุดก็แค่ออกรายการทอล์กโชว์ระดับไฮคลาส
ท่าทางยืนกรานของเขา ทำให้หลายคนอดไม่ได้ที่จะคาดเดาว่า ราชาเพลงคนนี้อาจจะมีความคิดเช่นนี้มานานแล้ว
และสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจมากจริงๆ ไม่ใช่ความคิดของหลิวกั่งเซิง แต่เป็นคำชื่นชมของเขาที่มีต่อลู่เฉิน!
ในวงการนี้หลิวกั่งเซิงมีชื่อเสียงในการปั้นเด็กใหม่มาตลอด มีดาราดังจำนวนไม่น้อยที่เคยได้รับการแนะนำและการยอมรับจากเขา
ทว่าคำชื่นชมของเขาที่มีต่อลู่เฉิน เห็นได้ชัดว่าเกินระดับธรรมดาไปแล้ว
ยอมให้ลู่เฉินเป็นคนคิดชื่อรายการ แถมยังเชิญลู่เฉินเป็นคณะกรรมการด้วยความจริงใจ นี่เท่ากับยกระดับลู่เฉินให้สูงเท่ากับตำแหน่งของเขาเชียวนะ!
ดาราหนุ่มที่มาจากประเทศจีนคนนี้เก่งอะไรนักหนา ถึงได้รับความโปรดปรานจากราชาเพลงหลิวผู้นี้
สายตาที่มองมายังลู่เฉิน มีทั้งตกใจ มีทั้งสงสัย มีทั้งอิจฉา และร้อนแรงราวกับว่าสามารถละลายเหล็กและทองแดงได้!
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นศิลปินฮ่องกงคนอื่น ถึงแม้ตอนแรกจะไร้ชื่อเสียง ขอเพียงข่าวแพร่ออกไป เช่นนั้นก็จะได้ขึ้นข่าวหน้าบันเทิงของสื่อสำนักต่างๆ ในตำแหน่งที่สะดุดตากระทั่งอาจทำเป็นพาดหัวข่าว โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน
ราวกับโชคที่หล่นลงมาจากสวรรค์!
ลู่เฉินเองก็ตกใจเหมือนกัน กระทั่งรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ แต่เขามองเห็นคำชมที่แท้จริงออกมาจากสายตาของหลิวกั่งเซิง ซึ่งมีความจริงใจมาก
“ขอบคุณครับพี่เซิง…”
ลู่เฉินครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยว่า “อย่างนั้นผมขอลองตั้งชื่อเล่นๆ ก่อนนะครับ ตั้งชื่อว่า ‘ร้องเพลง! ฮ่องกง’ เป็นยังไงครับ”
“ร้องเพลง! ฮ่องกง”
หลิวกั่งเซิงตาเป็นประกาย พยักหน้าเอ่ยชมว่า “ชื่อนี้ไม่เลว เข้าใจง่ายและความหมายก็ดีมาก”
“พวกคุณคิดว่า ใช้ ‘ร้องเพลง! ฮ่องกง’ เป็นยังไงบ้างครับ”
หลิวกั่งเซิงยอมรับและชื่นชมขนาดนี้ ใครบ้างจะไม่ไว้หน้าพูดว่าไม่ดีล่ะ อีกอย่างชื่อนี้ก็ไม่เลวจริงๆ ตรงไปตรงมาและรื่นหูดีนัก เอื้ออำนวยต่อการโฆษณาโปรโมต
“ไม่เลวๆ!” “ร้องเพลง! ฮ่องกง เป็นชื่อที่ดี!” “ฉันเห็นด้วย!”
มองสายตาของลู่เฉินที่ยิ่งร้อนผะผ่าว ถ้าหาก ‘ร้องเพลง! ฮ่องกง’ การแข่งขันประกวดร้องเพลงต้นฉบับรายการนี้สามารถสร้างขึ้นมาได้จริงและได้รับความสำเร็จ เช่นนั้นลู่เฉินก็สามารถสลักชื่อของตัวเองลงบนประวัติศาสตร์เพลงป็อปฮ่องกงได้อย่างไม่ต้องสงสัย ทิ้งชื่อเสียงไว้ในวงการเพลงป็อปฮ่องกงอย่างไม่อาจลบเลือน
หลิวกั่งเซิงพอใจมาก “ในเมื่อทุกคนต่างสนับสนุน งั้นก็ใช้ชื่อนี้แล้วกัน!”
แปะๆๆ!
พอสิ้นเสียงของเขา เสียงปรบมือคึกคักก็ดังขึ้นรอบตัวทันที
แขกเหรื่อเริ่มเข้ามามุงล้อมตัวของลู่เฉินกับหลิวกั่งเซิงมากขึ้น เกือบทุกคนในวงการที่มารวมตัวกันอยู่ตรงนี้ ตอนที่พวกเขาเข้าใจต้นสายปลายเหตุแล้ว ก็รู้สึกว่าอยากเป็นพยานของประวัติศาสตร์
ลู่เฉินกล่าวว่า “ผมขอออกความคิดเห็นหน่อยครับ ผมคิดว่ารูปแบบของ ‘ร้องเพลง! ฮ่องกง’ จะต้องมีมาตรฐานที่สูง เรื่องของรางวัลจะขี้เหนียวไม่ได้ ดังนั้นผมขอเป็นตัวแทนสตูดิโอลู่เฉิน มอบเงินบริจาคห้าล้านเพื่อเป็นกองทุนรางวัลการแข่งขันครับ”
รายการประกวดของฮ่องกงมีลักษณะเด่นอย่างหนึ่ง นั่นก็คือขี้เหนียวเรื่องเงินรางวัล ต่อให้เป็นการประกวดมิสฮ่องกงหรือมิสเอเชียที่ได้รับความสนใจมากที่สุด เงินรางวัลของผู้ชนะเลิศก็ไม่เกินหนึ่งล้านหยวน มากสุดก็ได้แค่ชื่อเสียง
ส่วนรายการประกวดธรรมดาอย่างอื่น ให้สองสามหมื่นหยวนก็ถือว่าดีแล้ว แขกรับเชิญและคณะกรรมการที่ถูกเชิญมาร่วมรายการก็แค่อยากได้ค่าออกรายการเท่านั้น สถานการณ์ต่างจากประเทศจีนอย่างสิ้นเชิง
‘ร้องเพลง! ฮ่องกง’ มีจุดประสงค์หลักคือสนับสนุนและส่งเสริมเพลงต้นฉบับ ถ้าหากไม่มีรางวัลที่มากพอ เช่นนั้นจะดึงดูดนักร้องและนักแต่งเพลงที่เก่งกาจมากความสามารถมาร่วมรายการได้อย่างไร
ลำพังแค่ชื่อเสียงของหลิวกั่งเซิงเพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอ ดังคำกล่าวที่ว่าหากให้รางวัลอย่างงามก็จะมีผู้กล้าทำงานให้ เป็นกฎเกณฑ์ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงนับแต่โบราณกาลมา
ทว่าข้อเสนอที่หวังดีของเขา ทำให้หลายคนที่อยู่ในนี้รู้สึกกระอักกระอ่วน เรื่องในครอบครัวตัวเองต้องรู้อยู่แล้วนิสัยของสถานีโทรทัศน์ในฮ่องกง พวกเขาคนในวงการจะไม่รู้ได้อย่างไร
หลิวกั่งเซิงยิ้มเอ่ยว่า “งั้นกั่งเซิงมีเดียขอบริจาคสิบล้าน!”
กั่งเซิงมีเดียเป็นบริษัทส่วนตัวของหลิวกั่งเซิง รูปแบบการทำงานคล้ายกับสตูดิโอทั่วไป แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่า
ลู่เฉินบริจาคห้าล้าน เขาในฐานะดาราเบอร์ใหญ่ในวงการบันเทิงฮ่องกง และเป็นซูเปอร์สตาร์ราชาเพลงแห่งวงการเพลงป็อป จะออกน้อยกว่าลู่เฉินได้อย่างไร
สิบล้าน!
ทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างรู้ว่า ครั้งนี้หลิวกั่งเซิงเอาจริง เพราะเขาไม่เคยพูดโกหกหลอกลวงมาก่อน
คุณนายจินก็ยิ้มกริ่มแล้วเอ่ยว่า “งั้นเลดี้จินเอนเตอร์เทนเมนต์ของพวกเราก็สนับสนุนอีกห้าล้านค่ะ”
แบบนี้ก็ยี่สิบล้านแล้ว!
แม้ว่าจะเป็นกองทุนเงินรางวัล แต่เงินจำนวนนี้ก็สะดุดตาเป็นอย่างมาก และนี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
จากนั้นใครอีกหลายก็ยืนไม่อยู่ รีบแสดงตัวออกมาทันที
“พวกเราตงฟางเรคคอร์ดสนับสนุนหนึ่งล้าน!”
“ฉันขอออกเงินส่วนตัวสนับสนุนห้าแสน!”
“เฉินซื่อมีเดียสนับสนุนหนึ่งล้าน!”
“พวกเรา…”
เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ฉันขอออกเงินส่วนตัวสนับสนุนสองล้านค่ะ”
แค่การบริจาคในงานนี้เท่านั้น ยอดเงินรวมกันก็ทะลุห้าสิบล้านไปแล้ว และยังมีอีกหลายคนที่ต้องรายงานให้บริษัทของตัวเองทราบก่อน จำนวนเงินหลังจากนี้ต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
จากหัวข้อสนทนาในงานเพลงซาลอน ‘เพลงป็อปฮ่องกงในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต’ กลับเปลี่ยนเป็นการบริจาคเงินให้กับการแข่งขันประกวดร้องเพลงต้นฉบับไปแล้ว ทำให้ใครหลายคนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
แต่หากวิเคราะห์จากภายนอกจนถึงแก่นแท้ เกิดเหตุการณ์แบบนี้ถึงแม้จะเป็นความบังเอิญเสียส่วนใหญ่ แต่ท่ามกลางความมืดมิดก็ยังมีปัจจัยสำคัญที่อยู่ในนั้น
นั่นก็คือเหล่าคนดนตรีของฮ่องกง มีจิตใจร้อนรุ่มกระสับกระส่ายเป็นห่วงเพลงป็อปฮ่องกงในปัจจุบันและในอนาคตเช่นกัน พวกเขากำลังค้นหาทางเปลี่ยนแปลงและหาทางนำไปดำเนินการ การปรากฏตัวของ ‘ร้องเพลง! ฮ่องกง’ ถือว่าได้เวลาที่เหมาะสมพอดี
และในนี้ยังมีเหตุผลที่หลายคนพูดไม่ออก นั่นก็คือการเรียนรู้จากประเทศจีน
“สถานีเอทีวีของพวกเรายินดีที่จะจัดรายการ ‘ร้องเพลง! ฮ่องกง’ ตามมาตรฐานระดับสูงครับ!”
เวลานี้ ผู้ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งเบียดตัวออกมาจากกลุ่มผู้คน เอ่ยพูดเสียงดังว่า “รับรองว่าได้มาตรฐานเดียวกันกับมิสเอเชียแน่นอนครับ!”
ทุกคนต่างจำได้ ผู้ชายวัยกลางคนผู้นี้ก็คือ หลิวฮั่นหยาง ผู้อำนวยการเพลงของช่องวาไรตี้สถานีเอทีวี
“ฮ่าๆ มิสเอเชียเทียบกับมิสฮ่องกงได้เหรอ”
เพิ่งจะสิ้นเสียงของเขา เสียงที่ค่อนข้างแหบอีกเสียงหนึ่งพลันดังขึ้น “รายการแบบนี้ เหมาะสมให้สถานีฮ่องกงของพวกเราจัดถึงจะมีประสิทธิภาพดีที่สุด!”
คนที่กำลังปะทะกับหลิวฮั่นหยางก็คือผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างเตี้ยคนหนึ่ง
และคนผู้นี้ก็คือ หลี่หมิงหย่วน ผู้อำนวยการผลิตของช่องดนตรีสถานีโทรทัศน์ฮ่องกง!
…………………………………………………………………………