Perfect Superstar - ตอนที่ 655 ขอขี้เกียจครึ่งวัน
ตอนที่ 655 ขอขี้เกียจครึ่งวัน
‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เริ่มคัดเลือกนักแสดงแล้ว!
ข่าวนี้แพร่สะพัดออกมมาจากวิทยาลัยภาพยนตร์ปักกิ่ง ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน คนทั่วทั้งวงการบันเทิงในปักกิ่งรู้ข่าวกันถ้วนหน้า แล้วข่าวก็ถูกส่งเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างสูง
มีละครโทรทัศน์น้อยเรื่องมากที่จะเป็นเหมือน ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ ที่ยังไม่ทันเปิดกล้องก็มีแนวโน้มจะโด่งดังแล้ว บัญชีทางการในบล็อกล่างฉาวที่เพิ่งเปิดขึ้นไม่นานมีแฟนคลับติดตามทะลุหนึ่งล้านแล้ว ทำให้เพื่อนร่วมวงการอิจฉาริษยาเป็นอย่างมาก
ไม่ยอมไม่ได้ ความนิยมของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์มีสูงมาก รายการ ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ ที่กำลังออกอากาศอยู่ช่วยผลักดันทั้งสองให้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของวงการบันเทิง อาศัยละครสองเรื่องแรกสร้างชื่อเสียงที่ดี ไม่มีใครต้องสงสัยถึงความสำเร็จของ ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เลย
แฟนคลับจำนวนนับไม่ถ้วนยิ่งโห่ร้องยินดี รอคอยให้ละครฉายเร็วๆ…ทุกคนรออย่างหิวโหยจนทนไม่ไหวแล้ว!
ในยุคสมัยปัจจุบัน สำหรับนักแสดงแล้วการติดตามของผู้คนเป็นตัวตัดสินทุกอย่าง เพื่อให้ได้รับการจับตามอง การสร้างกระแสรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นไม่หยุดยั้ง ทั้งยังเกินขอบเขตด้วย
‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เป็นละครเรื่องใหม่ที่จะ ‘สร้างดารา’ อย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นเมื่อรู้ว่า ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ กำลังคัดเลือกนักแสดงอยู่ ขอแค่เป็นคนในวงการที่พอมีเส้นสายต่างพากันลับเหลี่ยมสมองเพื่อหาวิธีแทรกตัวเข้ามาร่วมในละครเรื่องนี้ หวังจะแบ่งผลประโยชน์บ้าง ขออาศัยบารมีสักนิดก็ยังดี
หนึ่งในนั้นไม่ขาดนักแสดงระดับแถวหน้าของวงการ ใช้เส้นสายของบริษัทเอเจนซี่ของตัวเองหรือบริษัทมีเดียที่เซ็นสัญญาด้วยเข้าไปติดต่อกับเฉินเฟยมีเดีย หวังว่าจะได้รับเลือกให้เล่นสักบทบาท
นอกจากพวก ‘ขาจร’ พวกนี้แล้ว ผู้ร่วมงานเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ เช่น สถานีโทรทัศน์รายใหญ่สองแห่งในประเทศ สถานีโทรทัศน์เคจีเอสและบริษัทเอสพีจีของเกาหลี หวงก้วนพิคเจอร์ส เป็นต้น ต่างมีคำร้องขอของตัวเอง
บริษัทเอสพีจีถึงขั้นอยากจะให้นักแสดงชาวเกาหลีสองคนของตัวเองร่วมแสดงในละครเรื่องนี้ด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ เฉินเฟยมีเดียก็เป็นเหมือนตลาดสดที่มีผู้คนพลุกพล่านอีกครั้ง โทรศัพท์สองเครื่องของผู้จัดการใหญ่อย่างลู่ซีถูกคนโทรติดต่อเข้ามาจนสายแทบไหม้ ทำให้เธอหงุดหงิดถึงที่สุด และทำให้เธอเครียดจนร้อนในสิวขึ้นบนใบหน้าหลายเม็ดแล้ว
ในฐานะบุคคลสำคัญของเฉินเฟยมีเดีย ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์เป็นจุดสนใจของทุกคนอยู่แล้ว ทั้งสองแค่พูดออกมาไม่กี่คำ บทอื่นที่ไม่ใช่พระเอกนางเอกมีหรือจะไม่ได้มา
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาผิดหวังก็คือ ตอนนี้เหมือนลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์จะหายตัวไป มือถือที่เอาไว้ติดต่องานของทั้งสองคนก็ตกอยู่ในมือของผู้ช่วยและผู้จัดการส่วนตัว เฉินเฟยมีเดียปฏิเสธที่จะบอกความเคลื่อนไหวของทั้งสองคน ถึงขั้นปฏิเสธการขอสัมภาษณ์จากสื่อหลายแห่งอย่างประนีประนอม
แล้วทั้งสองคนหายไปไหนกันแน่
ความจริงคำตอบก็ไม่ได้ลึกลับเลย ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์อยู่ในปักกิ่ง ในบ้านของตัวเอง
ตะวันเพิ่งตกดิน ท้องฟ้ามืดลง คอนโดสูงในชุมชนจื่อเฉิงย่วนมีไฟเปิดอยู่ประปราย
อาคารที่ 7 ห้อง1701 เปิดไฟสว่างแจ้งเหมือนกัน
ในห้องครัว เฉินเฟยเอ๋อร์กำลังยุ่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ บนโต๊ะอาหารด้านนอกมีจานสองใบพูนด้วยอาหารที่เพิ่งปรุงสุกใหม่ ยังมีไวน์แดงหนึ่งขวดและแก้วไวน์คริสตัลใสอีกสองใบ
นี่คือราชินีแห่งวงการเพลงที่แฟนคลับมองว่าเธอเป็น ‘นางฟ้าแห่งชาติ’ สวมเสื้อเชิ้ตตัวบางสีขาว ด้านในมีเพียงกางเกงฮอตแพนท์สีดำตัวเดียว เผยผิวขาวราวหิมะของต้นขาเรียวสวยทั้งสองข้าง แม้ไม่แต่งหน้าก็ยังเซ็กซี่มีเสน่ห์
ผมยาวสลวยของเธอถูกรัดไว้ด้วยหนังยาง แล้วยังโพกด้วยผ้าโพกผม มือหนึ่งถึงด้ามจับกระทะ อีกมือถือตะหลิว กำลังผัดอาหารด้วยท่าทางคล่องแคล่ว
ภาพแบบนี้ถ้าถูกแฟนคลับของเฉินเฟยเอ๋อร์เห็นเข้าต้องแว่นตาทะลุแน่นอน !
ในการทำอาหารของเธอ เนื้อสันในเส้นยาวกับพริกหยวกที่ถูกหั่นเป็นแผ่นผัดผสมเข้าด้วยกัน กลิ่นหอมจากอาหารร้อนควันฉุยเตะจมูกชวนน้ำลายไหล
ลู่เฉินที่เพิ่งเข้ามาถึงในครัวกำลังน้ำลายไหล เขาเดินเข้ามาข้างหลังคนที่กำลังผัดกับข้าวอย่างตั้งใจ ยื่นมือออกมาโอบกอดเจ้าของเอวอันคอดกิ่วนั้น
เฉินเฟยเอ๋อร์สะดุ้ง รีบหันมาต่อว่า “อย่ามาวุ่นวายนะ ยังไม่ได้ใส่จานเลย!”
ลู่เฉินปล่อยมือจากแฟนสาวอย่างเสียดาย มองดูเธอเทอาหารที่ทำเสร็จใส่จานกระเบื้อง
เขาหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบชิ้นเนื้อร้อนๆ ใส่เข้าปาก เคี้ยวไม่กี่ทีก็กลืนลงคอไป อดหันมายกนิ้วโป้งชื่นชมเฉินเฟยเอ๋อร์ไม่ได้ว่า “อร่อยมากเลย!”
เดิมทีเฉินเฟยเอ๋อร์ทำอาหารไม่ค่อยเป็น อย่างมากแค่ต้มไข่กับผัดผักเท่านั้น แต่ตั้งแต่ต้นปีที่จ้างแม่บ้านมารับผิดชอบงานบ้าน เธอก็เริ่มเรียนทำอาหารด้วย
ป้าแม่บ้านคนนี้เป็นคนทางใต้ เธอเป็นแม่บ้านมืออาชีพมากว่ายี่สิบปี ทั้งฝีมือการทำอาหารและการแต่งสวนล้วนเก่งกาจ สำหรับดาราใหญ่อย่างเฉินเฟยเอ๋อร์แล้ว แน่นอนว่าเธอต้องยอมถ่ายทอดวิชาขั้นสุดยอดให้
ภายใต้การชี้แนะของอีกฝ่ายบวกกับความพยายามของตัวเอง ตอนนี้เฉินเฟยเอ๋อร์เริ่มทำอาหารเข้าท่าแล้วหลายเมนู แม้จะเทียบไม่ได้กับเชฟมืออาชีพ แต่เทียบเท่าแม่บ้านทั่วไปได้อยู่
สำหรับลู่เฉิน อาหารที่เธอทำกับมือ ย่อมเป็นอาหารรสเลิศที่สุดในโลกแล้ว!
ใบหน้าของเฉินเฟยเอ๋อร์ฉายแววได้ใจ “ไปๆๆ ไม่ต้องมาป้อยอฉัน รีบยกไป ฉันจะทำอาหารเพิ่มอีกอย่าง”
ลู่เฉินหัวเราะอิๆ ขโมยจุ๊บเฉินเฟยเอ๋อร์ที่หน้า แล้วยกเนื้อผัดพริกหยวกออกไปวางบนโต๊ะอาหารตอนที่เธอกำลังบ่นอยู่
เขานั่งลงที่โต๊ะ เปิดขวดไวน์แดง ขี้เกียจปลุกไวน์แล้ว เขาเทไวน์ใส่แก้วโดยตรง ถือแก้วไวน์แกว่งเล่นไปมา
มองดูเงาร่างระหงที่กำลังยุ่งอยู่ในครัว ลู่เฉินรู้สึกถึงความสุขสงบเปี่ยมล้นในหัวใจ เต็มไปด้วยความอบอุ่น
ตั้งแต่เข้าวงการบันเทิงมา เวลาว่างพักผ่อนผ่อนคลายเช่นนี้มีน้อยลงเรื่อยๆ ดังนั้นครั้งนี้กลับจากหังโจวมาถึงปักกิ่ง หลังจากจัดการงานสำคัญเสร็จสิ้น เขากับเฉินเฟยเอ๋อร์ขอหยุดพักด้วยตัวเอง หลบอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน ตัดขาดการติดต่อกับโลกภายนอก ใช้เวลาอันสวยงามร่วมกันเพียงสองคน
แน่นอนว่าต้องการหลบเลี่ยงความยุ่งยากที่เกิดจากงานคัดเลือกนักแสดงละคร ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’
ตัวละครประกอบสำคัญหลายตัวกำหนดแน่นอนแล้ว ตัวละครอื่นๆ ในเรื่องลู่เฉินมอบอำนาจให้ฟางฮุ่ย ให้เธอกับลู่ซีปรึกษากันเอาเอง ยังมีการติดต่อประสานงานกับบริษัทที่ร่วมงานด้วย
เขาโยนงานทิ้ง เฉินเฟยเอ๋อร์เองก็ปัดงานโฆษณาออกไปชุดใหญ่
สรุปคือโยนความวุ่นวายทั้งหมดทิ้งไป ขอทำตัวขี้เกียจบ้าง
ลิ้มรสไวน์ในแก้ว ชิมอาหารฝีมือเฉินเฟยเอ๋อร์ ลู่เฉินอยากจะให้ความสุขดำเนินไปอย่างนี้เรื่อยๆ
ความจริงถ้าพูดถึงเงินทองที่ทั้งคู่สะสมมาใช้ไปหลายชาติก็ไม่หมด อยากใช้ชีวิตแบบนี้เป็นเรื่องง่ายดาย
แต่ชีวิตแบบนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากได้จริงๆ เฉินเฟยเอ๋อร์ก็เช่นกัน
อนาคตอาจจะมีวันที่หลีกหนีจากความศิวิไลซ์นี้ แต่ตอนนี้ทั้งสองยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ช่วงชีวิตที่มีสีสันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
……………………………………