Perfect Superstar - ตอนที่ 697 ถึงจุดสุดยอดอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 697 ถึงจุดสุดยอดอย่างต่อเนื่อง
ปังๆๆ!
ท่ามกลางท้องฟ้าที่สดใส ดอกไม้ไฟที่สวยงามระเบิดออกมาเป็นกลุ่มๆ ดั่งฝนดาวตกกระจายไปทั่วท้องฟ้า จุดประกายท้องฟ้าเหนือสนามกีฬาหวงหลงให้สว่างไสว และจุดประกายความกระตือรือร้นของผู้ชมทั้งเจ็ดหมื่นห้าพันคนในสนามกีฬาอีกด้วย
เสียงโห่ร้อง เสียงกรี๊ด เสียงปรบมือดังเป็นระลอก คอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ปี 2017 เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ!
ม่านขนาดใหญ่ทั้งสองด้านค่อยๆ เปิดออกอย่างช้าๆ โลโก้เดอะวอยซ์ปรากฏบนหน้าจอแอลอีดีขนาดยักษ์ด้านหลังเวที พิธีกรชายหญิงสองคนปรากฏตัวท่ามกลางแสงไฟสปอตไลต์สว่างจ้าตา
พิธีกรของงานคอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ในค่ำคืนนี้ ก็คือไฉ่เจี๋ยกับเถียนเถียน
ไฉ่เจี๋ยในวันนี้ ไม่ใช่ผู้ดำเนินรายการเพลงเล็กๆ ในสถานีวิทยุเจียวทงหังโจวอีกต่อไป เขาอาศัยรายการเรียลลิตี้วาไรตี้ที่สร้างปรากฏการณ์อย่าง ‘เดอะวอยซ์ไชน่า’ กลายเป็นพิธีการชื่อดังที่ผู้คนในประเทศรู้จักกันทั่วบ้านทั่วเมือง ตอนนี้ได้ทำงานที่สถานีโทรทัศน์เจ้อตงอย่างเป็นทางการแล้ว
คืนนี้เขาสวมชุดสูทสีดำทั้งชุด แลดูสดชื่นมีชีวิตชีวา รอยยิ้มบนใบหน้าดูสดใสเป็นพิเศษ
ขณะเดียวกันเถียนเถียนคู่ของเขาดูสะดุดตายิ่งกว่า ชุดกระโปรงยาวสีแดงขับดุนเรือนร่างที่เกือบจะเพอร์เฟกต์ของเธอให้เด่นขึ้น ทุกท่วงท่าและสีหน้าต่างๆ ของเธอ ล้วนทำให้คนต้องเคลิบเคลิ้มหลงใหล
เถียนเถียนลาออกจากสถานีโทรทัศน์เจ้อตงนานแล้ว แต่คอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ในคืนนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ยังเชิญเธอมาเป็นพิธีกรคู่กับไฉ่เจี๋ยอยู่ดี เพราะไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอก บุคลิก หรือฐานะ เธอเหมาะสมทุกอย่าง
ไฉ่เจี่ยกล่าวเสียงดังกังวาน “ยินดีต้อนรับผู้บริหารทุกท่าน และแขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ…”
เถียนเถียน “สวัสดีผู้ชมในงานทุกท่าน ทุกท่าน…”
“สวัสดีตอนเย็นค่ะ!”
“วันนี้พวกเรามารวมตัวกันที่นี่ เพื่อเพลิดเพลินไปกับความสุขที่เดอะวอยซ์จะมอบให้พวกเรา!”
“เปิดหัวใจของท่าน ปลดปล่อยอารมณ์ของท่าน ให้ที่นี่กลายเป็นทะเลแห่งความสุข ให้ความสุขดังไปถึงท้องฟ้า!”
“พวกเรารวมตัวกันอย่างมีความสุข พวกเราร้องรำทำเพลง ให้เสียงที่ไพเราะที่สุด น่าประทับใจที่สุด…”
กล้องความละเอียดสูงเจ็ดตัวภายในสนามกีฬา ส่งต่อภาพหน้างานแบบเรียลไทม์ไปยังรถโอบี แล้วค่อยส่งต่อไปยังสำนักงานใหญ่สถานีโทรทัศน์เจ้อตง จากนั้นค่อยปรากฏสู่สายตาผู้ชมทีวีทั่วประเทศ
ถึงแม้จะมีเฟยซวิ่นวิดีโอและ ‘จิงอวี๋ทีวี’ สองแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตรายใหญ่แย่งผู้ชมไปเป็นจำนวนมากแล้ว แต่มีคนที่ยังชอบนั่งดูหน้าจอทีวีอีกมากมายนับไม่ถ้วน ส่งผลเรตติ้งแบบเรียลไทม์กลับไปยังสถานีโทรทัศน์ เวลาหนึ่งทุ่มครึ่งก็ได้เรตติ้งที่น่าตกใจถึง 4.89%!
ถึงแม้ว่าข้อมูลแบบนี้ไม่อาจเทียบกับงานกาล่าฤดูใบไม้ผลิของซีซีทีวีได้ แม้แต่เศษเสี้ยวของฝ่ายหลังก็ยังเทียบไม่ติด แต่ก็มากพอให้เพื่อนร่วมอาชีพอิจฉาตาร้อน…ได้กำไรค่าโฆษณากลับคืนมาไม่น้อยเลย!
อันที่จริง สปอนเซอร์ชื่อของคอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ในคืนนี้ถูกรถยนตร์จงหวายึดไปแล้ว ช่วงเวลาสำหรับโฆษณาคั่นรายการสองเดือนก็ถูกจองไปหมดเกลี้ยงแล้ว
การแสดงอย่างแรกคือรายการร้องเต้นสุดอลังการ
หลังจากการร้องเต้นเพื่ออุ่นเครื่องผ่านไป นักร้องที่ขึ้นมาบนเวทีคนแรกก็คือเลี่ยวเจี่ย เขาเดินนำวงแบล็กเมมโมรีของตัวเองขึ้นมาบนเวที เริ่มต้นด้วยเพลง ‘ขั้วโลกใต้’ ที่แฟนเพลงร็อกทุกคนคุ้นเคยร้องตามกันได้ จุดชนวนความสนุกสุดเหวี่ยงทั่วคอนเสิร์ตในพริบตาเดียว
บทเพลง ‘ขั้วโลกใต้’ นี้เรียกได้ว่าเป็นผลงานสร้างชื่อของวงแบล็กเมมโมรีกับเลี่ยวเจี่ยก็ว่าได้ ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในเพลงระดับคลาสสิคเพลงสุดท้ายก่อนที่เพลงร็อกของประเทศจะตกต่ำ ถึงแม้เพลงนี้จะสร้างสรรค์ออกมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว แต่ตอนที่เลี่ยวเจี่ยใช้เสียงอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขาขับขานบทเพลงสุดคลาสสิคนี้ออกมา แฟนเพลงร็อกมากมายที่มางานคอนเสิร์ตต่างกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่!
ในหมู่ผู้ชมเจ็ดหมื่นห้าพันคน คนที่มาเพราะเลี่ยวเจี่ยมีจำนวนน้อยมากจริงๆ จำนวนป้ายไฟที่เขียนชื่อของเขาไม่อาจสู้ลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์ได้ แฟนคลับของเขามีอายุค่อนข้างเยอะ และไม่ชอบใช้วิธีเหล่านี้เพื่อสนับสนุนไอดอลของตัวเอง
แต่ไม่มีใครกล้าดูถูกพลังของแฟนเพลงร็อกเหล่านี้ วินาทีที่เลี่ยวเจี่ยร้องถึงท่อนพีก พวกเขาต่างลุกขึ้นมาถอดเสื้อโค้ตของตัวเองออก เผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตสีดำที่เขียนชื่อของเลี่ยวเจี่ยอยู่ข้างใน แผดเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง สั่นสะเทือนผู้ชมคนอื่นๆ ได้อย่างน่าทึ่ง
“ฉันอยากไปขั้วโลกใต้ พาเธอไปขั้วโลกใต้ด้วยกัน เพราะที่นั่นมีความจริงของชีวิตแอบซ่อนอยู่!”
แฟนคลับเหล่านี้กำลังแผดเสียงของตัวเองเพื่อบอกทุกคนว่า ร็อกไม่มีวันตาย เพียงแค่โรยราไปเท่านั้นเอง
ภาพนี้ถูกกล้องทั้งงานจับภาพเอาไว้ กลายเป็นหนึ่งในช่วงที่คลาสสิคที่สุดของคอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ในค่ำคืนนี้ มันทำให้แฟนเพลงหลายคนตระหนักได้ว่า เพลงร็อกของประเทศยังคงอยู่ในใจของผู้คน
ถ้าหากจะพูดว่าก่อนหน้านั้นการเล่นประวิงเวลาของลู่เฉิน เป็นการเปิดฉากจุดไคลแม็กซ์ของคอนเสิร์ตเดอะวอยซ์ไชน่า เช่นนั้นเพลง ‘ขั้วโลกใต้’ ของเลี่ยวเจี่ย ไม่เพียงแต่พิสูจน์ว่าตัวเองยังเจ๋งอยู่ ยังพาบรรยากาศไปสู่จุดไคลแมกซ์ได้เป็นรอบที่สอง
ตอนที่เขาร้องถึงท่อนสุดท้าย เสียงแหบพร่าไปหมด ไม่ใช่เพราะหมดแรง แต่เป็นเพราะอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
สุดท้ายภายใต้การนำของแฟนเพลงเลี่ยวเจี่ย ผู้ชมทั้งคอนเสิร์ตต่างพากันลุกขึ้น ใช้เสียงปรบมือที่เป็นระเบียบพร้อมเพรียงกันส่งเขาลงจากเวที
งานคอนเสิร์ตในคืนนี้ ถูกกำหนดไว้ว่าต้องไม่จืดชืดน่าเบื่อ
จากนั้น สิบนักร้องที่แข็งแกร่งของเดอะวอยซ์ก็ทยอยกันขึ้นเวที ตรงกลางเฉินเฟยเอ๋อร์กับซือฟางก็ได้ขึ้นมาร้องผลงานเพลงคลาสสิคของตัวเอง บรรยากาศของงานดุจคลื่นที่รุนแรง ระลอกคลื่นซัดขึ้นมาติดต่อกัน
หลังจากหนึ่งในสิบนักร้องที่แข็งแกร่งของเดอะวอยซ์ลงจากเวทีแล้ว ลู่เฉินได้ขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาไม่ได้มาตัวคนเดียว แต่ยังมีวงนิพพานที่เพิ่งมาถึงหังโจวเมื่อตอนเช้าด้วย
วงนิพพานในตอนนี้ ไม่ใช่วงที่เป็นเงาของลู่เฉินอีกต่อไป และได้เซ็นสัญญากับเฉินเฟยมีเดียอย่างเป็นทางการกลายเป็นวงดนตรีเอกเทศอย่างแท้จริงวงหนึ่ง และกำลังจะเปิดตัวอัลบั้มแรกของตัวเองปลายปีนี้
ลู่เฉินใช้เพลง ‘ความรักของพวกเรา’ สร้างตัวตนของวงนิพพานขึ้นมา เพื่อให้วงนิพพานถูกจัดอยู่ในแถวหน้าของวงดนตรีในประเทศ ดังนั้นตอนที่หวังจิ้งนักร้องนำได้พาสมาชิกขึ้นมาบนเวที มีแฟนเพลงมากมายร้องตะโกนชื่อของวงนิพพานออกมา!
ลู่เฉินกับหวังจิ้งสองคนเดินมาตรงด้านหน้าเวทีด้วยกัน ยืนอยู่ตรงหน้าไมค์
หวังจิ้งสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ เธอตัดผมสั้นกับท่าทางที่กอดกีตาร์ไฟฟ้านั้นเท่มาก ขณะที่ยืนเคียงไหล่กับลู่เฉินความถี่ของแฟลชโทรศัพท์ทั่วทั้งงานทะลุถึงจุดสูงสุด
พ่นลมหายใจยาวๆ แล้วลู่เฉินได้พูดกับไมค์ว่า “เพลงต่อไปนี้ ผมกับวงนิพพานจะร้องด้วยกัน เชื่อว่าเพลงนี้หลายคนน่าจะเคยฟังแล้ว ชื่อของมันคือ…”
“ความเสียใจหมื่นครั้ง!”
เพิ่งจะสิ้นเสียงของเขา นิ้วมือของหวังจิ้งกวาดสายกีตาร์อย่างแรง บรรเลงดนตรีท่อนแรกของเพลง!
“โอ้~ ที่รัก ในสมองของฉันมีแต่เธอ”
“โอ้~ ใจสั่นอย่างห้ามไม่ได้ยากที่จะหายใจ”
“คืนนี้~ พลาดไปอีกแล้วใช่มั้ย ต้องปิดบังความหวังของการรอคอยครั้งสุดท้ายไว้ใช่มั้ย…”
บทเพลง ‘ความเสียใจหมื่นครั้ง’ ได้ปรากฏตัวในเทศกาลดนตรีเทียนฝู่นานแล้ว และถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานเพลงป็อปใหม่ล่าสุดของลู่เฉิน มันใช้ทำนองดนตรีที่หนักแน่นสะกิดหัวใจผู้คน ได้รับความชื่นชอบอย่างลึกซึ้งจากแฟนเพลงของลู่เฉินมากมายนับไม่ถ้วน
และครั้งนี้ลู่เฉินได้ร่วมงานกับวงนิพพานอีกครั้ง ร้องเพลง ‘ความเสียใจหมื่นครั้ง’ ทำให้บรรยากาศในงานคอนเสิร์ตที่เงียบสงบไปพักหนึ่งถูกจุดประกายขึ้นมาใหม่
“เสียใจหมื่นครั้ง! ยังคงมีความฝัน ฉันรอเธออยู่ในที่ที่อบอุ่นเสมอ!”
ภาพร้องเพลงตามกันในงานคอนเสิร์ตที่น่าประทับใจ ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง!
………………………………………………………………….