Perfect Superstar - ตอนที่ 727 อยู่อย่างสงบสุขไม่ได้
ตอนที่ 727 อยู่อย่างสงบสุขไม่ได้
แชะ! แชะ!
เสียงชัตเตอร์ดังราวกับฝนที่ตกลงมากระทบป่ากล้วย ความสว่างของแสงแฟลชทำให้คนตาพร่า ไม่รู้ว่ามีนักข่าวจำนวนกี่คนที่ล้อมรอบทางออกผู้โดยสาร เลนส์กล้องทั้งสั้นและยาวแต่ละชนิดทำให้ผู้คนถึงกับตะลึงอ้าปากค้าง
ลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์ที่กำลังเดินอยู่ท่ามกลางผู้โดยสารขาเข้าประเทศเพิ่งจะปรากฏตัวขึ้นก็ถูกผู้คนจำได้ทันที ถ้าสนามบินไม่ได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวนมากมารักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณนั้น เกรงว่านักข่าวเหล่านี้คงจะรุมล้อมประเดประดังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะแทรกไมโครโฟนไปด้านหน้าของลู่เฉินและเฉินเฟยเอ๋อร์
“คุณลู่เฉิน คุณช่วยพูดถึงการเดินทางไปอเมริกาของคุณในครั้งนี้หน่อยได้ไหมครับ”
“คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการเป็นฮีโร่ของชาวอเมริกัน ช่วยพูดอะไรสักหน่อย”
“คุณเฉินเฟยเอ๋อร์ คุณรู้สึกอย่างไรบ้างคะ”
“ลู่เฉิน แจ็ค รอสส์ท้าคุณมา คุณจะรับคำท้าไหมครับ”
“ใช่แล้ว คุณช่วยพูดอะไรออกมาหน่อยได้ไหม”
“ลู่เฉิน…”
ลู่เฉินเคยเห็นฉากใหญ่มานับไม่ถ้วน แต่ภาพตรงหน้ายังคงทำให้หนังศีรษะของเขาชา ถ้ารู้มาก่อนหน้านี้เขาคงจะเดินออกช่องวีไอพีไปแล้ว ใครจะไปคิดว่านักข่าวเหล่านี้จะมาเหนือขนาดนี้
ไม่รู้ว่าข้อมูลเที่ยวบินขากลับของเขาและเฉินเฟยเอ๋อร์ถูกใครปล่อยข่าวรั่วไหลออกมา ไม่เพียงแต่มีนักข่าวจำนวนมากเท่านั้นที่มา ยังมีแฟนๆ จำนวนมากที่มารอรับในสนามบินด้วย
หากเป็นสถานการณ์ปกติ ลู่เฉินจะโต้ตอบกับบรรดาแฟนคลับที่ทำงานหนักเหล่านี้ ทั้งเซ็นลายเซ็นและถ่ายรูปด้วย แต่วันนี้มันทำไม่ได้จริงๆ คนเยอะและวุ่นวายเกินไป จนส่งผลกระทบต่อความเป็นระเบียบของสนามบินไม่น้อยเลยทีเดียว
เขาเลยได้แต่โบกมือขอโทษเหล่าบรรดาแฟนคลับที่ชูป้ายเชียร์ และไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ของนักข่าว ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบินหลายคน หลังจากได้พบกับจางเสี่ยวฟางผู้ช่วยของเขาที่มาดักรอรับก็ออกจากสนามบินไป
เมื่อเข้าไปนั่งอยู่ในเบาะหลังของรถเบนซ์และรอจนรถออกจากที่จอดรถ ลู่เฉินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เฉินเฟยเอ๋อร์ถามด้วยความสงสัย “เมื่อครู่นี้ฉันได้ยินคนพูดว่าแจ็ค รอสส์ท้าทายนาย เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เธอท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ในอเมริกาพร้อมกับลู่เฉิน ไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย
แจ็ค รอสส์เป็นใครอีกล่ะ?
ถูกนักข่าวถามขึ้นมาแบบนี้จะต้องไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแน่ๆ
ลู่เฉินยักไหล่ เขาก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
แต่กลับเป็นจางเสี่ยวฟางที่กำลังขับรถอยู่พูดขึ้น “แจ็ค รอสส์เป็นแชมป์อเมริกันคิกบ็อกซิ่งอาชีพสังเวียน AFS รุ่นมิดเดิลเวท เคยได้รางวัลเข็มขัดทองคำติดต่อกันสามสมัย ผมเคยดูวิดีโอการแข่งขันของเขามาไม่น้อยเลย เป็นคนที่เก่งมากทีเดียว”
ลู่เฉินขมวดคิ้ว “ผมไม่ได้เล่น AFS เขาจะมาท้าผมทำไม”
จางเสี่ยวฟางหัวเราะ “บอสครับ กังฟูจีนที่คุณถ่ายในบลูสกายสตูดิโอถูกอัปโหลดลงบนอินเทอร์เน็ต สร้างความฮือฮาในอเมริกาอย่างมาก หลังจากนั้นเจ้าของเข็มขัดทองคำคนนี้ถึงได้ออกมาท้าคุณ”
เป็นอย่างนี้นี่เอง!
จู่ๆ ลู่เฉินก็นึกขึ้นได้ เขาหัวเราะเหมือนคนโง่และพูดว่า “ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ ไม่ตอบรับคำขอของคริสโตเฟอร์คนนั้นก็ดี”
เมื่อตอนที่เขากำลังจะออกไปหลังจากศึกษาดูงานที่บลูสกายสตูดิโอเสร็จเรียบร้อย คริสโตเฟอร์ได้ขออัปโหลดวิดีโอ ตอนนั้นลู่เฉินไม่ได้สนใจอะไร และเป็นเพราะเขาประทับใจหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญสเปเชียลเอฟฟเฟกต์คนนั้น จึงได้ตอบรับส่งๆ ไป
คิดไม่ถึงว่าจะถูกเจ้าของเข็มขัดทองคำ AFS ท้าทาย
สำหรับลู่เฉินแล้ว AFS นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เขายังดูการออกอากาศการแข่งขันอเมริกันคิกบ็อกซิ่งอาชีพทางโทรทัศน์ ทั้งยังมีความประทับใจผู้เล่นที่มีชื่อเสียงหลายคนในนั้นอีกด้วย
ถ้าจะให้พูดอย่างจริงจังละก็ คิกบ็อกซิ่งกับกังฟูมีอะไรที่เหมือนกันหลายอย่าง และกฎก็ไม่ต่างกันมาก การท้าทายของแจ็ค รอสส์ก็ใช่ว่าจะไม่มีสาเหตุ หากเปลี่ยนเป็นเจ้าของเข็มขัดทองคำมวยสากลออกมาท้าทาย คงจะเป็นเรื่องไร้สาระมากๆ
จางเสี่ยวฟางพูดต่อว่า “ตอนนี้มันแพร่กระจายไปทั่วประเทศแล้ว บนโลกออนไลน์วุ่นวายไปหมด บล็อกของคุณแทบระเบิดแล้ว ยังมีโทรศัพท์ของผู้จัดการลู่ที่รับสายไม่ไหวแล้ว เป็นเพราะคุณอยู่บนเครื่องดังนั้นจึงไม่รู้…”
ลู่เฉินพยักหน้า เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพักผ่อนบนเที่ยวบินขากลับ ไม่ได้เปิดดูโทรศัพท์ แน่นอนว่าเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย
แม้ว่าระยะทางระหว่างจีนและอเมริกาจะห่างกันแค่สิบกว่าชั่วโมง แต่นั่นก็เพียงพอสำหรับสิ่งต่างๆ มากมายที่เกิดขึ้น!
จางเสี่ยวฟางถอนหายใจ “บอสครับ ผมพบว่าตอนนี้คุณแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ผมได้ดูทั้งสองวิดีโอบนอินเทอร์เน็ตแล้ว เกรงว่ามีผมรวมกันสองคนยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณเลยด้วยซ้ำ!”
ลู่เฉินหัวเราะ “พี่จาง ถ่อมตัวเกินไปแล้ว”
จางเสี่ยวฟางไม่ใช่คนธรรมดา แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ช่วยของลู่เฉิน แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นบอดี้การ์ด ทักษะของเขาค่อนข้างดี เมื่อลู่เฉินว่างก็มักจะมาฝึกฝนกับเขาหลายต่อหลายครั้ง
ในระหว่างที่คุยเล่นกัน รถก็ได้แล่นมาถึงจื่อเฉิงย่วน
จางเสี่ยวฟางช่วยนำกระเป๋าทั้งใบเล็กใบใหญ่ที่หอบกลับมาจากอเมริกาของคนทั้งคู่เข้าไปไว้ในบ้าน
การไปต่างประเทศในครั้งนี้ เฉินเฟยเอ๋อร์ซื้อของมากมายในนิวยอร์ก เช่น กระเป๋า น้ำหอม เสื้อผ้า นับว่าเป็นความพึงพอใจอย่างมากสำหรับการชอปปิงของที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีของขวัญสำหรับญาติและเพื่อน ๆ อีกนับไม่ถ้วน
ก่อนจากไป จางเสี่ยวฟางทนไม่ไหวจึงถามขึ้น “บอสครับ คุณจะยอมรับคำท้าของแจ็ค รอสส์หรือเปล่า”
จริงๆ แล้วเขาเป็นแฟนคลับของแจ็ค รอสส์
ลู่เฉินหัวเราะอยู่ครู่หนึ่งและส่ายหัว ส่งจางเสี่ยวฟางออกจากประตูบ้าน
ตอนนี้เขาเป็นนักร้อง นักแสดง นักเขียนบท…ไม่ใช่นักกีฬา ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการอยู่ในความสนใจเช่นนั้น
ท้าดวลหรืออะไรแบบนั้นมันน่าเบื่อเกินไป!
“ในที่สุดก็กลับบ้านแล้ว…”
เฉินเฟยเอ๋อร์เอนกายลงบนโซฟานุ่มๆ แล้วพูดอย่างเกียจคร้านว่า “ไปต่างประเทศเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!”
ตามนิสัยของคนจีน ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าบ้านของตัวเองอีกแล้ว ลู่เฉินเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน เมื่อกลับถึงบ้านเท่านั้นถึงจะผ่อนคลายได้อย่างแท้จริง
ดังนั้นจึงบอกได้ว่าบ้านคือสถานที่พักพิงของจิตวิญญาณ
เขานั่งลงบนโซฟา ลูบผมของเฉินเฟยเอ๋อร์แล้วพูดว่า “พักผ่อนให้สบาย พรุ่งนี้ยังต้องถ่ายทำกันต่อ…”
เนื่องจากมีทั้งสองคนเป็นสาเหตุ การถ่ายทำละครเรื่อง ‘ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว’ จึงถูกระงับไว้ชั่วคราว
“โอ๊ย!”
เฉินเฟยเอ๋อร์คว้าหมอนมาทุบตีเขา เธอพูดด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง “เกลียดนายจริงๆ เลย เพิ่งจะกลับมาถึงก็คุยเรื่องงานกับฉันทันทีเลยนะ ฉันไม่อยากถ่าย ไม่อยากทำงาน ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น!
ลู่เฉินหัวเราะและพูดว่า “ก็ได้ๆ ตกลง คุณจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ พอใจหรือยังครับ”
แม้ว่าเฉินเฟยเอ๋อร์จะอายุมากกว่าเขา แต่ในบางครั้งกลับดูเหมือนเด็กน้อยมาก ถึงกับต้องให้เขาง้อก่อนถึงจะหายงอน
บางทีนั่นอาจเป็นวิถีชีวิตของคนสองคน และการทะเลาะง้องอนกันบ้างเป็นครั้งคราวก็นับเป็นเรื่องที่หวานชื่นดี
เขาเอื้อมมือออกไปกอดเฉินเฟยเอ๋อร์ไว้ในอ้อมแขน ทั้งสองมีความสุขกับช่วงเวลาแสนอบอุ่นใจของตัวเองอย่างเงียบๆ
แต่ช่วงเวลาดีๆ มักจะสั้นเสมอ เสียงไขกุญแจเปิดประตูขัดจังหวะความอ่อนโยนของลู่เฉินกับเฉินเฟยเอ๋อร์
ลู่ซีมาหา
ทั้งสองรีบลุกขึ้นนั่งตัวตรง
ลู่ซีมีกุญแจบ้าน ในสถานการณ์ที่เธอติดต่อลู่เฉินไม่ได้แบบนี้ เธอจึงต้องมาหาด้วยตัวเองถึงที่
“พวกเธอทั้งคู่ กลับมาแล้วทำไมไม่โทรมา!”
พี่สาวมาซักไซ้เอาความโดยเฉพาะ!
……………………………………………………….